เป็นทริปชิลๆ ไปแบบไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก คิดจะไป ก็ไปกันเลย เมื่อมีเพื่อนคนนึงอยากไปเที่ยวกาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านเพื่อนอีกคนหนึ่ง เมื่อเลิกเรียน จึงออกจากมหาวิทยาลัยมุ่งตรงไปบ้านเพื่อนที่กาญฯ ไปกัน 3 คน เราเป็น ผู้หญิงคนเดียว มาสายลุยไปไหนไปกัน เอารถเก๋งส่วนตัวของเจ้าของบ้านไป กว่าจะถึง ก็มืดพอดี เลยวางแผนหาที่เที่ยวสำหรับวันพรุ่งนี้ ตอนแรกจะไปน้ำตก 2 ที่ แต่ พอถึงเวลา น้ำตกค่อนข้างไกลจากบ้านเพื่อนพอสมควร จึงใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน และไม่อยากกลับบ้านกันเย็นมากเพราะคิดจะทำหมูกระทะกินกันตอนเย็น จึงไม่แวะน้ำตกแรก แต่จะเลยไปน้ำตกที่ไกลออกไปอีกนิดนึง ระหว่างทางแวะเข้าห้องน้ำกันที่ หน่วยงานอะไรสักอย่าง (จำไม่ได้) เป็นจุดพักรถได้ ระหว่างทางที่ไปมีแต่ต้นไม้ ป่า เขา เมื่อเข้าห้องน้ำเสร็จ ถอยหลังรถออก รู้สึกแปลกๆ ล้อรถฝืด พบว่า เบรกมือติดนั่นเอง อะอะอ้าววววว ยังไม่ทันถึงที่เที่ยว ก็มีปัญหาละ แต่ยังไม่ยอมแพ้ หาที่ซ่อมสิ ถามเจ้าหน้าที่เค้าบอกให้ขับไปอีกหน่อยจะเจอร้าน ขับออกมาแปปนึง มีกลิ่นไหม้ยางล้อเลยจ้าาาา ควันออกด้วย จอดเลยคะจอด ตอนนั้นใจเสียนิดๆ เพราะไม่มีบ้านคนเลยมีแต่ป่าๆ เขาๆ เน็ตก็ไม่มีสัญญาณ หาข้อมูลอะไรไม่ได้ จอดแปปนึงก็ขับต่อไปแบบช้าสุดๆๆ แล้วก็เจอร้านซ่อมรถเป็นร้านเล็กๆ เค้ายกรถขึ้น ไปสะกิดอะไรสักอย่างที่ล้อ เค้าสอนเพื่อนผู้ชายอีก 2 คน ว่าทำยังไง ถ้าเกิดขึ้นอีก เค้าไม่คิดตังเลยสักบาท ปลื้มปริ่ม (มารู้ทีหลังว่า มีช่างไม่เยอะที่จะรู้วิธีแก้เบรกมือติดแบบง่ายนิดเดียว นับว่าโชคดีของพวกเรามาก) ขอบคุณเค้าแล้วขับต่อไปน้ำตก เวลาล่วงมาถึงบ่ายแล้ว แต่ก็ไหนๆก็มาแล้วไปให้ถึงเถอะ พอไปถึงก็เดินเล่นกันอยู่แปปนึง ถ่ายรูปเล่นซะส่วนใหญ่ ประมาณบ่าย 4 ก็เดินทางกลับ แม่ของเพื่อนน่าจะเตรียมของทำหมูกีะทะไว้ให้แล้ว ออกจากน้ำตก เพื่อนบอกว่าไปทางแพข้ามฟากมั้ย กลับได้เหมือนกัน เอารถลงแพ ก็ไปกันเลยไปไหนก็ไป
พอไปถึงต้องรอแพเกือบชั่วโมง ด้วยความที่ถ้าย้อนกลับไปทางเดิมก็เสียเวลาอีกพอสมควร ทางก็ไม่ค่อยดี รถเพื่อนเป็นรถที่ไม่ได้ใช้ลุยสักเท่าไหร่ เลยรอแพกันต่อไป เมื่อแพมา เอารถลงแพกัน และมีอีกอีก 2 คันเป็นกระบะ ลงแพเดียวกัน คันนึงมีคนเต็มหลังกระบะ (ไม่น่าใช่คนไทย) คือตอนนั้นแอบน่ากลัวเบาๆ เรารู้สึกว่าโดนมอง เราต้องสวยแน่ๆ (มโนไว้ก่อน 555555) จากตอนแรกพวกเรานั่งทางใครทางมัน ด้วยความที่กลัวอะไรก็ไม่รู้ เรากับเพื่อน เลยเกิดรักกันขึ้นมา นั่งกันแบบ ชิดเลย ทั้งๆที่แพก็กว้าง เพื่อนอีกคนคือกลัวโดนปล้น แต่เราไม่มีไรให้ปล้น 5555555 จังหวะนั้น แม่เพื่อนโทรตาม (มีสัญญาณโทรศัพท์พอดี) เลยรู้ว่า ทางที่มามันอ้อม และก็น่ากลัว จังหวะนั้นคือ เพื่อนบอกว่าก็เคยมาตอนเด็ก พ่อเอารถมา มันหลับตลอดทางตื่นมาก็ถึงบ้านเลย ณ จุดนั้นคือ ..... กระพริบตากันปริบๆ คือไม่รู้จะขำ หรือจะกลัว หรือจะอะไร 555555 เลยรู้ทันทีว่าเพื่อนไม่รู้ทาง 555555 ไปถามทางรถอีกคันนึงที่ไม่มีคนนั่งมาหลังกระบะ เค้าแนะนำ ให้ไปขึ้นแพอีกที่ มันจะเร็วกว่าย้อนกลับ เค้าเลยอาสาไปส่งที่แพอีกที่ ณ จุดนั้นคือ ตามไปคะ กลัวโดนหลอกนิดๆ แต่มันไม่มีทางเลือกคะ ต้องตามไป 555555 ละเค้าก็ส่งถึงที่คะ โล่งอก ^____^
มาต่อกันที่แพอีกที่ คือโชคดีมากที่มีสิบล้อลงแพเดียวกันเค้าเลยออกแพเลย คุยกันถามทางกับคนขับรถสิบล้อ เค้าก็บอกทางเลี้ยวตรงนั้นตรงนี้ และ ก็ลงท้ายด้วยว่า "ถ้ามีใครโบกรถห้ามจอดรถ" ช็อคคะ ก็กระพริบตากันปริบๆ มารู้ทีหลังว่า ทุกคนคืดเหมือนกันว่าพี่เค้าไม่ได้พูดถึงคนแน่ๆๆ 5555 แต่ ณ จุดนั้นไม่มีใครพูดอะไรกันเลย ไม่มีใครบ่น ยังยิ้ม หัวเราะด้วยกันต่อไป ตอนนั้นก็ประมาณ 2-3 ทุ่มได้แล้ว เมื่อแพถึงฝั่ง ขับรถต่อคะ คือ มืดมาก เป็นเขา สองข้างทางคือ ป่า ไม่เห็นบ้านคนสักหลัง มีไฟ คือมีคนจุดเทียนไว้ตามเสาข้างทาง คือ อื้อหือ สร้างบรรยากาศได้น่ากลัวมากคะ และมีควันลอยมาจากในป่าเป็นระยะๆ นี่ก็คิดแง่ดีคือมีชาวบ้านเผาขยะ 55555 ตอนนั้นในรถเงียบทั้งคัน เพลงไม่เปิด ไม่มีใครคุยไรกันเลย ไม่มีรถสวน ไม่มีรถไปทางเดียวกัน คือ อื้อ กลัวโว้ยยยย (กรีดร้องในใจเบาๆ ) เพื่อนผู้ชายก็ดูทางกันไป ทางค่อนข้างน่ากลัว เลี้ยวไปมา โค้งเยอะ มืดด้วย แต่เรานี่นั่งเป็นประโยชน์มาก กำกระป๋องสเปรย์ที่อยู่ในรถเพื่อน พร้อมฉีดตลอดเวลา 55555 คือเรากลัวอะไรของเราไม่รู้ 5555555 เกือบ ชั่วโมงจะถึงถนนใหญ่ โล่งคะโล่ง คือลุ้นสุดๆ น้ำมันรถก็จะหมด รถก็เพิ่งพัง เน็ตก็ไม่มี 55555 คือพอถึงถนนใหญ่ ทุกคนถอนหายใจเลยคะ 5555 เปิดเพลง เพื่อนอีกคนเอนเบาะนอนเลยคะ 555555. ไปถึงบ้านก็ประมาณ 4 ทุ่ม อะอะ มีหมูกระทะ คิดว่าพวกเราทำยังไงกัน กินสิคะกิน กินกันตอน 4 ทุ่มนิละ จากนั้นเราก็คุยกันถึงเรื่องที่ผ่านมา คือเราเพิ่งรู้ว่าเพื่อน อีก 2 คน กลัวมากกกกก เหมือนกัน 555555 แต่ ณ จุดนั้นคือไม่อยากพูดอะไรที่ไม่ดี ไม่อยากตัดกำลังใจกันและกัน คือเรารู้สึกปลอดภัยมากที่ไปกับเพื่อน 2 คนนี้ รู้สึกว่าเค้าจะปกป้องเราได้ (หรือเปล่า 55555 )
ปล.1 คนไทยใจดี มีน้ำใจอยู่เยอะมาก ต้องขอบคุณทุกการช่วยเหลือ
ปล.2 พาตัวเองออกไปสู่โลกกว้าง โลกนี้มีอะไรน่าค้นหาอีกเยอะ หาความสุขใส่ตัวเองเยอะๆ (แต่ต้องดูแลตัวเองดีๆ อย่าไว้ใจไปซะหมด ต้องเตรียมใจไว้บ้าง 555555 ++ ) เมื่อเจอปัญหาก็ขอให้มีสติ ^_^
ปล.3 ทริปนี้รู้สึกสนุก กลัว และรักเพื่อนเพิ่มขึ้นมาก ผ่านเรื่องที่ลำบากมาด้วยกัน แบบมีความสุข
เมื่อหลงทาง ณ กาญจนบุรี
พอไปถึงต้องรอแพเกือบชั่วโมง ด้วยความที่ถ้าย้อนกลับไปทางเดิมก็เสียเวลาอีกพอสมควร ทางก็ไม่ค่อยดี รถเพื่อนเป็นรถที่ไม่ได้ใช้ลุยสักเท่าไหร่ เลยรอแพกันต่อไป เมื่อแพมา เอารถลงแพกัน และมีอีกอีก 2 คันเป็นกระบะ ลงแพเดียวกัน คันนึงมีคนเต็มหลังกระบะ (ไม่น่าใช่คนไทย) คือตอนนั้นแอบน่ากลัวเบาๆ เรารู้สึกว่าโดนมอง เราต้องสวยแน่ๆ (มโนไว้ก่อน 555555) จากตอนแรกพวกเรานั่งทางใครทางมัน ด้วยความที่กลัวอะไรก็ไม่รู้ เรากับเพื่อน เลยเกิดรักกันขึ้นมา นั่งกันแบบ ชิดเลย ทั้งๆที่แพก็กว้าง เพื่อนอีกคนคือกลัวโดนปล้น แต่เราไม่มีไรให้ปล้น 5555555 จังหวะนั้น แม่เพื่อนโทรตาม (มีสัญญาณโทรศัพท์พอดี) เลยรู้ว่า ทางที่มามันอ้อม และก็น่ากลัว จังหวะนั้นคือ เพื่อนบอกว่าก็เคยมาตอนเด็ก พ่อเอารถมา มันหลับตลอดทางตื่นมาก็ถึงบ้านเลย ณ จุดนั้นคือ ..... กระพริบตากันปริบๆ คือไม่รู้จะขำ หรือจะกลัว หรือจะอะไร 555555 เลยรู้ทันทีว่าเพื่อนไม่รู้ทาง 555555 ไปถามทางรถอีกคันนึงที่ไม่มีคนนั่งมาหลังกระบะ เค้าแนะนำ ให้ไปขึ้นแพอีกที่ มันจะเร็วกว่าย้อนกลับ เค้าเลยอาสาไปส่งที่แพอีกที่ ณ จุดนั้นคือ ตามไปคะ กลัวโดนหลอกนิดๆ แต่มันไม่มีทางเลือกคะ ต้องตามไป 555555 ละเค้าก็ส่งถึงที่คะ โล่งอก ^____^
มาต่อกันที่แพอีกที่ คือโชคดีมากที่มีสิบล้อลงแพเดียวกันเค้าเลยออกแพเลย คุยกันถามทางกับคนขับรถสิบล้อ เค้าก็บอกทางเลี้ยวตรงนั้นตรงนี้ และ ก็ลงท้ายด้วยว่า "ถ้ามีใครโบกรถห้ามจอดรถ" ช็อคคะ ก็กระพริบตากันปริบๆ มารู้ทีหลังว่า ทุกคนคืดเหมือนกันว่าพี่เค้าไม่ได้พูดถึงคนแน่ๆๆ 5555 แต่ ณ จุดนั้นไม่มีใครพูดอะไรกันเลย ไม่มีใครบ่น ยังยิ้ม หัวเราะด้วยกันต่อไป ตอนนั้นก็ประมาณ 2-3 ทุ่มได้แล้ว เมื่อแพถึงฝั่ง ขับรถต่อคะ คือ มืดมาก เป็นเขา สองข้างทางคือ ป่า ไม่เห็นบ้านคนสักหลัง มีไฟ คือมีคนจุดเทียนไว้ตามเสาข้างทาง คือ อื้อหือ สร้างบรรยากาศได้น่ากลัวมากคะ และมีควันลอยมาจากในป่าเป็นระยะๆ นี่ก็คิดแง่ดีคือมีชาวบ้านเผาขยะ 55555 ตอนนั้นในรถเงียบทั้งคัน เพลงไม่เปิด ไม่มีใครคุยไรกันเลย ไม่มีรถสวน ไม่มีรถไปทางเดียวกัน คือ อื้อ กลัวโว้ยยยย (กรีดร้องในใจเบาๆ ) เพื่อนผู้ชายก็ดูทางกันไป ทางค่อนข้างน่ากลัว เลี้ยวไปมา โค้งเยอะ มืดด้วย แต่เรานี่นั่งเป็นประโยชน์มาก กำกระป๋องสเปรย์ที่อยู่ในรถเพื่อน พร้อมฉีดตลอดเวลา 55555 คือเรากลัวอะไรของเราไม่รู้ 5555555 เกือบ ชั่วโมงจะถึงถนนใหญ่ โล่งคะโล่ง คือลุ้นสุดๆ น้ำมันรถก็จะหมด รถก็เพิ่งพัง เน็ตก็ไม่มี 55555 คือพอถึงถนนใหญ่ ทุกคนถอนหายใจเลยคะ 5555 เปิดเพลง เพื่อนอีกคนเอนเบาะนอนเลยคะ 555555. ไปถึงบ้านก็ประมาณ 4 ทุ่ม อะอะ มีหมูกระทะ คิดว่าพวกเราทำยังไงกัน กินสิคะกิน กินกันตอน 4 ทุ่มนิละ จากนั้นเราก็คุยกันถึงเรื่องที่ผ่านมา คือเราเพิ่งรู้ว่าเพื่อน อีก 2 คน กลัวมากกกกก เหมือนกัน 555555 แต่ ณ จุดนั้นคือไม่อยากพูดอะไรที่ไม่ดี ไม่อยากตัดกำลังใจกันและกัน คือเรารู้สึกปลอดภัยมากที่ไปกับเพื่อน 2 คนนี้ รู้สึกว่าเค้าจะปกป้องเราได้ (หรือเปล่า 55555 )
ปล.1 คนไทยใจดี มีน้ำใจอยู่เยอะมาก ต้องขอบคุณทุกการช่วยเหลือ
ปล.2 พาตัวเองออกไปสู่โลกกว้าง โลกนี้มีอะไรน่าค้นหาอีกเยอะ หาความสุขใส่ตัวเองเยอะๆ (แต่ต้องดูแลตัวเองดีๆ อย่าไว้ใจไปซะหมด ต้องเตรียมใจไว้บ้าง 555555 ++ ) เมื่อเจอปัญหาก็ขอให้มีสติ ^_^
ปล.3 ทริปนี้รู้สึกสนุก กลัว และรักเพื่อนเพิ่มขึ้นมาก ผ่านเรื่องที่ลำบากมาด้วยกัน แบบมีความสุข