ปัญหาครอบครัวจากการข่มขืน

จากความเดิมตอนที่เเล้ว น้องสาวของเพื่อนเราได้ถูกเพื่อนชายข่มขืน เราขอเอาตอนเก่าๆมาลงให้อ่านกันก่อนนะคะ เพื่อความเข้าใจของผู้อ่าน ส่วนใครที่ติดตามอยู่เเล้วก็ไปอ่านที่กระทู้ที่ 4 ได้เลยค่ะ

กระทู้ที่ 1
ออกจะดูยิ้มเรื่องชาวบ้านไปหน่อย เเต่ว่าบ้านเรากับบ้านเพื่อนใกล้ชิดกันมาก เป็นญาติกันห่างๆด้วย
เรากับเพื่อนมี่โดนเลี้ยงมาด้วยกันตั้งเเต่เล็ก เล่นด้วยกันมาจนตอนนี้ อายุ 25 กันเเล้ว จะเรียกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันเลยก็ว่าได้ เเต่ปัญหานี้เราไม่รู้ว่ามันส่วนตัวเกินไปรึเปล่าที่จะเข้าไปยุ่ง เพราะทางบ้านเขาก็ไม่ได้ปิดบังอะไรเรา เเถมมาขอคำปรึกษาอีก เเล้วด้วยความที่ว่าเรากับเพื่อนก็ทำงานร่วมกันด้วย

เรื่อมันมีอยู่ว่า น้องสาวของเพื่อนเราในตอนนั้นเพิ่งจบชั้น ม ปลาย ออกไปเที่ยวงานฉลองส่งท้ายกับเพื่อนๆ เเต่มันมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น เพราะน้องสาวเพื่อนดันถูกเเฟนของตัวเองข่มขืน เป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมา ช่วงนั้นเราได้ฟังข่าวจากเพื่อนเราเท่านั้นเองว่าท่างผู้ใหญ่ฝ่ายชายก็ยินดีจะรับผิดชอบ (เราบังเอิญเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอกพอดี)

เเต่ก็มีปัญหาอยู่ที่ตัวน้องสาว เธอไม่ยอมรับค่ะ จริงๆเธอเป็นคนทีค่อนข้างจะมีความเป็นผู้ใหญ่นะค่ะ เเต่เธอเเสดงความก้าวร้าวออกมาชั้ดเจนกับญาติของฝ่ายชายมาก ถึงขนาดพูดว่า  "ลูกชายพวกไม่เหมาะสมจะเป็นสามีหนู กลับไปอบรมสั่งสอนใหม่เถอะค่ะ"

ตอนนี้เรื่องราวก็ยังอุ่นๆอยู่ ไม่รู้ว่าจะระเบิดตอนไหนเพราะคุณพ่อก็อยากจะเเจ้งความจับตัวผู้ชายมากด้วย ตอนนี้ผ่านมาประมาณเกือบสามเดือนเเล้ว น้องสาวก็ไม่ได้เรียนที่มหาลัย เเบบดร็อปเรียนไปเลยค่ะ เพื่อนเราก็โทรมาร้องไห้กับเราทุกคืน เพราะน้องสาวเริ่มมีอาการเเย่ลงมาก ชอบนอนสดุ่งตื่นตอนกลางคืน เดี๋ยวๆก็ร้องไห้ ล่าสุดน้องสาวพูดกันพี่ว่า "ถ้ามันจะทำแบบนี้ มันน่าจะฆ่าหนูไปเลยดีกว่า"

บอกตรงๆว่าจนปัญญาค่ะ ตอนนี้กำลังคิดจะให้น้องสาวไปพบจิตแพทย์ แต่ไม่รู้ผลจะเป็นยังไง ท่างบ้านของผู้ชายพยายามจะรับผิดชอบดีอยู่ค่ะ เเต่ทางบ้านรู้สึกจะไม่อย่ากรับลูกชายบ้านนี้ เเละที่น่าเป็นห่วงอีกเรื่องก็คือคุณพ่อค่ะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าเรื่องราวลงเอยกันไม่ได้ คุณพ่อจะทำยังไงเพราะท่านดูจะโกรธมาก
แก้ไขข้อความเมื่อ 27 ตุลาคม เวลา 18:30 น

กระทู้ที่ 2

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เด็กสาวน้องใหม่ของมหาลัยดังเเห่งหนึ่ง ถูกแฟนของตัวเองข่มขืนในวันปาร์ตีเลี้ยงส่งท้าย ม.ปลายของ รร เก่า

   ใครๆก็พากันคิดว่าเด็กสาวคนนี้จะให้อภัยเเฟนในเวลาต่อมา เเต่เปล่า!! เธอประกาศอย่างชัดเจนว่า ไม่มีวันให้อภัยได้เเน่นอน!!
ทุกคนต่างพากันสงสัยว่า มันเกิดอะไรขึ้น!!  อะไรทำให้เด็กสาวคนนี้ ไม่สามารถให้อภัยเเฟนของเธอได้ ??......

   ทุกคนในบ้านเฝ้ามองอาการของเด็กสาวที่เปลี่ยนไป เธอมีอาการเเย่งลงทุกวันๆ ตืนมาร้องให้ตอนกลางคืน สดุงตกใจง่าย เก็บตัว ไม่พูดไม่คุยเหมือนเมื่อก่อน เดี๋ยวๆก็ร้องไห้ กลายเป็นคนที่ซึมเศร้าอย่างหนักจนในที่สุดครอบครัวของเธอก็พาไปพบจิตแพท เเล้วก็ได้เรื่องราวอีกอย่างมาว่าเธอท้อง!! ทุกคนในครอบครัวเลยตัดสินใจพูดคุยเรื่องนี้อย่างจริงจังเพราะที่ผ่านมาไม่มีใครอยากพูดถึเนื่องจากเป็นห่วงอาการของเธอ

   คุณเเม่เธอเสนอว่าควรจะให้เธอเเต่งงาน เพราะทางฝ่ายชายเขาก็ออกตัวรับผิดชอบตั้งเเต่ต้นอยู่เเล้ว เเต่เด็กสาวปฏิเสธอย่างเด็ดขาดว่า ฝ่ายชายนั้นไม่เหมาะสมที่จะเป็นพ่ออย่างยิ่ง คุณเเม่จึงถามว่า ทำมัยลูกถึงคิดเเบบนั้น ??

   เด็กสาวตอบอย่างจริงจังว่า "หนูไม่ควรอยู่ในสภาพเเบบนี้ เด็กคนนี้ไม่ควรเกิดมาเเบบนี้ เเล้วหนูก็ไม่ควรที่จะมีสามีด้วยเหตุผลนี้" จขกท ไม่ได้ตั้งใจจะ ส.เอือ.ก นะคะ เเต่บังเอิญเพื่อนสาว (พี่ของเด็กสาว) นั่งขนาบข้างเอาไว้ เลยต้องนั่งตีหน้านิ่งฟังเด็กสาวพูด เเต่ด้วยความที่เกิดสนใจในคำพูดของเด็กสาว จขกท ก็เลยอัดเสี้ยงไว้ด้วย อยากจะเอามาเขียนบอกเล่าให้ได้อย่างถูกต้อง
  
   ทุกคนที่ได้ยินต่างก็อึ่ง ยิ่งคุณเเม่นี่ถึงกับร้องไห้ เเละเด็กสาวก็ว่าต่อไปว่า "มันอธิบายยาก หนูควรจะได้เป็นในสิ่งที่หนูอยากจะเป็น เเค่สี่ปีครึ่ง หนูกำลังจะไปถึง เเล้วตอนนี้ หนูจะไปยังไงต่อ หนูตั้งใจเรียนมา 10 ปีเเล้วนะ ตอนนี้มันเหลือเเค่ฝุ่น" ..... เธอเล่าไปน้ำตาไหลไปค่ะ จขกท อยากอธิบสยก่อนเดี๋ยวจะไม่เข้าใจ
   คือเด็กสาวเขาอยากเป็นอะไรที่ ... ถ้าบอกไปมันอาจจะมีมุมมองที่เเคบลง เอาเป็นว่า สิ่งที่เด็กสาวอยากจะเป็น มันเป็นอะไรที่ มีเกณรับค่อนข้างเคร่งครัด เเต่ขอบอกว่า เธอตั้งใจเรียนหนักมา 10 ปี ไม่ใช่เรื่องโกหกเลยค่ะ ตั้งใจเรียนชนิดที่ว่า สนิทกับอาจารย์มากกว่าเพื่อนอีก เเล้วเธอก็มีเพื่อนอยู่เเค่ สามคนเอง ไม่เคยเข้าผับรึบาร์ ไม่เคยออกจากบ้านหลังสองทุ่ม อันนี้ จขกท เป็นพยาน เธออ่านหนังสือเยอะมากจนสายตาเสีย จขกท เคยถามเธอเหมือนกันว่า อ่านหนังสือเยอะๆ ไปเพื่อนอะไร เธอบอกว่า "อ่านเพราะสนใจ" เเล้วทำมัยอ่านเเต่หนังสือเข้าใจยากๆ?? " หนังสือพวกนี้มันเขียนขึ้นจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เเละเป็นจริง บรรพบุรุษเขาเขียนมาให้เเล้ว เอาใส่สมองไว้หน่อย พวกเขาจะได้ไม่เสียใจ" เธอตอบเเบบนี้ค่ะ....

    เธอเป็นคนที่มีความคิดเป็นเป็นผู้ใหญ่ เเละเเน่วเเน่ในเเนวทางของตัวเองมาก เเต่นอกจากการเสียอนาคตเเล้ว เธอยังเสียหายมากกว่านั้น "ทั้งตระกูลเรา ไม่เคยมีใครท้องก่อนเเต่ง หนูก็เป็นคนเเรก เด็กคนนี้เกิดมาอย่างผิดพลาด ด้วยความผิดพลาดของพ่อมัน ดังนั้นหนูจึงยอมรับไม่ได้ พ่อมันว่างเเผนข่มขืนหนู มันไม่ได้คิดจริงจังกับหนูด้วย เเล้วจะให้คนเเบบนี้มาเป็นพ่อของลูกหนู หนูรับไม่ได้" ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า เเล้วทำมัยเธอกับเขาถึงเป็นเเฟนกันกัน จขกท ก็คิดค่ะ เเล้วก็อดไม่ได้ เลยถามไป เเละได้คำตอบมาว่า
  
    " เรายังไม่ได้เป็นเเฟนกันค่ะ เขาบอกกับทุกคนเเบบนั้นไปเอง เขาบอกชอบหนู เเต่หนูยังไม่ได้ตอบอะไรเลย " ........... คำตอบเท่านี้เองค่ะที่ทำให้ ฝ่ายชายกำลังจะเข้าคุกอยู่รอมล่อในตอนนี้ เด็กสาวเเจ่งขอให้ฝ่ายชายติดคุกนานถึงยี่สิบปีโดยอ่างเหตุผลว่า เพื่อให้เขารับผิดชอบในสิ่งที่ก่อ รับผิดชอบต่อเด็กที่จะเกิดมา เขาจะต้องติดคุกเพื่อลูก เพื่อให้เด็กเติบโตมจนถึงช่วงวุทธิภาวะที่เข้มเเข็งพอจะรับรู้เรื่องราวได้.......

     จขกท ยังไม่รู้ว่าเหตุการจะเป็นยังไงต่อไป เเละตอนนี้ก็สู้คดีกันอยู่ แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายชายจะต้องรับโทษหนักแค่ไหน รู้เเค่ว่าติดคุกเเน่นอนค่ะ อยางน้อยก็คงซักสี่ห้าปี
      พวกคุณคนใดได้อ่านบทความนี้เเล้ว มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้างค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ 2 พฤศจิกายน เวลา 02:41 น.

กระทู้ที่ 3
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เด็กสาวน้องใหม่ของมหาลัยดังเเห่งหนึ่ง ถูกแฟนของตัวเองข่มขืนในวันปาร์ตีเลี้ยงส่งท้าย ม.ปลายของ รร เก่า
เเละเธอตั้งท้อง ซ้ำยังมาบอกอีกว่า ที่จริงเเล้วฝ่ายชายไม่ได้เป็นเเฟน เขาบอกกับทุกคนว่าเขาเป็นเเฟนเธอ เเต่เด็กสาวยังไม่เคยตกลงเป็นเเฟนกับเขาเลย เเละทางบ้านของเด็กสาวได้เเจ้งความจับฝ่ายชายเรียบร้อยเเล้ว ทำให้ฝ่ายชายเกือบได้นอนห้องขัง !! ย้ำค่ะว่า เกื่อบ!!

  ในเช้าวันนี้เพื่อนสาวจึงโทรมาให้ จขกท เหมางานมาทำเเต่เพียงผู้เดียว จขกท ก็เลขอให้เพื่อนสาวอันเทบมาฝาก เพราะไหนๆ จขกท ก็ ส.เอือ.ก กับเขามาตั้งเเต่ต้น ดังนั้น จขกท จึงขอ เสือ.กไปให้สุดเลยก็แล้ว

  วันนี้หลังจากออกงาน จขกท ก็ไปที่บ้านของเพื่อนสาว ซึ่งคุณพ่อคุณเเม่ก็ชวนทานข้าวด้วย เเล้วพวกท่านก็ถามว่า กระทู้ในพันทิปไปถึงไหนเเล้ว 55
พวกท่านคงถามไปงั้นเเละ เพราะคงเข้ามาอ่านเรียบร้อยเเล้ว เเละหลังจากท่านข้าวเสร็จพวกท่านยังให้'จขกท' อยู่ในที่ประชุมครอบครัวอีกด้วย 'จขกท' ก็ได้เข้าใจเเล้วว่าตัวเองนั้นได้เข้ามา เสือ.ก อย่างเป็นทางการเเล้วค่ะ

  ในวันนี้ทางบ้านของเพื่อนสาวพูดคุยกันเรื่อง'ถอนฟ้อง'คดีค่ะ ถอนฟ้องจริงๆ!! 'จขกท' ก็แปลกใจว่าถอนทำมัย ทางคุณพ่อเล่าให้ฟังว่าญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชายมาขอคุณด้วยอีก คราวนี้มาทั้งคุณย่าเเละคุณลุงคุณป้าด้วย พวกเขามาเพื่อเรื่องเดิมค่ะ คือขอให้ทางฝ่ายเขาได้รับผิดชอบ ให้เด็กสองคนแต่งงานกัน เเต่คราวนี้ต่างออกไป พวกเขาอยากให้จัดพิธีเเต่งาน เเละจดทะเบียนให้ถูกต้อง เพื่อทุกๆฝ่าย เพื่ออนาคตของเด็กทั้งสองเเละหลานที่กำลังจะเกิด

  คุณย่าของทางฝ่ายชายนั้น อยากให้จัดงานเเต่งให้เป็นเรื่องเป็นราว พร้อมทั้งยืนยันจะช่วยส่งเสียเลี้ยงดูหลานที่กำลังจะเกิดด้วย เเละหากเเต่งกันเเล้ว เรื่องหย่าก็ว่ากันอีกที รวมทั้งเรื่องอนาคตของน้องสาวด้วย "เรื่องเเบบนี้เราควรหาทางเเก้ ไม่ใช่เอาเเต่ทำลาย ยิ่งทำลายมันก็ยิ่งเสีย ไม่คิดพ่อเด็กก็ไม่ว่า ย่าก็ไม่อยากคิดถึงมัน เเต่เราต้องคิดถึงลูกในท้อง" (ลอกคำพูดคุณย่ามา)

  เมื่อคุณย่าพูดเเบบนี้ ทางครอบครัวเด็กสาวก็เลยคิดว่าจะถอยฟ้องกันโดยดูท่าทีของญาติฝ่ายชายก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนซ้ำยังเกิดจากความผิดพลาดอย่างน่าอับอายด้วย ดังนั้นการเเก้ไขจึงต้องคิดให้รอบคอบเป็นธรรมดา หากว่าท่าทีของทางญาติฝ่ายชายมาดี บางทีเราอาจได้ทางเลือกใหม่ที่ดีกว่า ซึ่งในเร็วๆวันนี้ก็อาจจะมีการคุณกันอีกครั้งค่ะ
4 พฤศจิกายน เวลา 01:16 น.

กระทู้ที่ 4

กระทุ้นี้เป็นกระทู้สุดท้ายค่ะ เเละเป็นบทสรุปที่คงจะไม่ใช่จุดจบของปัญหา
ทั้งนี้ทั้งนั้นหลังจากที่เรื่องราวตึ่งเครียดมานานทั้งสองครอบครัวนั้นตัดสินใจให้เด็กทั้งสองคนเเต่งงานกัน !!.. อย่างมีข้อเเม้ว่าฝ่ายหญิงจะเป็นผู้ปกครองของเด็กเพียงผู้เดียว เงินสินสอดเป็นสินทรัพของฝ่ายหญิง และไม่ถือเป็นสินสมรส หากมีการหย่าร้าง ฝ่ายชายจะไม่มีสิทธิ์ในสินสมรสเเม้ฝ่ายหญิงจะขอหย่าก็ตาม เเละท้ายที่สุด ฝ่ายชายไม่มีสิทธิ์รวมละเมิดฝ่ายหญิงทุกๆประการหากฝ่ายหญิงไม่ยินยอม

ญาติทางฝ่ายชายก็ยินยอมค่ะ ยกเว้นคุณพ่อของฝ่ายชายกับตัวของฝ่ายชายเอง เขาบอกว่า สินสอดตั้งหนึ่งล้านบาท ก็เป็นอะไรที่มากมายอยู่เเล้ว แต่งมาลูกเขาก็มีเเต่เสีย แบบนี้เขายอมไม่ได้

ทางฝ่านหญิงก็เลยบอกว่า ถ้ายอมไม่ได้ก็เข้าคุก เพราะเรื่องนี้ทางฝั่งนี้ก็ยอมไม่ได้เช่นกัน จากนั้นฝ่ายคุณพ่อของฝ่ายชายก็เลยบอกว่า งั้นทำมัยสินสอดมันถึงมากขนาดนี้ละ จะไม่เห็นเเก่เงินไปหนอยรึ

เด็กสาวก็เลยออกมาพูดบ้าง เงินนะไม่เอาก็ได้ค่ะ เเต่พวกคุณจะรับผิดยังไงรึค่ะ จะให้หนูไปอยู่กินกับลูกชายคุณ หนูก็ทำไม่ได้หรอกค่ะ เเต่ที่หนูยอมเเต่งานเพราะเเค่อยากให้ลูกมีที่มาที่ไปชัดเจนเท่านั้นค่ะว่าเขาเป็นลูกใคร เงินหนึ่งล้าน สมัยนี้เลี้ยงลูกจนโตได้รึ ส่วนที่เหลือหนูก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบ ทั้งที่ไม่ควรรับผิดชอบเเท้ๆ

คุณพ่อฝ่ายชายพอได้ยินเเบบนี้ก็เสนอให้ ยกเด็กให้พวกเขา เเล้วก็ให้ฝ่ายหญิงรับค่าเสียหายไป เด็กสาวเลยยืนยันหนักเเน่นมากค่ะว่า ไม่มีทาง ลูกชายคนเดียวของพวกคุณยังอบรมให้ดีไม่ได้ หนู่ไม่มีทางยกลูกให้พวกคุณเด็จขาด เท่านั้นไม่พอคุณของฝ่ายหญิงก็เหมือนจะอดรนทนไม่ไหว ตรงเข้าทำร้ายร่างกายของพ่อฝ่ายชาย เกิดเป็นการทะเลาะวิวาทกันขึ้น ดีที่คุณย่าของฝ่ายชายมาเร็ว การทะเลาะจึงยุติลง คุณย่าก็เลยให้ลุงของฝ่ายชายพาพ่อของฝ่ายชายกับเเล้วก็ทำสัญญาใหม่ ให้เงินสินสอดเป็นค่าเสียหายของฝ่ายหญิง เเละให้ทางฝ่ายชายส่งเสียเลี้ยงดูเด็กเดือนละสามพันบาทจนกว่าเด็กจะอายุยี่สิบ

คุณย่าบอกว่าตอนที่ลูกชายออกมาไม่มีใครรู้ พอรู้ว่าเขาหายไปก็เลยคิดว่าน่าจะมาที่นี่ (ก็ดีที่ตามมาถูก) เเต่นอกจากเงินค่าเลี้ยงดูเเล้วคุณย่าก็ยังขออีกว่าให้เด็กไปอยู่บ้านนู้บ่าง ทางคุณพ่อก็เลยว่าขอคิดดูก่อน จนกว่าพวกเราจะไว้ใจ เเละผมขอย้ำว่าเห็นเเก่หลานที่กำลังจะเกิด ลูกชายของพวกคุณจึงไม่ได้เข้าคุก เเละถ้าผมได้ยินอีกครั้งว่าพวกคุณดูถูกลูกสาวผมคนบ้านผม ผมจะเอาเรื่องพวกคุณอีกเเน่
เเล้วเรื่องราวก็เบาลงในที่สุด วันเเต่งงานก็ถูกกำหนดขึ้น พร้อมกับวันหย่า ญาติฝ่ายหญิงทุกคนได้รับบัตรเชิญพร้อมกับรับรู้เรื่องราว จขกท เองได้ด้วยเเต่ก็สงสัยว่ามันเป็นงานเเต่งเเน่รึ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่