แม้เพิ่งเปิดให้บริการมาไม่ถึง 1 ปี แต่การตอบรับของ “วานา นาวา หัวหิน” แฟล็กชิพใหม่ในการก้าวสู่ธุรกิจสวนน้ำ ของ “พราว เรียลเอสเตท” ถือว่าได้รับความนิยมเกินคาด นี่เองจึงทำให้บิ๊กดีเวลอปเปอร์ ด้านท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดในหัวหิน มั่นใจถึงการเดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องไม่เพียงเฉพาะหัวหินเท่านั้นยังปักธงที่จะขยายธุรกิจสวนน้ำคุณภาพระดับโลกสู่เมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกด้วย โดยมีนางสาว พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด ทายาทนักการเมืองดัง สุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นหัวเรือใหญ่
ลุ้นคนเที่ยวสวนน้ำปีนี้ 5 แสนคน
เธอเล่าอย่างภาคภูมิใจมากว่านับจากเปิดให้บริการ “วานา นาวา หัวหิน” ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557 ผ่านมากว่า 10 เดือน ธุรกิจที่ปลุกปั้นขึ้นมากับมือ เพื่อสร้างให้สวนน้ำแห่งนี้ ขึ้นแท่นแม็กเนตใหม่ด้านการท่องเที่ยวของหัวหินเพราะขณะนี้ฟีดแบ็กดีเกินคาด เดิมวางเป้าหมายว่าภายในปีแรกของการเปิดให้บริการน่าจะมีจำนวนผู้ใช้บริการสวนน้ำอยู่ที่ 3 แสนคน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท แต่ผ่านมาเพียงครึ่งปียอดผู้ใช้บริการสวนน้ำปาไป 3 แสนคนแล้ว และยอมรับว่าในปีนี้เริ่มลุ้นว่าจะยอดผู้ใช้บริการอาจจะทะลุ 5 แสนคน สร้างรายได้ขยับเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 400-500 ล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าเดิมที่วางไว้ก่อนเปิดให้บริการด้วยซ้ำว่าภายใน 5 ปีจะดันจำนวนผู้เข้าชมสวนน้ำได้กว่า 5 แสนคน
การเติบโตของผู้ใช้บริการสวนน้ำแห่งนี้ ชัดเจนว่าเป็นกระแสการตอบรับบนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่มีการพูดถึง “วานา นาวา หัวหิน” มาก เพราะจุดเด่นของเครื่องเล่นที่มีความโดดเด่นระดับโลกรวมถึงความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย จนกลายเป็นว่าเดสติเนชันแห่งนี้ เป็นการเดินทางมาเที่ยวของคนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจากหาดใหญ่ ภูเก็ต เชียงใหม่ บางคนนั่งรถไฟตู้นอนเพื่อมาเที่ยวสวนน้ำหรือมาเปิดโรงแรมอาบน้ำและกลับ แสดงว่าตั้งใจมาสวนน้ำ ไม่ใช่มาเที่ยวหัวหิน ทั้ง ๆ ที่เดิม มองว่ากลุ่มลูกค้าน่าจะเป็นคนกรุงเทพฯที่มาเที่ยวหัวหิน และต่อด้วยมาเที่ยวสวนน้ำแห่งนี้
ขณะที่กลุ่มลูกค้าต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจากฮ่องกงและจีน ที่แม้ตลาดฮ่องกงในช่วงนี้อาจชะลอตัวไปบ้างจากเหตุระเบิดย่านราชประสงค์ แต่ในภาพรวมของธุรกิจสวนน้ำ ไม่ได้รับผลกระทบเพราะมีตลาดอื่นมาทดแทนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย จีน และเชื่อว่าผลกระทบการชะลอตัวของฮ่องกงเป็นเพียงสั้น หลังเดือนตุลาคมนี้ก็จะกลับมาฟื้นตัวเช่นเดิม ทำให้เธอตั้งในการขยายฐานลูกค้าที่ปัจจุบันเป็นคนไทยสัดส่วนสูงถึง 80% ต่างชาติอยู่ที่ 20% จะเน้นการทำโรดโชว์ในประเทศแทบอาเซียน เพื่อขยับสัดส่วนลูกค้าต่างชาติเพิ่มเป็น 30-40%
เพิ่มเครื่องเล่นใหม่ ผุดรร.
จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้ เอ็มดีพราว เรียลเอสเตท มั่นใจถึงการเดินแผนต่อยอดการลงทุนในพื้นที่แห่งนี้กับเป้าหมายการสร้าง “วานา นาวา หัวหิน” ให้เป็นแฟมิลี คอมเพล็กซ์ระดับโลก โดยล่าสุดไม่เพียงแต่การเปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ชิ้นที่ 20 คือ “วานาดิโอ” สตูดิโอใต้น้ำโดยช่างภาพมืออาชีพแห่งแรกในไทยและของโลก ซึ่งทาง “แคนนอน” ได้สร้างขึ้นและคัดเลือกอุปกรณ์ถ่ายภาพและพิมพ์ภาพที่ดีที่สุดมาใช้ในสตูดิโอใต้น้ำ ที่เป็นสตูดิโอแก้วที่บรรจุน้ำ 30 คิวบิก
“จุดนี้มองว่านอกจากจะขายกลุ่มแฟมิลีที่มาเที่ยวสวนน้ำแล้ว ยังสามารถเจาะกลุ่มผู้สนใจถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง รวมถึงคนที่ชอบภาพถ่ายเก๋ๆ เพราะมีให้เลือกได้มากถึง 10 ธีม อาทิ นางเงือก แดร๊กคิวล่า โจรสลัด แต่งงาน ราคารูปเริ่มต้นที่ 380 บาทต่อรูป อันเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างรายได้ นอกเหนือจากค่าเข้าสวนน้ำในโซนวอเตอร์จังเกิล และค่าเข้าโซนแอดเวนเจอร์ และมีแผนจะขยายพื้นที่สวนน้ำเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการกันพื้นที่อีก 2-3 ไร่ติดกับโซนการก่อสร้างโรงแรม ไว้รองรับ” พราวพุธ กล่าว
คอนโดฯปรับแบบเน้นครอบครัว
นอกจากในการพัฒนาการลงทุนในลักษณะมิกซ์ยูส(โรงแรมและคอนโดมิเนียม)ในพื้นที่ติดกับสวนน้ำนั้น ในส่วนของโรงแรมฮอลิเดย์อินน์ ขนาด 300 ห้อง มูลค่าการลงทุน 1,800 ล้านบาทเริ่มตอกเสาเข็มแล้ว คาดว่าจะเปิดให้บริการเดือนตุลาคมปี 2560 ส่วนแผนสร้างคอนโดมิเนียม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับแบบใหม่ เนื่องจากมองว่าคอนโดมิเนียมในหัวหินมีมาก จึงมองหาโอกาสที่ยังมีช่องว่างทางตลาดอยู่ ซึ่งจะโฟกัสไปที่การปรับแบบเน้นกลุ่มครอบครัว เน้นห้องที่มีขนาดใหญ่ เป็นแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งจะมีความชัดเจนในปีหน้า
ในส่วนของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างห้องพักเพิ่มอีก 40 ห้องพร้อมห้องบอลรูมขนาด 350 ตารางเมตร มูลค่าการลงทุน 400 ล้านบาท จะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้ ใช้ชื่อว่าบลู พอร์ต วิง ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน ที่จะทำสะพานลอยเพื่อเชื่อมต่อกัน รวมถึงการก่อสร้างคลับเลานจ์ริมทะเล เพื่อให้บริการลูกค้าสำหรับห้องพักแบบคลับเลานจ์ ซึ่งจะทำให้ขายห้องพักในราคาที่สูงขึ้น
เล็งขยายลงทุนภูเก็ต-กทม.
สำหรับแผนในอนาคต เอ็มดี พราว เรียลเอสเตท ระบุว่าจะอาศัยแฟล็กชิพของ “วานา นาวา หัวหิน” ต่อยอดขยายการลงทุนในจุดหมายปลายทางแหล่งท่องเที่ยวอื่น โดยวางเป้าหมายจะที่สร้างแบรนด์ “วานา นาวา” ให้เป็นผู้นำธุรกิจสวนน้ำ หรือการก้าวสู่ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ เดสติเนชัน อย่างเต็มตัวครอบคลุมเมืองท่องเที่ยวหลัก
โดยมองพื้นที่ผุดสวนน้ำระดับโลกขึ้นที่ กรุงเทพฯและภูเก็ต โดยทั้ง 2 พื้นที่น่าจะมีความชัดเจนของโครงการช่วงกลางปีหน้า ซึ่งการลงทุนจะเน้นในแบบมิกซ์ยูส โดยในพื้นที่ภูเก็ต วางโมเดลว่าอยากทำเหมือนที่วานา นาวา หัวหิน คือมีสวนน้ำ โรงแรม คอนโดมิเนียม แต่พื้นที่ของสวนน้ำวานา นาวา ภูเก็ต จะมีขนาดใหญ่ ส่วน วานา นาวา กรุงเทพฯ อาจจะมีทั้ง สวนน้ำและคอนโดมิเนียม
การตัดสินใจขยายการลงทุนในครั้งนี้เพราะมองเห็นโอกาสของธุรกิจสวนน้ำที่ปัจจุบันได้รับความสนใจจากตลาดมาก และด้วยขนาดการลงทุนมาตรฐานสวนน้ำระดับโลก ทำให้มีคู่แข่งน้อย ซึ่งภูเก็ต ธุรกิจนี้ยังมีช่องว่างที่จะเข้าไปลงทุน ส่วนที่กรุงเทพฯ จะเป็นการลงทุนสไตล์วานา นาวา ที่มีความเข้มแข็งของแบรนด์ ที่ไม่ใช่แค่การนำเครื่องเล่นมาวางไว้ แต่ มองถึงการสร้างให้ธุรกิจสวนน้ำให้เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เดสติเนชัน
Credit : thansettakij.com
=== พราวพุธ ลิปตพัลลภ ตีตราแบรนด์ "วานา นาวา" ขยายอาณาจักรสู่ธุรกิจสวนน้ำโลก ===
แม้เพิ่งเปิดให้บริการมาไม่ถึง 1 ปี แต่การตอบรับของ “วานา นาวา หัวหิน” แฟล็กชิพใหม่ในการก้าวสู่ธุรกิจสวนน้ำ ของ “พราว เรียลเอสเตท” ถือว่าได้รับความนิยมเกินคาด นี่เองจึงทำให้บิ๊กดีเวลอปเปอร์ ด้านท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดในหัวหิน มั่นใจถึงการเดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องไม่เพียงเฉพาะหัวหินเท่านั้นยังปักธงที่จะขยายธุรกิจสวนน้ำคุณภาพระดับโลกสู่เมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกด้วย โดยมีนางสาว พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด ทายาทนักการเมืองดัง สุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นหัวเรือใหญ่
ลุ้นคนเที่ยวสวนน้ำปีนี้ 5 แสนคน
เธอเล่าอย่างภาคภูมิใจมากว่านับจากเปิดให้บริการ “วานา นาวา หัวหิน” ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557 ผ่านมากว่า 10 เดือน ธุรกิจที่ปลุกปั้นขึ้นมากับมือ เพื่อสร้างให้สวนน้ำแห่งนี้ ขึ้นแท่นแม็กเนตใหม่ด้านการท่องเที่ยวของหัวหินเพราะขณะนี้ฟีดแบ็กดีเกินคาด เดิมวางเป้าหมายว่าภายในปีแรกของการเปิดให้บริการน่าจะมีจำนวนผู้ใช้บริการสวนน้ำอยู่ที่ 3 แสนคน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท แต่ผ่านมาเพียงครึ่งปียอดผู้ใช้บริการสวนน้ำปาไป 3 แสนคนแล้ว และยอมรับว่าในปีนี้เริ่มลุ้นว่าจะยอดผู้ใช้บริการอาจจะทะลุ 5 แสนคน สร้างรายได้ขยับเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 400-500 ล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าเดิมที่วางไว้ก่อนเปิดให้บริการด้วยซ้ำว่าภายใน 5 ปีจะดันจำนวนผู้เข้าชมสวนน้ำได้กว่า 5 แสนคน
การเติบโตของผู้ใช้บริการสวนน้ำแห่งนี้ ชัดเจนว่าเป็นกระแสการตอบรับบนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่มีการพูดถึง “วานา นาวา หัวหิน” มาก เพราะจุดเด่นของเครื่องเล่นที่มีความโดดเด่นระดับโลกรวมถึงความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย จนกลายเป็นว่าเดสติเนชันแห่งนี้ เป็นการเดินทางมาเที่ยวของคนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจากหาดใหญ่ ภูเก็ต เชียงใหม่ บางคนนั่งรถไฟตู้นอนเพื่อมาเที่ยวสวนน้ำหรือมาเปิดโรงแรมอาบน้ำและกลับ แสดงว่าตั้งใจมาสวนน้ำ ไม่ใช่มาเที่ยวหัวหิน ทั้ง ๆ ที่เดิม มองว่ากลุ่มลูกค้าน่าจะเป็นคนกรุงเทพฯที่มาเที่ยวหัวหิน และต่อด้วยมาเที่ยวสวนน้ำแห่งนี้
ขณะที่กลุ่มลูกค้าต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจากฮ่องกงและจีน ที่แม้ตลาดฮ่องกงในช่วงนี้อาจชะลอตัวไปบ้างจากเหตุระเบิดย่านราชประสงค์ แต่ในภาพรวมของธุรกิจสวนน้ำ ไม่ได้รับผลกระทบเพราะมีตลาดอื่นมาทดแทนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย จีน และเชื่อว่าผลกระทบการชะลอตัวของฮ่องกงเป็นเพียงสั้น หลังเดือนตุลาคมนี้ก็จะกลับมาฟื้นตัวเช่นเดิม ทำให้เธอตั้งในการขยายฐานลูกค้าที่ปัจจุบันเป็นคนไทยสัดส่วนสูงถึง 80% ต่างชาติอยู่ที่ 20% จะเน้นการทำโรดโชว์ในประเทศแทบอาเซียน เพื่อขยับสัดส่วนลูกค้าต่างชาติเพิ่มเป็น 30-40%
เพิ่มเครื่องเล่นใหม่ ผุดรร.
จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้ เอ็มดีพราว เรียลเอสเตท มั่นใจถึงการเดินแผนต่อยอดการลงทุนในพื้นที่แห่งนี้กับเป้าหมายการสร้าง “วานา นาวา หัวหิน” ให้เป็นแฟมิลี คอมเพล็กซ์ระดับโลก โดยล่าสุดไม่เพียงแต่การเปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ชิ้นที่ 20 คือ “วานาดิโอ” สตูดิโอใต้น้ำโดยช่างภาพมืออาชีพแห่งแรกในไทยและของโลก ซึ่งทาง “แคนนอน” ได้สร้างขึ้นและคัดเลือกอุปกรณ์ถ่ายภาพและพิมพ์ภาพที่ดีที่สุดมาใช้ในสตูดิโอใต้น้ำ ที่เป็นสตูดิโอแก้วที่บรรจุน้ำ 30 คิวบิก
“จุดนี้มองว่านอกจากจะขายกลุ่มแฟมิลีที่มาเที่ยวสวนน้ำแล้ว ยังสามารถเจาะกลุ่มผู้สนใจถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง รวมถึงคนที่ชอบภาพถ่ายเก๋ๆ เพราะมีให้เลือกได้มากถึง 10 ธีม อาทิ นางเงือก แดร๊กคิวล่า โจรสลัด แต่งงาน ราคารูปเริ่มต้นที่ 380 บาทต่อรูป อันเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างรายได้ นอกเหนือจากค่าเข้าสวนน้ำในโซนวอเตอร์จังเกิล และค่าเข้าโซนแอดเวนเจอร์ และมีแผนจะขยายพื้นที่สวนน้ำเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการกันพื้นที่อีก 2-3 ไร่ติดกับโซนการก่อสร้างโรงแรม ไว้รองรับ” พราวพุธ กล่าว
คอนโดฯปรับแบบเน้นครอบครัว
นอกจากในการพัฒนาการลงทุนในลักษณะมิกซ์ยูส(โรงแรมและคอนโดมิเนียม)ในพื้นที่ติดกับสวนน้ำนั้น ในส่วนของโรงแรมฮอลิเดย์อินน์ ขนาด 300 ห้อง มูลค่าการลงทุน 1,800 ล้านบาทเริ่มตอกเสาเข็มแล้ว คาดว่าจะเปิดให้บริการเดือนตุลาคมปี 2560 ส่วนแผนสร้างคอนโดมิเนียม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับแบบใหม่ เนื่องจากมองว่าคอนโดมิเนียมในหัวหินมีมาก จึงมองหาโอกาสที่ยังมีช่องว่างทางตลาดอยู่ ซึ่งจะโฟกัสไปที่การปรับแบบเน้นกลุ่มครอบครัว เน้นห้องที่มีขนาดใหญ่ เป็นแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งจะมีความชัดเจนในปีหน้า
ในส่วนของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างห้องพักเพิ่มอีก 40 ห้องพร้อมห้องบอลรูมขนาด 350 ตารางเมตร มูลค่าการลงทุน 400 ล้านบาท จะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้ ใช้ชื่อว่าบลู พอร์ต วิง ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน ที่จะทำสะพานลอยเพื่อเชื่อมต่อกัน รวมถึงการก่อสร้างคลับเลานจ์ริมทะเล เพื่อให้บริการลูกค้าสำหรับห้องพักแบบคลับเลานจ์ ซึ่งจะทำให้ขายห้องพักในราคาที่สูงขึ้น
เล็งขยายลงทุนภูเก็ต-กทม.
สำหรับแผนในอนาคต เอ็มดี พราว เรียลเอสเตท ระบุว่าจะอาศัยแฟล็กชิพของ “วานา นาวา หัวหิน” ต่อยอดขยายการลงทุนในจุดหมายปลายทางแหล่งท่องเที่ยวอื่น โดยวางเป้าหมายจะที่สร้างแบรนด์ “วานา นาวา” ให้เป็นผู้นำธุรกิจสวนน้ำ หรือการก้าวสู่ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ เดสติเนชัน อย่างเต็มตัวครอบคลุมเมืองท่องเที่ยวหลัก
โดยมองพื้นที่ผุดสวนน้ำระดับโลกขึ้นที่ กรุงเทพฯและภูเก็ต โดยทั้ง 2 พื้นที่น่าจะมีความชัดเจนของโครงการช่วงกลางปีหน้า ซึ่งการลงทุนจะเน้นในแบบมิกซ์ยูส โดยในพื้นที่ภูเก็ต วางโมเดลว่าอยากทำเหมือนที่วานา นาวา หัวหิน คือมีสวนน้ำ โรงแรม คอนโดมิเนียม แต่พื้นที่ของสวนน้ำวานา นาวา ภูเก็ต จะมีขนาดใหญ่ ส่วน วานา นาวา กรุงเทพฯ อาจจะมีทั้ง สวนน้ำและคอนโดมิเนียม
การตัดสินใจขยายการลงทุนในครั้งนี้เพราะมองเห็นโอกาสของธุรกิจสวนน้ำที่ปัจจุบันได้รับความสนใจจากตลาดมาก และด้วยขนาดการลงทุนมาตรฐานสวนน้ำระดับโลก ทำให้มีคู่แข่งน้อย ซึ่งภูเก็ต ธุรกิจนี้ยังมีช่องว่างที่จะเข้าไปลงทุน ส่วนที่กรุงเทพฯ จะเป็นการลงทุนสไตล์วานา นาวา ที่มีความเข้มแข็งของแบรนด์ ที่ไม่ใช่แค่การนำเครื่องเล่นมาวางไว้ แต่ มองถึงการสร้างให้ธุรกิจสวนน้ำให้เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เดสติเนชัน
Credit : thansettakij.com