รัสเซีย ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่กว่า 10 ล้านตารางกิโลเมตร เมื่อเอ่ยถึงประเทศนี้ หลายคนคงนึกถึงมหาอำนาจของสหภาพโซเวียตในยุคก่อน เราก็เป็นคนหนึ่งที่ยังไม่รู้ว่า ปัจจุบันประเทศรัสเซียเป็นยังไง น่ากลัวหรือไม่ งั้นต้องไปลองสัมผัสด้วยตัวเองซะแล้ว
ติดตามตอนอื่นๆได้ที่
1. รัสเซีย ดินแดนหลังม่านเหล็ก ตอนที่2: เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
http://pantip.com/topic/34416486
2. รัสเซีย ดินแดนหลังม่านเหล็ก ตอนที่3: มอสโคว์ (ตอนจบ)
http://pantip.com/topic/34447071
8 วัน ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงซัมเมอร์ของที่นั่น อากาศกำลังดีประมาณ 10-15 องศา เลือกไปใน 2 เมืองหลักของรัสเซีย คือ Moscow เมืองหลวง และ Saint Petersburg ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหน้าต่างแห่งยุโรป เพราะเป็นเมืองท่าทางตะวันตกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ริมอ่าวฟินแลนด์ เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของรัสเซีย และยังเป็นเมืองมรดกโลกขององค์กรยูเนสโกอีกด้วย
วีซ่า
สำหรับคนไทยถ้าเดินทางไปท่องเที่ยวไม่เกิน 30 วันไม่ต้องขอวีซ่า
ตั๋วเครื่องบิน
เราได้ตั๋วมาในราคา 21,000 บาท สายการบินสัญชาติรัสเซีย Aeroflot บินตรงใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง
ตัวเครื่อง Airbus A330-300 สภาพเครื่อง การบริการ ความสะดวกสบาย และอาหาร โดยรวมถือว่าใช้ได้
ที่พัก
1. ที่พักในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก : Oksana's Apartment Nevsky 64
ตั้งอยู่บนถนน Nevsky Prospekt ถนนประวัติศาสตร์ศูนย์กลางของนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นย่านการค้า ที่รวมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งโบสถ์ วิหาร พระราชวัง รวมถึงที่อยู่อาศัย และตึกอาคารสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ทำให้ถนนเส้นนี้คึกคักอยู่ตลอดเวลา
จองที่พักผ่าน Booking.com ห้อง Budget Studio สำหรับ 2 คน 3 คืน ราคา 10,500 รูเบิ้ล หรือประมาณ 6,400 บาท
จากแผนที่ จุดท่องเที่ยวจะอยู่ไม่ไกลกัน สามารถเดินได้ และที่พักเราก็อยู่ในละแวกนี้ด้วย เดินทางไปที่พักลงเมโทรสถานี Gostiny Dvor
ห้องพักอยู่ชั้น 3 มีลิฟท์แต่ดูไม่น่าใช้ ใช้บันไดแทนดีกว่า
ห้องพักสะอาด มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทีวี ตู้เย็น ไมโครเวฟ และที่สำคัญมีแอร์ด้วย เพราะที่พักในรัสเซียส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่โรงแรมมักจะไม่มีแอร์ (เราไปช่วงซัมเมอร์ อากาศเหมือนหน้าหนาวบ้านเราก็จริง แต่ตึกราบ้านช่องกำแพงจะหนามาก ถ้าอยู่ในห้องโดยไม่มีแอร์คิดว่าคงร้อนแน่ๆ)
2. ที่พักในมอสโคว : Golden Ring Hotel
โรงแรมอยู่ตรงข้ามกับกระทรวงการต่างประเทศ และใกล้กับถนน Arbat ซึ่งเป็นถนนคนเดิน แหล่งช้อปปิ้ง และที่พบปะของผู้คน
ขอบอกเลยว่า โรงแรมนี้ระดับ 5 ดาว แต่จองผ่าน Expedia ทำให้ได้ราคาพอๆกับอพาทเมนท์ในมอสโควเลย (ได้ยินมาว่ามอสโควตอนกลางคืนค่อนข้างน่ากลัว จึงควรจองที่พักใกล้ถนน Arbat เพราะจะมีคนพลุกพล่านหน่อย และที่พักแถบนี้ก็จะราคาสูง)
ห้อง Standard Room สำหรับ 2 คน 2 คืนราคา 6,140 บาท
เดินทางมาที่พัก ลงเมโทรสถานี Smolenskaya
มีป้ายเรทราคาของห้องแต่ละประเภทติดอยู่ ในวันที่เราเข้าพัก ห้องราคา 6000 บาทต่อคืน (เราจองผ่าน Expedia ในราคาคืนละ 3000 บาทเอง)
ห้องพักอยู่ชั้น 11
เปิดม่านออก วิวสวยมาก
รถไฟรัสเซีย
การเดินทางระหว่างมอสโควและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เราเลือกใช้รถไฟ และเลือกรอบที่เป็นช่วงกลางคืนเพื่อไปถึงที่หมายตอนเช้า ประหยัดค่าที่พัก 2 คืน (ไป-กลับ) รถไฟในรัสเซีย ตรงเวลาและสะดวกสบาย เราจองตั๋วล่วงหน้าผ่านเวปไซต์
http://pass.rzd.ru/timetable/public/en?STRUCTURE_ID=735
วิธีการจอง
อันดับแรกต้องทำการ Register ก่อนเพื่อใช้ User และ Password ในการ login เพื่อเข้าใช้บริการ
เมื่อ login เข้าไปหน้าเวปไซต์ เลือกจุดหมายปลายทาง Moscow > Saint Petersburg จากนั้นเลือกวันเดินทาง แล้วกด Buy ticket
จะข้อมูลขึ้นมาให้เลือกเยอะแยะ แบ่งตามประเภทดังนี้
- Sitting จะเป็นรถไฟนั่งแบบปกติ ราคาจะอยู่ที่ 800-900 บาท
- Sitting แบบความเร็วสูง ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม ราคาค่อนข้างสูงประมาณ 3000-4000 บาท
- Reserved Seat เป็นตู้นอนรวม ราคาอยู่ที่ประมาณ 1000 บาท
- Compartment จะเป็นแบบตู้นอนแบ่งห้อง ห้องนึงมี 4 เตียง ราคาอยู่ที่ 2000-3000 บาท
- Soft / Luxury ท่าทางจะหรูน่าดูราคาเกือบหมื่น
ซึ่งเราใช้บริการ แบบ Compartment โดยเลือกรอบเวลาออกจากมอสโคว 5 ทุ่ม ถึงเซนท์ปีเตอร์สเบิร์กเจ็ดโมงเช้า ราคา 2,306 รูเบิ้ล คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,500 บาท
ในหน้าต่างนี้ จะแสดงโบกี้ และตู้นอนที่ยังว่างอยู่ ให้เลือก แล้วกดตรง Car plan เพื่อเลือกห้อง
ส่วนนี้จะแสดงเลขห้องในโบกี้ที่เราเลือก ในช่องสีเทาคือเตียงที่ถูกจองไปแล้ว ส่วนสีขาวคือที่ยังว่างอยู่ แนะนำให้เลือกนอนด้านล่าง เพราะจะได้ไม่ต้องปีนขึ้นลง
กรอกข้อมูล และทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ เมื่อชำระเงินเรียบร้อย ก็ปริ้นตั๋วออกมา (A4) เป็นอันเรียบร้อย
สกุลเงินของรัสเซียคือรูเบิ้ล ซึ่งในไทยแทบจะไม่มีให้แลก ที่มีก็จำนวนไม่มากแถมเรทยังไม่ดีอีก ให้แลกเงินยูโรไปจากไทยแล้วไปแลกเป็นรูเบิ้ลต่อที่รัสเซียเพราะเรทดีกว่า และความโชคดีของเรา คือแลกเงินยูโรไว้ในช่วงเดือนเมษายน เป็นช่วงที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจของกรีซพอดี ทำให้ค่าเงินร่วงลงมาเหลือ 34บาทต่อยูโร
ออกเดินทางวันที่ 7 สิงหาคม 2015
ระหว่างนั่งรออยู่หน้าเกทที่สนามบินสุวรรณภูมิ แทบจะไม่เจอคนเอเชียเลย
10 โมงเช้า เครื่องมาตรงเวลา ที่นั่งบนเครื่องมี PTV ส่วนตัว ไว้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ แก้เบื่อกันไป มีหนังดีอยู่หลายเรื่องเลยทีเดียว
อาหารมีให้เลือกระหว่างเมนูเนื้อ กับไก่ สาวรักสุขภาพอย่างเราก็ต้องเลือกเนื้อหน่ะสิ รสชาติก็ดีนะ ลิ้นจระเข้กินอะไรก็อร่อยไปหมด
บ่ายสามโมงครึ่งเวลาท้องถิ่น เราก็มาถึงสนามบิน Sheremetyevo (SVO) ซึ่งเป็นสนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของรัสเซีย (จากทั้งหมด 6 สนามบิน) เป็นฐานของสายการบินรัสเซียชื่อดังอย่าง Aeroflot
ลงจากเครื่อง ให้เดินตามป้าย Passport Control ไปเพื่อต่อแถวรอตรวจคนเข้าเมือง แถวยาวและใช้เวลานานมาก แต่ใครจะไปกล้าเหวี่ยงละ เจ้าหน้าที่

หน้าโหดมาก ระหว่างยืนต่อแถว ก็ได้เจอกรุ้ปทัวร์คนไทยประมาณ 20 คน ยืนคุยกันไปพลางๆ แล้วก็ผ่าน ตม มาได้ด้วยดี ไม่โดนสักถามใดๆ
รับกระเป๋าเรียบร้อย ก็ตรงไปซื้อซิมที่เค้าเตอร์สีเขียวนี้ มีให้เลือก 3 แบบ
3 GB in Moscow = 400 รูเบิ้ล
36 GB All Russia = 600 รูเบิ้ล
Unlimited = 2000 รูเบิ้ล
เราเลือกใช้แบบ 36 GB สามารถใช้ได้ทั่วรัสเซีย คุ้มมาก ใช้ ตลอดทริปยังไม่หมดเลย
เนื่องจากสนามบินห่างจากตัวเมือง ประมาณ 30 กม เราจึงต้องใช้บริการรถไฟ Aeroexpress เพื่อเข้าไปในตัวเมือง ให้เดินตามป้าย "Train to Moscow" เมื่อไปถึงจะเจอตู้ขายตั๋ว สีเทาแดง
วิธีซื้อตั๋ว
- เปลี่ยนภาษา
- มีให้เลือกระหว่าง Single Trip กับ Round Trip (เราเลือกแบบ Single Trip)
- เลือกจำนวน (ราคาตั๋ว 470 รูเบิ้ล)
- หยอดเงินเข้าตู้ แล้วกดคำว่า Pay
จากนั้นจะได้ตั๋วออกมา ลักษณะแบบใบเสร็จ นำบาร์โคดไปสแกนเพื่อเข้าไปในสถานี
รถไฟจะออกทุกครึ่งชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็เดินทางถึงตัวเมือง
ป้ายบอกทาง และสถานีเมโทรต่างๆ ในมอสโคว จะไม่มีภาษาอังกฤษกำกับเลย ดังนั้นควรโหลดแอพพลิเคชั่น Moscow metro map ซึ่งจะมีสองภาษาไว้ดูเปรียบเทียบ
[CR] รัสเซีย ดินแดนหลังม่านเหล็ก ตอนที่1: ออกเดินทาง
ติดตามตอนอื่นๆได้ที่
1. รัสเซีย ดินแดนหลังม่านเหล็ก ตอนที่2: เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก http://pantip.com/topic/34416486
2. รัสเซีย ดินแดนหลังม่านเหล็ก ตอนที่3: มอสโคว์ (ตอนจบ) http://pantip.com/topic/34447071
8 วัน ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงซัมเมอร์ของที่นั่น อากาศกำลังดีประมาณ 10-15 องศา เลือกไปใน 2 เมืองหลักของรัสเซีย คือ Moscow เมืองหลวง และ Saint Petersburg ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหน้าต่างแห่งยุโรป เพราะเป็นเมืองท่าทางตะวันตกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ริมอ่าวฟินแลนด์ เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของรัสเซีย และยังเป็นเมืองมรดกโลกขององค์กรยูเนสโกอีกด้วย
วีซ่า
สำหรับคนไทยถ้าเดินทางไปท่องเที่ยวไม่เกิน 30 วันไม่ต้องขอวีซ่า
ตั๋วเครื่องบิน
เราได้ตั๋วมาในราคา 21,000 บาท สายการบินสัญชาติรัสเซีย Aeroflot บินตรงใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง
ตัวเครื่อง Airbus A330-300 สภาพเครื่อง การบริการ ความสะดวกสบาย และอาหาร โดยรวมถือว่าใช้ได้
ที่พัก
1. ที่พักในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก : Oksana's Apartment Nevsky 64
ตั้งอยู่บนถนน Nevsky Prospekt ถนนประวัติศาสตร์ศูนย์กลางของนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นย่านการค้า ที่รวมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งโบสถ์ วิหาร พระราชวัง รวมถึงที่อยู่อาศัย และตึกอาคารสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ทำให้ถนนเส้นนี้คึกคักอยู่ตลอดเวลา
จองที่พักผ่าน Booking.com ห้อง Budget Studio สำหรับ 2 คน 3 คืน ราคา 10,500 รูเบิ้ล หรือประมาณ 6,400 บาท
จากแผนที่ จุดท่องเที่ยวจะอยู่ไม่ไกลกัน สามารถเดินได้ และที่พักเราก็อยู่ในละแวกนี้ด้วย เดินทางไปที่พักลงเมโทรสถานี Gostiny Dvor
ห้องพักอยู่ชั้น 3 มีลิฟท์แต่ดูไม่น่าใช้ ใช้บันไดแทนดีกว่า
ห้องพักสะอาด มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทีวี ตู้เย็น ไมโครเวฟ และที่สำคัญมีแอร์ด้วย เพราะที่พักในรัสเซียส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่โรงแรมมักจะไม่มีแอร์ (เราไปช่วงซัมเมอร์ อากาศเหมือนหน้าหนาวบ้านเราก็จริง แต่ตึกราบ้านช่องกำแพงจะหนามาก ถ้าอยู่ในห้องโดยไม่มีแอร์คิดว่าคงร้อนแน่ๆ)
2. ที่พักในมอสโคว : Golden Ring Hotel
โรงแรมอยู่ตรงข้ามกับกระทรวงการต่างประเทศ และใกล้กับถนน Arbat ซึ่งเป็นถนนคนเดิน แหล่งช้อปปิ้ง และที่พบปะของผู้คน
ขอบอกเลยว่า โรงแรมนี้ระดับ 5 ดาว แต่จองผ่าน Expedia ทำให้ได้ราคาพอๆกับอพาทเมนท์ในมอสโควเลย (ได้ยินมาว่ามอสโควตอนกลางคืนค่อนข้างน่ากลัว จึงควรจองที่พักใกล้ถนน Arbat เพราะจะมีคนพลุกพล่านหน่อย และที่พักแถบนี้ก็จะราคาสูง)
ห้อง Standard Room สำหรับ 2 คน 2 คืนราคา 6,140 บาท
เดินทางมาที่พัก ลงเมโทรสถานี Smolenskaya
มีป้ายเรทราคาของห้องแต่ละประเภทติดอยู่ ในวันที่เราเข้าพัก ห้องราคา 6000 บาทต่อคืน (เราจองผ่าน Expedia ในราคาคืนละ 3000 บาทเอง)
ห้องพักอยู่ชั้น 11
เปิดม่านออก วิวสวยมาก
รถไฟรัสเซีย
การเดินทางระหว่างมอสโควและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เราเลือกใช้รถไฟ และเลือกรอบที่เป็นช่วงกลางคืนเพื่อไปถึงที่หมายตอนเช้า ประหยัดค่าที่พัก 2 คืน (ไป-กลับ) รถไฟในรัสเซีย ตรงเวลาและสะดวกสบาย เราจองตั๋วล่วงหน้าผ่านเวปไซต์ http://pass.rzd.ru/timetable/public/en?STRUCTURE_ID=735
วิธีการจอง
อันดับแรกต้องทำการ Register ก่อนเพื่อใช้ User และ Password ในการ login เพื่อเข้าใช้บริการ
เมื่อ login เข้าไปหน้าเวปไซต์ เลือกจุดหมายปลายทาง Moscow > Saint Petersburg จากนั้นเลือกวันเดินทาง แล้วกด Buy ticket
จะข้อมูลขึ้นมาให้เลือกเยอะแยะ แบ่งตามประเภทดังนี้
- Sitting จะเป็นรถไฟนั่งแบบปกติ ราคาจะอยู่ที่ 800-900 บาท
- Sitting แบบความเร็วสูง ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม ราคาค่อนข้างสูงประมาณ 3000-4000 บาท
- Reserved Seat เป็นตู้นอนรวม ราคาอยู่ที่ประมาณ 1000 บาท
- Compartment จะเป็นแบบตู้นอนแบ่งห้อง ห้องนึงมี 4 เตียง ราคาอยู่ที่ 2000-3000 บาท
- Soft / Luxury ท่าทางจะหรูน่าดูราคาเกือบหมื่น
ซึ่งเราใช้บริการ แบบ Compartment โดยเลือกรอบเวลาออกจากมอสโคว 5 ทุ่ม ถึงเซนท์ปีเตอร์สเบิร์กเจ็ดโมงเช้า ราคา 2,306 รูเบิ้ล คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,500 บาท
ในหน้าต่างนี้ จะแสดงโบกี้ และตู้นอนที่ยังว่างอยู่ ให้เลือก แล้วกดตรง Car plan เพื่อเลือกห้อง
ส่วนนี้จะแสดงเลขห้องในโบกี้ที่เราเลือก ในช่องสีเทาคือเตียงที่ถูกจองไปแล้ว ส่วนสีขาวคือที่ยังว่างอยู่ แนะนำให้เลือกนอนด้านล่าง เพราะจะได้ไม่ต้องปีนขึ้นลง
กรอกข้อมูล และทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ เมื่อชำระเงินเรียบร้อย ก็ปริ้นตั๋วออกมา (A4) เป็นอันเรียบร้อย
สกุลเงินของรัสเซียคือรูเบิ้ล ซึ่งในไทยแทบจะไม่มีให้แลก ที่มีก็จำนวนไม่มากแถมเรทยังไม่ดีอีก ให้แลกเงินยูโรไปจากไทยแล้วไปแลกเป็นรูเบิ้ลต่อที่รัสเซียเพราะเรทดีกว่า และความโชคดีของเรา คือแลกเงินยูโรไว้ในช่วงเดือนเมษายน เป็นช่วงที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจของกรีซพอดี ทำให้ค่าเงินร่วงลงมาเหลือ 34บาทต่อยูโร
ออกเดินทางวันที่ 7 สิงหาคม 2015
ระหว่างนั่งรออยู่หน้าเกทที่สนามบินสุวรรณภูมิ แทบจะไม่เจอคนเอเชียเลย
10 โมงเช้า เครื่องมาตรงเวลา ที่นั่งบนเครื่องมี PTV ส่วนตัว ไว้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ แก้เบื่อกันไป มีหนังดีอยู่หลายเรื่องเลยทีเดียว
อาหารมีให้เลือกระหว่างเมนูเนื้อ กับไก่ สาวรักสุขภาพอย่างเราก็ต้องเลือกเนื้อหน่ะสิ รสชาติก็ดีนะ ลิ้นจระเข้กินอะไรก็อร่อยไปหมด
บ่ายสามโมงครึ่งเวลาท้องถิ่น เราก็มาถึงสนามบิน Sheremetyevo (SVO) ซึ่งเป็นสนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของรัสเซีย (จากทั้งหมด 6 สนามบิน) เป็นฐานของสายการบินรัสเซียชื่อดังอย่าง Aeroflot
ลงจากเครื่อง ให้เดินตามป้าย Passport Control ไปเพื่อต่อแถวรอตรวจคนเข้าเมือง แถวยาวและใช้เวลานานมาก แต่ใครจะไปกล้าเหวี่ยงละ เจ้าหน้าที่
รับกระเป๋าเรียบร้อย ก็ตรงไปซื้อซิมที่เค้าเตอร์สีเขียวนี้ มีให้เลือก 3 แบบ
3 GB in Moscow = 400 รูเบิ้ล
36 GB All Russia = 600 รูเบิ้ล
Unlimited = 2000 รูเบิ้ล
เราเลือกใช้แบบ 36 GB สามารถใช้ได้ทั่วรัสเซีย คุ้มมาก ใช้ ตลอดทริปยังไม่หมดเลย
เนื่องจากสนามบินห่างจากตัวเมือง ประมาณ 30 กม เราจึงต้องใช้บริการรถไฟ Aeroexpress เพื่อเข้าไปในตัวเมือง ให้เดินตามป้าย "Train to Moscow" เมื่อไปถึงจะเจอตู้ขายตั๋ว สีเทาแดง
วิธีซื้อตั๋ว
- เปลี่ยนภาษา
- มีให้เลือกระหว่าง Single Trip กับ Round Trip (เราเลือกแบบ Single Trip)
- เลือกจำนวน (ราคาตั๋ว 470 รูเบิ้ล)
- หยอดเงินเข้าตู้ แล้วกดคำว่า Pay
จากนั้นจะได้ตั๋วออกมา ลักษณะแบบใบเสร็จ นำบาร์โคดไปสแกนเพื่อเข้าไปในสถานี
รถไฟจะออกทุกครึ่งชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็เดินทางถึงตัวเมือง
ป้ายบอกทาง และสถานีเมโทรต่างๆ ในมอสโคว จะไม่มีภาษาอังกฤษกำกับเลย ดังนั้นควรโหลดแอพพลิเคชั่น Moscow metro map ซึ่งจะมีสองภาษาไว้ดูเปรียบเทียบ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น