กรมการศาสนา จับมือสำนักพราหมณ์ฯ และวัดแขกสีลม เตรียมจัดงานเทศกาลนวราตรี
ร่วมสืบสานเทศกาลแห่งการฉลองบูชาพระแม่อุมาเทวี ครั้งยิ่งใหญ่ 1 ปีมีครั้งเดียว
นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า กรมการศาสนาร่วมกับสำนักพราหมณ์พระราชครู ในสำนักพระราชวัง และวัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม) จัดงานเทศกาลนวราตรี ประจำปี พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 22 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม 2568 อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้โครงการ “เสน่ห์แห่งสีสัน เทศกาลแห่งศรัทธา” ในรูปแบบการจัดงานเทศกาลประเพณีทางศาสนา 5 ศาสนา ประกอบด้วย กิจกรรม “เสน่ห์วันวาน เทศกาลงานวัด” ของศาสนาพุทธ “วันอาซูรอสัมพันธ์” ของศาสนาอิสลาม “เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส”ของศาสนาคริสต์ “เทศกาลนวราตรี” “เทศกาลดิวาลี” ของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และ “วันครบรอบ 556 ปีวันคล้ายวันประสูติคุรุนานักซาฮิบ องค์ปฐมบรมคุรุ” ของศาสนาซิกข์ เพื่อเทศกาลประเพณีในมิติศาสนา สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและเทศกาลในมิติศาสนา เสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้มั่นคงและสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างศาสนิกชนส่งผลให้เกิดความสงบสันติสุขของสังคม ศาสนิกชนทุกศาสนาอยู่ร่วมกันด้วยความรักสามัคคีสืบต่อไป
อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวต่อไปว่า กรมการศาสนาได้ร่วมกับสำนักพราหมณ์พระราชครู ในสำนักพระราชวัง องค์การทางศาสนาศาสนาพราหมณ์ - ฮินดูที่กรมการศาสนาให้การรับรอง จัดงานเทศกาลนวราตรี ประจำปี พ.ศ. 2568 ณ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม) ตามคติของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดูที่เกิดจากการหลอมรวมความเชื่อของชาวอารยันที่นำความเชื่อเรื่องสุริยเทพและเทพธรรมชาติมาผสมผสานกับความเชื่อเรื่องวิญญาณของชาวพื้นเมืองในลุ่มแม่น้ำสินธุ โดยมีมหาเทพพระตรีมูรติ ประกอบด้วย พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ ที่แสดงถึงการสร้าง การรักษา และการเกิดใหม่ เพื่อสร้างสมดุลของจักรวาล ซึ่งเทศกาลนวราตรีนี้เป็นช่วงเวลาที่ศาสนิกชนชาวฮินดูบูชาพระแม่อุมาเทวีที่ได้ปราบอสูรที่ชื่อว่า “มหิษาสูร” ซึ่งสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายไปทั่ว เหล่าทวยเทพจึงอัญเชิญพระแม่อุมาเทวีในร่างอวตารเป็นองค์ “พระแม่ทุรคา” 9 ปาง ซึ่งสู้รบกับมหิษาสูรตลอดทั้ง 9 วัน 9 คืน และปราบลงได้สำเร็จในวันที่ 10 ศาสนิกชนจึงได้จัดพิธีขึ้นเพื่อบูชาพระแม่อุมาเทวีในชัยชนะครั้งนี้ และในวันที่ 10 คือ วันสุดท้ายของเทศกาล เรียกว่า “วันวิชัยทศมิ” อันมีความหมายถึงวันเฉลิมฉลองในชัยชนะในคืนที่สิบ ซึ่งแสดงถึงธรรมะที่สามารถชนะอธรรม และการมีปัญญาแสดงถึงการส่งเสริมหลักธรรมทางศาสนา การเตือนให้ทุกคนทำความดีและเอาชนะความเลวร้าย ตลอดเทศกาลนี้ศาสนิกชนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ ๆ สวยงาม เต้นรำ ร้องเพลง และเฉลิมฉลองกันตลอดทั้งวันทั้งคืนการจัดงานครั้งนี้จึงเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจในมิติศาสนา สร้างรายได้ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้เดินทางมาเข้าร่วมพิธีกรรมและกิจกรรมต่าง ๆ ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกมียอดขายเพิ่มขึ้น ผู้คนในท้องถิ่นสามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้าและบริการต่าง ๆ เช่น การทำเครื่องสักการะบูชา การขายอาหาร และการเช่าชุดสำหรับเข้าร่วมพิธี
นายสุรพงษ์ สิริธรกุล ประธานคณะกรรมการมูลนิธิวัดพระศรีมหาอุมาเทวี กล่าวว่า ภายในงานมีการจัดกิจกรรมบูชาองค์เทพที่สำคัญของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของศาสนิกชน ตลอดทั้งเทศกาลจะมีพิธีบูชาองค์เทพต่างๆในช่วงเช้าเริ่มเวลา 9.30 น. และช่วงค่ำเริ่มเวลา 17.00 น. ในวันที่ 22 กันยายน – 2 ตุลาคม 2568 ที่วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม) โดยเป็นการจัดงานพิธีบูชาองค์พระพิฆเนศวร (บรมครู) พิธีบูชาเทพประจำแผ่นดิน และพิธีบูชาเทพแห่งดาวนพเคราะห์ทั้งเก้า ซึ่งเป็นพิธีบูชาขอขมาและขออนุญาตจัดงานต่อองค์เทพภายในวัด เพื่อเป็นสิริมงคลในงานนวราตรีประจำปีให้รวดเร็วและราบรื่น และพิธีบูชาช่วงเย็นเริ่มเวลา 17.00 น. พิธีอัญเชิญองค์พระพิฆเนศวร,องค์พระแม่ศรีมหาอุมาเทวี,องค์พระแม่ศรีมหาซูลั่มกาลี
นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา
สำหรับวันที่ 23 กันยายน 2568 เป็นวันเริ่มงานเทศกาลนวราตรี ประจำปี พ.ศ. 2568 ประกอบด้วยพิธีบูชาองค์พระแม่มหาทุรคาเทวีเป็นเทพีแห่งชัยชนะ ปกป้องผู้ศรัทธาจากภัยร้าย ภูตผี อสูร และความทุกข์ยากผู้ที่นับถือจะเชื่อว่าการบูชาพระแม่จะช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดี และเสริมความมั่นคงทางจิตใจ และมีพิธีอัญเชิญธงสิงห์ขึ้นเสาเวลา 18.30 น. ถือเป็นการประกาศเริ่มต้นงานเทศกาล จากนั้นจึงจัดพิธีบูชา ดังนี้
1. พิธีบูชาองค์พระแม่ศรีมหาทุรคาเทวีทรงเชี่ยวชาญในการสงครามและสามารถปราบศัตรูได้ทั่วทิศ
2. พิธีบูชาองค์พระแม่ศรีมหาลักษมีเทวีเป็นเทวีแห่งอำนาจบารมีและวาสนา มีพลังอำนาจและความยิ่งใหญ่
3. พิธีอภิเษกสมรสของพระแม่ศรีมหาอุมาเทวีและองค์พระศิวะมหาเทพและพิธีบูชาพระแม่มหาสรัสวตีเทวี มเหสีของพระพรหม ผู้สร้างสรรค์จักรวาล
โดยในวันที่ 2 ตุลาคม 2568 เวลา 19.30 น. งานแห่วันวิชัยทัสมิ ประจำปี 2568 อีกหนึ่งพิธีกรรมที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ถือเป็นการแห่เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะขององค์พระแม่ศรีมหาอุมาเทวี ในภาคพระแม่ทุรคา ที่ต่อสู้กับมหิษาสูรมาถึง 9 วัน 9 คืน ตามตำนาน ประกอบด้วยรถแห่ จำนวน 8 ขบวน ได้แก่ ขบวนคนทรงพระแม่ศรีมหาอุมาเทวี ขบวนคนทรงพระขันธกุมาร ขบวนคนทรงองค์พระแม่กาลี ขบวนราชรถองค์พระพิฆเนศ ขบวนราชรถพระขันธกุมาร ขบวนราชรถองค์พระกฤษณะ ขบวนราชรถองค์พระกัตตวรายัน ขบวนราชรถองค์พระศรีมหาอุมาเทวี องค์พระแม่มหาลักษมีเทวี
งานเทศกาลนวราตรี นั้น เป็นประเพณีสำคัญทางศาสนาฮินดู ศาสนิกชนสามารถเดินทางเข้ามาร่วมพิธีได้โดยไม่มีการจำกัดเชื้อชาติหรือศาสนา โดยเชื่อว่าจะช่วยเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตของตนเองและครอบครัวด้วยสำหรับข้อควรปฏิบัติในการเข้าร่วมงานนวราตรี และงานแห่วันวิชัยทัสมิ ควรแต่งกายด้วยชุดที่สุภาพ สีสันสดใส โปรดระวังทรัพย์สินมีค่าของตนเอง และแนะนำให้เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ รวมถึงการเตรียมร่างกายจิตใจให้บริสุทธิ์เพื่อเข้าร่วมงาน ทั้งนี้ ขณะขบวนแห่ผ่าน ขอให้ศาสนิกชนแสดงพฤติกรรมที่อยู่ในกรอบของหลักคำสอนและวิถีแห่งปัญญา
เตรียมจัดงานเทศกาลนวราตรี ร่วมสืบสานเทศกาลแห่งการฉลองบูชาพระแม่อุมาเทวี ครั้งยิ่งใหญ่ 1 ปีมีครั้งเดียว
นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า กรมการศาสนาร่วมกับสำนักพราหมณ์พระราชครู ในสำนักพระราชวัง และวัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม) จัดงานเทศกาลนวราตรี ประจำปี พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 22 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม 2568 อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้โครงการ “เสน่ห์แห่งสีสัน เทศกาลแห่งศรัทธา” ในรูปแบบการจัดงานเทศกาลประเพณีทางศาสนา 5 ศาสนา ประกอบด้วย กิจกรรม “เสน่ห์วันวาน เทศกาลงานวัด” ของศาสนาพุทธ “วันอาซูรอสัมพันธ์” ของศาสนาอิสลาม “เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส”ของศาสนาคริสต์ “เทศกาลนวราตรี” “เทศกาลดิวาลี” ของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และ “วันครบรอบ 556 ปีวันคล้ายวันประสูติคุรุนานักซาฮิบ องค์ปฐมบรมคุรุ” ของศาสนาซิกข์ เพื่อเทศกาลประเพณีในมิติศาสนา สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและเทศกาลในมิติศาสนา เสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้มั่นคงและสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างศาสนิกชนส่งผลให้เกิดความสงบสันติสุขของสังคม ศาสนิกชนทุกศาสนาอยู่ร่วมกันด้วยความรักสามัคคีสืบต่อไป
อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวต่อไปว่า กรมการศาสนาได้ร่วมกับสำนักพราหมณ์พระราชครู ในสำนักพระราชวัง องค์การทางศาสนาศาสนาพราหมณ์ - ฮินดูที่กรมการศาสนาให้การรับรอง จัดงานเทศกาลนวราตรี ประจำปี พ.ศ. 2568 ณ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม) ตามคติของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดูที่เกิดจากการหลอมรวมความเชื่อของชาวอารยันที่นำความเชื่อเรื่องสุริยเทพและเทพธรรมชาติมาผสมผสานกับความเชื่อเรื่องวิญญาณของชาวพื้นเมืองในลุ่มแม่น้ำสินธุ โดยมีมหาเทพพระตรีมูรติ ประกอบด้วย พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ ที่แสดงถึงการสร้าง การรักษา และการเกิดใหม่ เพื่อสร้างสมดุลของจักรวาล ซึ่งเทศกาลนวราตรีนี้เป็นช่วงเวลาที่ศาสนิกชนชาวฮินดูบูชาพระแม่อุมาเทวีที่ได้ปราบอสูรที่ชื่อว่า “มหิษาสูร” ซึ่งสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายไปทั่ว เหล่าทวยเทพจึงอัญเชิญพระแม่อุมาเทวีในร่างอวตารเป็นองค์ “พระแม่ทุรคา” 9 ปาง ซึ่งสู้รบกับมหิษาสูรตลอดทั้ง 9 วัน 9 คืน และปราบลงได้สำเร็จในวันที่ 10 ศาสนิกชนจึงได้จัดพิธีขึ้นเพื่อบูชาพระแม่อุมาเทวีในชัยชนะครั้งนี้ และในวันที่ 10 คือ วันสุดท้ายของเทศกาล เรียกว่า “วันวิชัยทศมิ” อันมีความหมายถึงวันเฉลิมฉลองในชัยชนะในคืนที่สิบ ซึ่งแสดงถึงธรรมะที่สามารถชนะอธรรม และการมีปัญญาแสดงถึงการส่งเสริมหลักธรรมทางศาสนา การเตือนให้ทุกคนทำความดีและเอาชนะความเลวร้าย ตลอดเทศกาลนี้ศาสนิกชนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ ๆ สวยงาม เต้นรำ ร้องเพลง และเฉลิมฉลองกันตลอดทั้งวันทั้งคืนการจัดงานครั้งนี้จึงเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจในมิติศาสนา สร้างรายได้ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้เดินทางมาเข้าร่วมพิธีกรรมและกิจกรรมต่าง ๆ ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกมียอดขายเพิ่มขึ้น ผู้คนในท้องถิ่นสามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้าและบริการต่าง ๆ เช่น การทำเครื่องสักการะบูชา การขายอาหาร และการเช่าชุดสำหรับเข้าร่วมพิธี
นายสุรพงษ์ สิริธรกุล ประธานคณะกรรมการมูลนิธิวัดพระศรีมหาอุมาเทวี กล่าวว่า ภายในงานมีการจัดกิจกรรมบูชาองค์เทพที่สำคัญของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของศาสนิกชน ตลอดทั้งเทศกาลจะมีพิธีบูชาองค์เทพต่างๆในช่วงเช้าเริ่มเวลา 9.30 น. และช่วงค่ำเริ่มเวลา 17.00 น. ในวันที่ 22 กันยายน – 2 ตุลาคม 2568 ที่วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม) โดยเป็นการจัดงานพิธีบูชาองค์พระพิฆเนศวร (บรมครู) พิธีบูชาเทพประจำแผ่นดิน และพิธีบูชาเทพแห่งดาวนพเคราะห์ทั้งเก้า ซึ่งเป็นพิธีบูชาขอขมาและขออนุญาตจัดงานต่อองค์เทพภายในวัด เพื่อเป็นสิริมงคลในงานนวราตรีประจำปีให้รวดเร็วและราบรื่น และพิธีบูชาช่วงเย็นเริ่มเวลา 17.00 น. พิธีอัญเชิญองค์พระพิฆเนศวร,องค์พระแม่ศรีมหาอุมาเทวี,องค์พระแม่ศรีมหาซูลั่มกาลี
สำหรับวันที่ 23 กันยายน 2568 เป็นวันเริ่มงานเทศกาลนวราตรี ประจำปี พ.ศ. 2568 ประกอบด้วยพิธีบูชาองค์พระแม่มหาทุรคาเทวีเป็นเทพีแห่งชัยชนะ ปกป้องผู้ศรัทธาจากภัยร้าย ภูตผี อสูร และความทุกข์ยากผู้ที่นับถือจะเชื่อว่าการบูชาพระแม่จะช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดี และเสริมความมั่นคงทางจิตใจ และมีพิธีอัญเชิญธงสิงห์ขึ้นเสาเวลา 18.30 น. ถือเป็นการประกาศเริ่มต้นงานเทศกาล จากนั้นจึงจัดพิธีบูชา ดังนี้
1. พิธีบูชาองค์พระแม่ศรีมหาทุรคาเทวีทรงเชี่ยวชาญในการสงครามและสามารถปราบศัตรูได้ทั่วทิศ
2. พิธีบูชาองค์พระแม่ศรีมหาลักษมีเทวีเป็นเทวีแห่งอำนาจบารมีและวาสนา มีพลังอำนาจและความยิ่งใหญ่
3. พิธีอภิเษกสมรสของพระแม่ศรีมหาอุมาเทวีและองค์พระศิวะมหาเทพและพิธีบูชาพระแม่มหาสรัสวตีเทวี มเหสีของพระพรหม ผู้สร้างสรรค์จักรวาล
โดยในวันที่ 2 ตุลาคม 2568 เวลา 19.30 น. งานแห่วันวิชัยทัสมิ ประจำปี 2568 อีกหนึ่งพิธีกรรมที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ถือเป็นการแห่เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะขององค์พระแม่ศรีมหาอุมาเทวี ในภาคพระแม่ทุรคา ที่ต่อสู้กับมหิษาสูรมาถึง 9 วัน 9 คืน ตามตำนาน ประกอบด้วยรถแห่ จำนวน 8 ขบวน ได้แก่ ขบวนคนทรงพระแม่ศรีมหาอุมาเทวี ขบวนคนทรงพระขันธกุมาร ขบวนคนทรงองค์พระแม่กาลี ขบวนราชรถองค์พระพิฆเนศ ขบวนราชรถพระขันธกุมาร ขบวนราชรถองค์พระกฤษณะ ขบวนราชรถองค์พระกัตตวรายัน ขบวนราชรถองค์พระศรีมหาอุมาเทวี องค์พระแม่มหาลักษมีเทวี
งานเทศกาลนวราตรี นั้น เป็นประเพณีสำคัญทางศาสนาฮินดู ศาสนิกชนสามารถเดินทางเข้ามาร่วมพิธีได้โดยไม่มีการจำกัดเชื้อชาติหรือศาสนา โดยเชื่อว่าจะช่วยเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตของตนเองและครอบครัวด้วยสำหรับข้อควรปฏิบัติในการเข้าร่วมงานนวราตรี และงานแห่วันวิชัยทัสมิ ควรแต่งกายด้วยชุดที่สุภาพ สีสันสดใส โปรดระวังทรัพย์สินมีค่าของตนเอง และแนะนำให้เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ รวมถึงการเตรียมร่างกายจิตใจให้บริสุทธิ์เพื่อเข้าร่วมงาน ทั้งนี้ ขณะขบวนแห่ผ่าน ขอให้ศาสนิกชนแสดงพฤติกรรมที่อยู่ในกรอบของหลักคำสอนและวิถีแห่งปัญญา