[CR] เที่ยวเกาหลีกับเนตไอดอ(ล) สวย แซ่บ ซวย (กระทู้อวดรูป)

สวัสดีค่ะ ชื่อ บิวตี้ค่ะ  หลายคนในนี้คงเคยเห็นหน้ากันบ้างแล้ว จากกระทู้ที่โด่งดังกันไปชั่วข้ามคืน

[CR]**กระทู้พลีชีพ** ตัดผมผิด คิดจนตัวตาย (มีรูป)
http://pantip.com/topic/34299995


ก่อนอื่นออกตัวไว้ก่อนว่าเป็นพาเที่ยวที่ไม่มีสาระ ไม่มีข้อมูลแบบเป๊ะๆ เพราะเป็นคนจำชื่ออะไรไม่ได้เลย ความจำแย่มาก เป็นกระทู้แบ่งปันประสบการณ์แบบบ่นๆ และก็เป็นกระทู้อวดรูป นะคะ 5555 ใครหมั่นไส้ แนะนำให้ปิดค่ะ  กระทู้  มีทั้งสถานที่เที่ยว ประสบการณ์เที่ยวคลับ เครื่องสำอาง  ทริปแอนด์ทริค และก็ภาษาเล็กน้อยมาแบ่งปัน  ทริปนี้มีทั้งความสวย แซ่บและซวย  ภาษาอาจจะมีหยาบคายไปบ้าง ต้องขออภัย เผื่ออิน 555


พร้อมจะแซ่บแล้วรึยังคะ ? ถ้าพร้อมแล้วไปกันเล้ยยยยยยย




เด่วๆ อันนี้เพิ่งจะเริ่มต้น  เป็นออเดิฟเฉยๆ เห็นรูปตอนไปเที่ยวแล้วแอบเสียดายผมเบาๆ เพราะตอนนี้มันไม่เหลือเค้าเดิมเลย T.T


หัวกระทู้จั่วมาว่าเป็นเนตไอดอ(ล) เค้าเป็นใคร ใครตั้งให้เค้าเป็น เอาบรรทัดฐานอะไรมาวัดว่าคนนี้เป็นเนตไอดอ(ล) บอกเลยว่าไม่รุ้เหมือนกันค่ะ  

คืองี้  บิวตี้เป็นเจ้าของแบรนด์ Beauty’s Secret ทรีทเม้นท์บำรุงผมเสียขั้นเทพ และแว๊กซ์ทำสีผม (โฆษณานิด)  ก็ทำการตลาดค่ะ  แล้วก็ไปเจอน้องคนนี้ มีชื่อว่า น้องนุ๊ก หรือ ไอดอ  (ไม่ทราบที่มาของชื่อเหมือนกันแต่น้องก็เป็นเจ้าของแบรนด์ดีท๊อกซ์ชื่อ idordiary ก็เลยไม่รู้ว่าเป็นที่มาของชื่อไอดอหรือเปล่า)  และตัวน้องเองก็ไม่เคยบอกว่าตัวเองเป็นเนตไอดอลนะ  แต่นางชอบรีวิวแต่งหน้า ทำสวย อารมณ์บล๊อคเกอร์ แล้วที่มีผู้ติดตามเยอะ  นางชอบอัพเดทเครื่องสำอาง ของใช้ดี ประมาณนั้น  คนอื่นเรียกเนตไอดอล  บิวตี้ก็เรียกตามค่ะ 55555

ด้วยการทำงาน ประสานงานกัน แล้วอยู่ๆ ก็เกิดทริปนี้ขึ้น

ไม่ได้รู้จักกันเลย แค่คุยๆกันว่าน้องจะไปเกาหลี (ไปดูคอน SJ … น้องมาสายติ่ง ยังเด็ก) นางไปคนเดียว จองตั๋ว ที่พักไรไปหมดแล้ว   ส่วนพี่(บิวตี้) ก็อยากจะไปดู Trend ตลาดที่เกาหลี เพื่อที่จะเอามาพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวเองเหมือนกัน  รวมไปถึงพี่(บิวตี้) เรียนภาษาเกาหลีมาได้สักพักแล้ว อยากรู้ว่าวิชาที่เรียนมา พออยู่ในสถานการณ์จริง จะใช้งานได้จริงไหม

ชะนีสองนางที่ไม่รู้จักมักจี่กันมาก่อน อยู่ๆ คุยเรื่องเกาหลีปุ๊ป  อิพี่บิวตี้จองตั๋วเลยค่ะ คุยกันวันนี้ พรุ่งนี้จองตั๋วเลย งง เหมือนกัน  เราสองคนเรียกทริปนี้ว่าเป็น “ทริปใจง่าย”  ค่ะ  55555  ทริปนี้ไปมาเมื่อเดือน  สค 2015 ค่ะ อาจลืมๆ ดีเทลไปบ้างแล้ว แต่มาเล่าให้ฟัง เผื่อเป็นข้อมูลให้คนอื่นๆได้ค่ะ

การจองตั๋ว

บิวตี้จองแอร์เอเชียค่ะ ไปกลับ  รวมภาษี นั่นนี่ ประมาณ   12000
เรื่องน้ำหนักกระเป๋า มันได้ 20 โล ถ้าจะซื้อเพิ่มก็ซื้อ ****  ดอกจัน ตัวโตๆ เช็คให้ดีนะคะ เดี๋ยวความซวยจะบังเกิดเหมือนบิวตี้ (ติดตามได้ตอนท้ายๆช่วงกลับ) ****

การแลกเงิน

บิวตี้ไปและที่ Super rich สีเขียวที่ราชดำริค่ะ และพกบัตรเครดิตไปด้วย ที่เกาหลีแทบทุกร้านใช้บัตรเครดิตได้หมดค่ะ
การคำนวณเงินแบบคร่าวๆ คือ 10,000 วอนเท่ากับ 300 บาท หรือ เอาราคาวอน ตัด 0 ไป 1 ตัว แล้ว หาร 3 ก็จะได้เป็นราคาเงินไทยค่ะ  เช่น 10,000 วอน ตัด 0 ไปตัว เหลือ 1000 หาร 3 เท่ากับ 300 กว่าบาท  ... อันนี้คือการคิดแบบคร่าวๆ ถ้าจะจริงจังก็หารอัตราแลกเปลี่ยนในเครื่องคิดเลขเองเลยค่ะ

พาสปอร์ต

เนื่องจากพลาสปอร์ตเก่าหมดอายุ เลยไปทำพาสปอร์ตใหม่ ตอนแรกไปที่เซนทรัลบางนา ไม่รู้ว่ามันปิดแล้ว  ตอนนี้มันย้ายไปอยู่ที่ธัญญะปาร์ค ที่ถนนศรีนคริทร์นะคะ  ที่จอดรถเพียบ  ขับรถเข้าไปแล้ว จะมีป้ายบอกทางให้เลี้ยวซ้ายแล้ววนขึ้นตึกค่ะ   การบริหารจัดการเป็นระบบมาก รวมไปถึงยังสามารถเดินไปกินข้าวที่ฟู้ดคอร์ดได้ด้วย ที่ฟู้ดคอร์ดก็จะมีมอนิเตอร์คอยแจ้งลำดับอยู่ค่ะ แต่ค่อนข้างไว กินข้าวไม่ทันเสร็จก็ถึงคิวแล้ว รอตรงนั้นไปเลยก็ได้ค่ะ  

สำหรับมือใหม่ไม่เคยทำพาสปอร์ต แนะนำตรงนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ที่พัก

เลือกเลยค่ะใน Agoda แล้วแต่ที่สะดวกเลย เอาแบบเดินไม่ไกลจากรถไฟฟ้ามากก็ดีค่ะ จะได้เดินทางสะดวก  ที่เราจองไปอยู่แถวอีแดค่ะ เป็นย่านมหาวิทยาลัยหญิง อารมณ์เหมือนอยู่แถวธรรมศาสตร์ เดินลงมาจากโรงแรมก็เป็นที่ช้อปปิ้งเลย  แต่สภาพบ้านเค้าดีกว่าเยอะนะคะ 5555 จะเป็นเขาๆ นิดนึง เด่วเอารูปให้ดูว่าประมาณไหน  ราคา 10,000 บาท หารสองตกคนละ 5000 ค่ะ  สำหรับ 7 วัน (6คืน)


เสื้อผ้า

ศึกษาอากาศบ้านเค้าให้ดีนะคะว่าจะไปช่วงไหน ตอนบิวตี้ไป  ไปช่วงหน้าพีคค่ะ พีคของหน้าร้อนนะคะ !!!  บัดซบ 5555Facepalm คือเหมือนบ้านเราเลยค่ะ เพราะฉะนั้น เสื้อผ้าก็ชิวๆ แบบที่ใส่บ้านเรานี่แหละค่ะ แต่สไตล์การแต่งตัวบ้านเค้าจะเป็นแบบ คอเรี่ยนชิคๆ อ่ะค่ะ บิวตี้ไม่ได้แต่งแบบนั้น 555 ของบิวตี้จะเป็นสไตล์เซเลปบ้านเรามากกว่า ง่อววว  คือไม่ใช่อะไรค่ะ แต่งคอเรี่ยนชิคๆ  แบบชุดดูกีฬาๆ ฮิพฮอพๆ ไม่ได้แล้ว  เพราะหน้าแก่ละค่ะ แต่งหน้าแน่น  แต่งตัวเด็กแล้วตลก  เด่วมีให้ดูในคลิป  คือแต่งแบบนั้นแล้วกลายเป็นชุดอยู่บ้านไปเลย ฮ่าๆๆๆ  (เศร้าแพพ งื๊อออ )

อธิบายเยอะแยะ เมื่อไหร่จะได้ไปวะเนี่ย  อ่ะๆ ไปเลยละกัน ฟิ้ววววววววววว  fly me to Koreaaaaaa

ตามสไตล์ไทยๆ ต้องชักภาพที่สนามบินซักนิด เพื่อให้รุ้ว่ากุไปเที่ยว พร้อมสเตตัสว่า goodbye Thailand หรืออะไรเทือกๆนี้  (ชั้นรู้ว่าพวกแกก็ทำ  ฮาาา)


พอ landing ถึงสถานี  Incheon ปุ้ปก็เดินตามทางไป ที่ immigration ค่ะ  รอเข้าคิว

ตอนนี้ล่ะจุดพีคที่ 1 มาแล้ว  ทำเอาเสียอารมณ์โคดๆ  คือ อย่างที่บอกไปแล้วว่า พาสปอร์ตหมดอายุค่ะ ไปทำพาสปอร์ตมาใหม่ มันเป็นหน้าขาว (คือไม่ผ่านการเดินทางไปที่ประเทศไหนมาก่อน  // ก็แน่ล่ะ กรูเพิ่งทำใหม่เพื่อทริปเมิงเลยเนี่ย)  

อิเราก็อุดส่าต์เอารอยยิ้มพิมใจ Thailand, land of smile + กับหน้าสวยๆเข้าสู้ ใส่แมร่ง  มันมองหน้า มองพาสปอร์ตอยู่ 2-3 ที อิปลวกกกกกกกก แมร่งวอเรียก แล้วเชิญเข้าข้างใน  ไอยิ้มดดดดด  จุดนั้นนี่โมโหมาก  คือหน้ากรูเหมือนคนร้ายมาวางระเบิดหรือไง  ดูไม่ออกเหรอวะ ว่ากรูเนี่ย Tourist นะ ไม่ใช่ Terrorist   หรือ คิดไปอีกว่ากรูจะมาขายตัว หรือมาเก็บสตเบอรี่เหรอฟะ ???   โอววมายกอดเนส !!!  เซงหนักมาก  แล้วคือ บิวตี้กับน้องไอดอ เข้าช่องที่ห่างกันมาก ก็กลัวว่าน้องจะหาเราไม่เจอ ไม่เห็นเรา  


เค้าเรียกกันว่าห้องเย็นค่ะ  ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ เพราะอะไรรู้มั้ยคะ  ?? เด่วรู้ค่ะ  หึหึ แย่

พอเดินเข้าไปถึง จะมีเจ้าหน้าที่ทำหน้าตากวนส้นตรีนนั่งอยู่ หน้าเหมือนไม่ได้ขี้มา 3 วัน เอาแบบฟอร์มให้เรากรอก เราก็กรอกๆ ไป อารมณ์นั้นคือหงุดหงิดมาก แต่พยายามคิด เออ มันเป็น  protocol  ของเค้า  ใจร่มๆนะคนสวย ...

อิพนักงานนางก็สัมภาษณ์ว่ามาทำอะไร  (เป็นภาษาอังกฤษ)  อินี่ ตอบกลับไปสวยๆ บอกว่า  ยอแฮงแฮโย  (มาเที่ยวค่ะ)  กรูเรียนมาฮ่าๆๆ ได้ใช้ละโว้ยย

นางถามอีกว่า พูดภาษาเกาหลีได้เหรอ(ภาษาเกาหลี)    เราก็ตอบไปว่า โชกึมอาราโย  คงบูเฮดซอโย (รู้นิดหน่อย เรียนมาค่ะ)

แล้วมันก็ส่งแบบฟอร์มให้เรากรอก   ในแบบฟอร์มก็จะมีให้เรากรอกว่า เราชื่ออะไร   อาชีพอะไร  เคยเปลี่ยนชื่อมั้ย โรงแรมพักที่ไหน เขียนที่อยู่โรงแรมมา  จะมาเที่ยวที่ไหนบ้าง  คือ พูดเลยว่า ไม่รู้สักอย่างเดียวค่ะ  นอกจากข้อมูลของตัวเอง  ชื่อโรงแรมก็ไม่รู้ เพราะน้องไอดอจอง  คือมีแต่เอกสารที่ปริ้นตั๋วกลับเท่านั้นที่อยู่กับเรา  ส่วนสถานที่ที่จะไปเที่ยวก็ไม่รู้ค่ะ เพราะว่ากะตามในหนังสือเอา หนังสืออยู่ในกระเป๋าลาก   รู้แค่ว่า ที่ช้อปปิ้งคือ มยองดง รู้แค่นั้นจริงๆ  เพราะ point ในการมาคือมาฝึกประสาทหู(ในการฟังภาษาเกาหลี) กับช้อปปิ้ง ดูเทรนด์ตลาด และเที่ยวคลับ แค่นั้นจริงๆ

#เพราะฉะนั้นคนที่เดินทางไปตปท เตรียมเอกสารให้พร้อมนะคะ#

เลยเขียนในฟอร์มไปว่า  มานี่ (แปลว่าเยอะ) มันก็ถามว่าที่ไหนบ้างที่บอกว่าเยอะ  เราก็บอกไป  มยองดง  Seoul Tower มั้ง หลายที่อ่ะ  follow the book   และในระหว่างที่คุยกับมัน  บิวตี้พยายามเอามือถือมาต่อไวไฟ เพื่อจะไลน์บอกน้องไอดอ ว่าพี่โดนกักนะ รอก่อน   ขณะที่กำลังวุ่นๆกับมือถืออยู่นั่น  อิพนักงานหน้าปวดขี้คนเดิม มาดึงโทรศัพท์ออกจากมือ แล้วยึดโทรศัพท์ไปเลยค่ะ  เหี้ยมมากก!!!  โกรธมากกกก ไฟลุกบนหัว  ได้แต่บ่นในใจ   อิเปรตตต !@##$^&*(  เชี่ย แมร่ง ทำไมทำงี้วะ สันดาน มารยาททราม ทุกอย่างที่พรั่งพรูในสมองเพื่อด่ามันได้ คือมาหมดทุกคำค่ะตอนนั้น 5555 )  

แล้วมันก็พาเราเข้าไปอีกด่าน ที่เป็นห้องกระจกอยู่ลึกเข้าไปอีก

ภายในห้องก็มีป้า น้า ที่ดูทรงแล้วราศีออกเลยว่ามาเก็บสตรอเบอรี่แน่นอน  เว้าอีสานกันสุดฤทธิ์ ภาษาอังกฤษนางก็ไม่รู้เรื่อง  รวมไปถึงมีพวกแขกขาวนั่งด้วยเต็มห้อง  เพลียยยยยมากต้องมาเจออะไรแบบนี้  

รอสักพักมีคนมาเรียกเราออกไปสัมภาษณ์ ก็ถามเหมือนเดิม ทำงานอะไร  

เราก็บอกว่า เราเป็น(อดีต)ผู้ประกาศข่าว เป็นพิธีกรอยู่ที่ไทย แล้วก็เป็น Business owner

นางก็ขอดู Business Card ซึ่งตอนนั้นบิวตี้ยังไม่มี เพราะเราขายออนไลน์ จะเอานามบัตรไปแจกใคร  

นางก็ถามอีกว่า  แล้วมีรูปตอนทำงานมั้ย  เราก็บอกว่า give me back my phone , I’ll show you ยิ้มเอาโทรศัพท์กรูคืนมาก่อนเหอะแมร่ง (ขึ้นๆ555)  

แล้วด้วยความ(เกือบ)ซวย  คือ  ไปเที่ยว บิวตี้ล้างรูปออกหมดเลย เพราะกะมาถ่ายรูปที่เการัวๆ   เจ้าพระคุณรุนช่อง8 ดันเหลือรูปที่เอาไว้ส่งงานพอดี ประมาณ 4-5 รูป ซึ่งมีรูปเป็นผู้ประกาศข่าวพอดี  เลยเอาให้เค้าดู  

แล้วก็เป็นอันว่าจบ ปล่อยเราออกหลังจากตบหัวนางก็มาลูบหลังเราบอกว่า  เข้าใจหน่อยนะ คนไทยชอบหนีมาทำงานแบบผิดกฎหมายเยอะ เลยต้องเข้มงวดกับคนไทยเป็นพิเศษ  เราก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ แล้วบอกว่า เหอะ เควนชั่นนาโย (ไม่เป็นไรค่ะ) !!

เดินลงบันไดเลื่อนมา จะเป็นที่รางรับกระเป๋า เจอน้องไอดอ นั่งทำหน้าเจื่อนอยู่  เลยรีบไปหาน้อง

น้องบอกว่า เค้าเอากระเป๋าพี่ขึ้นไปแล้วอ่ะ  มันมีพนักงานมาถามว่ากระเป๋าใคร น้องเลยบอกว่าไปว่าเป็นของพี่ อยู่ข้างบน แล้วเค้าก็ลากเอากระเป๋าขึ้นไปเลย    เห้อออออ  ก็ต้องเดินขึ้นไปเอากระเป๋าอีกรอบ  เหนื่อย...

เอาวะ ลากกระเป๋าลงมาจาก immigration ละ ก็จะออกจากสนามบินเพื่อเข้าไปต่อรถไฟฟ้าเข้าเมือง  ยืมบัตรรุ่นพี่มา จะเอามาเติมเงินที่ร้านสะดวกซื้อก็ดันเติมไม่ได้อีกกก โอ๊ยยย อะไรจะซวยขนาดนี้ ต้องไปเดินวนหาตู้เติมไปอีก  

เหนื่อยมากจริงๆ ณ จุดนั้น แบบว่า feel bad with Korea ไปเลย  พอเติมเงินในบัตรอะไรเสร็จเรียบร้อยละ พยายามยุบหนอ พองหนอ พยายามทำตัวอารมณ์ดีหน่อยสิ  เหลือบไปเจอ โทเมเนเจอร์เลยอารมณ์ดีขึ้นมานิด เลยถ่ายรูปกันหน่อย  
ชื่อสินค้า:   เกาหลีใต้, โซล, เมียงดง, กังนัม, Lotte Duty Free
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่