แนะนำการเที่ยว Sydney Australia 7 วันแบบประหยัด

สวัสดีเพื่อนๆชาว pantip ทุกคน
ช่วงเดือนตุลาคม 2015 ที่ผ่านมามีโอกาสได้ไปเที่ยวพักผ่อนที่ Sydney Australia มาจร้าาา
กระทู้นี้จึงตั้งใจอยากจะตอบแทนเพื่อนๆชาว pantip ที่เคยมาเขียนรีวิวเที่ยว Sydney เอาไว้
เราเห็นว่ามีบางส่วนของการเดินทางที่เราได้ไปเจอมา น่าจะมีประโยชน์กับคนที่กำลังจะวางแผนเดินทางไป
ก่อนอื่นเราต้องขอบคุณกระทู้ http://pantip.com/topic/33377717 สำหรับข้อมูลการขอวีซ่า Australia
โดยวิธีการยื่น online ซึ่งง่ายมากใช้เวลาประมาณ 10 วันซึ่งประหยัดแถมได้แบบ Multiple 1 ปีอีกด้วย วู้ๆ กราบขอบคุณอีกครั้งคร้าาาาาา

ทริปนี้เริ่มตั้งแต่ประมาณปลายปีที่แล้ว ที่คิดว่าอยากจะออกไปเที่ยว ตปท ซักครั้งแบบ Backpack
แต่เนื่องจากภาษาอังกฤษที่โดดเด่นของเราที่เกือบจะทำให้ไม่จบ ป.ตรี
แล้วมันจะรอดเหรอว๊ะ
ทำไงดี ซื้อทัวร์ก็ไม่เข้ากับความตั้งใจที่ตั้งเอาไว้
ตัวช่วย?
เฮ้ย มีพี่ที่รู้จักไปเรียนอยู่ที่โน่นนี่หว่า คุ้นๆว่าเค้าเคยเอ่ยปากชวนด้วยมั้ง??
ไลน์ไปเลยคร้าาา ด้วยประโยคที่เริ่มต้นว่า
พี่หนูได้ตั๋วแล้วนะ ช่วงวันปิยะพอดีเลย! ได้ราคาไป-กลับ 9000 บาท(ซื้อน้ำหนักกระเป๋าต่างหากอีก 1200 บาท/20 กิโลกรัม)
ทุกสิ่งทุกอย่างมันลงตัวที่สุดสำหรับเรา แต่สำหรับพี่เค้า?
หนูไม่รู้คร้าาา

พร้อมเดินทางแล้ว ลุยโลดดดด

เนื่องจากซื้อตั๋วแบบ low cost และชอบบรรยากาศของนักเดินทางในสนามบินมาก
เราจึงเลือกที่จะรอเปลี่ยนเครื่อง 7 ชั่วโมง T..T
จริงๆอยากจะรอนานกว่านี้นะ แต่เค้าให้อยู่นานสุดแค่นี้เอง
ดังนั้นอาหารการกินต้องพร้อมนะคร้าาา
ลืมบอกเราเดินทางแบ่งเป็นสองช่วงนะ คือจากดอนเมืองไปกัวลาลัมเปอร์ แล้วค่อยต่อเครื่องไปที่ซิดนีย์อีกที

ก่อนเดินทางเราไปช้อปปิ้งที่แมคโคเพื่อสิ่งนี้ก่อนเลย ก็เพื่อความประหยัดน่ะแหล่ะ แฮ่ะๆ

เนื่องจากเวลาเราพอจะมีเวลา
จึงเริ่มสำรวจสนามบิน klia2 ซึ่งใหญ่โตมาก ที่นี่จะแบ่งออกเป็นโซนนะ
ตั๋วเราให้ไปขึ้นโซนไหนต้องดูให้ดี เพราะใช้เวลาเดินระหว่างโซนพอสมควร
แต่ถ้าไม่อยากเดิน จะมีรถกอล์ฟไฟฟ้า(ด้านหลังเบลอๆ) รับส่งระหว่างโซนด้วย

เดินไปเดินมา ส่วนใหญ่ก็ไปดูราคาน้ำหอมและขอฉีดฟรี เอ้ย....ไม่ใช่ ทดลองกลิ่นคร้าาาาา 555
ชักเมื่อย หาของกินดีกว่า ที่สนามบินนี้จะมีศูนย์อาหารใหญ่อยู่ตรงชั้นที่จะเดินไปโซน F นะถ้าเราจำไม่ผิด
ข้าวมันไก่ที่นี่อร่อยมาก แนะนำเลย สั่งง่ายเพราะจัดไว้เป็นชุด มีเลขชุดบอก
เหมาะสำหรับคนเก่งเลข แต่พอไปได้ทางด้านภาษาแบบเรา 555
แต่รูปที่เอามาให้ดูเป็นอาหารอินเดีย ไม่รู้เรียกว่าอะไร
จำได้แต่ว่าสั่งโรตีแผ่นใหญ่ แต่ได้แผ่นเล็กมา สั่งไก่แต่ได้ปลามากิน สวดยอดการสื่อสาร 555

อิ่มแล้ว นอนซิคร้าา
ปล. อย่าลืมตั้งนาฬิกาปลุกนะ จำเป็นมาก สำหรับคนที่กินนอนง่ายและหลับลึกแบบเรา อันนี้จำเป็นมาก

หลังจากนาฬิกาปลุก เราก็รีบเดินเพื่อที่จะไปขึ้นเครื่องทันทีเพื่อที่จะนอนต่อ
ตื่นมาอีกทีเห็นแผ่นดิน Australia ข้างล่างแล้ว โว้....สุดยอดดดดดด
หลังจากที่เห็นแผ่นดิน Australia ครั้งแรกแล้วก็อีกประมาณสามชั่วโมงเลยนะ กว่าที่เครื่องจะเริ่มลดระดับลง ประเทศนี้ใหญ่มากจริงๆ
มองลงไป เราคิดว่าส่วนใหญ่น่าจะเป็นทะเลทรายนะ เพราะมองไม่เห็นอะไรเลยนอกแผ่นดินและภูเขา
เคยอ่านมาเค้าว่าคน Australia ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ทางขอบๆของประเทศ ที่ติดอยู่กับแนวชายฝั่งนั่นแหละ
เป็นไงหล่ะ ทำการบ้านนะคร้าา 55

ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นบนเครื่องบินด้วยนะ ครั้งแรกเลย สวยมาก สุดยอดดด

เริ่มลดระดับจนเห็นบ้านเรือนของชาวออสซี่แล้ว

หลังจากผ่าน ตม มาแบบ งงๆ เพราะ จนท ช่วยบอกให้กรอกโน่นกรอกนี่(เนื่องจากกรอกไม่ครบ) ก็มารอรับกระเป๋า
มีเรื่องน่ารักตรงจุดนี้คือ เราต้องมีการ declare กระเป๋าเพราะเอามาม่าไปสองโหล
จนท ก็จะถามว่าอาหารที่เอามาเป็นอะไร
เราก็ตอบไปว่า Just noodle
จนท ตอบกลับมาเลยว่า "มาม่าใช่ไหม"
เรารีบตอบเลย เยสสสสสสสสส 555

เข้าสู่เมือง Sydney แล้วคร้าาา พร้อมด้วย Welcome hat จากพี่ที่มารับ
สังเกตุที่หมวกจะมีเชือกห้อยๆลงมา พี่เค้าเล่าให้ฟังว่าที่ Australia แมลงเยอะมาก
จึงมีหมวกสำหรับใส่แล้วไล่แมลงที่มาตอมตามหน้าตาด้วย วิธีใช้ก็สั่นหัวไปไปเรื่อยๆ มึนๆดี

ค่าใช้จ่ายใน Sydney ได้เริ่มต้นนับจากนี้
ค่าแท็กซี่จากสนามบินไปบ้านของเราชั่วคราว อยู่แถว Marrickville
ซึ่งไม่ไกลจากสนามบินมาก จำได้ว่าใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ค่าโดยสาร 20 เหรียญ(รวมภาษีสนามบิน 5 เหรียญ)
ก็ประมาณ 500 บาทไทย อันนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะคำนวนแล้วเดินทางด้วยรถไฟแพงกว่า พี่เค้าว่างั้นก็ว่าตามเค้า 55

นี่คือการตอบแทนอันยิ่งใหญ่สำหรับที่พัก

แนะนำบริเวณบ้านคร่าวๆ

พักพอหายเหนื่อยจากการเดินทาง แล้วเริ่มเดินเที่ยวกันเลย
ออกจากบ้านมาได้สักพักเจอร้านไอติม Gelato ก็ต้องลองชิมซะหน่อย
เราลองสั่งมากิน 2 ลูกราคา 7 เหรียญ ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 170 บาท
แต่เอาเถอะ มาแล้วนะ ประหยัดอย่างอื่นไปหล่ะกัน มาม่าก็ตุนมาแล้ว บ่ หยั่นนนนน

จากนั้นนั่งรถไฟมาลงที่สถานี St Peters เพราะพี่เค้าบอกว่าแถวนี้มีงานศิลปอยู่ พอลงจากรถไฟเดินไปอีกนิดเดียวเท่านั้น
โห......ดูเมืองนอกมากกกกก ถ่ายเพลินคร้าาาา

จากนั้นเราก็เดินทางด้วยรถไฟเหมือนเดิม มาลงที่สถานี Circular Quay
ซึ่งเป็นศูนย์รวมของสัญลักษ์เมืองซิดนีย์เลย ที่นี่จะมี opera house, Habor bridge , ท่าเรือ(Wharf) , Museum และร้านค้าต่างๆ