สวัสดีค่ะ ต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่า นี้เป็นกระทู้แรกที่เขียนในพันทิปค่ะ ถ้ามีผิดพลาดอะไรก้อขออภัยด้วยนะคะ และติติงมาได้ค่ะ จุดประสงค์ที่เขียนกระทู้นี้ขึ้นมา ก้อเพื่อเป็นอุทธาหรณ์ ให้กับผู้ที่คิดปลดภาระค่างวดรถ ด้วยการนำไปขายดาวน์ตามอินเตอร์เนทค่ะ เพราะมันไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดนะคะ เมื่อไหร่ที่คุณได้ทำการเปิดการขายขึ้นมาก้อขอให้รู้ว่าเหมือนเป็นการเปิดประตูไปสู่กลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มหนึ่งค่ะ มิจฉาชีพกลุ่มนี้ทำกันเป็นกระบวนการค่ะ และที่สำคัญพวกมันไม่เกรงกลัวต่อกฏหมายที่มีบทลงโทษอันน้อยนิด ด้วยเพราะมิจฉาชีพกลุ่มนี้อาศัยช่องโหว่ทางกฏหมายหลอกลวงผู้คนที่อาจจะด้วยความไม่รู้ถึงขั้นตอนที่ถูกต้องในการขายดาวน์รถยนต์ ทำสัญญาซื้อขายขึ้นมาพร้อมกับเอกสารบัตรประชาชนปลอม พวกมันทำกันจนชำนาญ รู้ว่าจะพูดกับเหยื่อให้หลงเชื่อได้ยังงัย บางคนอาจจะมองว่าเขียนกระทู้นี้ขึ้นมา เป็นการโชว์โง่หรือป่าว ไม่เป็นรัยค่ะยอมรับ แต่ถ้าทำให้ใครหลายๆคนที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อได้มารับรู้เรื่องราวและฉุกคิดได้ทันก้อถือว่าไม่สูญเปล่าค่ะ และอีกอย่างได้ยินมานานแล้วว่านักสืบพันทิปก้อเป็นหนึ่งในตองอู ก้อหวังลึกๆว่าอาจมีคนใจดีในนี้ช่วยได้ค่ะถึงความหวังจะริบหรี่
เรื่องราวเริ่มต้นจาก เราได้ทำการลงประกาศขายดาวน์รถให้น้องเขย เมื่อประมาณต้นเดือน ตค.ที่ผ่านมา เป็นรถนิสสันจู้ค สีแดง รุ่นอินเวเดอร์ ทะเบียน 4กก3019 กรุงเทพมหานคร มีตำหนิคือไฟตัดหมอกด้านซ้ายร้าว หลังจากลงประกาศไปก้อมีคนถามเข้ามาบ้างประปรายค่ะแต่ไม่จิงจังอะไร จนกระทั่งวันที่ 18 ตค. 58ที่ผ่านมาค่ะ เราได้รับการติดต่อจากบุคคลหนึ่ง ต่อไปนี้จะเรียก คนร้ายชายว่า ช. และเรียกคนร้ายหญิงว่า ญ.นะคะ ช.ติดต่อเข้ามาทางเราค่ะ โดยบอกวัตถุประสงค์ว่า ต้องการซื้อรถที่เราลงประกาศในเวบไซด์ แต่ขอต่อรองราคาลงจาก 50,000 เหลือ 40,000 โดยจะซื้อให้ภรรยาใช้ เราก้อเลยติดต่อสอบถามไปยังน้องเขยว่าตกลงขายนะ น้องเขยตกลงแต่วันนี้คงให้รถไปไม่ได้ เพราะเป็นวันอาทิตย์ ไฟแนนซ์ปิด อีกอย่างคือต้องโอนสิทธิหรือเปลี่ยนชื่อก่อนถึงจะเอารถไปได้ เราจึงโทรไปบอก ช.ค่ะ ว่าเจ้าของรถตกลงขาย ช.บอกว่าถ้างั้นให้เราลบโพสที่ลงประกาศไว้ เพื่อจะได้แน่ใจว่าเราขายให้เค้าจิงๆ เราก้อแอบสงสัยอยู่ค่ะว่าต้องขนาดนั้นเลยหรอ จึงนัดหมายกับ ช.ค่ะว่าจะนำรถไปให้ดูที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านอ่อนนุช เพื่อดูรถ หากพอใจก้อให้ทำสัญญามัดจำไว้ก่อน แล้วพร้อมโอนเมื่อไหร่ก้อนัดวันอีกที แต่วันนี้ไม่สามารถเอารถไปได้นะ เมื่อช.ได้ยินดังนั้น ช.ถึงกับมีน้ำเสียงหงุดหงิดฉุนเฉียวกับเราเลยค่ะ ช.บอกว่าภรรยาเค้ากำลังเดินทางมาดูรถ เข้าใจว่าได้รถเลย ไม่งั้นจะไม่มาเสียเวลา เราพยายามจะบอกค่ะว่าน้องเขยเจ้าของรถบอกมาว่าอย่างนี้ ไหนๆก้อมาแล้ว ดูรถก่อนมั้ยจะได้ไม่เสียเวลา แค่ ช.วางสายใส่เราไปเลยค่ะ จนสักพักมีสายโทรเข้ามาค่ะ เป็นเสียงผู้หญิง ญ โทรเข้ามาบอกว่าเป็นคนที่จะมาดูรถ ตกลงนัดกัน 4 โมงใช่มั้ย เราก้อบอกใช่แต่วันนี้ยังไม่ให้รถไปนะ ญ ก้อโอเคค่ะ ลักษณะการพูดคุยของ ญ จะออกแนวประนีประนอม ไม่ขัดแย้ง พูดไปหัวเราะไปเป็นกันเอง เสียงเหน่อนิดๆ ญ บอกเราว่าไหนๆก้อไปแล้วขอดูรถก่อนก้อได้แล้วค่อยว่ากันอาจจะวางมัดจำไว้ก่อน
เมื่อตกลงกับ ญ ได้ดังนั้น เราเลยนัดแนะน้องเขย น้องสาวมาและ ญ มาที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อดูรถ และทำสัญญามัดจำค่ะ เรากับน้องเขยน้องสาว มาถึงก่อน ญ เราก้อเลยโทรหา ญ ค่ะ ติดแต่ไม่รับสายนานพอดู จนกระทั่ง ญ โทรเข้ามาค่ะ บอกว่ากำลังเข้ามา เราจึงได้นั่งรอต่อไป สักพักหนึ่ง ญ ก้อปรากฏตัวขึ้นมาค่ะ เราสามคนนั่งคุยกับ ญ ถึงรายละเอียดต่างๆแล้วอยู่ๆ ช ก้อโทรเข้ามาค่ะ ทำทีเป็นถามว่าภรรยามาถึงหรือยัง เราซึ่งทะเลาะกับ ช มาแล้วรอบนึง จึงให้ ช คุยกับน้องเขยเอง ในความคิดเราตอนนั้นคือ ไม่ได้คิดถึงการฉ้อโกงอะไรเลยค่ะ คิดแต่ว่าเดี๋ยวน้องเขยคงจะอธิบายให้ ช เข้าใจว่าเพราะอะไรถึงให้รถไปวันนี้ไม่ได้ เพราะถ้าให้เราคุย บอกตามตรงค่ะว่าไม่มีความรู้เรื่องรถเลย เพราะยังไม่เคยมีรถของตัวเอง นี่เองจึงเป็นจุดหนึ่งที่เราคิดว่าทำให้เราพลาด เราจึงให้น้องเป็นคนตัดสินใจทั้งหมด แต่เราค่อนข้างเชื่อมั่นว่าน้องก้อคงปฏิเสธหลังจากคุยเสร็จ แต่…จุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงนี้ค่ะ เมื่อน้องเขยคุยเสร็จ เราถามว่าตกลงว่างัย ปรากฏว่าน้องบอก ก้อเอาตามพี่ผู้ชายว่าก้อได้ครับ เราก้ออ้าว สตั้นไป 3 วิ แล้วก้อเลยบอกว่างั้นก้อแล้วแต่ก้อทำสัญญากัน วางเงินดาวน์ 40,000 หลังจากทำสัญญาเสร็จ เราก้อพา ญ ไปดูรถ หลังจากนั้น ญ ก้อขับรถไปเลยค่ะ
หลังจากวันนั้นมา เรากับน้องเขยยังสามารถติดต่อ ญ ได้เรื่อยๆ จนกระทั่ง วันที่ 26 ตค.ค่ะ วันที่เราเริ่มรู้ตัว วันนั้นแฟนเราดูข่าวๆนึงค่ะ เกี่ยวกับการหลอกมาซื้อดาวน์รถแล้วเชิดรถไป ลักษณะคือ ผู้ชายโทรมา แต่ผู้หญิงมารับรถ เราก้อเริ่มรู้สึกใจไม่ดีแระ หลังจากเลิกงานมา เราก้อตรงดิ่งไปดูสัญญาซื้อขายซึ่งน้องเขยฝากเราเก็บไว้ค่ะ แล้วเราก้อเอาชื่อ ญ ตามสำเนาบัตรที่ให้เราไว้มาค้นหาในกุเกิ้ลค่ะ ผลการค้นหาที่ออกมาทำเราช้อคเลยค่ะ เพราะปรากฏข้อมูลเกี่ยวกับมิจฉาชีพ ให้ระวัง และปรากฏรูปหน้าเป็นคนเดียวกันกะ ญ เลย ตอนนั้นอึ้งค่ะ ทำอะไรไม่ถูก พอตั้งสติได้ก้อเลยโทรหาน้องเขยค่ะ บอกเล่าสิ่งที่เราเจอ เลยช่วยกันวางแผนค่ะให้ ญ เอารถออกมาให้ได้ โดยเราโทรไปค่ะ และเราอัดเสียงระหว่างการพูดคุยไว้ เราบอก ญ ว่า พรุ่งนี้ให้เอารถมาเข้าศูนย์เพื่อเชคสภาพก่อนเปลี่ยนสัญญาได้มั้ยสักสองชั่วโมง หลังจากนั้นให้เอารถกลับได้ พร้อมกับถามว่ามีใครสนใจรถฮอนด้าเอชอาวีมั้ยมีเพื่อนจะขาย ตอนแรก ญ ทำท่าสนใจอยู่ค่ะ แต่พอถึงวันนัดหมายคือวันที่ 28 ตค. ตอน 10 โมง ญ ไม่มาค่ะและเป็นไปตามคาด ญ ปิดเครื่องค่ะ ติดต่อไม่ได้อีกเลยนับจากนั้นมา
เราพากันไปแจ้งความค่ะ แต่ร้อยเวรทำให้แค่บันทึกประจำวันค่ะ แล้วให้เราไปแจ้งไฟแนนซ์ก่อนเพื่อขอใบมอบอำนาจจากไฟแนนซ์มาขอออกใบแจ้งความอีกที แต่น้องเขยก้อกลัวค่ะว่าไฟแนนซ์จะยอมให้ใบมอบอำนาจหรือป่าว เราพากันไปคุยกับไฟแนนซ์วันที่ 29 ค่ะซึ่งเป็นวันก่อนหมดประกันเพียงหนึ่งวัน เราไปปรึกษาไฟแนนซ์ซึ่งก้อไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ จนท.แนะนำให้เราเร่งดำเนินการก่อนที่ประกันจะหมดโดย ให้หนังสือมอบอำนาจกับเราค่ะ แล้วให้เราไปแจ้งความ เมื่อตำรวจออกใบแจ้งความมาให้ให้เราถ่ายสำเนามาหลายๆชุดค่ะ ชุดนึงเอากลับมาที่ไฟแนนซ์ อีกชุดเอาไปกรมขนส่ง อีกชุดให้ประกัน แล้วให้เรารีบโทรแจ้งประกัน
ทุกอย่างดูเหมือนจะคลี่คลายขึ้น แต่ไม่ค่ะเมื่อเรากลับมาที่ สน. ร้อยเวรที่ประจำบอกว่าไม่สามารถรับแจ้งความได้เพราะเราไม่ได้นัด เราก้อมองหน้ากันกับน้อง คือไม่เคยรู้มาก่อนค่ะว่าแจ้งความต้องนัดล่วงหน้าด้วย ร้อยเวรบอกอีกว่า ถ้าจะแจ้งก้อต้องรอเพราะตำรวจคนที่ลงบันทึกให้ต้องเป็นคนออกเลขใบแจ้งความให้ ซึ่งตอนนี้ตำรวจคนนั้นไปศาลจะกลับมาตอน 6 โมงเย็น แต่ปัญหาคือนัดกับประกันไว้ค่ะ ดีที่ประกันยอมให้เอาใบแจ้งความมาให้วันถัดไปได้ พอประกันมาก้อถ่ายรูปจุดเกิดเหตุและเขียนเอกสารต่างๆค่ะ พอ 6 โมงก้อไป สน. เพื่อแจ้งความอีกครั้งค่ะ กว่าจะแจ้งความเสร็จ 3 ทุ่มค่ะ เหนื่อยทั้งกายทั้งใจ สาหัสมากทีเดียวค่ะวันนั้น
ตอนนี้ทุกอย่างก้อกำลังเข้าสู่กระบวนการค่ะ ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไร เราก้อคงต้องยอมรับมันค่ะ คงไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้เลย อยากจะช่วยน้องแต่กลับเป็นสาเหตุนำพามิจฉาชีพมา ได้แต่หวังว่าสักวันเวรกรรมจะตามทันเหล่ามิจฉาชีพเหล่านี้ให้พลาดท่าเสียทีโดนจับมาชดใช้กรรม ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างรอหลายๆอย่างค่ะ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าเราต้องผ่อนค่างวดโดยที่รถหายไปแล้วจนหมดหรืออย่างไร รบกวนผู้รู้มาช่วยตอบด้วยจะเป็นพระคุณยิ่งค่ะ สุดท้ายนี้อยากฝากเตือนไว้ค่ะว่า ช่องทางนี้ การขายดาวน์รถเป็นช่องทางที่มิจฉาชีพดักรออยู่ค่ะ เป็นช่องทางทำกินของพวกมัน ทางที่ดีก่อนออกรถควรแน่ใจว่าจะผ่อนไหว ออกรถให้เหมาะกับกำลังทรัพย์ของตัวเอง หากผ่อนต่อไม่ไหวทางออกที่ง่ายและปลอดภัยที่สุดคือเอารถไปคืนไฟแนนซ์เถอะค่ะ ขอบคุณที่อ่านค่ะ

ภาพถ่ายคนร้ายค่ะ

เอกสารบัตรประชาชนคนร้ายค่ะ

หมายจับคนร้ายค่ะ

สัญญาที่ทำกับคนร้ายค่ะ


[img]http://

รถเราที่ถูกคนร้ายนำไป
ระวังภัย!!! ขายดาวน์รถ เสี่ยงมิจฉาชีพ
เรื่องราวเริ่มต้นจาก เราได้ทำการลงประกาศขายดาวน์รถให้น้องเขย เมื่อประมาณต้นเดือน ตค.ที่ผ่านมา เป็นรถนิสสันจู้ค สีแดง รุ่นอินเวเดอร์ ทะเบียน 4กก3019 กรุงเทพมหานคร มีตำหนิคือไฟตัดหมอกด้านซ้ายร้าว หลังจากลงประกาศไปก้อมีคนถามเข้ามาบ้างประปรายค่ะแต่ไม่จิงจังอะไร จนกระทั่งวันที่ 18 ตค. 58ที่ผ่านมาค่ะ เราได้รับการติดต่อจากบุคคลหนึ่ง ต่อไปนี้จะเรียก คนร้ายชายว่า ช. และเรียกคนร้ายหญิงว่า ญ.นะคะ ช.ติดต่อเข้ามาทางเราค่ะ โดยบอกวัตถุประสงค์ว่า ต้องการซื้อรถที่เราลงประกาศในเวบไซด์ แต่ขอต่อรองราคาลงจาก 50,000 เหลือ 40,000 โดยจะซื้อให้ภรรยาใช้ เราก้อเลยติดต่อสอบถามไปยังน้องเขยว่าตกลงขายนะ น้องเขยตกลงแต่วันนี้คงให้รถไปไม่ได้ เพราะเป็นวันอาทิตย์ ไฟแนนซ์ปิด อีกอย่างคือต้องโอนสิทธิหรือเปลี่ยนชื่อก่อนถึงจะเอารถไปได้ เราจึงโทรไปบอก ช.ค่ะ ว่าเจ้าของรถตกลงขาย ช.บอกว่าถ้างั้นให้เราลบโพสที่ลงประกาศไว้ เพื่อจะได้แน่ใจว่าเราขายให้เค้าจิงๆ เราก้อแอบสงสัยอยู่ค่ะว่าต้องขนาดนั้นเลยหรอ จึงนัดหมายกับ ช.ค่ะว่าจะนำรถไปให้ดูที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านอ่อนนุช เพื่อดูรถ หากพอใจก้อให้ทำสัญญามัดจำไว้ก่อน แล้วพร้อมโอนเมื่อไหร่ก้อนัดวันอีกที แต่วันนี้ไม่สามารถเอารถไปได้นะ เมื่อช.ได้ยินดังนั้น ช.ถึงกับมีน้ำเสียงหงุดหงิดฉุนเฉียวกับเราเลยค่ะ ช.บอกว่าภรรยาเค้ากำลังเดินทางมาดูรถ เข้าใจว่าได้รถเลย ไม่งั้นจะไม่มาเสียเวลา เราพยายามจะบอกค่ะว่าน้องเขยเจ้าของรถบอกมาว่าอย่างนี้ ไหนๆก้อมาแล้ว ดูรถก่อนมั้ยจะได้ไม่เสียเวลา แค่ ช.วางสายใส่เราไปเลยค่ะ จนสักพักมีสายโทรเข้ามาค่ะ เป็นเสียงผู้หญิง ญ โทรเข้ามาบอกว่าเป็นคนที่จะมาดูรถ ตกลงนัดกัน 4 โมงใช่มั้ย เราก้อบอกใช่แต่วันนี้ยังไม่ให้รถไปนะ ญ ก้อโอเคค่ะ ลักษณะการพูดคุยของ ญ จะออกแนวประนีประนอม ไม่ขัดแย้ง พูดไปหัวเราะไปเป็นกันเอง เสียงเหน่อนิดๆ ญ บอกเราว่าไหนๆก้อไปแล้วขอดูรถก่อนก้อได้แล้วค่อยว่ากันอาจจะวางมัดจำไว้ก่อน
เมื่อตกลงกับ ญ ได้ดังนั้น เราเลยนัดแนะน้องเขย น้องสาวมาและ ญ มาที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อดูรถ และทำสัญญามัดจำค่ะ เรากับน้องเขยน้องสาว มาถึงก่อน ญ เราก้อเลยโทรหา ญ ค่ะ ติดแต่ไม่รับสายนานพอดู จนกระทั่ง ญ โทรเข้ามาค่ะ บอกว่ากำลังเข้ามา เราจึงได้นั่งรอต่อไป สักพักหนึ่ง ญ ก้อปรากฏตัวขึ้นมาค่ะ เราสามคนนั่งคุยกับ ญ ถึงรายละเอียดต่างๆแล้วอยู่ๆ ช ก้อโทรเข้ามาค่ะ ทำทีเป็นถามว่าภรรยามาถึงหรือยัง เราซึ่งทะเลาะกับ ช มาแล้วรอบนึง จึงให้ ช คุยกับน้องเขยเอง ในความคิดเราตอนนั้นคือ ไม่ได้คิดถึงการฉ้อโกงอะไรเลยค่ะ คิดแต่ว่าเดี๋ยวน้องเขยคงจะอธิบายให้ ช เข้าใจว่าเพราะอะไรถึงให้รถไปวันนี้ไม่ได้ เพราะถ้าให้เราคุย บอกตามตรงค่ะว่าไม่มีความรู้เรื่องรถเลย เพราะยังไม่เคยมีรถของตัวเอง นี่เองจึงเป็นจุดหนึ่งที่เราคิดว่าทำให้เราพลาด เราจึงให้น้องเป็นคนตัดสินใจทั้งหมด แต่เราค่อนข้างเชื่อมั่นว่าน้องก้อคงปฏิเสธหลังจากคุยเสร็จ แต่…จุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงนี้ค่ะ เมื่อน้องเขยคุยเสร็จ เราถามว่าตกลงว่างัย ปรากฏว่าน้องบอก ก้อเอาตามพี่ผู้ชายว่าก้อได้ครับ เราก้ออ้าว สตั้นไป 3 วิ แล้วก้อเลยบอกว่างั้นก้อแล้วแต่ก้อทำสัญญากัน วางเงินดาวน์ 40,000 หลังจากทำสัญญาเสร็จ เราก้อพา ญ ไปดูรถ หลังจากนั้น ญ ก้อขับรถไปเลยค่ะ
หลังจากวันนั้นมา เรากับน้องเขยยังสามารถติดต่อ ญ ได้เรื่อยๆ จนกระทั่ง วันที่ 26 ตค.ค่ะ วันที่เราเริ่มรู้ตัว วันนั้นแฟนเราดูข่าวๆนึงค่ะ เกี่ยวกับการหลอกมาซื้อดาวน์รถแล้วเชิดรถไป ลักษณะคือ ผู้ชายโทรมา แต่ผู้หญิงมารับรถ เราก้อเริ่มรู้สึกใจไม่ดีแระ หลังจากเลิกงานมา เราก้อตรงดิ่งไปดูสัญญาซื้อขายซึ่งน้องเขยฝากเราเก็บไว้ค่ะ แล้วเราก้อเอาชื่อ ญ ตามสำเนาบัตรที่ให้เราไว้มาค้นหาในกุเกิ้ลค่ะ ผลการค้นหาที่ออกมาทำเราช้อคเลยค่ะ เพราะปรากฏข้อมูลเกี่ยวกับมิจฉาชีพ ให้ระวัง และปรากฏรูปหน้าเป็นคนเดียวกันกะ ญ เลย ตอนนั้นอึ้งค่ะ ทำอะไรไม่ถูก พอตั้งสติได้ก้อเลยโทรหาน้องเขยค่ะ บอกเล่าสิ่งที่เราเจอ เลยช่วยกันวางแผนค่ะให้ ญ เอารถออกมาให้ได้ โดยเราโทรไปค่ะ และเราอัดเสียงระหว่างการพูดคุยไว้ เราบอก ญ ว่า พรุ่งนี้ให้เอารถมาเข้าศูนย์เพื่อเชคสภาพก่อนเปลี่ยนสัญญาได้มั้ยสักสองชั่วโมง หลังจากนั้นให้เอารถกลับได้ พร้อมกับถามว่ามีใครสนใจรถฮอนด้าเอชอาวีมั้ยมีเพื่อนจะขาย ตอนแรก ญ ทำท่าสนใจอยู่ค่ะ แต่พอถึงวันนัดหมายคือวันที่ 28 ตค. ตอน 10 โมง ญ ไม่มาค่ะและเป็นไปตามคาด ญ ปิดเครื่องค่ะ ติดต่อไม่ได้อีกเลยนับจากนั้นมา
เราพากันไปแจ้งความค่ะ แต่ร้อยเวรทำให้แค่บันทึกประจำวันค่ะ แล้วให้เราไปแจ้งไฟแนนซ์ก่อนเพื่อขอใบมอบอำนาจจากไฟแนนซ์มาขอออกใบแจ้งความอีกที แต่น้องเขยก้อกลัวค่ะว่าไฟแนนซ์จะยอมให้ใบมอบอำนาจหรือป่าว เราพากันไปคุยกับไฟแนนซ์วันที่ 29 ค่ะซึ่งเป็นวันก่อนหมดประกันเพียงหนึ่งวัน เราไปปรึกษาไฟแนนซ์ซึ่งก้อไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ จนท.แนะนำให้เราเร่งดำเนินการก่อนที่ประกันจะหมดโดย ให้หนังสือมอบอำนาจกับเราค่ะ แล้วให้เราไปแจ้งความ เมื่อตำรวจออกใบแจ้งความมาให้ให้เราถ่ายสำเนามาหลายๆชุดค่ะ ชุดนึงเอากลับมาที่ไฟแนนซ์ อีกชุดเอาไปกรมขนส่ง อีกชุดให้ประกัน แล้วให้เรารีบโทรแจ้งประกัน
ทุกอย่างดูเหมือนจะคลี่คลายขึ้น แต่ไม่ค่ะเมื่อเรากลับมาที่ สน. ร้อยเวรที่ประจำบอกว่าไม่สามารถรับแจ้งความได้เพราะเราไม่ได้นัด เราก้อมองหน้ากันกับน้อง คือไม่เคยรู้มาก่อนค่ะว่าแจ้งความต้องนัดล่วงหน้าด้วย ร้อยเวรบอกอีกว่า ถ้าจะแจ้งก้อต้องรอเพราะตำรวจคนที่ลงบันทึกให้ต้องเป็นคนออกเลขใบแจ้งความให้ ซึ่งตอนนี้ตำรวจคนนั้นไปศาลจะกลับมาตอน 6 โมงเย็น แต่ปัญหาคือนัดกับประกันไว้ค่ะ ดีที่ประกันยอมให้เอาใบแจ้งความมาให้วันถัดไปได้ พอประกันมาก้อถ่ายรูปจุดเกิดเหตุและเขียนเอกสารต่างๆค่ะ พอ 6 โมงก้อไป สน. เพื่อแจ้งความอีกครั้งค่ะ กว่าจะแจ้งความเสร็จ 3 ทุ่มค่ะ เหนื่อยทั้งกายทั้งใจ สาหัสมากทีเดียวค่ะวันนั้น
ตอนนี้ทุกอย่างก้อกำลังเข้าสู่กระบวนการค่ะ ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไร เราก้อคงต้องยอมรับมันค่ะ คงไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้เลย อยากจะช่วยน้องแต่กลับเป็นสาเหตุนำพามิจฉาชีพมา ได้แต่หวังว่าสักวันเวรกรรมจะตามทันเหล่ามิจฉาชีพเหล่านี้ให้พลาดท่าเสียทีโดนจับมาชดใช้กรรม ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างรอหลายๆอย่างค่ะ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าเราต้องผ่อนค่างวดโดยที่รถหายไปแล้วจนหมดหรืออย่างไร รบกวนผู้รู้มาช่วยตอบด้วยจะเป็นพระคุณยิ่งค่ะ สุดท้ายนี้อยากฝากเตือนไว้ค่ะว่า ช่องทางนี้ การขายดาวน์รถเป็นช่องทางที่มิจฉาชีพดักรออยู่ค่ะ เป็นช่องทางทำกินของพวกมัน ทางที่ดีก่อนออกรถควรแน่ใจว่าจะผ่อนไหว ออกรถให้เหมาะกับกำลังทรัพย์ของตัวเอง หากผ่อนต่อไม่ไหวทางออกที่ง่ายและปลอดภัยที่สุดคือเอารถไปคืนไฟแนนซ์เถอะค่ะ ขอบคุณที่อ่านค่ะ
เอกสารบัตรประชาชนคนร้ายค่ะ
หมายจับคนร้ายค่ะ
สัญญาที่ทำกับคนร้ายค่ะ
รถเราที่ถูกคนร้ายนำไป