รีวิวเสริมจมูก
สวัสดีคะ วันนี้เรามาแชร์ประสบการณ์เสริมจมูก แบบละเอียดยิบทุกขั้นตอนกันเลยคะ รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกในชีวิตเลย ถ้ามีอะไรผิดพลาด ต้องขออภัยด้วยน้า ปล.ภาพที่เราลง อาจมีบางภาพที่ดูน่ากลัว เราเลยขออนุญาตปรับภาพ ให้ดูซอฟลงนิดนึงนะคะ ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่า เรามีอาชีพเป็นผู้ช่วยคุณหมอในห้องผ่าตัด ที่คลินิกศัลยกรรมนะ เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การทำศัลยกรรมในอีกมุมหนึ่ง รวมถึงคำแนะนำการดูแลตัวเองก่อนและหลังการเสริมจมูก เพื่อเป็นข้อมูลกับคนที่สนใจจะเสริมจมูกหรือเสริมไปแล้ว จะได้เตรียมตัวและดูแลตัวเองได้ถูกต้องจ้า
งั้นมาเริ่มกันเลยนะ จริงๆเราเป็นคนกลัวการศัลยกรรม ด้วยความที่เราเป็นผู้ช่วยคุณหมอในห้องผ่าตัด เราเห็นคนที่เสริมไปแล้ว ทำแล้วสวยขึ้น บางคนแทบจำไม่ได้ เราเลยมีความคิดว่า “ผู้หญิงอย่าหยุดสวย” เราเลยตัดสินใจทำ ปัญหาของเราเวลาถ่ายรูปหน้าตรง หน้าเราจะดูแบนๆ ไม่มีมิติเลย ปลายจมูกเราพอจะมีบ้าง แต่ตรงสันจมูกนี้แทบไม่มีเลย เราเลยปรึกษากับคุณหมอ ว่าอย่างเราถ้าเสริมจะโด่งได้มากไหม คุณหมอบอกว่า เรามีปัญหาตรงสันจมูก เราเนื้อตรงจมูกเยอะ สามารถเสริมได้โด่งอยู่ ( เสริมจมูกได้โด่งมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับพื้นฐานกระดูกและเนื้อจมูกของแต่ละคนคะ บางคนชอบบ่น ว่าคุณหมอเสริมให้ไม่โด่งเลย ก็เพราะเนื้อจมูกของคุณน้อยคะ ถ้าเสริมจมูกโด่งมากไป ในอนาคตมีโอกาสจมูกทะลุได้คะ ) เราบอกกับคุณหมอว่าเสริมโด่งเข้ากับหน้าเราคะ
การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก
1. ให้งดวิตามิน E,C น้ำมันตับปลาและอาหารเสริมต่างๆทุกชนิด เพราะทำให้ระบบเลือดทำงานได้ช้าลง เลือดไม่ยอมแข็งตัว จึงเกิดอาการบวมมากหรือบวมนานกว่าปกติจ่ะ
2. เตรียมอุปกรณ์พวกหมอนรองคอ เจลประคบเย็น คัตตอนบัต เบตาดีน
3. และอย่างสุดท้ายคะ เตรียมใจจ้า นอนหลับให้เพียงพอ อย่านอยด์ อย่ากังวล อย่าเครียดนะ บางคนอาจสวดมนต์ไหว้พระ ขอให้จมูกสวยๆด้วยก็แล้วแต่เลยจ้า
ภาพเบ้าหน้าของเรา ก่อนเข้าห้องผ่าตัดจ้า (อย่าตกใจนะ) ทำไมตื่นเต้นจัง แหะๆ
ก่อนเข้าห้องผ่าตัดเราก็ต้องล้างทำความสะอาดและทายาฆ่าเชื้อที่หน้าจ้า อ้อลืมบอกคะ ที่นี้ใช้วิธีฉีดยาชานะ ถามว่าเจ็บหรือเปล่า ตอบตรงๆเลย เจ็บคะ เวลาเดินยาจะเจ็บๆแสบๆคะ ส่วนที่เจ็บที่สุดคือตรงปลายจมูกคะ แต่ระหว่างตอนทำไม่เจ็บคะ อาจจะมีตึงๆบ้างตอนใส่ซิลิโคน อ้อลืมไปเลยคะ เราต้องตะไบฮัมพ์ด้วย
( ฮัมพ์คือ ปุ่มกระดูกที่นูนขึ้นเหมือนหลังอูฐบนสันจมูก สามารถเกิดได้กับทุกคน มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์คะ )
ภาพนี้เป็นภาพตอนกำลังทำนะ ภาพอาจจะดูน่ากลัวนิดนึงน้า
รูปปัจจุบัน 2 เดือนแล้วจ้า
เป็นภาพนี้หลังจากเสริมจมูกจ้า
การดูแลหลังจากเสริมจมูกจ้า
1.นอนยกหัวให้สูงกว่าปกติ อาจนอนหมอนซ้อนกัน 2 ใบ หรือใช้หมอนรองคอ ทางที่ดีให้นั่งหลับเลยคะ เพื่อลดอาการบวม
2.นอนหน้าตรงประมาน 2 สัปดาห์ – 1 เดือน ( เรานอนหน้าตรง 1 เดือนเลย เพื่อความปลอดภัย ) ห้ามนอนตะแคงหรือคว่ำเด็ดขาดนะคะ แต่ถ้าเผลอแป๊ปเดียวได้ ไม่เป็นไรคะ
3. ให้ประคบเย็น 3 วันแรก ถ้าเป็นไปได้ให้ประคบเย็นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย หลัง 3 วันให้ประคบอุ่นจ้า อย่าวางที่ประคบบนสันจมูกนะ เพราะแรกๆซิลิโคนยังไม่เกาะกับแกนจมูกของเรา ทำให้จมูกเบี้ยวได้
4.ถ้ารู้สึกว่าเป็นหวัด หรือมีน้ำมูก ให้เรารับประทานยายับยั้งหรือลดน้ำมูก เพราะเชื้อโรคที่อยู่ในน้ำมูกเรา จะเข้าไปในแผลได้ ทำให้จมูกติดเชื้อคะ
5.งดอาหารหมักดอง อาหารรสจัด ( อาหารรสจัด ทำให้เรามีน้ำมูกคะ ) และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อที่แผลคะ
6.หลังการผ่าตัดงดการออกกำลังกายเป็นเวลา 1 เดือน และหลีกเลี่ยงการก้มหน้าเป็นเวลานานๆนะคะ
7.ทำความสะอาดแผล โดยใช้คัตเตอบัตชุบเบตาดีนทาบริเวณแผล แล้วทาด้วย terramycin ตามคะ ทำเช้า – เย็น
( เราจะไม่ใช้น้ำเกลือเช็ดแผลคะ เพราะคุณหมอบอกว่า น้ำเกลือจะละลายเชื้อโรคบริเวณรอบๆเข้าไปในแผล อาจทำให้แผลติดเชื้อได้จ้า )
การเสริมจมูกไม่ได้สวยภายใน 3-7 วันนะคะ แรกๆจะมีอาการบวม ทำให้บางคนรู้สึกนอยด์ว่าทำไมจมูกเราดูไม่โด่ง ไม่เห็นสันจมูกเลย กังวลว่าจมูกจะเบี้ยว เราขอบอกว่าอาการบวม ทำให้เราเห็นสันจมูกไม่ชัดเจนคะ และการลดบวมของสันจมูกทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน อีกข้างจะยุบบวมเร็วกว่า ทำให้ในตอนแรกๆจะดูเหมือนว่าเบี้ยวได้คะ เราต้องใจเย็นๆนะคะ รอให้ยุบบวมประมาณ 2 สัปดาห์คะ ถ้ายังรู้สึกว่ายังเบี้ยวอยู่ให้รีบมาพบคุณหมอเลยคะ เพราะสามารถดัดให้ตรงได้ แต่ต้องภายใน 1 เดือนนะคะ จมูกจะเข้าที่จริงๆเลยประมาณ 3-6 เดือนเลยนะคะ บางที 1 ปี ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่นะ
ปล.จมูกเราจะสวย จะเบี้ยว หรือจะติดเชื้อหรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลเอาใจใส่ของเราด้วยนะคะ ต้องหมั่นทำความสะอาดแผลและปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด ไม่ดื้อนะคะ เวลามีปัญหาอะไรอย่าโทษแต่คุณหมออย่างเดียวนะจ่ะ
เราหวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์หรือเป็นแนวทางให้กับผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อยนะคะ ถ้ามีอะไรสงสัยเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมเพิ่มเติม สอบถามเรามาได้เลยนะ หรือหลังไมค์มาเลยคะ สวัสดีคะ
[CR] รีวิวเสริมจมูก ประสบการณ์เสริมจมูก
สวัสดีคะ วันนี้เรามาแชร์ประสบการณ์เสริมจมูก แบบละเอียดยิบทุกขั้นตอนกันเลยคะ รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกในชีวิตเลย ถ้ามีอะไรผิดพลาด ต้องขออภัยด้วยน้า ปล.ภาพที่เราลง อาจมีบางภาพที่ดูน่ากลัว เราเลยขออนุญาตปรับภาพ ให้ดูซอฟลงนิดนึงนะคะ ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่า เรามีอาชีพเป็นผู้ช่วยคุณหมอในห้องผ่าตัด ที่คลินิกศัลยกรรมนะ เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การทำศัลยกรรมในอีกมุมหนึ่ง รวมถึงคำแนะนำการดูแลตัวเองก่อนและหลังการเสริมจมูก เพื่อเป็นข้อมูลกับคนที่สนใจจะเสริมจมูกหรือเสริมไปแล้ว จะได้เตรียมตัวและดูแลตัวเองได้ถูกต้องจ้า
งั้นมาเริ่มกันเลยนะ จริงๆเราเป็นคนกลัวการศัลยกรรม ด้วยความที่เราเป็นผู้ช่วยคุณหมอในห้องผ่าตัด เราเห็นคนที่เสริมไปแล้ว ทำแล้วสวยขึ้น บางคนแทบจำไม่ได้ เราเลยมีความคิดว่า “ผู้หญิงอย่าหยุดสวย” เราเลยตัดสินใจทำ ปัญหาของเราเวลาถ่ายรูปหน้าตรง หน้าเราจะดูแบนๆ ไม่มีมิติเลย ปลายจมูกเราพอจะมีบ้าง แต่ตรงสันจมูกนี้แทบไม่มีเลย เราเลยปรึกษากับคุณหมอ ว่าอย่างเราถ้าเสริมจะโด่งได้มากไหม คุณหมอบอกว่า เรามีปัญหาตรงสันจมูก เราเนื้อตรงจมูกเยอะ สามารถเสริมได้โด่งอยู่ ( เสริมจมูกได้โด่งมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับพื้นฐานกระดูกและเนื้อจมูกของแต่ละคนคะ บางคนชอบบ่น ว่าคุณหมอเสริมให้ไม่โด่งเลย ก็เพราะเนื้อจมูกของคุณน้อยคะ ถ้าเสริมจมูกโด่งมากไป ในอนาคตมีโอกาสจมูกทะลุได้คะ ) เราบอกกับคุณหมอว่าเสริมโด่งเข้ากับหน้าเราคะ
การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก
1. ให้งดวิตามิน E,C น้ำมันตับปลาและอาหารเสริมต่างๆทุกชนิด เพราะทำให้ระบบเลือดทำงานได้ช้าลง เลือดไม่ยอมแข็งตัว จึงเกิดอาการบวมมากหรือบวมนานกว่าปกติจ่ะ
2. เตรียมอุปกรณ์พวกหมอนรองคอ เจลประคบเย็น คัตตอนบัต เบตาดีน
3. และอย่างสุดท้ายคะ เตรียมใจจ้า นอนหลับให้เพียงพอ อย่านอยด์ อย่ากังวล อย่าเครียดนะ บางคนอาจสวดมนต์ไหว้พระ ขอให้จมูกสวยๆด้วยก็แล้วแต่เลยจ้า
ภาพเบ้าหน้าของเรา ก่อนเข้าห้องผ่าตัดจ้า (อย่าตกใจนะ) ทำไมตื่นเต้นจัง แหะๆ
ก่อนเข้าห้องผ่าตัดเราก็ต้องล้างทำความสะอาดและทายาฆ่าเชื้อที่หน้าจ้า อ้อลืมบอกคะ ที่นี้ใช้วิธีฉีดยาชานะ ถามว่าเจ็บหรือเปล่า ตอบตรงๆเลย เจ็บคะ เวลาเดินยาจะเจ็บๆแสบๆคะ ส่วนที่เจ็บที่สุดคือตรงปลายจมูกคะ แต่ระหว่างตอนทำไม่เจ็บคะ อาจจะมีตึงๆบ้างตอนใส่ซิลิโคน อ้อลืมไปเลยคะ เราต้องตะไบฮัมพ์ด้วย
( ฮัมพ์คือ ปุ่มกระดูกที่นูนขึ้นเหมือนหลังอูฐบนสันจมูก สามารถเกิดได้กับทุกคน มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์คะ )
ภาพนี้เป็นภาพตอนกำลังทำนะ ภาพอาจจะดูน่ากลัวนิดนึงน้า
รูปปัจจุบัน 2 เดือนแล้วจ้า
เป็นภาพนี้หลังจากเสริมจมูกจ้า
การดูแลหลังจากเสริมจมูกจ้า
1.นอนยกหัวให้สูงกว่าปกติ อาจนอนหมอนซ้อนกัน 2 ใบ หรือใช้หมอนรองคอ ทางที่ดีให้นั่งหลับเลยคะ เพื่อลดอาการบวม
2.นอนหน้าตรงประมาน 2 สัปดาห์ – 1 เดือน ( เรานอนหน้าตรง 1 เดือนเลย เพื่อความปลอดภัย ) ห้ามนอนตะแคงหรือคว่ำเด็ดขาดนะคะ แต่ถ้าเผลอแป๊ปเดียวได้ ไม่เป็นไรคะ
3. ให้ประคบเย็น 3 วันแรก ถ้าเป็นไปได้ให้ประคบเย็นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย หลัง 3 วันให้ประคบอุ่นจ้า อย่าวางที่ประคบบนสันจมูกนะ เพราะแรกๆซิลิโคนยังไม่เกาะกับแกนจมูกของเรา ทำให้จมูกเบี้ยวได้
4.ถ้ารู้สึกว่าเป็นหวัด หรือมีน้ำมูก ให้เรารับประทานยายับยั้งหรือลดน้ำมูก เพราะเชื้อโรคที่อยู่ในน้ำมูกเรา จะเข้าไปในแผลได้ ทำให้จมูกติดเชื้อคะ
5.งดอาหารหมักดอง อาหารรสจัด ( อาหารรสจัด ทำให้เรามีน้ำมูกคะ ) และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อที่แผลคะ
6.หลังการผ่าตัดงดการออกกำลังกายเป็นเวลา 1 เดือน และหลีกเลี่ยงการก้มหน้าเป็นเวลานานๆนะคะ
7.ทำความสะอาดแผล โดยใช้คัตเตอบัตชุบเบตาดีนทาบริเวณแผล แล้วทาด้วย terramycin ตามคะ ทำเช้า – เย็น
( เราจะไม่ใช้น้ำเกลือเช็ดแผลคะ เพราะคุณหมอบอกว่า น้ำเกลือจะละลายเชื้อโรคบริเวณรอบๆเข้าไปในแผล อาจทำให้แผลติดเชื้อได้จ้า )
การเสริมจมูกไม่ได้สวยภายใน 3-7 วันนะคะ แรกๆจะมีอาการบวม ทำให้บางคนรู้สึกนอยด์ว่าทำไมจมูกเราดูไม่โด่ง ไม่เห็นสันจมูกเลย กังวลว่าจมูกจะเบี้ยว เราขอบอกว่าอาการบวม ทำให้เราเห็นสันจมูกไม่ชัดเจนคะ และการลดบวมของสันจมูกทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน อีกข้างจะยุบบวมเร็วกว่า ทำให้ในตอนแรกๆจะดูเหมือนว่าเบี้ยวได้คะ เราต้องใจเย็นๆนะคะ รอให้ยุบบวมประมาณ 2 สัปดาห์คะ ถ้ายังรู้สึกว่ายังเบี้ยวอยู่ให้รีบมาพบคุณหมอเลยคะ เพราะสามารถดัดให้ตรงได้ แต่ต้องภายใน 1 เดือนนะคะ จมูกจะเข้าที่จริงๆเลยประมาณ 3-6 เดือนเลยนะคะ บางที 1 ปี ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่นะ
ปล.จมูกเราจะสวย จะเบี้ยว หรือจะติดเชื้อหรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลเอาใจใส่ของเราด้วยนะคะ ต้องหมั่นทำความสะอาดแผลและปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด ไม่ดื้อนะคะ เวลามีปัญหาอะไรอย่าโทษแต่คุณหมออย่างเดียวนะจ่ะ
เราหวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์หรือเป็นแนวทางให้กับผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อยนะคะ ถ้ามีอะไรสงสัยเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมเพิ่มเติม สอบถามเรามาได้เลยนะ หรือหลังไมค์มาเลยคะ สวัสดีคะ