ส่วนตัว จขกท คิดว่าทั้ง 2 สิ่งนี้มีความสัมพันธ์ที่แปรผันกันอยุ่ อาทิเช่น
ว่าเรากำลังคุยกะผู้หญิงคนนึงอยู่ สถานะพี่ชายกะน้องสาวครับ แต่จู่ๆๆ
พี่ชายดันคิดก้าวข้ามสถานนะเปลี่ยนเป็นแฟน แต่ฝ่ายผู้หญิงยังคิดเป็นพี่น้องเหมือนเดิม
ผู้หญิงก็จะเริ่มเปลี่ยนไปๆๆ ถ้าคุณสังเกตุดีๆๆนะ และถ้าคุณยังดึงดันจะเปลี่ยน
สถานะให้ได้ สิ่งที่ได้กลับมาก็คือ ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปในการสนทนา
ความเฉยชาจะค่อยๆเพิ่มขึ้น นานๆๆเข้าก็จะกลายเป็นความรำคาญ และสุดท้าย
ผู้หญิงอาจทนไม่ไหว จนต้องยื่นสถานะคนไม่รู้จักกันให้คุณก็เป็นได้
นี่คือบทเรียนราคาแพงเลย ที่ จขกท ได้รับ
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่คิดเปลี่ยนสถานะเลยเพราะแบบพี่น้องมันยืนยาว
แต่แบบคนรักกัน บางทีเลิกกันก็กลายเป็นคนไม่รู้จักกัน แต่ความหวั่นไหวมัน
ก็เกินจะหักห้ามใจได้ครับ
ไม่ว่าจะสถานะใดๆครับมันก็คงมีระยะห่างของมัน ถ้าระยะห่างเปลี่ยนไป
ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ก่อนจะคิดเปลี่ยนสถานะกับใครต้องมั่นใจก่อนนะครับ
ว่าคุณไม่ได้คิดไปข้างเดียว ไม่อย่างงั้นคุณอาจจะต้องเสียคนรู้จักเพิ่มไปอีกคนนึงเลยครับ
กท 27
ระยะห่างกับความรู้สึก
ว่าเรากำลังคุยกะผู้หญิงคนนึงอยู่ สถานะพี่ชายกะน้องสาวครับ แต่จู่ๆๆ
พี่ชายดันคิดก้าวข้ามสถานนะเปลี่ยนเป็นแฟน แต่ฝ่ายผู้หญิงยังคิดเป็นพี่น้องเหมือนเดิม
ผู้หญิงก็จะเริ่มเปลี่ยนไปๆๆ ถ้าคุณสังเกตุดีๆๆนะ และถ้าคุณยังดึงดันจะเปลี่ยน
สถานะให้ได้ สิ่งที่ได้กลับมาก็คือ ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปในการสนทนา
ความเฉยชาจะค่อยๆเพิ่มขึ้น นานๆๆเข้าก็จะกลายเป็นความรำคาญ และสุดท้าย
ผู้หญิงอาจทนไม่ไหว จนต้องยื่นสถานะคนไม่รู้จักกันให้คุณก็เป็นได้
นี่คือบทเรียนราคาแพงเลย ที่ จขกท ได้รับ
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่คิดเปลี่ยนสถานะเลยเพราะแบบพี่น้องมันยืนยาว
แต่แบบคนรักกัน บางทีเลิกกันก็กลายเป็นคนไม่รู้จักกัน แต่ความหวั่นไหวมัน
ก็เกินจะหักห้ามใจได้ครับ
ไม่ว่าจะสถานะใดๆครับมันก็คงมีระยะห่างของมัน ถ้าระยะห่างเปลี่ยนไป
ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ก่อนจะคิดเปลี่ยนสถานะกับใครต้องมั่นใจก่อนนะครับ
ว่าคุณไม่ได้คิดไปข้างเดียว ไม่อย่างงั้นคุณอาจจะต้องเสียคนรู้จักเพิ่มไปอีกคนนึงเลยครับ
กท 27