มันสะใจนะ หลังจากเดินออกจากบ้านมาใช้ชีวิตเองเนี่ย ทุกอย่างคือเริ่มจากศูนย์ หางาน เช่าห้อง ได้เงินส่งที่ช่วยบ้านบ้างเพราะบ้านเราก็ยังมีหนี้ อยากทำไรทำ อยากไปไหนไป ไปมั่วๆ รถเมล์ รถไฟฟ้า ใต้ดิน ธรรมดา ฯลฯ ออกเดินทาง ถ่ายรูป(อัพขึ้นเฟซจนบางทีแอบเกรงใจเพื่อน แต่ก็อัพ..จะสร้างเพจก็ไม่มีใครมาไลค์ มันก็ไม่ได้อวดใครน่ะ เลยคิดดูก่อน ๕๕๕๕๕) วันหยุดเป็นวันไร้สาระ ทุกอย่างคิดเองเออเอง หลอกตัวเองเชื่อตัวเอง เหมือนทำตัวบ้าบอไปวันๆอาจเพราะเคยตัวถูกเลี้ยงมาแบบไม่ค่อยได้เจอปัญหาอะไร บางทีเจอความเครียดก็อยากทำเหมือนเมื่อก่อน สบัดหน้าหนี ไม่แคร์ไม่สน แต่ทำไม่ได้ไง เพราะเราเลือกแล้ว ทุกอย่างมันคิดเยอะ อะไรก็ต้องคิดไปหมด การออกมาทำงานห่างบ้านจริงจังเช่นนี้ ไม่ใช่การเรียน ไม่ใช่การทดลอง แต่มันคือความจริง พลาดคือพลาดจริง เจ็บจริง และที่สำคัญเจ็บแล้วมีเวลาอ่อนแอน้อยมาก ทุกอย่างคือการเรียนรู้ที่ต้องไวที่สุด การเจ็บหรือพลาดซ้ำสองนี่เป็นอะไรที่เสียเวลาโอกาส และความรู้สึกของเราเอง มันคือควาจริงที่เราต้องกอดตัวเองให้เป็น
โว้วๆ นั่งนับเดือนแล้วมาอยู่เมืองวุ่นวายนี่แปดเดือนแล้วหละ ก็คิดนะว่าแล้ววันนึง หากเราได้กลับบ้านกลับไปใช้ชีวิต เราคงต้องมีความสำเร็จสักอย่างไปฝากพ่อแม่ บอกแม่เล่นๆไว้ว่าหาคู่ได้ก่อนแล้วจะกลับ แม่บอกว่าคงไม่ได้กลับแล้วหละ คนกรุงนี่เค้ารีบจนไม่มองหน้าใครละ (บางทีก็คิดนะว่าถูกแม่เนรเทศเพราะหาแฟนไม่ได้)
ไม่รู้ว่าจะมีใครพลัดหลงมาอ่านกระทู้รึเปล่า หากมี ลองแชร์ประสบการณ์ความรู้สึกกันดูมั้ย
จะอัพรูปอวดตอนขี้นรถไฟฟรีสักหน่อยดันใหญ่ไปอัพไม่ได้ซะงั้น...
กรุงเทพฯทำให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เมื่อเราลองทำอะไรด้วยตัวเอง เจอเอง เจ็บเอง มันส์ดี
โว้วๆ นั่งนับเดือนแล้วมาอยู่เมืองวุ่นวายนี่แปดเดือนแล้วหละ ก็คิดนะว่าแล้ววันนึง หากเราได้กลับบ้านกลับไปใช้ชีวิต เราคงต้องมีความสำเร็จสักอย่างไปฝากพ่อแม่ บอกแม่เล่นๆไว้ว่าหาคู่ได้ก่อนแล้วจะกลับ แม่บอกว่าคงไม่ได้กลับแล้วหละ คนกรุงนี่เค้ารีบจนไม่มองหน้าใครละ (บางทีก็คิดนะว่าถูกแม่เนรเทศเพราะหาแฟนไม่ได้)
ไม่รู้ว่าจะมีใครพลัดหลงมาอ่านกระทู้รึเปล่า หากมี ลองแชร์ประสบการณ์ความรู้สึกกันดูมั้ย
จะอัพรูปอวดตอนขี้นรถไฟฟรีสักหน่อยดันใหญ่ไปอัพไม่ได้ซะงั้น...