ย้อนกลับไปเมื่อเดือน มกราคม 2551
เราเจอกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นความบังเอิญหรือบุพเพอะไรก็แล้วแต่ มีผู้ชายโทรเข้ามาทีเบอร์มือถือเรา ตอนนั้นเราคิดว่าเป็นแฟนเก่าโทรมาแกล้ง แต่ที่จริงแล้วเขาโทรผิด ทำไปทำมาเราก็คุยกันต่อมาเรื่อยๆ ตอนนั้นเราอายุได้ 17 ปี กำลังจะขึ้น ม.6 เรามีพี่น้องสามคน ผู้หญิงล้วนเราเป็นคนสุดท้าย ตอนนั้นเรียกได้ว่าเราเป็นเด็กที่เรียนดีพอใช้เลยทีเดียว แต่ด้วยความแรดมิเคยปราณีใคร!! ขอแทนผู้ชายคนนี้ว่าพี่เอ ตอนนั้นพี่เออายุ 31 ปี เราคุยกันมาเรื่อยๆ ร่วม 3 เดือน ก็ตัดสินใจนัดเจอกันเราอยู่ นนทบุรี พี่เออยู่ สิงห์บุรี บ้านพี่เอฐานะไม่ค่อยดี ผิดกับเราที่พ่อแม่รับราชการ น้าสาวเรารักเราเหมือนลูก เนื่องด้วยเราเป็นหลานสาวคนเล็กเลยถูกเลี้ยงมาแบบตามใจหน่อยๆ ตอนนั้นเรานั่งรถ บขส. ไปหาพี่เอถึงสิงห์บุรี ด้วยความสิเหน่หาหรืออะไรก็ไม่รู้ หนังสือไม่ยอมไปเรียน อยากอยู่กับเขาตลอดเวลา ช่วงนั้นปิดเทอม เราก็โกหกแม่ว่าไปปฏิบัติธรรมที่วัดบ้าง กึ่งๆหนีออกไปแล้วเขียนจดหมายไว้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนเราไม่เคยไปค้างนอกบ้านเลย แต่ผู้ชายคนนี้ทำให้เราเป็นได้ถึงขนาดนี้ ตอนนั้นเราเรียกได้ว่าหลงพี่เอมาก
ขนาดแม่กับน้าไปตามที่สิงห์บุรีเราก็ยังไม่ยอมกลับ จนเปิดเทอมเรากลับมาเรียนได้ 1-2 วันก็หนีไปหาพี่เออีกทั้งๆชุดนักเรียน จนสุดท้ายตัดสินใจบอกแม่ว่าไม่อยากเรียนแล้วขอลาออกมาเรียนที่สิงห์บุรีแล้วกัน ตอนนั้นพ่อเราเป็นคนนิ่งๆไม่ค่อยพูด เขาเสียใจมากแต่ก็ยอมมารับเราที่ รร. เพื่อกลับบ้าน เขายอมแม้กระทั่งขับรถไปส่งเราขึ้น บขส. เพื่อไปหาพี่เอที่สิงห์บุรี ตอนนั้นเราก็ยังไม่คิดอะไร ด้วยความที่หลงพี่เอจนหัวปลักหัวปลำ เราย้ายที่เรียนมาเรียนที่สิงห์บุรี น้าสาวกับแม่ขับรถมาที่ รร.ใหม่เพื่อทำเรื่องสมัครเรียนให้เรียบร้อย พร้อมขนของจากบ้านมาสิงห์บุรีให้ด้วย สรุปเลยตามคาด เราไปโรงเรียนได้วันเดียวแล้วเราก็ไม่ไป ตอนนั้นเราแบบคิดถึงพี่เอมากจนไม่อยากห่างเลยแม้แต่นาทีเดียว สรุปคือลาออกเราไม่เรียน!!
มาเล่าถึงทางบ้านพี่เอกันบ้าง บ้านพ่อแม่พี่เอเป็นบ้านพักคนงานในโรงทำอิฐ แต่ด้วยพ่อแม่เขาทำงานที่นี่มานานเลยเป็นคนเก่าแก่ที่นี่ ลักษณะบ้านเป็นบ้านไม้หลังเล็กๆสองชั้น บ้านอยู่ติดกับกองขี้เถ้า เวลาอาบน้ำต้องเดินไปอาบที่แท้งค์น้ำบาดาลกลางแจ้ง ห้องน้ำเป็นลักษณะห้องน้ำรวม คือสภาพบ้านที่เรามาอยู่คือแม่กับน้าเรามาเห็นแบบว่าน้ำตาร่วงเลย ไม่คิดว่าลูกจะต้องมาอยู่ที่แบบนี้ แต่ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรเลย ด้วยความที่เราเป็นคนอยู่ง่าย กินง่าย บ้างที่ก็ง่ายเกินไป!!
ประวัติพี่เอ พี่เอไม่ใช่คนประวัติดี กินเหล้าทุกประเภท ทั้งเหล้าขาว ยาดอง เหล้าสี เคยติดยา เรียกว่าเป็นหัวหน้านักเลงเลยทีเดียว ขี่รถไปไหนมีแต่คนทักคนสวัสดี ด้วยความที่พี่เอเคยมีเมียมาแล้ว 3 คน เราเป็นคนที่ 4 ทำให้พี่เอเป็นที่รู้จักของคนเกือบทั่งทั้งสิงห์บุรีในสมัยนั้น พี่เอมีลูกติดกับเมียคนแรก 1 คนเป็นผู้ชายแต่อยู่กับยายกับตา อายุอ่อนกว่าเรา 2 ปีได้ หลังจากที่เรามาอยู่กับพี่เอ พี่เอก็เลิกกินเหล้าขาวถาวร เลิกยาเสพติดทุกชนิด แต่ก็ยังคงกินเหล้าสี กับเบียร์และสูบบุรี่อยู่ เราอยู่กับพี่เอไปเรื่อย โดยแม่ พ่อ และน้าผลัดกันมาหาเกือบทุกอาทิตย์ โดยเฉพาะแม่บางวันก็ลางานนั่งรถ บขส. มาหาเราที่สิงห์บุรี แม่จะให้เงินเราไว้ใช้ทุกอาทิตย์อาทิตย์ละ 2,000 บาท มาหาเราแต่ละทีก็จะพาเราไปกินข้าว ไปซื้อของไปที่ห้าง ซื้อแบบเยอะจริงๆ กลัวเราไม่มีของใช้ น้าก็จะให้ตังค์บ้างถ้ามาหา
เรียกได้ว่าเรามาอยู่กับพี่เอเราไม่ได้มาเป็นภาระเขาเลย เราใช้เงินตัวเอง ข้าวปลาเราซื้อของเราเอง ของใช้เราซื้อของเราเองหมด แถมๆบางทีเราต้องช่วยพี่เอส่งรถมอไซ อีกต่างหาก เพราะเวลาพี่เอทำงานพอเงินออกส่วนมากก็จะหมดไปกับหนี้ที่ต้องไปจ่ายเพราะเวลาซื้อเหล้าจะเซ็นเขาไว้บ้างอะไรบ้าง เราอยู่บ้านเสื้อผ้าเราซักเองหมดรวมทั้งของพี่เอด้วย
อยู่มาได้ ราวๆ 5 เดือน แม่ก็มาบอกว่ามีที่ๆที่อยุธยาอยู่ 5ไร่ เคยปลูกบ้านหลังเล็กๆไว้เป็นที่ที่ตาให้น้ากับแม่ได้ ÷4 แต่เวลาไปดูที่ไม่มีที่นั่งไม่มีห้องน้ำเข้า ถ้าเขาต้องไปเข้าบ้านบ้านญาติซึ่งอยู่นะแวงนั้น เขาเลยสร้างบ้านชั้นเดียงหลังเล็กๆ ขนาดเตียง 6ฟุต เต็ม มีห้องน้ำในตัว มีม้าหินใหญ่ๆหน้าบ้าน
แม่จะให้เรามาอยู่กันที่นี่เพราะคิดว่าอย่างน้อยก็มีญาติๆอยู่ใกล้ พอเราพาพี่เอมาดู พี่เอก็ชอบเราเลยตัดสินใจย้ายมาอยู่ ที่ที่อยุธยากัน มาพร้อมหมา 3 ตัวที่เราเลี้ยงไว้ที่สิงห์บุรี
ตอนมาอยู่ใหม่ๆยังหางานทำไม่ได้เลยขอเงินแม่ลงทุนปลูกข้าวโพด 15000 บาท ในบริเวณที่ดิน 3 ไร่ของเราหนะแหละ ปลูกไปพอกำลังจะได้ผลผลิตพี่เอก็มาได้งานที่โรงงานเฟอนิเจอร์ข้างๆบ้าน เรียกได้ว่า มองไปจากบ้านเราก็เห็นพี่เอแล้ว พอได้งานที่โรงงานพี่เอก็ไม่ค่อยได้ดูแลข้าวโพดที่ปลูก พอเก็บเกี่ยวข้าวโพดก็แกรนบ้าง ดีบ้างคละๆกันไป เราแจกจ่ายหมดให้น้าให้แม่ แต่แม่กับน้าเราก็ให้เงินนะเขาบอกว่าถือว่าช่วยซื้อ!! มาต่อ..พอพี่เอเข้ามาทำงานในโรงงานสักพักก็เริ่มรู้จักคนเยอะขึ้น ก็มีตั้งวงกินเหล้าที่บ้านกันเหมือนเดิม เงินเดือนก็ชนเดือนเหมือนเดิม แถมบางเดือนก็ไม่พออีก เราอยู่บ้านเฉยเริ่มเบื่อเลยให้ญาติไปฝากงานที่โรงงานเดียวกับพี่เอ สรุปเขารับเข้าทำงาน แต่อยู่คนละที่กับพี่เอแต่คือโรงงานเดียวกันห่างกัน 1 กิโลได้ เล่าย่อๆเลยนะ เราทำงานได้ 8 วัน งานอยู่กับฝุ่นคนที่สอนงานเราเหมือนแกล้งเราให้เราทำงานหนักๆ
เดี๋ยวมาต่อ...
8 ปีกับชีวิตคู่ ควรไปต่อหรือหยุดตรงนี้ดี?
เราเจอกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นความบังเอิญหรือบุพเพอะไรก็แล้วแต่ มีผู้ชายโทรเข้ามาทีเบอร์มือถือเรา ตอนนั้นเราคิดว่าเป็นแฟนเก่าโทรมาแกล้ง แต่ที่จริงแล้วเขาโทรผิด ทำไปทำมาเราก็คุยกันต่อมาเรื่อยๆ ตอนนั้นเราอายุได้ 17 ปี กำลังจะขึ้น ม.6 เรามีพี่น้องสามคน ผู้หญิงล้วนเราเป็นคนสุดท้าย ตอนนั้นเรียกได้ว่าเราเป็นเด็กที่เรียนดีพอใช้เลยทีเดียว แต่ด้วยความแรดมิเคยปราณีใคร!! ขอแทนผู้ชายคนนี้ว่าพี่เอ ตอนนั้นพี่เออายุ 31 ปี เราคุยกันมาเรื่อยๆ ร่วม 3 เดือน ก็ตัดสินใจนัดเจอกันเราอยู่ นนทบุรี พี่เออยู่ สิงห์บุรี บ้านพี่เอฐานะไม่ค่อยดี ผิดกับเราที่พ่อแม่รับราชการ น้าสาวเรารักเราเหมือนลูก เนื่องด้วยเราเป็นหลานสาวคนเล็กเลยถูกเลี้ยงมาแบบตามใจหน่อยๆ ตอนนั้นเรานั่งรถ บขส. ไปหาพี่เอถึงสิงห์บุรี ด้วยความสิเหน่หาหรืออะไรก็ไม่รู้ หนังสือไม่ยอมไปเรียน อยากอยู่กับเขาตลอดเวลา ช่วงนั้นปิดเทอม เราก็โกหกแม่ว่าไปปฏิบัติธรรมที่วัดบ้าง กึ่งๆหนีออกไปแล้วเขียนจดหมายไว้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนเราไม่เคยไปค้างนอกบ้านเลย แต่ผู้ชายคนนี้ทำให้เราเป็นได้ถึงขนาดนี้ ตอนนั้นเราเรียกได้ว่าหลงพี่เอมาก
ขนาดแม่กับน้าไปตามที่สิงห์บุรีเราก็ยังไม่ยอมกลับ จนเปิดเทอมเรากลับมาเรียนได้ 1-2 วันก็หนีไปหาพี่เออีกทั้งๆชุดนักเรียน จนสุดท้ายตัดสินใจบอกแม่ว่าไม่อยากเรียนแล้วขอลาออกมาเรียนที่สิงห์บุรีแล้วกัน ตอนนั้นพ่อเราเป็นคนนิ่งๆไม่ค่อยพูด เขาเสียใจมากแต่ก็ยอมมารับเราที่ รร. เพื่อกลับบ้าน เขายอมแม้กระทั่งขับรถไปส่งเราขึ้น บขส. เพื่อไปหาพี่เอที่สิงห์บุรี ตอนนั้นเราก็ยังไม่คิดอะไร ด้วยความที่หลงพี่เอจนหัวปลักหัวปลำ เราย้ายที่เรียนมาเรียนที่สิงห์บุรี น้าสาวกับแม่ขับรถมาที่ รร.ใหม่เพื่อทำเรื่องสมัครเรียนให้เรียบร้อย พร้อมขนของจากบ้านมาสิงห์บุรีให้ด้วย สรุปเลยตามคาด เราไปโรงเรียนได้วันเดียวแล้วเราก็ไม่ไป ตอนนั้นเราแบบคิดถึงพี่เอมากจนไม่อยากห่างเลยแม้แต่นาทีเดียว สรุปคือลาออกเราไม่เรียน!!
มาเล่าถึงทางบ้านพี่เอกันบ้าง บ้านพ่อแม่พี่เอเป็นบ้านพักคนงานในโรงทำอิฐ แต่ด้วยพ่อแม่เขาทำงานที่นี่มานานเลยเป็นคนเก่าแก่ที่นี่ ลักษณะบ้านเป็นบ้านไม้หลังเล็กๆสองชั้น บ้านอยู่ติดกับกองขี้เถ้า เวลาอาบน้ำต้องเดินไปอาบที่แท้งค์น้ำบาดาลกลางแจ้ง ห้องน้ำเป็นลักษณะห้องน้ำรวม คือสภาพบ้านที่เรามาอยู่คือแม่กับน้าเรามาเห็นแบบว่าน้ำตาร่วงเลย ไม่คิดว่าลูกจะต้องมาอยู่ที่แบบนี้ แต่ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรเลย ด้วยความที่เราเป็นคนอยู่ง่าย กินง่าย บ้างที่ก็ง่ายเกินไป!!
ประวัติพี่เอ พี่เอไม่ใช่คนประวัติดี กินเหล้าทุกประเภท ทั้งเหล้าขาว ยาดอง เหล้าสี เคยติดยา เรียกว่าเป็นหัวหน้านักเลงเลยทีเดียว ขี่รถไปไหนมีแต่คนทักคนสวัสดี ด้วยความที่พี่เอเคยมีเมียมาแล้ว 3 คน เราเป็นคนที่ 4 ทำให้พี่เอเป็นที่รู้จักของคนเกือบทั่งทั้งสิงห์บุรีในสมัยนั้น พี่เอมีลูกติดกับเมียคนแรก 1 คนเป็นผู้ชายแต่อยู่กับยายกับตา อายุอ่อนกว่าเรา 2 ปีได้ หลังจากที่เรามาอยู่กับพี่เอ พี่เอก็เลิกกินเหล้าขาวถาวร เลิกยาเสพติดทุกชนิด แต่ก็ยังคงกินเหล้าสี กับเบียร์และสูบบุรี่อยู่ เราอยู่กับพี่เอไปเรื่อย โดยแม่ พ่อ และน้าผลัดกันมาหาเกือบทุกอาทิตย์ โดยเฉพาะแม่บางวันก็ลางานนั่งรถ บขส. มาหาเราที่สิงห์บุรี แม่จะให้เงินเราไว้ใช้ทุกอาทิตย์อาทิตย์ละ 2,000 บาท มาหาเราแต่ละทีก็จะพาเราไปกินข้าว ไปซื้อของไปที่ห้าง ซื้อแบบเยอะจริงๆ กลัวเราไม่มีของใช้ น้าก็จะให้ตังค์บ้างถ้ามาหา
เรียกได้ว่าเรามาอยู่กับพี่เอเราไม่ได้มาเป็นภาระเขาเลย เราใช้เงินตัวเอง ข้าวปลาเราซื้อของเราเอง ของใช้เราซื้อของเราเองหมด แถมๆบางทีเราต้องช่วยพี่เอส่งรถมอไซ อีกต่างหาก เพราะเวลาพี่เอทำงานพอเงินออกส่วนมากก็จะหมดไปกับหนี้ที่ต้องไปจ่ายเพราะเวลาซื้อเหล้าจะเซ็นเขาไว้บ้างอะไรบ้าง เราอยู่บ้านเสื้อผ้าเราซักเองหมดรวมทั้งของพี่เอด้วย
อยู่มาได้ ราวๆ 5 เดือน แม่ก็มาบอกว่ามีที่ๆที่อยุธยาอยู่ 5ไร่ เคยปลูกบ้านหลังเล็กๆไว้เป็นที่ที่ตาให้น้ากับแม่ได้ ÷4 แต่เวลาไปดูที่ไม่มีที่นั่งไม่มีห้องน้ำเข้า ถ้าเขาต้องไปเข้าบ้านบ้านญาติซึ่งอยู่นะแวงนั้น เขาเลยสร้างบ้านชั้นเดียงหลังเล็กๆ ขนาดเตียง 6ฟุต เต็ม มีห้องน้ำในตัว มีม้าหินใหญ่ๆหน้าบ้าน
แม่จะให้เรามาอยู่กันที่นี่เพราะคิดว่าอย่างน้อยก็มีญาติๆอยู่ใกล้ พอเราพาพี่เอมาดู พี่เอก็ชอบเราเลยตัดสินใจย้ายมาอยู่ ที่ที่อยุธยากัน มาพร้อมหมา 3 ตัวที่เราเลี้ยงไว้ที่สิงห์บุรี
ตอนมาอยู่ใหม่ๆยังหางานทำไม่ได้เลยขอเงินแม่ลงทุนปลูกข้าวโพด 15000 บาท ในบริเวณที่ดิน 3 ไร่ของเราหนะแหละ ปลูกไปพอกำลังจะได้ผลผลิตพี่เอก็มาได้งานที่โรงงานเฟอนิเจอร์ข้างๆบ้าน เรียกได้ว่า มองไปจากบ้านเราก็เห็นพี่เอแล้ว พอได้งานที่โรงงานพี่เอก็ไม่ค่อยได้ดูแลข้าวโพดที่ปลูก พอเก็บเกี่ยวข้าวโพดก็แกรนบ้าง ดีบ้างคละๆกันไป เราแจกจ่ายหมดให้น้าให้แม่ แต่แม่กับน้าเราก็ให้เงินนะเขาบอกว่าถือว่าช่วยซื้อ!! มาต่อ..พอพี่เอเข้ามาทำงานในโรงงานสักพักก็เริ่มรู้จักคนเยอะขึ้น ก็มีตั้งวงกินเหล้าที่บ้านกันเหมือนเดิม เงินเดือนก็ชนเดือนเหมือนเดิม แถมบางเดือนก็ไม่พออีก เราอยู่บ้านเฉยเริ่มเบื่อเลยให้ญาติไปฝากงานที่โรงงานเดียวกับพี่เอ สรุปเขารับเข้าทำงาน แต่อยู่คนละที่กับพี่เอแต่คือโรงงานเดียวกันห่างกัน 1 กิโลได้ เล่าย่อๆเลยนะ เราทำงานได้ 8 วัน งานอยู่กับฝุ่นคนที่สอนงานเราเหมือนแกล้งเราให้เราทำงานหนักๆ
เดี๋ยวมาต่อ...