
"14 วัน" ...... นั่งรถไฟจากลาวไปรัสเซีย สายทรานไซบีเรียในตำนาน

ลุยเดี่ยว สร้างความทรงจำให้ตัวเองด้วยการเดินทางอันแสนยาวไกล จุดหมายไม่สำคัญเท่าระหว่างทาง
บิน ดอนเมือง เวียงจันทร์ (ลาว)
รถไฟ เวียงจันทร์ คุณหมิงใต้(จีน)
รถไฟคุณหมิงใต้ ปักกิ่ง (จีน)
บิน ปักกิ่ง เอียร์คุสต์ (รัสเซีย)
รถไฟสายทรานไซบีเรีย เอียร์คุสต์ มอสโก (รัสเซีย)
EP. 1 กรุงเทพ - เวียงจันทร์ - คุนหมิง
ทริปในฝันของนักเดินทางสมัคเล่นแบบผม แน่นอนว่าทริปการนั่งรถไฟจากไทยไปสุดที่รัสเซียโดยใช้เส้นทางรถไฟสายทรานไซบีเรียนคงเป็นความฝันของนักเดินทางหลายๆคนรวมถึงตัวผมด้วย กว่าจะทำได้ก็อายุจนถึง 41 ปี โดยทริปนี้ผมใช้เวลาในการเดินทางและท่องเที่ยว ทั้งหมด 14 วัน ใช้งบประมาณ รวมทั้งสิ้นทั้งหมดทั้งมวล 47,166.12 บาท ถ้าถามว่าจะประหยักกว่านี้ได้ไหมคำตอบคือ ถ้าเตรียมตัวดีกว่านี้และเตรียมตัวนานกว่านี้ ราคาทุกอย่างจะถูกลงอีกมากๆ ด้วยความที่ผมมีเวลาในการเตรียมตัวน้อยมาก เพราะเป็นช่วงที่ต้องเคลียงานก่อนไปและยังต้องดูแลการเดินทางและการเตรียมตัวของภรรยาไปเรียนที่กรีซเทอมสอง ทำให้มาเตรียมตัวก่อนการเดินทางเพียง 2 สัปดาห์ ซึ่งนั่นทำให้เราพลาดรถไฟสายทรานมองโกเลียไปแบบไม่น่าพลาด
ทริปนี้ความตั้งใจที่สุดของผมคือนั่งรถไฟสายทรานไซบีเรีย อันนี้เป็นสรุปค่าใช้จ่ายโดยละเอียดทั้งหมดในทริปนี้ครับ
ค่าใช้จ่ายในลาว 800 บาท
ค่าใช้จ่ายในจีน 2200
ในรัสเซีย 5,000 บาท
ค่าใช้จ่ายการเดินทาง
- ค่าเครื่องบินจากไทยลาว ลงเวียงจันทร์ 2,450 บาท
- ค่าตั๋วรถไฟจากเวียงจันทร์ไป จีน (คุณหมิงใต้) 4,000 บาท
- ตั๋วรถไฟ คุณหมิง ไป ปักกิ่ง 3,041 บาท
- ค่าเครื่องบินจาก ปักกิ่งไป เอียร์คุช 6,400 บาท
- ตั๋วรถไฟสายทรานไซบีเรีย เอียร์คุช ไป มอสโค 8,523 บาท
- ค่าเครื่องบินจากมอสโค รัสเซีย กลับไทย 11, 375 บาท สายการบิน ไซน่าอีสเทอร์น
รวมค่าเดินทาง 35,789 บาท
ค่าที่พัก
คืนวันที่ 11 เมษายน Sailomyen Hostel เวียงจันทร์ 252 บาท
คืนวันที่ 12 Yuhang Hotel (Kunming South High-speed Railway Station) 783.88 บาท
คืนวันที่ 13 นอนบนรถไฟ
คืนวันที่ 14 Yuhang Hotel (Kunming South High-speed Railway Station) 454.24 ยาท
คืนวันที่ 15 นอนสนามบิน
คืนวันที่ 16-18 เอียร์คุสต์ Rolling Stones Hostel 32 US ประมาณ 1,152 บาท
คืนวันที่ 18-21 นอนบนรถไฟ
คืนวันที่ 22-23 พักที่ Shaman na kurskoj ค่าที่พัก 780 บาท
รวมค่าที่พัก 3377.12 บาท
การเดินทางครั้งนี้ของผมเริ่มต้นในวันที่ 11 เมษายน 2567 โดยผมนั่งเครื่องจากดอนเมืองไปลงสนามบิน โดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย ลงท่าอากาศยานนานาชาติวัตเทย์ เวียงจันทร์ ไปถึง 13.20 น. ตอนแรกทริปนี้ตั้งใจจะนั่งรถไฟจากไทยไปเลยแต่เมื่อมาคำนวนระยะเวลาที่มี(ลางานได้ประมาณนี้) ถ้านั่งรถไฟจากไทยไปลาวก็ต้องใชอย่างน้อย 2 วัน กว่าจะได้นั่งรถไฟสาย ลาว - จีน ก็คงใช้เวลา 3 วันแน่ๆเลยตัดสินใจบินไปดีที่สุด เมื่อเช็คราคาตั๋วเครื่องบินแล้วราคาไม่แพงเพียง 2,450 บาท และยังย่นระยะเวลาทำให้เรามีเวลาได้เที่ยวในรัสเซียมากขึ้น

การเดินทางครั้งนี้ผมเลือกใช้เป้โดยจำกัดน้ำหนักทั้งหมดไว้ 10 KG นอกจากการเดินทางจะสะดวกแล้ว ยังประหยักค่าใช้จ่ายในการเดินทางเรื่องการโหลดกระเป๋าด้วย สิ่งที่การอาบน้ำเปลี่ยนสำคัญที่สุดในการเดินทางครั้งนี้คือ กางเกงใน 55555 เพราะเราจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนรถไฟและเดินทางตลอดการอาบน้ำและการเปลี่ยนชุดจึงเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร และเราต้องเปลี่ยนกางเกงในเพื่อสุขอนามัยที่ดีนะครับ 5555 เสื้อผ้าที่ผมเตรียมไปมีเพียงกางเกงขายาว 4 ตัว เป็นกางเกงวอร์มสะ 1 ตัว (สำหรับการใช้ชีวิติยู่บนรถไฟสายทรานไซบีเรียมันสบายกว่า) และเสื้อยืด 6 ตัว และที่ขาดไม่ได้คือเสื้อกันหนาว 1 ตัว เพราะขณะที่เราไปประเทศจีนอุณภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 15-20 องศา ส่วนที่รัสเซีย 8-20 องศา เพราะฉนั้นเราจะต้องเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปไม่งั้นเที่ยวไม่สนุกแน่ๆ
ผมเดินทางถึงลาวช่วงบ่ายๆพอไปถึงก็นั่งแท็กซี่ไปเลยเพราะไม่ไกล ผมจองที่พักเป็นโฮสเทลชื่อว่า Sailomyen Hostel เวียงจันทร์ ราคา 252 บาท ซึ่งแน่นอนว่าแค่นอนอย่างเดียวเพราะวันที่ 12 ผมก็จะเดินทางต่อไปยังคุณหมิงเลย ไม่ได้มีแพลนเที่ยวลาวใดๆทั้งสิ้น เป็นความตั้งใจเลยว่าจะไม่เที่ยวลาวเพราะหากเที่ยวระยะเวลาไม่พอแน่ๆ หลังจากไปถึงผมก็นัดเจอกับน้องชาวลาวที่มาอบรมกีฬากับผมเพื่อรับตั๋วรถไฟ และนี่คือบรรยากาศของโฮสเทลซึ่งเป็นที่พักที่มีร้านอาหารและร้านกาแฟอยู่ด้านล่างครับ เป็นแบบ Hostel & Cafe'



น้องคนนี้ชื่อแจ็คกี้ เป็นคนที่ดำเนินการช่วยจองตั๋วรถไฟจากลาวไปคุณหมิงใต้ซึ่งเป็นความโชคดีของผม เรื่องมีอยู่ว่าช่วงวันที่ 29 - 31 มีนาคม ก่อนการเดินทางเพียง 12 วัน ผมเป็นวิทยากรไปอบรมกีฬาที่จังหวัดสุรินทร์ซึ่งในการอบรมครั้งนี้มีนักกีฬาจากประเทศลาว(จากเวียงจันทร์) มาอบรมด้วย 5 คน หนึ่งในนั้นคือน้องที่ชื่อว่า "แจ็คกี้" คนในรูป ตอนแรกผมแค่บอกกับน้องว่าผมจะไปเวียงจันทร์วันที่ 11 เมษายนที่จะถึง แล้วจะนั่งรถไฟไปจีน ซึ่งจะขี้นที่สถานีเวียงจันทร์ น้องแจ็คกี้ก็เลยถามว่ามีตั๋วหรือยังเพราะเป็นช่วงสงกรานต์คนลาวก็จะดินทางเยอะกลัวว่าไปซื้อที่สถานีตั๋วจะหมด ผมก็เลยคุยกับน้องว่างั้นช่วยจองตั๋วรถไฟให้หน่อยได้ไหมจาก เวียงจันทร์-คุนหมิง น้องก็เลยทักแชทเพื่อที่เวียงจันทร์ให้ไปที่สถานีเพื่อไปขอซื้อตั๋ว เวลาซื้อตั๋สจะต้องใช้หน้าพาสปอร์ตผมก็ถ่ายส่งให้น้องแจ็คกี้เขาก็ส่งต่อไปให้เพื่อน สรุปว่าเพื่อไปถึงสถานีได้ตอบกลับมาว่าตอนนี้ตั๋วเหลือแค่ชั้น 1 เท่านั้น

รถไฟขบวนจาลาววิ่งยาวไปถึงสถานีคุนหมิงใต้จะมีเพียงวันละเที่ยวเท่านั้นคือเวลา 08.08 น. และมีตั๋ว 2 ประเภทคือ ตั๋วชั้น 1 ราคาประมาณ 4,000 บาท และตั๋วชั้น 2 ราคาประมาณ 2,900 บาท ซึ่งตอนแรกก็อยากจะได้ตั๋วชั้น 2 เพราะอยากประหยัดแต่สุดท้ายคือตั๋วเต็ม และโชคดีมากที่ได้เจอกับน้อจากลาวไม่งั้นคือไม่มีตั๋วรถไฟแน่นอน เพราะวันที่ผมเดินทางคือคนเยอะมากส่วนใหญ่จะเป็นคนลาวกลับบ้านและคนจีนที่มาทำงานส่วนใหญ่จะลงสิบสองปันนา

หลังจากนั้นผมก็ไปเดินเล่นถ่ายรูปนิดหน่อยช่วงเย็นที่พักอยู่ใกล้ประตูชัยก็เลยมีรูปมาบ้างนิดหน่อย

เช้าวันที่ 12 เมษายน 2567 ผมเดินทางจากที่พักไปยังสถานีรถไฟ ซึ่งวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดคือแท็กซี่ แต่เนื่องด้วยผมได้น้องแจ็คกี้ขัยรถมาส่งก็เลยสบายหน่อย ผมเดินทางออกจากที่พักเวลา 6.30 มาถึงสถานีรถไฟความเร็สสูงของเวียงจันทร์ ประมาณ 07.00 น. อันนี้คือบรรยากาศหน้าสถานีและภายใน



สิ่งที่ควรทำคือ เตรียมอาหารเพราะจะใช้ระยะเวลาในการเดินทาง 1 วันเต็ม ผมออกเดินทางจกสถานีเวียงจันทร์ 08.08 น. และจะถึงคุนหมิงเวลา 17.00 น. รวมระยะเวลาประมาณ 9 ชั่วโมง เมื่อถึงเวลา พนักงานก็จะประกาศว่าถึงขบวนไหนเปิดให้เข้าไปตอนกี่โมง ขบวนที่ผมขึ้นเปิดให้เริ่มเข้าตอน 7.30 น. โดยประมาณ ผมก็เดินไปต่อคิว สถานีที่นี่จะไม่ให้เราเข้าไปรอที่ชานชลาเลยต้องรอเข้าตามเวลาเท่านั้น




ตอนนี้ผมก็เข้ามาอยู่บนขบวนรถไฟเป็นที่เรียบร้อย รีบถ่ายตอนที่ยังไม่มีคน เรามาดูเส้นทางการวิ่งของรถไฟกันครับว่าผ่านที่ไหนบ้าง

ขออนุญาตใช้ภาพจากอินเตอร์เนทนะครับ ตอนนี้จากหนองคายน่าจะกำลังก่อสร้างอยู่ผมไม่แน่ใจ แต่ผมนั่งจากเวียงจันทร์ ไปสุดที่คุนหมิง ซึ่งเราจะต้องลงจากขบวน 2 ครั้ง คือครั้งแรกเพื่อผ่าน ตม. ลาว ที่สถานี บ่อเต็น เราจะต้องลงจากขบวนพร้อมสัมภาระทั้งหมดเพื่อไปผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง

ทุกคนก็จะต้องเดินไปด้านหลังเพื่อผ่านการตรวจคนเข้าเมืองหลังจากนั้นพอผ่าน ตม.ลาวแล้วก็ขึ้นไปบนขบวนเดิม ที่ นั่งเดิม เพื่อจะเดินทางต่อซึ่งสภานีต่อไปก็จะเป็นเขตของจีนนั่นคือสถานี โม่หาน (ตามแผนที่นี้นะครับ ถ้าไม่ผิดนะ) ทุกคนก็ต้องทำเหมือนเดิทคือลงจากรถไฟพร้อมสัมภาระทุกอย่างถ้าไม่เอาลงเขาจะเก็บทิ้งทั้งหมด ผมก็เดินทางจากขบวนและแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นคือ........... ผมเจอยูทูบเบอร์ที่ผมติดตามตลอดคือ น้องพลอย เจ้าของช่อง Pigkaploy ก็เลยได้ขอถ่ายรูปและนั่งคุยกันหลังจากกลับเข้ามาบนขบวน จุงได้รู้ว่าน้องพลอยจะลงสิบสองปันนา ไปสุดสายที่ ทิเบต เดินทางมาคนเดียวสะด้วย

หลังจากนั้นก็ขึ้นรถไฟขบวนเดิมเพื่อไปต่อซึ่งน้องพลอยลงก่อนผม และในที่สุดผมก็มาถึงสถานีสุดทางของสายนี้คือ คุนหมิง เดินออกมาจากสถานีซึ่งต้องบอกว่าสถานีใหญ่พอสมควร ซึ่งในคุณหมิงมีสถานีรถไฟหลักๆ 3 สถานี คือ สถานีคุนหมิงใต้ kunming railway station South, คุนหมิงเหนือkunming railway station North, และคุนหมิง kunming railway station (Parking lot) ซึ่งเราต้องอย่าสับสน และสถานี่ที่เราจะใช้เดินทางไปอีก 2 วันก็คือ kunming railway station (Parking lot) หลังจากออกจากสถานีรถไฟคุณหมิงใต้ ผมก็เรียกแทกซี่ไปสะดวกที่สุดเพราะจองที่พักไว้ไม่ไกล ที่พักของเราชื่อว่า Yuhang Hotel (Kunming South High-speed Railway Station) 783.88 บาท ก่อนจะไปที่พักก็บอกเลยว่าหิวมากขอหาไรกินก่อนก็เดินมั่วไไปเจอร้านเล็กในสถานีก็เลยจัดไป 1 เมนูซึ่งบอกเลยว่าคุยกับป้าคนขายไม่รู้เรื่อง แต่โชคดีที่มีวัยรุ่นจีน 2 คน นั่งทานอยุ่ในร้านก็เลยช่วยเป็นล่านให้น้องเขาใช้ภาษาอังกฤษได้ดี


สองสาวที่ช่วยให้ผมได้กินข้าวอร่อย เขาถามว่าอยากทานอะไรผมก็เลยบอกว่าเป็นข้าวอะไรก็ได้ขอเป็นเมนูหมู เขาก็เลยนำเสนอมา 2 เมนู ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรจับใจความว่าเป็นผัดหมูกับผักสักอย่างซึ่งผมก็เลยบอกไปว่า แล้วแต่คุณ คุณอยากให้ผมทานอะไรคุณเลือกให้ผมเลย น้องเจากา็เลยบอกว่าเมนูที่สั่งให้กินเป็นเมนูท้องถิ่นสรุปที่ได้กินคือ หมูผัดพริกนั่นเอง(พริกหยวก) อร่อยด้วย หลังจากนั้นก็ถามการเดินทางจากน้อสองคนนี้ได้คำตอบง่ายๆว่าไปแท็กซี่เถอะ แท็กซี่จริงๆเลยนะมีจอดรออยู่ที่ทางออกอย่าไปกับคนที่มาเรียก ให้เดินเข้าไปในช่องแท็กซี่เลย หลังจากทานเสร็จก็จ่ายตัง ผมโหลดแอป Alipay มาด้วย เติมเงินมาเรียบร้อย ซึ่งจริงๆถ้าใครใช้ทรูมันนี่ก็ใช่ได้เช่นกันเติมเงินสะดวกด้วย หลังจากจากทานเสร็จก็เดินทางไปที่พัก ซึ่งคืนนี้เป็นห้องเดียวนะครับ อยู่ไม่ห่างจากสถานีคุนหมิงใต้ ผมไปถึงเป็นที่พักซึ่งอยู่บนตึกสูงกว่าจะหาเจอก็ต้องถามหลายคนอยู่ เวลาผมปริ้นเอกสารจองที่พักผมจะปริ้นไป 2 ภาษาคือ 1 ภาษาอังกฤษและภาษาจีน หรือ ที่พักที่รัสเซียผมก็ปริ้นภาษารัสเซียไปด้วยจะช่วยเราได้เยอะมากๆ...... เดี๋ยวมาต่อพรุ่งนี้นะครับ ง่วงแล้ว
"14 วัน" นั่งรถไฟจากลาวไป รัสเซีย สายทรานไซบีเรียในตำนาน
ลุยเดี่ยว สร้างความทรงจำให้ตัวเองด้วยการเดินทางอันแสนยาวไกล จุดหมายไม่สำคัญเท่าระหว่างทาง
บิน ดอนเมือง เวียงจันทร์ (ลาว)
รถไฟ เวียงจันทร์ คุณหมิงใต้(จีน)
รถไฟคุณหมิงใต้ ปักกิ่ง (จีน)
บิน ปักกิ่ง เอียร์คุสต์ (รัสเซีย)
รถไฟสายทรานไซบีเรีย เอียร์คุสต์ มอสโก (รัสเซีย)
EP. 1 กรุงเทพ - เวียงจันทร์ - คุนหมิง
ทริปในฝันของนักเดินทางสมัคเล่นแบบผม แน่นอนว่าทริปการนั่งรถไฟจากไทยไปสุดที่รัสเซียโดยใช้เส้นทางรถไฟสายทรานไซบีเรียนคงเป็นความฝันของนักเดินทางหลายๆคนรวมถึงตัวผมด้วย กว่าจะทำได้ก็อายุจนถึง 41 ปี โดยทริปนี้ผมใช้เวลาในการเดินทางและท่องเที่ยว ทั้งหมด 14 วัน ใช้งบประมาณ รวมทั้งสิ้นทั้งหมดทั้งมวล 47,166.12 บาท ถ้าถามว่าจะประหยักกว่านี้ได้ไหมคำตอบคือ ถ้าเตรียมตัวดีกว่านี้และเตรียมตัวนานกว่านี้ ราคาทุกอย่างจะถูกลงอีกมากๆ ด้วยความที่ผมมีเวลาในการเตรียมตัวน้อยมาก เพราะเป็นช่วงที่ต้องเคลียงานก่อนไปและยังต้องดูแลการเดินทางและการเตรียมตัวของภรรยาไปเรียนที่กรีซเทอมสอง ทำให้มาเตรียมตัวก่อนการเดินทางเพียง 2 สัปดาห์ ซึ่งนั่นทำให้เราพลาดรถไฟสายทรานมองโกเลียไปแบบไม่น่าพลาด
ทริปนี้ความตั้งใจที่สุดของผมคือนั่งรถไฟสายทรานไซบีเรีย อันนี้เป็นสรุปค่าใช้จ่ายโดยละเอียดทั้งหมดในทริปนี้ครับ
ค่าใช้จ่ายในลาว 800 บาท
ค่าใช้จ่ายในจีน 2200
ในรัสเซีย 5,000 บาท
ค่าใช้จ่ายการเดินทาง
- ค่าเครื่องบินจากไทยลาว ลงเวียงจันทร์ 2,450 บาท
- ค่าตั๋วรถไฟจากเวียงจันทร์ไป จีน (คุณหมิงใต้) 4,000 บาท
- ตั๋วรถไฟ คุณหมิง ไป ปักกิ่ง 3,041 บาท
- ค่าเครื่องบินจาก ปักกิ่งไป เอียร์คุช 6,400 บาท
- ตั๋วรถไฟสายทรานไซบีเรีย เอียร์คุช ไป มอสโค 8,523 บาท
- ค่าเครื่องบินจากมอสโค รัสเซีย กลับไทย 11, 375 บาท สายการบิน ไซน่าอีสเทอร์น
รวมค่าเดินทาง 35,789 บาท
ค่าที่พัก
คืนวันที่ 11 เมษายน Sailomyen Hostel เวียงจันทร์ 252 บาท
คืนวันที่ 12 Yuhang Hotel (Kunming South High-speed Railway Station) 783.88 บาท
คืนวันที่ 13 นอนบนรถไฟ
คืนวันที่ 14 Yuhang Hotel (Kunming South High-speed Railway Station) 454.24 ยาท
คืนวันที่ 15 นอนสนามบิน
คืนวันที่ 16-18 เอียร์คุสต์ Rolling Stones Hostel 32 US ประมาณ 1,152 บาท
คืนวันที่ 18-21 นอนบนรถไฟ
คืนวันที่ 22-23 พักที่ Shaman na kurskoj ค่าที่พัก 780 บาท
รวมค่าที่พัก 3377.12 บาท
การเดินทางครั้งนี้ของผมเริ่มต้นในวันที่ 11 เมษายน 2567 โดยผมนั่งเครื่องจากดอนเมืองไปลงสนามบิน โดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย ลงท่าอากาศยานนานาชาติวัตเทย์ เวียงจันทร์ ไปถึง 13.20 น. ตอนแรกทริปนี้ตั้งใจจะนั่งรถไฟจากไทยไปเลยแต่เมื่อมาคำนวนระยะเวลาที่มี(ลางานได้ประมาณนี้) ถ้านั่งรถไฟจากไทยไปลาวก็ต้องใชอย่างน้อย 2 วัน กว่าจะได้นั่งรถไฟสาย ลาว - จีน ก็คงใช้เวลา 3 วันแน่ๆเลยตัดสินใจบินไปดีที่สุด เมื่อเช็คราคาตั๋วเครื่องบินแล้วราคาไม่แพงเพียง 2,450 บาท และยังย่นระยะเวลาทำให้เรามีเวลาได้เที่ยวในรัสเซียมากขึ้น
การเดินทางครั้งนี้ผมเลือกใช้เป้โดยจำกัดน้ำหนักทั้งหมดไว้ 10 KG นอกจากการเดินทางจะสะดวกแล้ว ยังประหยักค่าใช้จ่ายในการเดินทางเรื่องการโหลดกระเป๋าด้วย สิ่งที่การอาบน้ำเปลี่ยนสำคัญที่สุดในการเดินทางครั้งนี้คือ กางเกงใน 55555 เพราะเราจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนรถไฟและเดินทางตลอดการอาบน้ำและการเปลี่ยนชุดจึงเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร และเราต้องเปลี่ยนกางเกงในเพื่อสุขอนามัยที่ดีนะครับ 5555 เสื้อผ้าที่ผมเตรียมไปมีเพียงกางเกงขายาว 4 ตัว เป็นกางเกงวอร์มสะ 1 ตัว (สำหรับการใช้ชีวิติยู่บนรถไฟสายทรานไซบีเรียมันสบายกว่า) และเสื้อยืด 6 ตัว และที่ขาดไม่ได้คือเสื้อกันหนาว 1 ตัว เพราะขณะที่เราไปประเทศจีนอุณภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 15-20 องศา ส่วนที่รัสเซีย 8-20 องศา เพราะฉนั้นเราจะต้องเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปไม่งั้นเที่ยวไม่สนุกแน่ๆ
ผมเดินทางถึงลาวช่วงบ่ายๆพอไปถึงก็นั่งแท็กซี่ไปเลยเพราะไม่ไกล ผมจองที่พักเป็นโฮสเทลชื่อว่า Sailomyen Hostel เวียงจันทร์ ราคา 252 บาท ซึ่งแน่นอนว่าแค่นอนอย่างเดียวเพราะวันที่ 12 ผมก็จะเดินทางต่อไปยังคุณหมิงเลย ไม่ได้มีแพลนเที่ยวลาวใดๆทั้งสิ้น เป็นความตั้งใจเลยว่าจะไม่เที่ยวลาวเพราะหากเที่ยวระยะเวลาไม่พอแน่ๆ หลังจากไปถึงผมก็นัดเจอกับน้องชาวลาวที่มาอบรมกีฬากับผมเพื่อรับตั๋วรถไฟ และนี่คือบรรยากาศของโฮสเทลซึ่งเป็นที่พักที่มีร้านอาหารและร้านกาแฟอยู่ด้านล่างครับ เป็นแบบ Hostel & Cafe'
น้องคนนี้ชื่อแจ็คกี้ เป็นคนที่ดำเนินการช่วยจองตั๋วรถไฟจากลาวไปคุณหมิงใต้ซึ่งเป็นความโชคดีของผม เรื่องมีอยู่ว่าช่วงวันที่ 29 - 31 มีนาคม ก่อนการเดินทางเพียง 12 วัน ผมเป็นวิทยากรไปอบรมกีฬาที่จังหวัดสุรินทร์ซึ่งในการอบรมครั้งนี้มีนักกีฬาจากประเทศลาว(จากเวียงจันทร์) มาอบรมด้วย 5 คน หนึ่งในนั้นคือน้องที่ชื่อว่า "แจ็คกี้" คนในรูป ตอนแรกผมแค่บอกกับน้องว่าผมจะไปเวียงจันทร์วันที่ 11 เมษายนที่จะถึง แล้วจะนั่งรถไฟไปจีน ซึ่งจะขี้นที่สถานีเวียงจันทร์ น้องแจ็คกี้ก็เลยถามว่ามีตั๋วหรือยังเพราะเป็นช่วงสงกรานต์คนลาวก็จะดินทางเยอะกลัวว่าไปซื้อที่สถานีตั๋วจะหมด ผมก็เลยคุยกับน้องว่างั้นช่วยจองตั๋วรถไฟให้หน่อยได้ไหมจาก เวียงจันทร์-คุนหมิง น้องก็เลยทักแชทเพื่อที่เวียงจันทร์ให้ไปที่สถานีเพื่อไปขอซื้อตั๋ว เวลาซื้อตั๋สจะต้องใช้หน้าพาสปอร์ตผมก็ถ่ายส่งให้น้องแจ็คกี้เขาก็ส่งต่อไปให้เพื่อน สรุปว่าเพื่อไปถึงสถานีได้ตอบกลับมาว่าตอนนี้ตั๋วเหลือแค่ชั้น 1 เท่านั้น
รถไฟขบวนจาลาววิ่งยาวไปถึงสถานีคุนหมิงใต้จะมีเพียงวันละเที่ยวเท่านั้นคือเวลา 08.08 น. และมีตั๋ว 2 ประเภทคือ ตั๋วชั้น 1 ราคาประมาณ 4,000 บาท และตั๋วชั้น 2 ราคาประมาณ 2,900 บาท ซึ่งตอนแรกก็อยากจะได้ตั๋วชั้น 2 เพราะอยากประหยัดแต่สุดท้ายคือตั๋วเต็ม และโชคดีมากที่ได้เจอกับน้อจากลาวไม่งั้นคือไม่มีตั๋วรถไฟแน่นอน เพราะวันที่ผมเดินทางคือคนเยอะมากส่วนใหญ่จะเป็นคนลาวกลับบ้านและคนจีนที่มาทำงานส่วนใหญ่จะลงสิบสองปันนา
หลังจากนั้นผมก็ไปเดินเล่นถ่ายรูปนิดหน่อยช่วงเย็นที่พักอยู่ใกล้ประตูชัยก็เลยมีรูปมาบ้างนิดหน่อย
เช้าวันที่ 12 เมษายน 2567 ผมเดินทางจากที่พักไปยังสถานีรถไฟ ซึ่งวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดคือแท็กซี่ แต่เนื่องด้วยผมได้น้องแจ็คกี้ขัยรถมาส่งก็เลยสบายหน่อย ผมเดินทางออกจากที่พักเวลา 6.30 มาถึงสถานีรถไฟความเร็สสูงของเวียงจันทร์ ประมาณ 07.00 น. อันนี้คือบรรยากาศหน้าสถานีและภายใน
สิ่งที่ควรทำคือ เตรียมอาหารเพราะจะใช้ระยะเวลาในการเดินทาง 1 วันเต็ม ผมออกเดินทางจกสถานีเวียงจันทร์ 08.08 น. และจะถึงคุนหมิงเวลา 17.00 น. รวมระยะเวลาประมาณ 9 ชั่วโมง เมื่อถึงเวลา พนักงานก็จะประกาศว่าถึงขบวนไหนเปิดให้เข้าไปตอนกี่โมง ขบวนที่ผมขึ้นเปิดให้เริ่มเข้าตอน 7.30 น. โดยประมาณ ผมก็เดินไปต่อคิว สถานีที่นี่จะไม่ให้เราเข้าไปรอที่ชานชลาเลยต้องรอเข้าตามเวลาเท่านั้น
ตอนนี้ผมก็เข้ามาอยู่บนขบวนรถไฟเป็นที่เรียบร้อย รีบถ่ายตอนที่ยังไม่มีคน เรามาดูเส้นทางการวิ่งของรถไฟกันครับว่าผ่านที่ไหนบ้าง
ขออนุญาตใช้ภาพจากอินเตอร์เนทนะครับ ตอนนี้จากหนองคายน่าจะกำลังก่อสร้างอยู่ผมไม่แน่ใจ แต่ผมนั่งจากเวียงจันทร์ ไปสุดที่คุนหมิง ซึ่งเราจะต้องลงจากขบวน 2 ครั้ง คือครั้งแรกเพื่อผ่าน ตม. ลาว ที่สถานี บ่อเต็น เราจะต้องลงจากขบวนพร้อมสัมภาระทั้งหมดเพื่อไปผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง
ทุกคนก็จะต้องเดินไปด้านหลังเพื่อผ่านการตรวจคนเข้าเมืองหลังจากนั้นพอผ่าน ตม.ลาวแล้วก็ขึ้นไปบนขบวนเดิม ที่ นั่งเดิม เพื่อจะเดินทางต่อซึ่งสภานีต่อไปก็จะเป็นเขตของจีนนั่นคือสถานี โม่หาน (ตามแผนที่นี้นะครับ ถ้าไม่ผิดนะ) ทุกคนก็ต้องทำเหมือนเดิทคือลงจากรถไฟพร้อมสัมภาระทุกอย่างถ้าไม่เอาลงเขาจะเก็บทิ้งทั้งหมด ผมก็เดินทางจากขบวนและแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นคือ........... ผมเจอยูทูบเบอร์ที่ผมติดตามตลอดคือ น้องพลอย เจ้าของช่อง Pigkaploy ก็เลยได้ขอถ่ายรูปและนั่งคุยกันหลังจากกลับเข้ามาบนขบวน จุงได้รู้ว่าน้องพลอยจะลงสิบสองปันนา ไปสุดสายที่ ทิเบต เดินทางมาคนเดียวสะด้วย
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถไฟขบวนเดิมเพื่อไปต่อซึ่งน้องพลอยลงก่อนผม และในที่สุดผมก็มาถึงสถานีสุดทางของสายนี้คือ คุนหมิง เดินออกมาจากสถานีซึ่งต้องบอกว่าสถานีใหญ่พอสมควร ซึ่งในคุณหมิงมีสถานีรถไฟหลักๆ 3 สถานี คือ สถานีคุนหมิงใต้ kunming railway station South, คุนหมิงเหนือkunming railway station North, และคุนหมิง kunming railway station (Parking lot) ซึ่งเราต้องอย่าสับสน และสถานี่ที่เราจะใช้เดินทางไปอีก 2 วันก็คือ kunming railway station (Parking lot) หลังจากออกจากสถานีรถไฟคุณหมิงใต้ ผมก็เรียกแทกซี่ไปสะดวกที่สุดเพราะจองที่พักไว้ไม่ไกล ที่พักของเราชื่อว่า Yuhang Hotel (Kunming South High-speed Railway Station) 783.88 บาท ก่อนจะไปที่พักก็บอกเลยว่าหิวมากขอหาไรกินก่อนก็เดินมั่วไไปเจอร้านเล็กในสถานีก็เลยจัดไป 1 เมนูซึ่งบอกเลยว่าคุยกับป้าคนขายไม่รู้เรื่อง แต่โชคดีที่มีวัยรุ่นจีน 2 คน นั่งทานอยุ่ในร้านก็เลยช่วยเป็นล่านให้น้องเขาใช้ภาษาอังกฤษได้ดี
สองสาวที่ช่วยให้ผมได้กินข้าวอร่อย เขาถามว่าอยากทานอะไรผมก็เลยบอกว่าเป็นข้าวอะไรก็ได้ขอเป็นเมนูหมู เขาก็เลยนำเสนอมา 2 เมนู ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรจับใจความว่าเป็นผัดหมูกับผักสักอย่างซึ่งผมก็เลยบอกไปว่า แล้วแต่คุณ คุณอยากให้ผมทานอะไรคุณเลือกให้ผมเลย น้องเจากา็เลยบอกว่าเมนูที่สั่งให้กินเป็นเมนูท้องถิ่นสรุปที่ได้กินคือ หมูผัดพริกนั่นเอง(พริกหยวก) อร่อยด้วย หลังจากนั้นก็ถามการเดินทางจากน้อสองคนนี้ได้คำตอบง่ายๆว่าไปแท็กซี่เถอะ แท็กซี่จริงๆเลยนะมีจอดรออยู่ที่ทางออกอย่าไปกับคนที่มาเรียก ให้เดินเข้าไปในช่องแท็กซี่เลย หลังจากทานเสร็จก็จ่ายตัง ผมโหลดแอป Alipay มาด้วย เติมเงินมาเรียบร้อย ซึ่งจริงๆถ้าใครใช้ทรูมันนี่ก็ใช่ได้เช่นกันเติมเงินสะดวกด้วย หลังจากจากทานเสร็จก็เดินทางไปที่พัก ซึ่งคืนนี้เป็นห้องเดียวนะครับ อยู่ไม่ห่างจากสถานีคุนหมิงใต้ ผมไปถึงเป็นที่พักซึ่งอยู่บนตึกสูงกว่าจะหาเจอก็ต้องถามหลายคนอยู่ เวลาผมปริ้นเอกสารจองที่พักผมจะปริ้นไป 2 ภาษาคือ 1 ภาษาอังกฤษและภาษาจีน หรือ ที่พักที่รัสเซียผมก็ปริ้นภาษารัสเซียไปด้วยจะช่วยเราได้เยอะมากๆ...... เดี๋ยวมาต่อพรุ่งนี้นะครับ ง่วงแล้ว