สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกในชีวิตของผม
ผมเพิ่งขึ้นปีสองมาได้ระยะนึง มหาลัยมีชื่อเสียงด้านการเมืองไทย อยู่แถวสนามหลวง เป็นคนไม่ชอบอยู่บ้านครับ
เข้าเรื่องเลยนะครับ ผมเป็นคนไม่เคยมีแฟนครับ เรียกง่ายๆว่าจีบใครไม่เคยได้ หลังสอบติดมหาลัย ผมไปก็เดินทางไปทั่วเลยครับ ไปกับเพื่อนซะส่วนใหญ่ ตะลุยมาทั่ว 77 จังหวัดทั่วไทย และต่างประเทศอีกก็มาก นับวัน เพื่อนในกลุ่มก็เริ่มมีแฟนและเลือนหายไปทีละคนจนเหลือผมอยู่คนเดียว ผมก็ยังไม่หยุดเที่ยวครับ ยังคงหลงไหลในการเดินทางที่เป็นศิลปะของชีวิต เคยขับรถไปเที่ยวเชียงใหม่-ลำปาง-นครสวรรค-ลพบุรี-ระยอง พอกลับมาบ้าน เช้าวันรุ่งขึ้นขับรถไปสุราษต่อ ผมไม่ค่อยชอบชวนใครเพราะเบื่อที่จะต้องตอบคำถามว่าใครไปบ้าง ไปยังไง นอนไหน เดินทางยังไง นับวัน ผมยิ่งมีความสุขกับการอยู่คนเดียว ฟังดนตรีแจ๊สคนเดียฝที่ร้านโปรดแถวอนุสาวรีย์จนร้านปิดตีสองเป็นประจำ ผมชื่นชมศิลปะทางดนตรีที่บรรเลงโดยเด็กมหาลัย มีความสุขที่จะเดินทางไปพบปะผู้คน ถ่ายถอดมุมมองของชีวิตที่ผู้คนคอยกระซิบตลอดว่า กูเป็นแฟนคลับเลยนะเว่ย มันรู้สึกถึงความสุขที่เปี่ยมล้นจริงๆครับ
ผมเป็นคนนึงที่หาอะไรทำที่เกิดความสุขแก่ตัวเราตลอดครับ ยิ่งเป็นคนโสดยิ่งต้องหาอะไรทำครับ ไม่งั้นจะเกิดความคิดที่รู้สึกเหงาและเคว้งคว้างยามว่าง แต่ไม่ใช่ว่ารักใครไม่เป็นนะครับ มีเพื่อนหลายคนมาปรึกษาเรื่องความรักครับ ผมศรัทธาในความรักมากพอสมควร แต่ความศรัทธาที่มอบให้มักจะแตกสลายลงไปกับตา ปัจจุบันจึงเริ่มรู้สึกว่าความรักมันมากับเวลาจริงๆครับ บางครั้งมาถึงช้ากว่าเข็มนาฬิกา แต่พอมาถึง ก็อยู่แป๊ปเดียวเอง แต่ความทรงจำมันกลับเดินตามเข็มนาฬิกาไป จึงทำให้ความทรงจำของความรัก ที่ไม่ยอมสลัดทิ้งไป
ทุกครั้งที่คุยกับคนที่รัก ผมจะทุ่มเทมากครับ และก็คิดตลอดเลยว่า จะใช่ผู้หญิงคนนี้หรือเปล่านะ ที่จะขึ้นเขา ลงห้วย เดินป่า นอนเต๊นท์ แบกแพค ดำน้ำScuba เดินทางไปกับเรา และสุดท้ายกับต้องเสียไปเพราะอะไรบางอย่าง แต่ความทุกข์ผมไม่เคยเพิ่มขึ้นเลย และไม่เคยหลอกตัวเองด้วยว่าพยายามหลบความทุกข์อยู่เพราะเข้าใจมาตลอดว่าชีวิตคนเรา มันไม่มีคำว่าความสุขเลย มันมีแต่ความทุกข์ที่ลดลง
กระทู้ผมอาจจะดูงงๆนะครับ ไม่ได้เมานะครับ แต่ว่าอยากให้ทุกคนทราบว่าการอยู่ด้วยตัวของตัวเองที่ไม่ยึดติดกับคนอื่นในห้วงเวลาสั้นๆ นั้นมันมีค่ามากสำหรับชีวิตคน เพราะชีวิตคนมันสั้นจริงๆครับ หลายคนที่ผมรู้จักได้เสียชีวิตไป ทั้งๆที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตเลย
ผมไม่ได้อยู่บ้านแบบอยู่ทั้งวันในบ้านมาเกือบจะสองปีแล้วครับ นับตั้งแต่เข้ามหาลัย เพราะได้เรียนรู้ปรัชญาหลักของชีวิตเลยว่าโลกนี้ มันสวยงามมากจนเราลืมชื่นชม แต่อีกมุมหนึ่ง โลกมันก็น่ากลัวมากจนเราลืมตระหนัก ทุกวันนี้ก็ยังไม่อยู่บ้านเลยครับ ว่างเมื่อไหร่ก็จะแพลนไปเดินป่า ดำน้ำ เที่ยวเล่นกับเพื่อน หรือไปคนเดียวตลอด และสิ่งที่งดงามก็เกิดขึ้นครับ เพื่อนที่ไปมีแฟน ก็เลิกกับแฟนหมดเพราะเหตุผลบางอย่าง และก็มาบอกผมว่า "กูอิจฉาชีวิตวะ เนี่ย กูขาดทุนมาเกือบสองปีละ แต่อะ ได้กำไรมาตั้งเกือบสองปี" ผมเลยคิดว่า การใช้เวลาชีวิตนั้นมีความหมายจริงๆครับ
ก่อนจะจบ ขอบอกเลยว่าเป็นคนเรียนไม่เก่งเลยครับ แต่ก็ไม่เคยพลาดเรื่องเรียนนะครับ ตามงานตลอด และยังคงใช้ชีวิตแบบคนโสดที่สนุกที่สุดคนหนึ่งจะทำได้ และไม่รู้สึกเสียใจกับใครที่เดินผ่านไปมาครับ เพราะมันเป็นการเรียนรู้และท่องเที่ยวทางจิตขมนุษย์ไปด้วย
ผมยังคงไปเที่ยวเหมือนเดิม ไปแบบไม่รอใคร ไม่มีใครไป ผมก็ยังจะไป เดินป่าคนเดียว นอนเต๊นท์คนเดียว ฟังออเคสตร้าคนเดียว ร้องคาราโอเกะคนเดียว ใครชวนไปไหนก็ไปหมด รับทุกอีเว้นถ้าว่างและไม่ป่วย
เลยอยากแนะนำให้ลองใช้ชีวิตตามสไตล์คนโสดแบบสนุกๆดูนะครับ แล้วมาเล่าสู่กันฟังในเม้นได้เลย ว่าทำอย่างไรให้อยู่แบบ
"โสดเพราะเที่ยว หรือเที่ยวเพราะสุข"
จาก ดาวตก ณ เวลา 20:30
02/11/2558
โสดเพราะเที่ยว หรือ เที่ยวเพราะโสด (18+)
ผมเพิ่งขึ้นปีสองมาได้ระยะนึง มหาลัยมีชื่อเสียงด้านการเมืองไทย อยู่แถวสนามหลวง เป็นคนไม่ชอบอยู่บ้านครับ
เข้าเรื่องเลยนะครับ ผมเป็นคนไม่เคยมีแฟนครับ เรียกง่ายๆว่าจีบใครไม่เคยได้ หลังสอบติดมหาลัย ผมไปก็เดินทางไปทั่วเลยครับ ไปกับเพื่อนซะส่วนใหญ่ ตะลุยมาทั่ว 77 จังหวัดทั่วไทย และต่างประเทศอีกก็มาก นับวัน เพื่อนในกลุ่มก็เริ่มมีแฟนและเลือนหายไปทีละคนจนเหลือผมอยู่คนเดียว ผมก็ยังไม่หยุดเที่ยวครับ ยังคงหลงไหลในการเดินทางที่เป็นศิลปะของชีวิต เคยขับรถไปเที่ยวเชียงใหม่-ลำปาง-นครสวรรค-ลพบุรี-ระยอง พอกลับมาบ้าน เช้าวันรุ่งขึ้นขับรถไปสุราษต่อ ผมไม่ค่อยชอบชวนใครเพราะเบื่อที่จะต้องตอบคำถามว่าใครไปบ้าง ไปยังไง นอนไหน เดินทางยังไง นับวัน ผมยิ่งมีความสุขกับการอยู่คนเดียว ฟังดนตรีแจ๊สคนเดียฝที่ร้านโปรดแถวอนุสาวรีย์จนร้านปิดตีสองเป็นประจำ ผมชื่นชมศิลปะทางดนตรีที่บรรเลงโดยเด็กมหาลัย มีความสุขที่จะเดินทางไปพบปะผู้คน ถ่ายถอดมุมมองของชีวิตที่ผู้คนคอยกระซิบตลอดว่า กูเป็นแฟนคลับเลยนะเว่ย มันรู้สึกถึงความสุขที่เปี่ยมล้นจริงๆครับ
ผมเป็นคนนึงที่หาอะไรทำที่เกิดความสุขแก่ตัวเราตลอดครับ ยิ่งเป็นคนโสดยิ่งต้องหาอะไรทำครับ ไม่งั้นจะเกิดความคิดที่รู้สึกเหงาและเคว้งคว้างยามว่าง แต่ไม่ใช่ว่ารักใครไม่เป็นนะครับ มีเพื่อนหลายคนมาปรึกษาเรื่องความรักครับ ผมศรัทธาในความรักมากพอสมควร แต่ความศรัทธาที่มอบให้มักจะแตกสลายลงไปกับตา ปัจจุบันจึงเริ่มรู้สึกว่าความรักมันมากับเวลาจริงๆครับ บางครั้งมาถึงช้ากว่าเข็มนาฬิกา แต่พอมาถึง ก็อยู่แป๊ปเดียวเอง แต่ความทรงจำมันกลับเดินตามเข็มนาฬิกาไป จึงทำให้ความทรงจำของความรัก ที่ไม่ยอมสลัดทิ้งไป
ทุกครั้งที่คุยกับคนที่รัก ผมจะทุ่มเทมากครับ และก็คิดตลอดเลยว่า จะใช่ผู้หญิงคนนี้หรือเปล่านะ ที่จะขึ้นเขา ลงห้วย เดินป่า นอนเต๊นท์ แบกแพค ดำน้ำScuba เดินทางไปกับเรา และสุดท้ายกับต้องเสียไปเพราะอะไรบางอย่าง แต่ความทุกข์ผมไม่เคยเพิ่มขึ้นเลย และไม่เคยหลอกตัวเองด้วยว่าพยายามหลบความทุกข์อยู่เพราะเข้าใจมาตลอดว่าชีวิตคนเรา มันไม่มีคำว่าความสุขเลย มันมีแต่ความทุกข์ที่ลดลง
กระทู้ผมอาจจะดูงงๆนะครับ ไม่ได้เมานะครับ แต่ว่าอยากให้ทุกคนทราบว่าการอยู่ด้วยตัวของตัวเองที่ไม่ยึดติดกับคนอื่นในห้วงเวลาสั้นๆ นั้นมันมีค่ามากสำหรับชีวิตคน เพราะชีวิตคนมันสั้นจริงๆครับ หลายคนที่ผมรู้จักได้เสียชีวิตไป ทั้งๆที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตเลย
ผมไม่ได้อยู่บ้านแบบอยู่ทั้งวันในบ้านมาเกือบจะสองปีแล้วครับ นับตั้งแต่เข้ามหาลัย เพราะได้เรียนรู้ปรัชญาหลักของชีวิตเลยว่าโลกนี้ มันสวยงามมากจนเราลืมชื่นชม แต่อีกมุมหนึ่ง โลกมันก็น่ากลัวมากจนเราลืมตระหนัก ทุกวันนี้ก็ยังไม่อยู่บ้านเลยครับ ว่างเมื่อไหร่ก็จะแพลนไปเดินป่า ดำน้ำ เที่ยวเล่นกับเพื่อน หรือไปคนเดียวตลอด และสิ่งที่งดงามก็เกิดขึ้นครับ เพื่อนที่ไปมีแฟน ก็เลิกกับแฟนหมดเพราะเหตุผลบางอย่าง และก็มาบอกผมว่า "กูอิจฉาชีวิตวะ เนี่ย กูขาดทุนมาเกือบสองปีละ แต่อะ ได้กำไรมาตั้งเกือบสองปี" ผมเลยคิดว่า การใช้เวลาชีวิตนั้นมีความหมายจริงๆครับ
ก่อนจะจบ ขอบอกเลยว่าเป็นคนเรียนไม่เก่งเลยครับ แต่ก็ไม่เคยพลาดเรื่องเรียนนะครับ ตามงานตลอด และยังคงใช้ชีวิตแบบคนโสดที่สนุกที่สุดคนหนึ่งจะทำได้ และไม่รู้สึกเสียใจกับใครที่เดินผ่านไปมาครับ เพราะมันเป็นการเรียนรู้และท่องเที่ยวทางจิตขมนุษย์ไปด้วย
ผมยังคงไปเที่ยวเหมือนเดิม ไปแบบไม่รอใคร ไม่มีใครไป ผมก็ยังจะไป เดินป่าคนเดียว นอนเต๊นท์คนเดียว ฟังออเคสตร้าคนเดียว ร้องคาราโอเกะคนเดียว ใครชวนไปไหนก็ไปหมด รับทุกอีเว้นถ้าว่างและไม่ป่วย
เลยอยากแนะนำให้ลองใช้ชีวิตตามสไตล์คนโสดแบบสนุกๆดูนะครับ แล้วมาเล่าสู่กันฟังในเม้นได้เลย ว่าทำอย่างไรให้อยู่แบบ
"โสดเพราะเที่ยว หรือเที่ยวเพราะสุข"
จาก ดาวตก ณ เวลา 20:30
02/11/2558