พลอย vs ปีเตอร์ เรียลลิตี้ซีรี่ส์...ขอทีอย่ามีปี 2 เลยนะ

กระแสมาเป็นระลอก ๆ  จนเราจากที่ไม่เคยรู้เรื่อง  กลายเป็นรู้เรื่อง  คุณพลอยออกข่าวมากจนดังยิ่งกว่าคู่รักดาราเตียงหักเสียอีก  ตอนแรกที่เห็นข่าวยังงงว่าคนนี้เป็นใครไม่คุ้นหน้า นึกว่าเป็นดารา  มาเร็ว ๆ นี้กดไปทีวีช่องหนึ่ง  เห็นอีกแล้ว  เรารีบกดเปลี่ยนช่องเลย  ขนาดเราเป็นคนนอก  เรายังหนี  กลยุทธของคุณพลอยทำไก่ตื่นหมดเล้า ถ้านี่คือเป้าหมาย ก็ได้ผลนะ  ก็หนีป่าราบอย่างที่เห็นต่อไปเรื่อย ๆ  แต่ถ้าเป้าหมายคือต้องการให้กลับมา  ไม่ว่าเพื่อคืนดีหรือเพื่อจบ ต้องเปลี่ยนกลยุทธแล้ว

เราไม่คิดว่าสื่อสาธารณะจะช่วยแก้ปัญหาภายในครอบครัวได้  เห็นแต่ใช้สร้างกระแสล่ะได้อยู่  แต่จะได้อะไรขึ้นมาเล่า

เรื่องภายในครอบครัว  ผูกเองก็ต้องแก้เอง  แต่นำออกมาเผยแพร่เป็นเรื่องสาธารณะ  เราก็ขอวิเคราะห์ว่าเรื่องนี้เกิดจากความหลง วูบเป็นไฟไหม้ฟางแล้วก็วอด ความผิดพลาดของทั้งสองคนมาจากการไม่วางแผนครอบครัวถึง ๒ ครั้ง (เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของทั้ง ๒ ฝ่าย โทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้)  การแต่งงานเพราะขัดข้องทางเทคนิคโดยพื้นฐานความรักไม่แน่นแฟ้นพอ   การยังไม่รู้จักกันและกันดีพอ  ความไม่พร้อมทางวุฒิภาวะของทั้งสองฝ่าย (ส่วนหนึ่งเห็นได้จากการไม่วางแผนครอบครัว)  ท้ายที่สุดไปกันไม่รอด

ตราบใดที่ยังไม่หยุดสาวไส้ให้กากิน  ทำให้มีกระทู้ล่อเป้าออกมาถล่มฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง  ก็ยืดเยื้อเป็นขี้ปากชาวบ้านไปอย่างนี้  ราวกับเรียลลิตี้ซีรี่ส์  จะขึ้นปี 2 ได้แล้วละมัง  แต่ก็เห็นอยู่ว่าไม่ได้ทำให้ชีวิตครอบครัวดีขึ้น  แล้วจะทำไปทำไม

ที่ผ่านมา เราสงสัยมาตลอดว่า  เคยตั้งสติคิดกันบ้างไหมว่าเป็นผลดีต่อเด็กสองคนอย่างไรบ้าง  เพราะเท่าที่เราเห็นในตอนนี้คือ

เด็กสองคนนั้นมีพ่อที่ถูกรุมด่าว่าเลวสารพัด
เด็กสองคนนั้นมีพ่อที่มีแต่คนเกลียดชัง
เด็กสองคนนั้นมีพ่อที่ถูกกระแสยุให้ถูกแบนงาน
เด็กสองคนนั้นได้ชื่อว่าถูกพ่อทอดทิ้ง
เด็กสองคนนั้นมีเรื่องพ่อแม่เตียงหักถูกยำอยู่ในสื่อจนเละตุ้มเป๊ะ
เด็กสองคนนั้นมีแต่คนเห็นว่าน่าสงสาร น่าเวทนา
ฯลฯ

สำหรับเรา นี่ไม่ใช่สิ่งที่เด็กคนไหนควรได้รับ  กับการที่ต้องตกอยู่ในวังวนปัญหาของผู้ใหญ่  พวกเราอาจจะอ้างว่าเด็กยังไม่รู้ความ  แต่วันหนึ่งพวกเขาจะโตขึ้น  แล้วพวกเขาก็จะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้  แล้วพวกเขาจะเกลียดพ่อของเขาไหม  พวกเขาจะหันมาโทษแม่ไหมว่าทำให้พ่อหนีไป พวกเขาจะอับอายไหม  มันจะเป็นบาดแผลในใจของพวกเขาไหม

ไม่มีใครตอบแทนได้  เรารู้แต่ว่าผู้ใหญ่ต้องคุ้มครองเด็ก  อย่าให้ต้องตากหน้าอยู่ในสื่อด้วยเรื่องพ่อแม่ทะเลาะกัน

ปัญหาระหว่างสามีภรรยา  อย่าดึงลูกลงสังเวียนด้วยเด็ดขาด  ไม่ว่าฝ่ายไหนอย่าใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการต่อรอง  ขนาดสามีภรรรยามีลูกกันเป็นสิบคน  ยังเลิกกันได้เลย  ไม่ต้องพูดถึงทะเบียนสมรส  คนไปด้วยกันไม่ได้  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร  กระดาษใบเดียวไม่เคยช่วยใครได้เลย  ช่วยได้ถ้าต้องการยื้อเพื่อให้เกิดความไม่สะดวก  ทำให้จดทะเบียนสมรสกับคนอื่นไม่ได้  แต่ผลเสียก็มี เพราะคุณก็ไม่เป็นไทแก่ตัวเสียทีเหมือนกัน  แถมยังเป็นยันต์กันผีให้ผู้ชายหัวหกก้นขวิดได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีสาวไหนมาผูกมัดได้  และถ้าผูกติดกันอยู่อย่างนี้  เกิดไปทำนิติกรรมอะไรที่มีผลผูกพันมาถึงตามกฎหมาย  จะคุ้มกันไหม
  
ต้องแยก ๒ ประเด็นออกจากกัน  ความเป็นสามีภรรยา  ความเป็นพ่อลูก  เป็นคนละเรื่องกัน  โดยพฤตินัยความเป็นสามีภรรยาขาดไประยะหนึ่งแล้ว  จะต่อติดหรือไม่อย่างไร  ควรไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญชีวิตครอบครัวหาทางประสานรอยร้าวฟื้นฟูความสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์  หรือโน่นแน่ะคุยกับคลับฟรายเดย์พี่ฉอดพี่อ้อยก็ได้   เรื่องทางนิตินัยจะเป็นอย่างไร  ถ้าต้องการ คุณพลอยนำเองเลยก็ได้ไม่จำเป็นต้องรอฝ่ายชาย
  
อยากส่งรูปลูกไปเตือนใจ  ก็ส่งไปทางช่องทางการสื่อสารที่มีความเป็นส่วนตัว  อย่าเอาออกสื่อสาธารณะ  เราจะเห็นครอบครัวคนดังมากมายที่เข้มงวดกับสื่ออย่างมากเรื่องความเป็นส่วนตัวของลูก  โดยเฉพาะเวลามีปัญหาครอบครัว  เพราะเขาต้องการให้เด็กเกิดมาในสภาพแวดล้อมปกติ  ไม่ต้องการดึงเด็กมาพัวพันเรื่องของผู้ใหญ่  ตัวอย่างก็มีให้เห็นระดับโลกเลย

บิล / ฮิลลารี คลินตัน
ไทเกอร์ วู้ด / เอลิน นอร์เดเกรน
ทอม ครูซ / เคธี โฮล์มส์
ล่าสุด...เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ / เบน เอฟเฟลคซ์

ทุกคู่ปิดปากเงียบ  พูดน้อยและกลั่นกรองถ้อยคำ  โดยเฉพาะฝ่ายหญิง  หาทางจบความเป็นสามีภรรยากันโดยไม่ให้กระทบกระทั่งสัมพันธ์พ่อแม่ลูก  ยิ่งละมุนละม่อมเท่าไรก็ดีต่อทุกฝ่ายโดยเฉพาะเด็ก ๆ ยิ่งขึ้นเท่านั้น  เห็นมีแต่มือที่สามที่ชอบเอาออกมาแฉหาเงินเข้ากระเป๋า

การแก้ปัญหาทุกเรื่องต้องคุยกันให้เข้าใจ  ก่อนการเริ่มเจรจาต้องหยุดยิงก่อน  สงบศึกเสียก่อน  หยุดให้ข่าวเรื่องครอบครัวในทุกสื่อ  เพราะตอนนี้คุณพลอยและทีมคุณพลอยที่ก่อตัวขึ้นในสื่อสาธารณะเหมือนน้ำเชี่ยวกราก  พัดพาทุกอย่างและทุกผู้คนที่ขวางหน้า  ใครหน้าไหนจะเอาเรือเข้าขวาง  เปลี่ยนมาใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวแบบฝ่ายชายดูบ้าง   พอควันจางแล้วจะได้นำไปสู่การเจรจาสันติภาพได้  และเป็นการเคารพความเป็นส่วนตัวของลูกทั้งสองคน  และของคุณทั้งสองคนเองด้วย

และเป็นไปได้ไหมว่า  ที่ปีเตอร์ยังไม่เข้าหาลูก  เพราะถ้าเจอลูกก็ต้องเจอคุณพลอย  ซึ่งจะมีอะไรในกอไผ่มากกว่าที่ออกมาในสื่อ  พวกเราก็ไม่มีทางรู้ได้  และก็ไม่สมควรจะไปรู้  พวกคุณความจริงก็ไม่สมควรจะไปบอกใคร  

แต่ที่สรุปได้จากในสื่อคือเขาไม่อยากเจอคุณพลอย  ยิ่งคุณพลอยออกศึกผ่านสื่อท้าทายอย่างไร  ปีเตอร์ก็เฉยใช้ชีวิตชิลเป็นทองไม่รู้ร้อน  ไม่ออกมาปะทะ  ยิ่งทำให้ลูกโดนหางเลขไม่ได้เจอพ่อไปด้วย

งั้นก็ลองทำอย่างนี้ดูสิ  แก้ปัญหาทีละอย่าง จับทีละประเด็น  พักเรื่องคุณพลอยกับสามีไว้ก่อน  เอาพ่อกับลูกมาเจอกันให้ได้เป็นอันดับแรก  ในเมื่อปีเตอร์ตัดการสื่อสารกับคุณพลอย  หาคนกลางสักคนที่ไว้ใจได้ที่คุณพลอยและปีเตอร์เคารพ  ให้เป็นคนกลางในการสื่อสาร  เพื่อให้ปีเตอร์ได้พบลูกเป็นประจำด้วยวิธีไหนก็ได้ตามแต่ตกลง  โดยคุณพลอยต้องไม่อยู่ด้วย  

ปีเตอร์จะเป็นฝ่ายริเริ่มทำก็ได้
  
จะวิธีไหนก็ได้  ที่ไหนก็ได้  ไม่จำเป็นต้องเป็นที่บ้าน  ที่สำคัญคือคุณพลอยต้องไม่ทิฐิตั้งเงื่อนไขว่าจะพบลูกก็ต้องพบฉันด้วย  ถ้าไม่พบฉันอย่างหวังได้พบลูก  อะไรอย่างนี้อย่าทำเด็ดขาด  หรือตลบหลังหวังเคลียร์มันจะพาลไปกันใหญ่  พ่อลูกมีสิทธิ์ได้พบกัน  สามีไม่อยากพบภรรยาค่อยแก้กันไปทีละเปลาะ  ปล่อยให้พ่อลูกได้ใช้เวลาด้วยกันไปก่อน  ให้ปีเตอร์ได้ทำหน้าที่พ่อ  และไม่ต้องบอกคนนอก ไม่ให้มีสื่อไปรุมถ่ายรูป  ไม่ต้องเอาหลักฐานมาเผย  เป็นเรื่องภายในครอบครัว  เขาอาจได้สติก็ได้

ในท้ายที่สุด ถึงคุณพลอยจะไม่ได้ปีเตอร์คืนมาในฐานะสามี  แต่ได้พ่อคืนมาให้ลูก  ได้ทำหน้าที่ร่วมกันต่อไปในฐานะพ่อและแม่ของลูก  นี่ต่างหากคือสิ่งที่ดีที่สุด

เมื่อปีเตอร์พบลูกแล้ว  วันหนึ่งเขาก็อาจอยากพบคุณพลอย  จะทำให้คุยกันได้  แล้วจะช่วยกันสรุปจบอย่างไรทั้งเรื่องลูกเรื่องชีวิตคู่  ก็เป็นเรื่องของพวกคุณสองคน  ที่สำคัญคือทุกฝ่ายต้องใช้สติ  โดยเฉพาะทีมคุณพลอย  พวกเราเป็นคนนอก  จะเผือกแห้วมันแกวอย่างไรก็เป็นคนนอก  

เพื่อเห็นแก่เด็ก ต้องหยุด  ปล่อยให้ครอบครัวได้หาทางสมานแผลประสานรอยร้าวกันภายในครอบครัว

ปัญหาครอบครัว  ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก  ไม่มีใครมาตัดสินได้  ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าพลอยและปีเตอร์เท่านั้นว่ามันเกิดจากอะไร  การจะประคับประคองชีวิตคู่ให้ราบรื่นตลอดรอดฝั่ง  ไม่ได้ขึ้นกับว่าใครมีกองเชียร์อยู่ในโลกออนไลน์เท่าไร  สำหรับสังคมออนไลน์เรื่องนี้ก็เป็นเพียงละครชีวิตอีกเรื่องให้ทีมให้ติ่งให้สาวกหน้าเดิม ๆ เม้นเมาท์อย่างเมามัน  แล้ววันหนึ่งก็ลืม  ดูอย่างแบรด พิทท์กับแอนเจลีน่า โจลี่สิ  เล่นหนังเรื่องไหนก็ยังดังเป็นพลุแตก  แถมโจลี่ยังเป็นทูตสันติไมตรีของยูเอ็นอีก  จูเลีย โรเบิร์ตส์อีกคน  แฟนหนังชาวไทยก็ยังคงเป็นปลื้มกับยิ้มปากกว้างของเธอ  

ท้ายสุดจะสุขหรือทุกข์จริงแท้ก็มีแต่คุณพลอย ปีเตอร์และลูกสองคนนั่นแหละ   ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย

เมื่อพยายามแล้ว  แต่ไปด้วยกันไม่ได้  ก็คือไปด้วยกันไม่ได้  สามีภรรยามีลูกมีเต้าและหย่าร้างกันมีมากมาย  ทุกคนเดินหน้าต่อไปตามทางของตนเองอย่างมีความสุข  ดีกว่าร่วมทางกันด้วยความทุกข์  เด็ก ๆ มากมายที่เติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกัน  แต่โตมาอย่างมีความสุข  ในขณะที่เด็กอีกหลายคนเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่สักแต่อยู่ด้วยกันให้พร้อมหน้า  แต่เด็กมีแต่ความทุกข์เพราะตกอยู่ท่ามกลางสมรภูมิชีวิตสมรสของพ่อแม่

ผู้หญิงสมัยนี้ยืนบนลำแข้งตัวเองได้  ไม่ต้องง้อใคร  ไปด้วยกันได้ก็ดี  ไปด้วยกันไม่ได้ก็ช่าง...มันเถอะ  จะได้จบ ๆ เรียลลิตี้นี้เสียที  อย่าต่อปี 2 เลยนะ...เพื่อเด็ก  สาธุ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่