เรื่องนี้เกิดจากครอบครัวของเรา พอดีว่าคุณพ่อขับรถมาจากต่างจังหวัด และเป็นช่วงฝนตกหนักมากในเวลานั้น (เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นะ มีเพียงพ่อ และแม่เท่านั้น)
เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ต.ค.58 ที่ผ่านมานี้เอง การไกล่เกลี่ยนั้นไม่ใช่ที่คู่กรณี หรือฝ่ายพ่อเรา แต่จะเป็น ประกันของคู่กรณีฝ่ายเดียวที่เป็นผู้เจรจาเงื่อนไขเกือบทั้งหมด
จริงๆ แล้วก่อนเกิดอุบัติเหตุ พ่อเราเป็นฝ่ายผิดจริง และติดกับในเวลานั้น (18:00 น.) มีฝนตกหนักจนแทบมองไม่เห็น พอเราขับขึ้นบนสะพานไปแล้วช่วงหนึ่ง ขณะจังหวะที่รถกำลังชลอเพื่อจะลงจากสะพาน
ตูมมมมมม!!!
ชนเข้ากับรถเบ้นซ์คันหนึ่ง รุ่น C200 ปี 2009 (เจ้าของรถบอกมา) แต่ไม่เสียหายมาก ดูจากสภาพมีรอยขีดข่วน ถลอกไม่เกิน 3-5 นิ้ว ฝากระโปรงหลังยุบนิดหน่อย ถ้ามองด้วยตาเปล่า หรือไม่สังเกตแบบละเอียด แทบมองไม่เห็นอะไรเลย
แต่กับรถพ่อของเรา ยุบ บุบ แตก (เอาง่ายๆ ซ่อมเยอะมาก)
ที่ยอมรับได้คือ ฝ่ายเราผิด ไอ้เราก็กว่าจะไปถึงพื้นที่เกิดเหตุก็ปาไป 1 ทุ่มหล่ะวันนั้น ก็ได้ถ่ายรูปไปสักพัก สังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งใส่แว่น (เจ้าของรถ) คุยกับพ่อ และมีอีกคนหนึ่งสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ (รู้ทีหลังว่า ไอ้นี่คือประกัน) แค่ดูจากสภาพภายนอก ไม่น่าจะเป็นตัวแทน หรือประกันอะไรเลย
สักพักก็คุยกับพ่อว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นยังไง และได้รู้ว่า ประกันเรียกร้องค่าเสียหาย โดยไม่มีเอกสารใดๆ (เรียกร้อง 50,0000-60,000 บาท) เอ่อ คือก็เข้าใจว่ารถเบ้นซ์ แต่มันแผลแค่เนี้ยะ ต้องเอาถึง 50,000-60,000 เลยหรือ???
ก็ลองคุยกับประกันดู ว่ามีเอกสารอะไรมั้ย มีอะไรที่เชื่อว่าเป็นประกัน "คุณถามผมทำไม ผมก็คือประกันอยู่แล้ว" เอิ่ม คือคุณไม่มีเอกสารอะไรที่บ่งบอกว่าคุณคือประกัน หรือตัวแทนเลยหรือไง
พ่อเราก็ขอสัก 40,000 จะได้มั้ย (ดูท่าทางของไอ้ประกัน ทำทีว่าไม่ได้ ฟอร์มไปคุยโทรศัพท์นู้นนี่นั่น) ก็ปาไปเกือบ 1 ชม. รถก็จอดกลางถนน รถก็ติดยาว
สุดท้าย ประกันจูงเรา (ไปคุยส่วนตัว 2-2) เขาบอกว่า "เอาอย่างนี้น้อย.. พี่โทรไปคุยกับสำนักงานใหญ่เขาแล้ว คืออย่างนี้นะ น้องไม่ต้องทำอะไรเลย แค่นอนรออยู่ที่บ้าน สบายใจ ไม่ต้องอะไรมาก อย่าไปคิดมาก นะ แล้วถ้ามีหมาย หรือสารอะไรไป ไม่ต้องรับ ปล่อยไว้นะ ฝากไปบอกพ่อน้องด้วย" 0.0 หืมมมมม
คำแนะนำแบบว่า... (คิดไป คิดมา เหมือนกับการชนแล้วหนีเลยนี่หว่า) คือพ่อเราก็จะรับผิดชอบ แต่การแนะนำของคุณมันแปลกๆ อยู่
เอ้อ ตามนั้นหล่ะกัน
ประกันก็พาพ่อเรา และเราไปที่โรงพัก จดบันทึกประจำวันไว้ จ่ายไป 400 บาท แล้วก็จ่ายเพิ่มอีก 3,000 บาท สำหรับค่าลากรถพ่อไปจอด (สรุปวันนั้นก็จบลงด้วยดี)
แต่ที่น่าห่วงมากคือ ความคิดของเรา มันคิดว่า พ่อกูจะติดคุกป่าวว้าาาาา ก็เลยไปหาคู่กรณีจากสมุดบันทึกประจำวันของตำรวจที่ไปถ่ายเอกสารมา
พอไปถึงก็ขอเบอร์คุยกัน ก็ได้ความมาเหมือนเดิมว่า "น้องไม่ต้องห่วง พี่ซ่อมเอง น้องไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เดี๋ยวให้ประกันรับผิดชอบ" (ลืมบอกไปว่า รถพ่อเราไม่มีประกันเลย ก็เลยยุ่งยากนิดนึง) แฟนเราก็บอกเราว่า
ถ้าแนะนำแบบนี้ ทำไมไม่พาพ่อไปติดคุกเลยหล่ะ
เอ๊ะ! ไอ้เราก็เข้าใจว่าฝ่ายเราพยายามรับผิดชอบนะ เราก็ถามพ่อว่า จะยังไง เพราะพี่สาวแฟนทำงานด้านกฎหมายบอกมาว่า แนะนำแบบนี้ถือว่าเป็นการหลบหนีจากอุบัติเหตุ หรือไม่รับผิดชอบ สามารถขึ้นศาลได้ เป็นคดีอาญา อะไรทำนองนี้แหละ เราก็ห่วงพ่อไง
ก็เลยให้พ่อติดต่อประกันอีก "ผมไม่ว่างครับ ผมอยู่สมุทรปราการ กำลังติดประชุม"
เอ๊ะ ยังไง คือคุณ หนีเรามากกว่านะ แบบนี้ เราจะรับผิดชอบทั้งหมด จากค่าเสียหายของการซ่อมแซมทั้งหมด (แฟนเราบอกมาแบบนี้ รวมพ่อแฟนด้วยแนะนำ)
เราก็เลยคิดสักพัก จะทำยังไงดี ไปถึงที่บริษัทประกันก็ไม่สามารถขอเอกสารจากเขาได้ เราก็อยากรู้ค่าเสียหายเท่าไหร่ เราต้องชดใช้เท่าไหร่
คือถ้ายังคงเป็นแบบนี้ เราว่า มีการขึ้นศาล หรืออาจจะโดนข้อหาหนักแน่ๆ เราเลยมาปรึกษากับทางเพื่อนๆ ในพันทิปดู
อยากทราบว่า ถ้าประกันของคู่กรณี พูดว่า "ไม่ต้องห่วง รออยู่ที่บ้านไม่ต้องทำอะไรเลย เดี๋ยวทางเราจะส่งสารไปให้" ควรทำยังไง
เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ต.ค.58 ที่ผ่านมานี้เอง การไกล่เกลี่ยนั้นไม่ใช่ที่คู่กรณี หรือฝ่ายพ่อเรา แต่จะเป็น ประกันของคู่กรณีฝ่ายเดียวที่เป็นผู้เจรจาเงื่อนไขเกือบทั้งหมด
จริงๆ แล้วก่อนเกิดอุบัติเหตุ พ่อเราเป็นฝ่ายผิดจริง และติดกับในเวลานั้น (18:00 น.) มีฝนตกหนักจนแทบมองไม่เห็น พอเราขับขึ้นบนสะพานไปแล้วช่วงหนึ่ง ขณะจังหวะที่รถกำลังชลอเพื่อจะลงจากสะพาน
ตูมมมมมม!!!
ชนเข้ากับรถเบ้นซ์คันหนึ่ง รุ่น C200 ปี 2009 (เจ้าของรถบอกมา) แต่ไม่เสียหายมาก ดูจากสภาพมีรอยขีดข่วน ถลอกไม่เกิน 3-5 นิ้ว ฝากระโปรงหลังยุบนิดหน่อย ถ้ามองด้วยตาเปล่า หรือไม่สังเกตแบบละเอียด แทบมองไม่เห็นอะไรเลย
แต่กับรถพ่อของเรา ยุบ บุบ แตก (เอาง่ายๆ ซ่อมเยอะมาก)
ที่ยอมรับได้คือ ฝ่ายเราผิด ไอ้เราก็กว่าจะไปถึงพื้นที่เกิดเหตุก็ปาไป 1 ทุ่มหล่ะวันนั้น ก็ได้ถ่ายรูปไปสักพัก สังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งใส่แว่น (เจ้าของรถ) คุยกับพ่อ และมีอีกคนหนึ่งสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ (รู้ทีหลังว่า ไอ้นี่คือประกัน) แค่ดูจากสภาพภายนอก ไม่น่าจะเป็นตัวแทน หรือประกันอะไรเลย
สักพักก็คุยกับพ่อว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นยังไง และได้รู้ว่า ประกันเรียกร้องค่าเสียหาย โดยไม่มีเอกสารใดๆ (เรียกร้อง 50,0000-60,000 บาท) เอ่อ คือก็เข้าใจว่ารถเบ้นซ์ แต่มันแผลแค่เนี้ยะ ต้องเอาถึง 50,000-60,000 เลยหรือ???
ก็ลองคุยกับประกันดู ว่ามีเอกสารอะไรมั้ย มีอะไรที่เชื่อว่าเป็นประกัน "คุณถามผมทำไม ผมก็คือประกันอยู่แล้ว" เอิ่ม คือคุณไม่มีเอกสารอะไรที่บ่งบอกว่าคุณคือประกัน หรือตัวแทนเลยหรือไง
พ่อเราก็ขอสัก 40,000 จะได้มั้ย (ดูท่าทางของไอ้ประกัน ทำทีว่าไม่ได้ ฟอร์มไปคุยโทรศัพท์นู้นนี่นั่น) ก็ปาไปเกือบ 1 ชม. รถก็จอดกลางถนน รถก็ติดยาว
สุดท้าย ประกันจูงเรา (ไปคุยส่วนตัว 2-2) เขาบอกว่า "เอาอย่างนี้น้อย.. พี่โทรไปคุยกับสำนักงานใหญ่เขาแล้ว คืออย่างนี้นะ น้องไม่ต้องทำอะไรเลย แค่นอนรออยู่ที่บ้าน สบายใจ ไม่ต้องอะไรมาก อย่าไปคิดมาก นะ แล้วถ้ามีหมาย หรือสารอะไรไป ไม่ต้องรับ ปล่อยไว้นะ ฝากไปบอกพ่อน้องด้วย" 0.0 หืมมมมม
คำแนะนำแบบว่า... (คิดไป คิดมา เหมือนกับการชนแล้วหนีเลยนี่หว่า) คือพ่อเราก็จะรับผิดชอบ แต่การแนะนำของคุณมันแปลกๆ อยู่
เอ้อ ตามนั้นหล่ะกัน
ประกันก็พาพ่อเรา และเราไปที่โรงพัก จดบันทึกประจำวันไว้ จ่ายไป 400 บาท แล้วก็จ่ายเพิ่มอีก 3,000 บาท สำหรับค่าลากรถพ่อไปจอด (สรุปวันนั้นก็จบลงด้วยดี)
แต่ที่น่าห่วงมากคือ ความคิดของเรา มันคิดว่า พ่อกูจะติดคุกป่าวว้าาาาา ก็เลยไปหาคู่กรณีจากสมุดบันทึกประจำวันของตำรวจที่ไปถ่ายเอกสารมา
พอไปถึงก็ขอเบอร์คุยกัน ก็ได้ความมาเหมือนเดิมว่า "น้องไม่ต้องห่วง พี่ซ่อมเอง น้องไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เดี๋ยวให้ประกันรับผิดชอบ" (ลืมบอกไปว่า รถพ่อเราไม่มีประกันเลย ก็เลยยุ่งยากนิดนึง) แฟนเราก็บอกเราว่า
ถ้าแนะนำแบบนี้ ทำไมไม่พาพ่อไปติดคุกเลยหล่ะ
เอ๊ะ! ไอ้เราก็เข้าใจว่าฝ่ายเราพยายามรับผิดชอบนะ เราก็ถามพ่อว่า จะยังไง เพราะพี่สาวแฟนทำงานด้านกฎหมายบอกมาว่า แนะนำแบบนี้ถือว่าเป็นการหลบหนีจากอุบัติเหตุ หรือไม่รับผิดชอบ สามารถขึ้นศาลได้ เป็นคดีอาญา อะไรทำนองนี้แหละ เราก็ห่วงพ่อไง
ก็เลยให้พ่อติดต่อประกันอีก "ผมไม่ว่างครับ ผมอยู่สมุทรปราการ กำลังติดประชุม"
เอ๊ะ ยังไง คือคุณ หนีเรามากกว่านะ แบบนี้ เราจะรับผิดชอบทั้งหมด จากค่าเสียหายของการซ่อมแซมทั้งหมด (แฟนเราบอกมาแบบนี้ รวมพ่อแฟนด้วยแนะนำ)
เราก็เลยคิดสักพัก จะทำยังไงดี ไปถึงที่บริษัทประกันก็ไม่สามารถขอเอกสารจากเขาได้ เราก็อยากรู้ค่าเสียหายเท่าไหร่ เราต้องชดใช้เท่าไหร่
คือถ้ายังคงเป็นแบบนี้ เราว่า มีการขึ้นศาล หรืออาจจะโดนข้อหาหนักแน่ๆ เราเลยมาปรึกษากับทางเพื่อนๆ ในพันทิปดู