กระแสมาเป็นระลอก ๆ จนเราจากที่ไม่เคยรู้เรื่อง กลายเป็นรู้เรื่อง คุณพลอยออกข่าวมากจนดังยิ่งกว่าคู่รักดาราเตียงหักเสียอีก ตอนแรกที่เห็นข่าวยังงงว่าคนนี้เป็นใครไม่คุ้นหน้า นึกว่าเป็นดารา มาเร็ว ๆ นี้กดไปทีวีช่องหนึ่ง เห็นอีกแล้ว เรารีบกดเปลี่ยนช่องเลย ขนาดเราเป็นคนนอก เรายังหนี กลยุทธของคุณพลอยทำไก่ตื่นหมดเล้า ถ้านี่คือเป้าหมาย ก็ได้ผลนะ ก็หนีป่าราบอย่างที่เห็นต่อไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าเป้าหมายคือต้องการให้กลับมา ไม่ว่าเพื่อคืนดีหรือเพื่อจบ ต้องเปลี่ยนกลยุทธแล้ว
เราไม่คิดว่าสื่อสาธารณะจะช่วยแก้ปัญหาภายในครอบครัวได้ เห็นแต่ใช้สร้างกระแสล่ะได้อยู่ แต่จะได้อะไรขึ้นมาเล่า
เรื่องภายในครอบครัว ผูกเองก็ต้องแก้เอง แต่นำออกมาเผยแพร่เป็นเรื่องสาธารณะ เราก็ขอวิเคราะห์ว่าเรื่องนี้เกิดจากความหลง วูบเป็นไฟไหม้ฟางแล้วก็วอด ความผิดพลาดของทั้งสองคนมาจากการไม่วางแผนครอบครัวถึง ๒ ครั้ง (เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของทั้ง ๒ ฝ่าย โทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้) การแต่งงานเพราะขัดข้องทางเทคนิคโดยพื้นฐานความรักไม่แน่นแฟ้นพอ การยังไม่รู้จักกันและกันดีพอ ความไม่พร้อมทางวุฒิภาวะของทั้งสองฝ่าย (ส่วนหนึ่งเห็นได้จากการไม่วางแผนครอบครัว) ท้ายที่สุดไปกันไม่รอด
ตราบใดที่ยังไม่หยุดสาวไส้ให้กากิน ทำให้มีกระทู้ล่อเป้าออกมาถล่มฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง ก็ยืดเยื้อเป็นขี้ปากชาวบ้านไปอย่างนี้ ราวกับเรียลลิตี้ซีรี่ส์ จะขึ้นปี 2 ได้แล้วละมัง แต่ก็เห็นอยู่ว่าไม่ได้ทำให้ชีวิตครอบครัวดีขึ้น แล้วจะทำไปทำไม
ที่ผ่านมา เราสงสัยมาตลอดว่า เคยตั้งสติคิดกันบ้างไหมว่าเป็นผลดีต่อเด็กสองคนอย่างไรบ้าง เพราะเท่าที่เราเห็นในตอนนี้คือ
เด็กสองคนนั้นมีพ่อที่ถูกรุมด่าว่าเลวสารพัด
เด็กสองคนนั้นมีพ่อที่มีแต่คนเกลียดชัง
เด็กสองคนนั้นมีพ่อที่ถูกกระแสยุให้ถูกแบนงาน
เด็กสองคนนั้นได้ชื่อว่าถูกพ่อทอดทิ้ง
เด็กสองคนนั้นมีเรื่องพ่อแม่เตียงหักถูกยำอยู่ในสื่อจนเละตุ้มเป๊ะ
เด็กสองคนนั้นมีแต่คนเห็นว่าน่าสงสาร น่าเวทนา
ฯลฯ
สำหรับเรา นี่ไม่ใช่สิ่งที่เด็กคนไหนควรได้รับ กับการที่ต้องตกอยู่ในวังวนปัญหาของผู้ใหญ่ พวกเราอาจจะอ้างว่าเด็กยังไม่รู้ความ แต่วันหนึ่งพวกเขาจะโตขึ้น แล้วพวกเขาก็จะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ แล้วพวกเขาจะเกลียดพ่อของเขาไหม พวกเขาจะหันมาโทษแม่ไหมว่าทำให้พ่อหนีไป พวกเขาจะอับอายไหม มันจะเป็นบาดแผลในใจของพวกเขาไหม
ไม่มีใครตอบแทนได้ เรารู้แต่ว่าผู้ใหญ่ต้องคุ้มครองเด็ก อย่าให้ต้องตากหน้าอยู่ในสื่อด้วยเรื่องพ่อแม่ทะเลาะกัน
ปัญหาระหว่างสามีภรรยา อย่าดึงลูกลงสังเวียนด้วยเด็ดขาด ไม่ว่าฝ่ายไหนอย่าใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการต่อรอง ขนาดสามีภรรรยามีลูกกันเป็นสิบคน ยังเลิกกันได้เลย ไม่ต้องพูดถึงทะเบียนสมรส คนไปด้วยกันไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร กระดาษใบเดียวไม่เคยช่วยใครได้เลย ช่วยได้ถ้าต้องการยื้อเพื่อให้เกิดความไม่สะดวก ทำให้จดทะเบียนสมรสกับคนอื่นไม่ได้ แต่ผลเสียก็มี เพราะคุณก็ไม่เป็นไทแก่ตัวเสียทีเหมือนกัน แถมยังเป็นยันต์กันผีให้ผู้ชายหัวหกก้นขวิดได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีสาวไหนมาผูกมัดได้ และถ้าผูกติดกันอยู่อย่างนี้ เกิดไปทำนิติกรรมอะไรที่มีผลผูกพันมาถึงตามกฎหมาย จะคุ้มกันไหม
ต้องแยก ๒ ประเด็นออกจากกัน ความเป็นสามีภรรยา ความเป็นพ่อลูก เป็นคนละเรื่องกัน โดยพฤตินัยความเป็นสามีภรรยาขาดไประยะหนึ่งแล้ว จะต่อติดหรือไม่อย่างไร ควรไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญชีวิตครอบครัวหาทางประสานรอยร้าวฟื้นฟูความสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ หรือโน่นแน่ะคุยกับคลับฟรายเดย์พี่ฉอดพี่อ้อยก็ได้ เรื่องทางนิตินัยจะเป็นอย่างไร ถ้าต้องการ คุณพลอยนำเองเลยก็ได้ไม่จำเป็นต้องรอฝ่ายชาย
อยากส่งรูปลูกไปเตือนใจ ก็ส่งไปทางช่องทางการสื่อสารที่มีความเป็นส่วนตัว อย่าเอาออกสื่อสาธารณะ เราจะเห็นครอบครัวคนดังมากมายที่เข้มงวดกับสื่ออย่างมากเรื่องความเป็นส่วนตัวของลูก โดยเฉพาะเวลามีปัญหาครอบครัว เพราะเขาต้องการให้เด็กเกิดมาในสภาพแวดล้อมปกติ ไม่ต้องการดึงเด็กมาพัวพันเรื่องของผู้ใหญ่ ตัวอย่างก็มีให้เห็นระดับโลกเลย
บิล / ฮิลลารี คลินตัน
ไทเกอร์ วู้ด / เอลิน นอร์เดเกรน
ทอม ครูซ / เคธี โฮล์มส์
ล่าสุด...เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ / เบน เอฟเฟลคซ์
ทุกคู่ปิดปากเงียบ พูดน้อยและกลั่นกรองถ้อยคำ โดยเฉพาะฝ่ายหญิง หาทางจบความเป็นสามีภรรยากันโดยไม่ให้กระทบกระทั่งสัมพันธ์พ่อแม่ลูก ยิ่งละมุนละม่อมเท่าไรก็ดีต่อทุกฝ่ายโดยเฉพาะเด็ก ๆ ยิ่งขึ้นเท่านั้น เห็นมีแต่มือที่สามที่ชอบเอาออกมาแฉหาเงินเข้ากระเป๋า
การแก้ปัญหาทุกเรื่องต้องคุยกันให้เข้าใจ ก่อนการเริ่มเจรจาต้องหยุดยิงก่อน สงบศึกเสียก่อน หยุดให้ข่าวเรื่องครอบครัวในทุกสื่อ เพราะตอนนี้คุณพลอยและทีมคุณพลอยที่ก่อตัวขึ้นในสื่อสาธารณะเหมือนน้ำเชี่ยวกราก พัดพาทุกอย่างและทุกผู้คนที่ขวางหน้า ใครหน้าไหนจะเอาเรือเข้าขวาง เปลี่ยนมาใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวแบบฝ่ายชายดูบ้าง พอควันจางแล้วจะได้นำไปสู่การเจรจาสันติภาพได้ และเป็นการเคารพความเป็นส่วนตัวของลูกทั้งสองคน และของคุณทั้งสองคนเองด้วย
และเป็นไปได้ไหมว่า ที่ปีเตอร์ยังไม่เข้าหาลูก เพราะถ้าเจอลูกก็ต้องเจอคุณพลอย ซึ่งจะมีอะไรในกอไผ่มากกว่าที่ออกมาในสื่อ พวกเราก็ไม่มีทางรู้ได้ และก็ไม่สมควรจะไปรู้ พวกคุณความจริงก็ไม่สมควรจะไปบอกใคร
แต่ที่สรุปได้จากในสื่อคือเขาไม่อยากเจอคุณพลอย ยิ่งคุณพลอยออกศึกผ่านสื่อท้าทายอย่างไร ปีเตอร์ก็เฉยใช้ชีวิตชิลเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่ออกมาปะทะ ยิ่งทำให้ลูกโดนหางเลขไม่ได้เจอพ่อไปด้วย
งั้นก็ลองทำอย่างนี้ดูสิ แก้ปัญหาทีละอย่าง จับทีละประเด็น พักเรื่องคุณพลอยกับสามีไว้ก่อน เอาพ่อกับลูกมาเจอกันให้ได้เป็นอันดับแรก ในเมื่อปีเตอร์ตัดการสื่อสารกับคุณพลอย หาคนกลางสักคนที่ไว้ใจได้ที่คุณพลอยและปีเตอร์เคารพ ให้เป็นคนกลางในการสื่อสาร เพื่อให้ปีเตอร์ได้พบลูกเป็นประจำด้วยวิธีไหนก็ได้ตามแต่ตกลง โดยคุณพลอยต้องไม่อยู่ด้วย
ปีเตอร์จะเป็นฝ่ายริเริ่มทำก็ได้
จะวิธีไหนก็ได้ ที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่บ้าน ที่สำคัญคือคุณพลอยต้องไม่ทิฐิตั้งเงื่อนไขว่าจะพบลูกก็ต้องพบฉันด้วย ถ้าไม่พบฉันอย่างหวังได้พบลูก อะไรอย่างนี้อย่าทำเด็ดขาด หรือตลบหลังหวังเคลียร์มันจะพาลไปกันใหญ่ พ่อลูกมีสิทธิ์ได้พบกัน สามีไม่อยากพบภรรยาค่อยแก้กันไปทีละเปลาะ ปล่อยให้พ่อลูกได้ใช้เวลาด้วยกันไปก่อน ให้ปีเตอร์ได้ทำหน้าที่พ่อ และไม่ต้องบอกคนนอก ไม่ให้มีสื่อไปรุมถ่ายรูป ไม่ต้องเอาหลักฐานมาเผย เป็นเรื่องภายในครอบครัว เขาอาจได้สติก็ได้
ในท้ายที่สุด ถึงคุณพลอยจะไม่ได้ปีเตอร์คืนมาในฐานะสามี แต่ได้พ่อคืนมาให้ลูก ได้ทำหน้าที่ร่วมกันต่อไปในฐานะพ่อและแม่ของลูก นี่ต่างหากคือสิ่งที่ดีที่สุด
เมื่อปีเตอร์พบลูกแล้ว วันหนึ่งเขาก็อาจอยากพบคุณพลอย จะทำให้คุยกันได้ แล้วจะช่วยกันสรุปจบอย่างไรทั้งเรื่องลูกเรื่องชีวิตคู่ ก็เป็นเรื่องของพวกคุณสองคน ที่สำคัญคือทุกฝ่ายต้องใช้สติ โดยเฉพาะทีมคุณพลอย พวกเราเป็นคนนอก จะเผือกแห้วมันแกวอย่างไรก็เป็นคนนอก
เพื่อเห็นแก่เด็ก ต้องหยุด ปล่อยให้ครอบครัวได้หาทางสมานแผลประสานรอยร้าวกันภายในครอบครัว
ปัญหาครอบครัว ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ไม่มีใครมาตัดสินได้ ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าพลอยและปีเตอร์เท่านั้นว่ามันเกิดจากอะไร การจะประคับประคองชีวิตคู่ให้ราบรื่นตลอดรอดฝั่ง ไม่ได้ขึ้นกับว่าใครมีกองเชียร์อยู่ในโลกออนไลน์เท่าไร สำหรับสังคมออนไลน์เรื่องนี้ก็เป็นเพียงละครชีวิตอีกเรื่องให้ทีมให้ติ่งให้สาวกหน้าเดิม ๆ เม้นเมาท์อย่างเมามัน แล้ววันหนึ่งก็ลืม ดูอย่างแบรด พิทท์กับแอนเจลีน่า โจลี่สิ เล่นหนังเรื่องไหนก็ยังดังเป็นพลุแตก แถมโจลี่ยังเป็นทูตสันติไมตรีของยูเอ็นอีก จูเลีย โรเบิร์ตส์อีกคน แฟนหนังชาวไทยก็ยังคงเป็นปลื้มกับยิ้มปากกว้างของเธอ
ท้ายสุดจะสุขหรือทุกข์จริงแท้ก็มีแต่คุณพลอย ปีเตอร์และลูกสองคนนั่นแหละ ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย
เมื่อพยายามแล้ว แต่ไปด้วยกันไม่ได้ ก็คือไปด้วยกันไม่ได้ สามีภรรยามีลูกมีเต้าและหย่าร้างกันมีมากมาย ทุกคนเดินหน้าต่อไปตามทางของตนเองอย่างมีความสุข ดีกว่าร่วมทางกันด้วยความทุกข์ เด็ก ๆ มากมายที่เติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกัน แต่โตมาอย่างมีความสุข ในขณะที่เด็กอีกหลายคนเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่สักแต่อยู่ด้วยกันให้พร้อมหน้า แต่เด็กมีแต่ความทุกข์เพราะตกอยู่ท่ามกลางสมรภูมิชีวิตสมรสของพ่อแม่
ผู้หญิงสมัยนี้ยืนบนลำแข้งตัวเองได้ ไม่ต้องง้อใคร ไปด้วยกันได้ก็ดี ไปด้วยกันไม่ได้ก็ช่าง...มันเถอะ จะได้จบ ๆ เรียลลิตี้นี้เสียที อย่าต่อปี 2 เลยนะ...เพื่อเด็ก สาธุ
พลอย vs ปีเตอร์ เรียลลิตี้ซีรี่ส์...ขอทีอย่ามีปี 2 เลยนะ
เราไม่คิดว่าสื่อสาธารณะจะช่วยแก้ปัญหาภายในครอบครัวได้ เห็นแต่ใช้สร้างกระแสล่ะได้อยู่ แต่จะได้อะไรขึ้นมาเล่า
เรื่องภายในครอบครัว ผูกเองก็ต้องแก้เอง แต่นำออกมาเผยแพร่เป็นเรื่องสาธารณะ เราก็ขอวิเคราะห์ว่าเรื่องนี้เกิดจากความหลง วูบเป็นไฟไหม้ฟางแล้วก็วอด ความผิดพลาดของทั้งสองคนมาจากการไม่วางแผนครอบครัวถึง ๒ ครั้ง (เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของทั้ง ๒ ฝ่าย โทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้) การแต่งงานเพราะขัดข้องทางเทคนิคโดยพื้นฐานความรักไม่แน่นแฟ้นพอ การยังไม่รู้จักกันและกันดีพอ ความไม่พร้อมทางวุฒิภาวะของทั้งสองฝ่าย (ส่วนหนึ่งเห็นได้จากการไม่วางแผนครอบครัว) ท้ายที่สุดไปกันไม่รอด
ตราบใดที่ยังไม่หยุดสาวไส้ให้กากิน ทำให้มีกระทู้ล่อเป้าออกมาถล่มฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง ก็ยืดเยื้อเป็นขี้ปากชาวบ้านไปอย่างนี้ ราวกับเรียลลิตี้ซีรี่ส์ จะขึ้นปี 2 ได้แล้วละมัง แต่ก็เห็นอยู่ว่าไม่ได้ทำให้ชีวิตครอบครัวดีขึ้น แล้วจะทำไปทำไม
ที่ผ่านมา เราสงสัยมาตลอดว่า เคยตั้งสติคิดกันบ้างไหมว่าเป็นผลดีต่อเด็กสองคนอย่างไรบ้าง เพราะเท่าที่เราเห็นในตอนนี้คือ
เด็กสองคนนั้นมีพ่อที่ถูกรุมด่าว่าเลวสารพัด
เด็กสองคนนั้นมีพ่อที่มีแต่คนเกลียดชัง
เด็กสองคนนั้นมีพ่อที่ถูกกระแสยุให้ถูกแบนงาน
เด็กสองคนนั้นได้ชื่อว่าถูกพ่อทอดทิ้ง
เด็กสองคนนั้นมีเรื่องพ่อแม่เตียงหักถูกยำอยู่ในสื่อจนเละตุ้มเป๊ะ
เด็กสองคนนั้นมีแต่คนเห็นว่าน่าสงสาร น่าเวทนา
ฯลฯ
สำหรับเรา นี่ไม่ใช่สิ่งที่เด็กคนไหนควรได้รับ กับการที่ต้องตกอยู่ในวังวนปัญหาของผู้ใหญ่ พวกเราอาจจะอ้างว่าเด็กยังไม่รู้ความ แต่วันหนึ่งพวกเขาจะโตขึ้น แล้วพวกเขาก็จะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ แล้วพวกเขาจะเกลียดพ่อของเขาไหม พวกเขาจะหันมาโทษแม่ไหมว่าทำให้พ่อหนีไป พวกเขาจะอับอายไหม มันจะเป็นบาดแผลในใจของพวกเขาไหม
ไม่มีใครตอบแทนได้ เรารู้แต่ว่าผู้ใหญ่ต้องคุ้มครองเด็ก อย่าให้ต้องตากหน้าอยู่ในสื่อด้วยเรื่องพ่อแม่ทะเลาะกัน
ปัญหาระหว่างสามีภรรยา อย่าดึงลูกลงสังเวียนด้วยเด็ดขาด ไม่ว่าฝ่ายไหนอย่าใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการต่อรอง ขนาดสามีภรรรยามีลูกกันเป็นสิบคน ยังเลิกกันได้เลย ไม่ต้องพูดถึงทะเบียนสมรส คนไปด้วยกันไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร กระดาษใบเดียวไม่เคยช่วยใครได้เลย ช่วยได้ถ้าต้องการยื้อเพื่อให้เกิดความไม่สะดวก ทำให้จดทะเบียนสมรสกับคนอื่นไม่ได้ แต่ผลเสียก็มี เพราะคุณก็ไม่เป็นไทแก่ตัวเสียทีเหมือนกัน แถมยังเป็นยันต์กันผีให้ผู้ชายหัวหกก้นขวิดได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีสาวไหนมาผูกมัดได้ และถ้าผูกติดกันอยู่อย่างนี้ เกิดไปทำนิติกรรมอะไรที่มีผลผูกพันมาถึงตามกฎหมาย จะคุ้มกันไหม
ต้องแยก ๒ ประเด็นออกจากกัน ความเป็นสามีภรรยา ความเป็นพ่อลูก เป็นคนละเรื่องกัน โดยพฤตินัยความเป็นสามีภรรยาขาดไประยะหนึ่งแล้ว จะต่อติดหรือไม่อย่างไร ควรไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญชีวิตครอบครัวหาทางประสานรอยร้าวฟื้นฟูความสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ หรือโน่นแน่ะคุยกับคลับฟรายเดย์พี่ฉอดพี่อ้อยก็ได้ เรื่องทางนิตินัยจะเป็นอย่างไร ถ้าต้องการ คุณพลอยนำเองเลยก็ได้ไม่จำเป็นต้องรอฝ่ายชาย
อยากส่งรูปลูกไปเตือนใจ ก็ส่งไปทางช่องทางการสื่อสารที่มีความเป็นส่วนตัว อย่าเอาออกสื่อสาธารณะ เราจะเห็นครอบครัวคนดังมากมายที่เข้มงวดกับสื่ออย่างมากเรื่องความเป็นส่วนตัวของลูก โดยเฉพาะเวลามีปัญหาครอบครัว เพราะเขาต้องการให้เด็กเกิดมาในสภาพแวดล้อมปกติ ไม่ต้องการดึงเด็กมาพัวพันเรื่องของผู้ใหญ่ ตัวอย่างก็มีให้เห็นระดับโลกเลย
บิล / ฮิลลารี คลินตัน
ไทเกอร์ วู้ด / เอลิน นอร์เดเกรน
ทอม ครูซ / เคธี โฮล์มส์
ล่าสุด...เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ / เบน เอฟเฟลคซ์
ทุกคู่ปิดปากเงียบ พูดน้อยและกลั่นกรองถ้อยคำ โดยเฉพาะฝ่ายหญิง หาทางจบความเป็นสามีภรรยากันโดยไม่ให้กระทบกระทั่งสัมพันธ์พ่อแม่ลูก ยิ่งละมุนละม่อมเท่าไรก็ดีต่อทุกฝ่ายโดยเฉพาะเด็ก ๆ ยิ่งขึ้นเท่านั้น เห็นมีแต่มือที่สามที่ชอบเอาออกมาแฉหาเงินเข้ากระเป๋า
การแก้ปัญหาทุกเรื่องต้องคุยกันให้เข้าใจ ก่อนการเริ่มเจรจาต้องหยุดยิงก่อน สงบศึกเสียก่อน หยุดให้ข่าวเรื่องครอบครัวในทุกสื่อ เพราะตอนนี้คุณพลอยและทีมคุณพลอยที่ก่อตัวขึ้นในสื่อสาธารณะเหมือนน้ำเชี่ยวกราก พัดพาทุกอย่างและทุกผู้คนที่ขวางหน้า ใครหน้าไหนจะเอาเรือเข้าขวาง เปลี่ยนมาใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวแบบฝ่ายชายดูบ้าง พอควันจางแล้วจะได้นำไปสู่การเจรจาสันติภาพได้ และเป็นการเคารพความเป็นส่วนตัวของลูกทั้งสองคน และของคุณทั้งสองคนเองด้วย
และเป็นไปได้ไหมว่า ที่ปีเตอร์ยังไม่เข้าหาลูก เพราะถ้าเจอลูกก็ต้องเจอคุณพลอย ซึ่งจะมีอะไรในกอไผ่มากกว่าที่ออกมาในสื่อ พวกเราก็ไม่มีทางรู้ได้ และก็ไม่สมควรจะไปรู้ พวกคุณความจริงก็ไม่สมควรจะไปบอกใคร
แต่ที่สรุปได้จากในสื่อคือเขาไม่อยากเจอคุณพลอย ยิ่งคุณพลอยออกศึกผ่านสื่อท้าทายอย่างไร ปีเตอร์ก็เฉยใช้ชีวิตชิลเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่ออกมาปะทะ ยิ่งทำให้ลูกโดนหางเลขไม่ได้เจอพ่อไปด้วย
งั้นก็ลองทำอย่างนี้ดูสิ แก้ปัญหาทีละอย่าง จับทีละประเด็น พักเรื่องคุณพลอยกับสามีไว้ก่อน เอาพ่อกับลูกมาเจอกันให้ได้เป็นอันดับแรก ในเมื่อปีเตอร์ตัดการสื่อสารกับคุณพลอย หาคนกลางสักคนที่ไว้ใจได้ที่คุณพลอยและปีเตอร์เคารพ ให้เป็นคนกลางในการสื่อสาร เพื่อให้ปีเตอร์ได้พบลูกเป็นประจำด้วยวิธีไหนก็ได้ตามแต่ตกลง โดยคุณพลอยต้องไม่อยู่ด้วย
ปีเตอร์จะเป็นฝ่ายริเริ่มทำก็ได้
จะวิธีไหนก็ได้ ที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่บ้าน ที่สำคัญคือคุณพลอยต้องไม่ทิฐิตั้งเงื่อนไขว่าจะพบลูกก็ต้องพบฉันด้วย ถ้าไม่พบฉันอย่างหวังได้พบลูก อะไรอย่างนี้อย่าทำเด็ดขาด หรือตลบหลังหวังเคลียร์มันจะพาลไปกันใหญ่ พ่อลูกมีสิทธิ์ได้พบกัน สามีไม่อยากพบภรรยาค่อยแก้กันไปทีละเปลาะ ปล่อยให้พ่อลูกได้ใช้เวลาด้วยกันไปก่อน ให้ปีเตอร์ได้ทำหน้าที่พ่อ และไม่ต้องบอกคนนอก ไม่ให้มีสื่อไปรุมถ่ายรูป ไม่ต้องเอาหลักฐานมาเผย เป็นเรื่องภายในครอบครัว เขาอาจได้สติก็ได้
ในท้ายที่สุด ถึงคุณพลอยจะไม่ได้ปีเตอร์คืนมาในฐานะสามี แต่ได้พ่อคืนมาให้ลูก ได้ทำหน้าที่ร่วมกันต่อไปในฐานะพ่อและแม่ของลูก นี่ต่างหากคือสิ่งที่ดีที่สุด
เมื่อปีเตอร์พบลูกแล้ว วันหนึ่งเขาก็อาจอยากพบคุณพลอย จะทำให้คุยกันได้ แล้วจะช่วยกันสรุปจบอย่างไรทั้งเรื่องลูกเรื่องชีวิตคู่ ก็เป็นเรื่องของพวกคุณสองคน ที่สำคัญคือทุกฝ่ายต้องใช้สติ โดยเฉพาะทีมคุณพลอย พวกเราเป็นคนนอก จะเผือกแห้วมันแกวอย่างไรก็เป็นคนนอก
เพื่อเห็นแก่เด็ก ต้องหยุด ปล่อยให้ครอบครัวได้หาทางสมานแผลประสานรอยร้าวกันภายในครอบครัว
ปัญหาครอบครัว ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ไม่มีใครมาตัดสินได้ ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าพลอยและปีเตอร์เท่านั้นว่ามันเกิดจากอะไร การจะประคับประคองชีวิตคู่ให้ราบรื่นตลอดรอดฝั่ง ไม่ได้ขึ้นกับว่าใครมีกองเชียร์อยู่ในโลกออนไลน์เท่าไร สำหรับสังคมออนไลน์เรื่องนี้ก็เป็นเพียงละครชีวิตอีกเรื่องให้ทีมให้ติ่งให้สาวกหน้าเดิม ๆ เม้นเมาท์อย่างเมามัน แล้ววันหนึ่งก็ลืม ดูอย่างแบรด พิทท์กับแอนเจลีน่า โจลี่สิ เล่นหนังเรื่องไหนก็ยังดังเป็นพลุแตก แถมโจลี่ยังเป็นทูตสันติไมตรีของยูเอ็นอีก จูเลีย โรเบิร์ตส์อีกคน แฟนหนังชาวไทยก็ยังคงเป็นปลื้มกับยิ้มปากกว้างของเธอ
ท้ายสุดจะสุขหรือทุกข์จริงแท้ก็มีแต่คุณพลอย ปีเตอร์และลูกสองคนนั่นแหละ ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย
เมื่อพยายามแล้ว แต่ไปด้วยกันไม่ได้ ก็คือไปด้วยกันไม่ได้ สามีภรรยามีลูกมีเต้าและหย่าร้างกันมีมากมาย ทุกคนเดินหน้าต่อไปตามทางของตนเองอย่างมีความสุข ดีกว่าร่วมทางกันด้วยความทุกข์ เด็ก ๆ มากมายที่เติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกัน แต่โตมาอย่างมีความสุข ในขณะที่เด็กอีกหลายคนเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่สักแต่อยู่ด้วยกันให้พร้อมหน้า แต่เด็กมีแต่ความทุกข์เพราะตกอยู่ท่ามกลางสมรภูมิชีวิตสมรสของพ่อแม่
ผู้หญิงสมัยนี้ยืนบนลำแข้งตัวเองได้ ไม่ต้องง้อใคร ไปด้วยกันได้ก็ดี ไปด้วยกันไม่ได้ก็ช่าง...มันเถอะ จะได้จบ ๆ เรียลลิตี้นี้เสียที อย่าต่อปี 2 เลยนะ...เพื่อเด็ก สาธุ