ทำไมเราถึงดึงดูดแต่เพื่อนแบบนี้

กระทู้คำถาม
เบื่อค่ะ มีเรื่องอยากเล่าอยากระบาย เกี่ยวกับเรื่องเพื่อนค่ะ เริ่มเลยนะคะ เราอายุ 40 ปีค่ะ เรียนจบบัญชีจาก ม.รัฐ ที่ติดอับดับต้นของประเทศไทย ช่วงที่เราเรียนจบใหม่ๆ เราป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ทำงานไม่ได้เลย เป็นเวลา 10 ปี หลังจากที่เรารักษาอย่างต่อเนื่อง เราก็อาการทรงตัว คือสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ว่าต้องกินยาตลอดไม่ให้ขาด นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เราไม่ได้ทำงานบริษัทใหญ่ๆ เงินเดือนดีๆ แบบเพื่อนๆ เราที่จบมา
            เพื่อนเราแต่ละคนเรียนจบโท ทำงานองค์กรใหญ่ มีตำแหน่งหน้าที่การงาน เงินเดือน 20,000 – 30,000 บางคนเป็นผู้จัดการตั้งแต่อายุ 30 ต้นๆ
             พื้นฐานบุคลิกเราเป็นคนพูดน้อย เงียบๆ เก็บตัว สมัยเรียนเราไม่มีเพื่อนสนิทเลย มีแต่เพื่อนที่ทักทายเวลาเจอหน้ากันได้ แต่ไม่มีกลุ่มไม่มีแก๊งค์ไรงี้ เราก็จบมาแบบไม่มีเพื่อนสนิทเลยสักคนเดียว
             ระหว่าง 10 ปีที่รักษาตัว มีอยู่ช่วงหนึ่งเราหางาน parttime ทำ ก็ทำอยู่ 2-3 ปี ทำให้เราได้รู้จักเพื่อน 2 กลุ่มค่ะ ซึ่งหลังจากที่แยกย้ายกันไปทำงานอื่น ผ่านมา 5-6 ปี ก็ยังติดต่อกันอยู่ค่ะ วันนี้จะขอพูดถึง 1 กลุ่มก่อนนะคะ มีทั้งหมด 4 คน รวมเราด้วย ประกอบไปด้วย ขวัญ นริน น้ำฝน กลุ่มนี้จะเป็นพวกการศึกษาน้อย ไม่มีประสบการณ์การทำงานออฟฟิศ บุคลิกภาพไม่ดีค่ะ เราอาจแค่อึดอัด น้อยใจโชคชะตา กับกลุ่มนี้ค่ะ กลุ่มนี้จะสนิทกว่าอีกกลุ่มมีการโทรคุยกัน เจอหน้ากันอย่างสม่ำเสมอ

             เริ่มจากขวัญก่อนเลยแล้วกันนะคะ ขวัญอายุ 35 เรื่องที่อึดอัดคือขวัญเหมือนชอบโกหกสร้างภาพให้ตัวเองดูดีค่ะ หลังจากแยกจากงานนั้น ขวัญก็ไม่เป็นพนักงานขายของอยู่สวนลุมไนซ์ บลาซ่า ได้เงินวันละ 250 บาท ขวัญก็จะชอบโทรมายืมเงินค่ะ ชอบบ่นรำพันว่า เงินน้อย ไม่ได้เกิดมาเป็นไฮโซ ไม่ได้จบเมืองนอก เลยไม่มีโอกาสได้งานดีๆ ทำ เรารำคาญมากค่ะ คือไม่จำเป็นต้องไฮโซหรอก แค่คนชนชั้นกลางธรรมดา ก็มีชีวิตที่ดีได้ เหมือนอย่างสังคมของเรา เป็นสังคมชนชั้นปัญญาคน เพื่อนทุกคนมีงานการดีๆ ทำ
             แล้วที่น่าเบื่อคือ ขวัญจะชอบพูดว่าตัวเองพูดภาษาจีนได้ ถ้าไปทำงานออฟฟิศ ได้เงินหลายหมื่น หรือไปสอบเป็นไกด์ก็ได้ เราก็สนับสนุนค่ะ อยากให้เพื่อนมีชีวิตดีๆ แต่ขวัญก็จะชอบพูดว่า ยังไม่เก่ง ยังเรียนไม่พอ นี่เรียนมา 10 ปีแล้ว ยังทำงานไม่ได้หรอก ภาษาจีนมันยาก ต้องเรียนกันทั้งชีวิต เราก็แบบว่ารำคาญ ถ้าเรียนมาเป็น 10 ปีจริง ทำไมจะทำงานไม่ได้ งั้นพวกที่เรียนในมหาลัยแค่ 4 ปี เค้าจะจบมาทำงานได้ไง เจอหน้ากันทีไร ขวัญก็จะพูดว่านี่เรียนภาษาจีนอยู่นะ ถ้าเก่งเมื่อไหร่จะไปทำงานออฟฟิศแล้ว คือรำคาญเงินจะกินยังไม่มีชอบโทรมายืมเงิน แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปเรียนภาษาคะ แล้วเรียนมา 10 ปี ยังทำงานไม่ได้คืออะไรคะ
             ล่าสุดยืมตังค์เราไป 1000 บาท แล้วติดต่อกันไม่ได้อีกเลย จนผ่านไป 3 เดือน เราโทรไปมีคนรับสายค่ะ บอกเป็นแม่ขวัญ แล้วบอกว่าเบอร์นี้เป็นเบอร์พ่อ ขวัญไม่อยู่บ้าน โกหกหน้าตายนะคะ จะเป็นเบอร์พ่อได้ไง เราใช้เบอร์นี้ติดต่อกับขวัญมาหลายปี ส่วนเรื่องไม่อยู่บ้านเรารู้อยู่แล้วว่าขวัญไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ แยกมาอยู่หอต่างหาก แม่ขวัญขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่สีลมค่ะ เคยไปกินมาแล้ว
             สรุปว่าก็ติตต่อขวัญไม่ได้ แม่เค้าถามว่าเป็นเพื่อนที่ไหนล่ะ ใช่เพื่อนที่เรียน ม.เกษตรด้วยกันหรือเปล่า เราอึ้งเลยค่ะ ขวัญเนี่ยนะเรียน ม.เกษตร ขวัญมีเรื่องโกหกเกี่ยวกับการศึกษาของตัวเองค่ะ ตอนที่รู้จักกันใหม่ๆ ที่ทำงาน parttime ขวัญบอกเราว่าเค้าจบเกียรตินิยมอันดับ 2 ที่ ม.เกษตรค่ะ เราไม่เชื่อหรอกค่ะ รูปร่างหน้าตา บุคลิก การพูดจา มันไม่ใช่ค่ะ แต่เราก็ไม่ได้ขัดเค้า ทำให้เค้ายังคงคุยกับเราต่อค่ะ ซึ่งเค้าไม่คุยกับใครเลย นอกจากเรากับนริน เพราะไม่เคยขัดคอเค้าเรื่องจบเกียรตินิยม แต่ว่าความจริงก็เปิดเผย งานที่นี่เลิก 3 ทุ่มค่ะ แต่ขวัญขอกลับ 6 โมงก่อน ถ้าเป็นจริงตามที่เค้าบอกนะคะ เค้าขอลาไปเรียนบัญชี ปวช ปวส ภาคค่ำค่ะ
             สรุปทุกวันนี้เรายังไม่รู้เลยว่าขวัญจบอะไรมา แต่ที่แน่ๆ ไม่ได้จบสูงแน่นอนค่ะ เรื่องอึ้งยังไม่จบแค่นั้นค่ะ แม่พูดต่อค่ะว่า ขวัญเค้าไปสอนหนังสือ เค้าเป็นอาจารย์มหาลัยนะ คือไม่รู้ขวัญไปโกหกแม่ หรือว่าแม่ขวัญก็โกหกเหมือนขวัญค่ะ

             จบเรื่องขวัญมาที่นรินค่ะ นรินอายุ 30 ปี จบราม บุคลิกเอ๋อ ทำอะไรก็เงะๆงะๆ สมัยที่ทำงาน parttime คือเป็นงานทำแบบสอบถามทางโทรศัพท์ค่ะ ก็จะมีรายชื่อให้เราโทรไปแล้วขอความร่วมมือในการตอบแบบสอบถาม ได้เงินเป็นรายชุดตามจำนวนที่ทำได้ คนปกติจะทำได้เดือนละ 10,000 แต่นรินทำได้เดือนละ 3000 ค่ะ วันนึงทำได้ แค่ 1-2 คน ทำอะไรชักช้า เข้าห้องน้ำที ครึ่งชม. ไม่รู้เข้าไปทำอะไร
             นรินที่ก็หางานออฟฟิศทำไม่ได้ค่ะ ก็ไปเป็นพนักงานขายในห้างเงินเดือน 9000 นรินนี่ก็เป็นพวกการศึกษาน้อยค่ะ คอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ ภาษาอังกฤษไม่ได้ ทำอะไรเงอะงะ ชักช้า ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่ผ่าน จนได้มาทำงานห้าง นรินชอบค่ะ แค่ยืนเฉยๆ รอลูกค้า นรินชายรองเท้าผู้ชาย พอลูกค้าจะหาแบบหาไซค์ก็แค่ไปหยิบให้เค้า รับเงินเอาเงินไปจ่าย ส่งของให้ลูกค้า
             เราจะสนิทกับนรินมากกว่าขวัญค่ะ เราไม่เคยโทรหาขวัญเลย มีแต่ขวัญที่ชอบโทรมายืมเงิน เราเจอนรินบ่อย ห้างกับที่ทำงานเราใกล้กัน เราไปหานรินบ่อยมาก เราเป็นคนชอบกินค่ะ เราอยากมีเพื่อน ไปกินข้าว เดินเล่นห้าง ดูหนังกันไรงี้ เราก็สนิทกับนรินแค่คนเดียว แต่นรินก็ไม่มีเวลา ทำงานห้างทุกวันไม่หยุด ทำ 10.00 – 22.00 อีกอย่างนรินมีนิสัยไม่ใช้เงินค่ะ
             พื้นเพนรินอยู่กับพ่อแม่ พ่อแม่มีร้านขายไม้อยู่ 2 คูหา ฐานะโอเค น้องชายจบเอแบค เงินเดือนหลายหมื่น แต่นรินชอบพูดว่าตัวเองไม่มีเงินค่ะ ไม่เคยกินข้าวนอกบ้านเลย ตั้งแต่สมัยทำงาน parttime แล้ว ตัวจะผอมบางมาก ถามนรินว่ากินข้าวบ้างป่าว นรินบอกว่ากลับไปกินข้าวที่บ้านค่ะ กินแหลก กินทุกอย่าง อัดเต็มที่
             ทุกวันนี้นรินไม่มีเอทีเอ็ม เอาสมุดถอนเอา พกเงินติดตัววันละ 200 เป็นแค่ค่ารถ เพราะไม่เคยกินข้าวนอกบ้านเลย จะรอกลับไปกินข้าวที่บ้านตลอด ทุกวันนี้ก็กินข้าวเที่ยงคืนตลอด คือเราอึดอัดแล้วก็น้อยใจค่ะ ว่าทำไมถึงมีแต่เพื่อนแบบนี้ เพื่อนที่การศึกษาต่ำ บุคลิกไม่ดี งานไม่โอเค ไม่มีเงิน เราคบกับนรินมาจะ 10 ปี ยังไม่เคยกินข้าว หรือเดินเที่ยวด้วยกันเลย

             คนต่อมาก็น้ำฝน น้ำฝนจะอยู่กลุ่มนี้กลุ่มพวกการศึกษาต่ำ แต่ว่าจะแยกกลุ่มมาอีกที คือเราสนิทกับ ขวัญ กับนริน กลุ่มนึง แล้วก็สนิทกับน้ำฝนกลุ่มนึง น้ำฝนทำงานที่เดียวกัน แต่ไม่สนิท ไม่คุยกับขวัญกับนริน น้ำฝนก็อายุ 30 ค่ะ จบปวช ปวส คอมพิวเตอร์ไม่ได้ ภาษาอังกฤษ ไม่ได้เหมือนกันค่ะ เรียนจบมาหางานทำไม่ได้ จนมาทำงาน parttime
             หลังจากแยกกันน้ำฝนก็ไม่ได้ทำงานอะไรอีกเลยค่ะ เพราะหางานไม่ได้หรือหาไม่เป็นไม่รู้ เค้าบอกเราว่าทำ resume ไม่เป็น น้ำฝนก็เจอกันเรื่อยๆ ค่ะ น้ำฝนชอบโทรมาให้ไปหาที่บ้าน บ้านน้ำฝนเป็นบ้านไม้หลังใหญ่แล้วอยู่กันแบบครอบครัวละ 1 ห้อง น้ำฝนมีพื่น้อง 9 คน เป็นคนสุดท้อง ทุกคนรวมทั้งน้ำฝนที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว ก็อยู่กันห้องละ 1 ครอบครัว พ่อกับแม่นอนใต้ถุนบ้าน น้ำฝนก็ฐานะทางบ้านไม่ดีนะคะ บ้านน้ำฝนทุกคนจบแค่ป.6 กันหมด ทำงานไรบ้างก็ไม่รู้ แต่ไปบ้านทีไร เค้าก็อยู่กันครบทุกคนตลอด จะไปเช้า สาย บ่าย เย็น วันหยุด วันทำงาน เค้าก็อยู่บ้านกันทุกคนไม่รู้ทำงานอะไร
             น้ำฝนก็ไม่ได้ทำงานค่ะ แต่แต่งงานมีสามีเลี้ยงมั๊งคะ สามีก็เป็นช่างได้เงินเดือน 9,000 บาท เราไม่เคยโทรหาน้ำฝนเลย น้ำฝนจะคอยโทรหาเราตลอด แล้วช่วงแรกที่เราหางานประจำทำ น้ำฝนก็จะชอบพูดว่า ขนาดหนูยังหางานไม่ได้ แล้วพี่จะหางานได้เหรอ คือมันเทียบกันได้เหรอ เธอจบอะไร ชั้นจบอะไร ชั้นทำคอมพิวเตอร์ได้ ได้ภาษาอังกฤษ ประสบการณ์การทำงานก็มี คือระหว่างที่รักษา 10 ปี เราก็ทำงานออฟฟิศนะคะ แต่ทำแบบเข้าๆ ออกๆ ตลอดเนื่องจากอาการของโรค จนมาทำงาน parttime 2-3 ปี แล้วรักษาอย่างจริงจังต่อเนื่อง จนอาการปกติ เราก็ออกมาหางานออฟฟิศทำค่ะ เราไม่ชอบน้ำฝนค่ะ จะชอบพูดว่า พี่สมัครแล้วจะได้เหรอ หนูยังไม่มีใครเรียกมาเลย คอมพ์หนูก็ทำไม่ได้ แล้วอย่างพี่จะทำได้เหรอ คือชอบพูดทำนองว่าตัวเองทำไม่ได้แล้วอย่างเราจะทำได้ได้ไง ไม่ชอบเลยค่ะ เค้าไม่รู้ว่าเราสมัครงานแล้วมีคนโทรมาเรียกไปสัมภาษณ์เยอะมาก หลังจากนั้นเราก็ได้งานทำ ก็โอเคเรื่องงานก็จบไป
                        มาถึงเรื่องเดิมๆ ค่ะ คืออยากมีเพื่อนกินข้าว ดูหนัง เดินเล่นห้าง น้ำฝนนี่ก็เจอกันตลอดแต่เจอกันที่บ้าน น้ำฝนไม่มีการศึกษา ไม่มีเงิน ไม่มีงานทำ แล้วก็ชอบพูดคล้ายๆ ขวัญค่ะ ว่าไม่เดินห้างหรอก ไม่ใช่ไฮโซ เพิ่งรู้ว่าจะเดินห้างนี่ต้องเป็น ไฮโซด้วย เราเห็นคนปกติธรรมดาเค้าก็เดินห้างกันนะ ไม่ได้เป็นไฮโซ น้ำฝนจะซื้อของตามตลาดนัด เสื้อผ้าก็จะซื้อพวกมือสอง ตัวละ 20-30 บาทใส่

             ทุกวันนี้เราทำงานบัญชีอยู่โรงงานเล็กๆ ชานเมือง มีพนักงานทั้งหมด 40 เป็นคนงานทั้งหมด มีส่วนออฟฟิศแค่ 3 คน คือผจก.โรงงาน ฝ่ายบุคคล แล้วก็บัญชี เงินเดือน 10,000 ปลายๆ เราตัวคนเดียวก็อยู่ได้ ชีวิตมีคุณภาพพอสมควร แต่ไม่ได้อยู่ออฟฟิศหรูๆ ทำงานในเมือง ไม่มีตำแหน่ง แต่งตัวไปทำงานก็ใส่เสื้อเสื้อโปโลฟอร์มบริษัท กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ คือต้องแต่งตามคนงาน จะได้เหมือนๆ กัน จะแต่งตัวสวยๆ แบบสาวออฟฟิศในเมืองไม่ได้
                         ล่าสุดเราเจอเพื่อนเก่าค่ะ ก็ได้ไลน์กลุ่ม FB เพื่อนเก่ามาหลายคน รูปภาพเพื่อนแต่ละคน แต่งตัวสวย บางคนใส่สูท ทุกคนมีงานดีๆ มีตำแหน่ง เงินเดือน 30,000 อัพ ไปกินข้าวร้านอาหารก็เอามาลง FB เข้าร้านหรูๆ กินของแพงๆ กินอาหารฝรั่ง อาหารญี่ปุ่น ชีวิตกับสังคมพวกเค้าต่างกับเรามากเลยค่ะ ถ้าเราไม่เป็นโรค เราคงมีชีวิตแบบเค้า แต่เราก็ไม่ได้อยากจะหรูหราแบบเค้าหรอกนะคะ แต่ก็อยากกินโออิชิ กินฟูจิ กิน KFC ไรงี้เท่านั้นเอง แต่ก็ไม่มีเพื่อนไปกินไปเที่ยว

             เราเคยอ่านหนังสือ เรื่องกฎแห่งแรงดึงดูด ถ้าเราเป็นอย่างไร เราจะดึงดูดคนแบบนั้นเข้าหาเรา แต่เราสงสัยว่าเราเป็นยังไงทำไมมีแต่คนแบบนี้เข้าหาเรา สำหรับเพื่อนมีนรินแค่คนเดียวที่เราเข้าไปทักก่อน เข้าไปคุยด้วยเพราะสงสาร เห็นทำอะไรขักช้า นอกนั้นขวัญกับน้ำฝนที่เข้าหาเราก่อน แล้วคอยโทรหาเราตลอด

             หมดเรื่องน้อยใจแล้วค่ะ ถ้าใครอ่านเราก็ขอขอบคุณนะคะ ถ้ายาวไปก็ขออภัยด้วยค่ะ หรือถ้าเห็นว่าไร้สาระเอาแต่บ่นรำพัน เราก็ขออภัยนะคะ ที่สุดเลยขอบคุณพันทิป ทำให้เรามีที่ระบาย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ปัญหาชีวิต
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่