บางคนจะเคยรู้ตัวไหมว่ามีความหมายกับคนแบบเราขนาดไหน

ก่อนอื่นขอแทนตัวเองว่าเราน่ะค่ะ เพื่อจะเล่าเรื่องได้คล่องขึ้น กระทู้นี้จะเป็นกระทู้ที่เล่าเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวด้านความรักของเราเอง วัตถุประสงค์ก็คงอยากให้เขากลับมามั้งค่ะ 55555แค่หัวข้อกระทู้นี่ก็อัดอั้นมาก มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

ปล. กระทู้นี้คนเขียนค่อนข้างบ้าในทุกด้านตั้งแต่บ้าพลัง บ้าเกาหลี บ้าดารา บ้าบอล สรุปคือเป็นบ้าค่ะ 55555 คนที่เปิดมาอ่านแล้วอาจจะเจอคำพูดติ๊งต๊องกะจองอแงหรืออะไรที่คนปกติไม่ค่อยพบเจอนี่จะเป็นการเล่าเรื่องแนวใหม่แบบฉีกกฎวงการการดราม่าเพ้อเจ้อเมื่อคุณได้มาอยู่ในกระทู้เวิ่นเว้อของคนเพ้อเจ้อ 55555555  ไปเข้าเรื่องจริงๆได้แล้ว ปายยยย

มาเริ่มกันย้อนกลับไปเมื่อหลายปีที่แล้วที่เรากับหมูอ้วนเจอกัน คิคิ (แฟนเราชื่อเล่น ก.ไก่) เราเป็นเพื่อนร่วมห้องกันค่ะ สมัยม.ต้น เปิดเทอม 1 ตอนแรกก็ปกติเหมือนเพื่อนทั่วไปค่ะ เราจำเขาได้แม่นเพราะเขาจะตาตี่ๆ ตัวดำๆ จมูกแบนๆ ยิ้มทีนี่ตาหายไปไหนแล้ว55555 อย่าพึ่งบรึ๋ยน่ะค่ะ เขาคือสิ่งสำคัญของเราอย่าว่าเขาเลย 55555 เขาเป็นผู้ชายที่ชอบเล่นกีฬาค่ะ เขาชอบเล่นบอลเป็นหลักๆ ผ่านการไปเดือนกว่าๆกับการเป็นเพื่อนร่วมห้องของเราสองคน การเห็นหน้ากันทุกวันมันก็ทำให้เราอยู่มาวันนึงเราเก็บไปฝันว่าได้เดินจับมือกับเขาเขายิ้มเราเรายิ้มให้เขา โลกมีเราสองคน แอร๊ย แต่แล้วฝันก็สลายเมื่อแม่เดินมาปลุกเราให้ไปรร.
ตอนนั้นก็คิดว่าบ้าแล้วแน่ๆทำไมต้องไปฝันถึงหมูอ้วนแบบนั้นด้วยคนแบบนี้ไม่ใช่สเป็คน่ะจะบ้าไปแล้วหรอคิบอมไงคิบอมตั้งสติสิ ๆตอนนั้นสับสนกับตัวเองแบบรุนแรงมากค่ะ แต่ตอนนั้นพยายามบิ้วตัวเองให้ห้ามความร็สึกไว้สร้างกำแพงสูงกว่ากำแพงเมืองจีน เฮือก แกไม่ได้แอ้มฉันหรอกหมูอ้วน 55555555 หลังจากนั้นวันเดียวกันที่โรงอาหารตอนเที่ยงเราก็นั่งเล่นกับเพื่อนที่โต๊ะ กำหลังจะเอาจานไปเก็บเพื่อขึ้นเรียนเราเห็นเขากับพี่เดินมาด้วยกันเราก็หันไปมองพอดี เขาดูสนิทกันมากๆ แนวแบบผู้ชายรักครอบครัว ซึ่งตอนนั้นก็มีคนตกหลุมหมูอ้วนไปแล้วหมูอ้วนรู้ตัวไหม ทำไมต้องมาน่ารักให้รักด้วยฮ่ะ 55555 ต่อ หลังจากนั้นเราก็ร็ตัวแล้วจริงว่าเริ่มชอบไม่สิคลั่งไคล้หมูอ้วนหนักมากค่ะ แบบปริ้นรูปมาแปะในสมุดเคียงคู่กับโอปป้าหลายๆคน เขาคือโอปป้าของช้านนน <3  แต่มันมาติดตรงที่เขาไม่ได้ชอบเราไงจะทำไงล่ะของแบบนี้จะให้เก็บไว้หรอเราต้องปรึกษาบรรดากูรูผู้รู้เรื่องความรักดีกว่าใครในแผ่นฟ้านั้นก็คือเพื่อน แต่เกิดอะไรขึ้นค่ะหลังจากนั้น ก็มาเข้าสำนวนที่ว่าเพื่อนรู้โลกรู้ไงค่ะ รู้กันทั้งห้องและค่อยๆลามออกไปนอกห้องตามสไตล์คนไทยที่ปากต่อปากแป๊ปเดียวเจ้าตัวก็รุ้ค่ะ
และมันก็ยังคงดำเนินไปแบบคลุมเครือค่ะ อารมณ์แบบมีคนมาถามว่าชอบหมูอ้วนหรอ ไอเราก็แบบจะบราหร๊อ ใครจะไปชอบคนแบบนั้น (ไม่ได้ชอบน่ะ รักเลยแหละแกคิคิ) เราเป็นคนที่ชอบใครจะแสดงออกทางการกระทำแบบซื้อขนมมาให้กิน ไม่สบายซื้อยามาให้ คอยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ คอยหยอดมุขวันละนิดล่ะหน่อย   หมูอ้วนก็ทำอินโนเซนยิ้มอย่างเดียวไอคนบ้า >< 55555555 และทุกๆครั้งกับการเขินของเราก็จะมีคนอ้วกค่ะ เพราะความหล่อของหมูอ้วนคงมีแต่เราที่อินกับมัน จนผ่านไปจะเข้าเทอมสองหมูอ้วนก็ขาดเรียนบ่อยขึ้น คือหมูอ้วนมีแพลนจะย้ายไปต่อม.ปลายที่อื่น  เป็นรร.ชายล้วน  ซึ่งเขาก็คงขยันเพื่อสอบเข้า  เราเองก็คงทำได้แค่ให้กำลังใจ  555555  ไม่สิในความจริงคือเราก็ต้องอ่านหนังสือเพื่อสอบเข้าเหมือนกันมันก็วุ่นๆ ในเทอมสองนี่ในห้องก็จะสนิทกันมาก เพราะต้องมีบางคนแยกย้ายไปต่อม.ปลายที่โรงเรียนอื่น  มีอะไรเลยคุยกันแบบเปิดใจมากขึ้น และมันก็มาถึงขั้นตอนที่ใครหลายๆคนก็ต้องมีนั้นก็คือ การแลกเฟรนชิพกับเพื่อนเราเองก็เป็นหนึ่งคนที่แลกกับเขาโดยเราให้เขาเขียนเป็นคนสุดท้าย เพื่อที่จะให้เขาเป็นคนที่เขียนได้นานที่สุด เขินจังคิคิ จนใกล้จะปิดเทอม ซึ่งก็คือจบม.ต้น เราก็ทวงเฟรนชิฟกับเขาซึ่งเขาก็บอกว่าวันรุ่งขึ้นจะเอามาให้ เราก็ตอบตกลงและวันนั้นเองเราก็ตัดสินใจบอกความในใจกับเขาที่ข้างหน้าต่างห้องเรียน
เรา :    เอ่อคือ เรามีเรื่องจะบอกอ่ะ
ก.ไก่ : มีอะไรหรอ
เรา : เราชอบ  ก.ไก่น่ะ เราชอบมากด้วย ชอบมานานแล้วบลาๆ
ก.ไก่ : เดี๋ยวไว้เราโทรหาน่ะ ค่อยคุยกันทางโทรศัพท์ดีกว่า
เรา : อ๋อได้ๆ
เราก็รอๆ แล้วเขาก็ยังไม่โทรจนวันรุ่งขึ้น เราเป็นฝ่ายโทรไปเอง และเขาก็รับสาย
เรา   : ฮัลโหล
ก.ไก่ : ฮัลโหล ใครครับ
เรา : อ๋อ เราเอง เราโทรมาเห็นแกไม่ยอมโทร เรากลัวว่าแกอาจจะลืมเลยโทรมา
ก.ไก่ : อ๋อ อืม
เรา : แกจำเรื่องที่โรงเรียนได้ไหม
ก.ไก่ : เราเป็นเพื่อนกันน่ะ
เรา : .......
ก.ไก่ : ไม่ใช่ว่าแกไม่ดีน่ะ แกเป็นคนน่ารัก เราเองก็ยังต้องสอบ แกรู้ใช่ไหมว่าเราหวังกับมันมากๆ เรากลัวว่าตอนนั้นไกลกันไปแกจะเหงาต้องอยู่คนเดียว ถ้าเป็นแฟนกันมันคงจะไม่ดีแต่ถ้าเป็นเพื่อนมันอาจจะดีกับเราทั้งสองคน
เรา :  .......
ก.ไก่ : เห้ย แกโอเคไหม ไม่ใช่ว่าเราไม่ชอบแกน่ะเว้ย แกเป็นคนน่ารัก แต่แกเข้าใจใช่ไหมว่าเราต้องไปทำอะไร มันไกลกันมากน่ะแก บลาๆ
เรา :.........
ก.ไก่ : ฮัลโหล แกโอเคไหม แกโอเครึเปล่าเนี่ย
เรา : เราโอเค แค่นี้ก่อนน่ะแก

แค่นั้นแหละร้องไห้จนตาบวมเป็นเผาเต่า ตอนนั้นเป็นอะไรที่เสียใจที่สุด แต่คงไม่เท่าตอนนี้แล้วแหละ พอนั่งพิมเล่าเรื่องก็เลยนึกขึ้นได้ว่าเมื่อก่อนแกเคยแคร์เรามากขนาดนี้เลยน่ะ ความไร้เดียงสาของแกมันเป็นอะไรที่เราอยากให้มันมีอยู่ตลอดไป 555 มาต่อดีกว่า นางก็เอาเฟรนชิฟมาคืนเรา เราก็เปิดมันทันทีหลังจากกลับถึงบ้าน นางเขียนแค่หน้าเดียวคือชื่อนามสกุลเบอร์ และประโยคที่ว่า" เราพร้อมเป็นเพื่อนเธอเสมอน่ะ " เป็นประโยคที่อยากตะโกนว่าดีออกมากคิดได้ไงห๊ะแม่ล่ะอยากจะปาเเฟรนชิฟใส่หน้านึกแล้วหงุดหงิดคนไรใจดำ เดี๋ยวๆตะกี้ยังชมคือไร55555 จากนั้นนางก็ไปสอบติดรร.ในฝันของนางและเราก็ต่อม.ปลายที่โรงเรียนเก่าวันเวลาผ่านไปไม่มีการติดต่อจากนางกลับมา ผ่านไปเกือบปีเราก็มีแฟนใหม่ (ก่อนหน้านี้ก็เคยมีแฟนและเลิกกับแฟนก็เพราะชอบนาง) เรากับแฟนก็รักกันดีถึงแม้ว่าเราจะไม่เคยลืมนางได้แม้แต่วันเดียวจนอยู่มาวันนึงนางก็ทักมาถามสารทุกสุขดิบและประโยคที่นางถามตอนนั้นจำได้แม่นแค่ประโยคเดียวคือ มีแฟนแล้วยังอ่ะ <3  ความร็สึกแบบใจแป่วมากคืออยากจะบอกว่าไม่มีน่ะแต่เราโกหกไม่ได้หรอกอีกอย่างสงสารแฟน เราเลยบอกว่ามีแฟนแล้ว และหลังจากนั้นนางก็หายไปเลยยย ต่อมาสักพักเรากับแฟนคนนี้ก็เลิกกัน และเราก็พยายามทักนางไปอยู่เรื่อยๆ แต่นางก็คิดกับเราแค่เพื่อนทุกครั้ง จนเราเหนื่อยเลยพอ และเราก็มาคบรุ่นน้องคนนึงคบได้สิบเดือนก็เลิกเพราน้องเจ้าชู้มากแอนตี้ และก็โสดเรื่อยมาจนเค้าดาวน์ตอนม.5 เราก็ตั้งใจมากว่าจะต้องไปเค้าดาวกับนางให้ได้ เลยหน้าด้านโทรไปชวน นางกลับมาจากกทมพอดี เราเป็นคนต่างจังหวัดจ้า นางไปเรียนในรร. แถบภาคกลางซึ่งเป็นช่วงปิดปีใหม่เลยกลับมาบ้านซึ่งนางเองก็ตอบตกลง เรานัดนางไว้ 23.30 นางมาตอน 23.58 เป็นผู้ชายที่ตรงเวลามากๆค่ะ  -..-  จากนั้นเราก็บอกกับนางว่ายังรู้สึกเหมือนเดิมน่ะเออบลาๆ
แต่นางเองก็ยังคงยืนกรานคำว่าเพื่อนกับเรา และในกระเป๋าเสื้อนางก็มีบุหรี่ซึ่งฉันเกลียดคนสูบบุหรี่ฉันเลยปามันทิ้งซะเลยและด่าสั่งสอน และนางก็ไปเที่ยวต่อกับเพื่อนๆ แล้วเกี่ยวอะไรกับเรื่องบุหรี่ไหม ไม่ค่ะ คืออยากเพ้อบ้างไรบ้างแหละแหม่อ่านมาแล้วอ่านต่อนิดหน่อยอย่ามาบ่นเถอะ อย่าเยอะๆ เอ้ยขอโทษค้าาา 555555555 ช่างเป็นชะนีที่เยอะจริงๆ มาเข้าเรื่องต่อดีกว่าจากนั้นเราก็ยังคงตื๊อนางเรื่อยๆมาจนขึ้นม.6   เราไม่ยอมคบใครเลยเพราะเรารู้ดีว่าเรารักเขาแล้วจริง แหม่ ผ่านมาสามปีกว่าไม่รักก็บ้าแล้วคู๊ณ เราเองก็มาถึงจุดๆนึงจนเราพูดว่าเมื่อไรแกจะชอบเราสักที ที่แกไม่ยอมคบเราเป็นเพราะกลัวรักเรามากใช่ไหม
ก.ไก่ : บ้าใครจะไปรักแก
เรา :   งั้นมาลองคุยกันป่ะล้า ถ้าแกไม่ชอบเรา เรายินดีถอย แต่ถ้าแกชอบเราแกต้องยอมรับออกมาว่าชอบเราและต้องรักเราและมีแต่เราคนเดียวในหัวจายของแก คิคิ
ก.ไก่ : ก็ได้ งั้นมาลองคุยกัน

แกคิดว่าฉันรู้สึกยังไงฉันกรี๊ดสิจ๊ะ กรี๊ดดดด <3 <3 <3 <3 <3 <3 <3 <3 สามปีของฉันในที่สุดมันก็ได้บังเกิดความรักครั้งใหม่แล้วกรี๊ดดดดดดดดด จุ๊บๆจุ๊บๆจุ๊บๆจุ๊บๆ  หลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นน่ะจะแห้วหรือมีต้นรักบังเกิดไว้มาเล่าต่อน่ะก้ะ จุ๊บๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่