เด็กเที่ยวเมียนมา ตอนที่ 2

กระทู้สนทนา
หลังจากนั่งรถทัวร์มาทั้งคืน พอมองเห็นแสงแรกของวันใหม่ วันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2558 พวกเราก็ถึงพุกาม Bagan พอดี ทันทีที่ก้าวลงจากรถทัวร์ก็พบกับหนุ่มเมียนมาพนักงานโรงแรม Gracious Began ซึ่งนำรถมารอรับที่สถานีรถ MINGALAR DON YGN และพาไป CHECK-IN โรงแรมซึ่งตั้งอยู่เขตเมืองใหม่ New Bagan



เมื่อเดินไปรอบ ๆ ก่อนจะเข้าห้องพัก ก็พบกับสวนสวยเป็นธรรมชาติลงตัวกับสระว่ายน้ำ บรรยากาศเงียบสงบ



ห้องพักของเราเป็นแบบบังกะโล กว้างนอนได้ 3 คน มีตู้เย็น โทรศัพท์ โทรทัศน์ ตู้เสื้อผ้า มีโต๊ะเก้าอี้นั่งพักผ่อนทั้งด้านในและนอกระเบียง ส่วนห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ ฟักบัว สุขา และอุปกรณ์ตามปกติ ทั้งหมดนี้จ่ายไป 120 ดอลล่าร์ (USD) รวมอาหารเช้าและเย็นให้ด้วยนะ และที่น่าภาคภูมิใจสุดสุด ส่วนของโรงแรมและแผนกต้อนรับ Reception ออกแบบโดยคนไทยค่ะ



หลังจากเก็บกระเป๋า อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า และทานข้าวเช้าเสร็จแล้ว เราก็ติดต่อจ้างรถโรงแรมให้พาเที่ยวในเขตเมืองเก่า Old Bagan ราคา 40,000 จ๊าด (MMK) วันนี้มี 10 กว่าสถานที่เป้าหมายและปิดท้ายด้วยพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น หรือ Sunset นั้นเองค่ะ



ก่อนอื่นขอออกตัวไว้ก่อนนะคะ รีวิวนี้อาจจะลงไม่ครบทุกสถานที่ที่เราเที่ยวกัน แต่รับรองได้เลยว่าสถานที่ที่คัดสรรมาให้ได้ชมนี้พิเศษแน่นอน ...เจดีย์โลกะนันดา Lawkananda Phaya สีทองตั้งตระหง่านตัดเส้นขอบฟ้าสีคราม เมื่อนักท่องเที่ยวเดินไปรอบ ๆ  จะเห็นแม่น้ำอิระวดี ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาชุ่มฉ่ำบุญสดชื่นใจจริง ๆ ค่ะ



วัดมนุหะ Manuha Temple ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดใหญ่โตจนคับวิหาร เรียกกันว่า พระอึดอัด ทำให้รู้สึกถึงความอึดอัดใจของพระเจ้ามนูหะ กษัตริย์มอญผู้สร้างวัด ซึ่งตกเป็นเชลยของพระเจ้าอโนรธา ด้านหลังวิหารมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่อีกหนึ่งองค์ด้วยนะคะ






วัดเมี๊ยะเซดีย์ Mya Zedi Temple มีพระประธานซึ่งประดับประดาสีสันสวยงาม ใบหน้าขอพระรูปก็ยิ้มอีกด้วย เมื่อสักการะแล้วก็สุขใจจริง ๆ




วัดอนันดา Ananda Temple วิหารขนาดใหญ่ นักท่องเที่ยวเดินเข้าไปสักการะพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ข้างในได้ นอกจากนี้ยอดวิหารยังเป็นเจดีย์ที่สวยงามด้วยลวดลายปูนปั้นจนได้รับยกย่องให้เป็น "เพชรน้ำเอกของพุทธศิลป์สกุลช่างพุกาม" อีกด้วยค่ะ




วัดสัพพัญญู Thatbyinnyu Phaya ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นวัดสูงที่สุดถึง 61 เมตร ถือเป็นแม่แบบสถาปัตยกรรมเมียนมา



วิหารติโลมินโล Htilominlo Temple เจดีย์ฉัตรตั้ง สูง 46 เมตร สร้างแบบก่ออิฐถือปูน เป็นวิหารองค์สุดท้ายที่มีการสร้างแบบสถาปัตยกรรมพุกาม สวยงามทั้งภายนอกและภายใน





เจดีย์บูพยา Bupaya Pagoda มีลักษณะคล้ายเจดีย์น้ำเต้า คล้ายเจดีย์ทิเบต ตั้งตระหง่านอยู่บนฝั่งเหนือแม่น้ำอิรวดีอันกว้างใหญ่ สีทองเด่นงดงามสะท้อนขอบฟ้าสีคราม ด้านล่างยังมองเห็นเรือจอดเทียบท่าริมน้ำอีกด้วย



เราเพลิดเพลินกับความงดงามของวัดและเจดีย์เก่าแก่ไปกว่าครึ่งวัน มื้อเที่ยงนี้เราแวะรับประทานอาหารไทยที่ร้าน SARABHA สิ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดมีนักท่องเที่ยวมากมายหลายชาตินิยมมารับประทานร้านนี้เช่นเดียวกับเรา ไม่รู้ว่าด้วยรสชาติ หรือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ใกล้ที่สุดในพุกาม Bagan กันแน่





เมื่ออิ่มท้องแล้ว เรามุ่งหน้าไปเจดีย์ชเวสิกอง Shwezigon pagoda เป็น 1 ใน 5 มหาเจดีย์สถานของเมียนมา เป็นสถานที่บรรจุพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า ถึงจะมีความสูง 160 เมตร แต่ว่าเงาของเจดีย์จะไม่เกินออกจากฐานล่าง เจดีย์ดูเหมือนว่าจะตั้งอยู่บนเนินเขา แต่แท้ที่จริงแล้วอยู่บนพื้นราบเท่ากับสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ




และที่สำคัญเชื่อกันว่าคนจะมาสักการะเยอะเท่าไหร่ ก็ไม่เคยเต็ม เมื่อมีเทศกาลประจำปี ไม่เคยมีใครได้ใส่บาตรเป็นคนแรก ไม่ว่าจะมาเช้าแค่ไหน แต่ก็จะมีคนใส่บาตรแล้ว ซึ่งเชื่อกันมาว่าเทวดามาใส่ก่อน อันนี้ก็เป็นความเชื่อที่เล่าต่อกันมานะคะ อยากทราบถึงความน่าอัศจรรย์ก็ต้องลองไปสัมผัสเองค่ะ




หนึ่งในจำนวนเจดีย์เก่าแก่และเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ ก่อนที่เจดีย์ติโลมินโลจะถูกสร้างขึ้นมาเพียงไม่นาน Alo Daw Pyi Pagoda ก็เป็นหนึ่งในเจดีย์เก่าแก่นั้น เรื่องความศักดิ์ชาวเมียนมาเขาชื่นชอบมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นเจดีย์ make a wish ขอพรใดได้ดังประสงค์ เรื่องแบบนี้ก็ขึ้นกับแรงศรัทธาที่พากันพูดไปแบบปากต่อปากอยากรู้ก็ต้องไปขอพรดูนะว่าจะได้ดังประสงค์หรือเปล่า




วิหารธรรมยางจี Dhammayangyi สร้างเมือนกับวัดอนันดา เป็นอิฐสีแดงโดดเด่น เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส มีมุขยื่นออกมาทั้งสี่ด้าน เรียกว่า อาคารรูปกางเขนของกรีก Greek Cross

      

ความตั้งใจแรก เราจะปิดท้ายด้วยจุดชมวิวทุ่งเจดีย์ ที่เจดีย์ชเวสันดอว์ Shwesandaw Pagoda ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมวิว 360 องศาในยามเย็น ด้วยความสูงของฐานของตัวเจดีย์ ถึง 5 ชั้นด้วยกันจะเห็นพระอาทิตย์ตก  sunset ท่ามกลางทุ่งเจดีย์ที่เชื่อกันว่าสวยงามที่สุดในพุกาม



แต่นักท่องเที่ยวจากต่างชาติต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 20 ดอลล่าร์ (USD) เราสามคนจึงตัดสินใจไม่ดูก็ได้ เพราะจากสายตาที่มองเห็นบนเจดีย์ก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวแทบไม่มีที่ยืนแล้ว



เราขึ้นรถกลับโรงแรม ระหว่างทางเราก็ได้พบกับความน่าประหลาดใจ ถัดเจดีย์ชเวสันดอว์ Shwesandaw Pagoda มาอีกหน่อยก็มีเจดีย์ซึ่งขึ้นได้ฟรีและมีพื้นที่กว้างพอให้เราสามคนได้ยืนดื่มด่ำกับพระอาทิตย์ตก Sunset งดงามจนต้องบันทึกภาพไว้ในความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิต





นับเป็นโอกาสดีทีเดียว ช่วงที่เราเดินทางไปตรงกับวันออกพรรษา จึงได้เห็นพระจันทร์เต็มดวง full moon  
และการประดับประดาโคมไฟ ตามบ้าน วัด และสถูปเจดีย์จะสว่างละลานตา สวยงามมากเลยค่ะ ไม่มีอะไรพิเศษเกินกว่าช่วงเวลานี้อีกแล้ว สถานที่สวยงาม บรรยากาศดี วันพิเศษกับคนพิเศษทั้งสองคน.



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่