หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] ลุยเดี่ยว ฝรั่งเศส-สวิส-อิตาลี 16 วัน 8 เมือง และอีกหลายๆ หมู่บ้าน
กระทู้รีวิว
สายการบิน
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
ผมเริ่มวางแผนการเดินทางของทริปนี้ตั้งแต่ปลายปี 2014 ว่าจะไปเที่ยวยุโรปช่วงเดือนมิถุนายน และมองหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก โดยมาได้สายการบิน emirate บิน BKK-Paris-BKK เมื่อตอนต้นเดือน กพ ในราคา 22900 บาท (ซื้อตอน promotion) โดยเดินทางระหว่างวันที่ 8-24 มิถุนายน หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินก็เริ่มวางแผนการเดินทางโดยละเอียดว่าจะไปที่ไหนบ้าง เดินทางอย่างไร พักที่ไหน สรุปแผนการเดินทางได้ดังนี้
Paris-Basel-Interlaken-Zermatt-Zurich-Milan-Rome-Florence-Venice-Paris
จากนั้นก็เริ่มจองที่พัก และซื้อตั๋วรถไฟล่วงหน้าเพราะ การเดินทางทั้งหมดจะใช้รถไฟ โดยที่พักผมจองจาก เวปไซต์ booking.com โดยจะพยายามหาที่พักที่ใกล้กับสถานีรถไฟ ส่วนตั๋วรถไฟ หากจอง 2-3 เดือนล่วงหน้า ก็จะได้ราคาถูก แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนหรือคืนเงินได้ (www.sncf.com สำหรับการเดินทางในฝรั่งเศส และจากฝรั่งเศสมาสวิส, www.sbb.ch สำหรับการเดินทางในสวิส ซึ่งผมซื้อ Swiss Pass จึงใช้เวปนี้เช็คตารางเวลารถไฟ, www.trenitalia.com สำหรับการเดินทางในอิตาลี และ www.thello.com ซึ่งเป็น night train สำหรับการเดินทางจาก Venice ไป Paris
พอรายละเอียดทุกอย่างลงตัวก็มาถึงขั้นตอนการขอวีซ่า ครั้งนี้ผมอยู่ที่อิตาลี นานที่สุด จึงต้องไปขอวีซ่าแชงเก้นที่สถานทูตอิตาลี ซึ่งใช้ VFS Global เป็น agent ในการยื่นเอกสาร ผมไปตอนบ่ายโมงได้คิวที่ 30 แต่กว่าจะได้ยื่นเอกสารปาเข้าไปสี่โมงเย็น (ใช้เวลาตรวจเอกสารแต่ละคนนานมากๆ ) เจ้าหน้าที่เขียนในใบสมัครว่าให้ Single Entry 18 Days หลังจากนั้นอีกประมาณ 4 วัน ก็ได้รับ sms ให้ไปรับได้ พอวันที่ไปรับก็ตกใจเนื่องจากได้วีซ่า 1 ปี Multiple Entry 90 Days เป็นที่อิจฉาของเพื่อนๆ เมื่อรู้ข่าว พอได้วีซ่าก็เริ่มนับถอยหลังวันเดินทางกันเลย
วันที่ 1 Bangkok-Paris-Basel
เนื่องจากไฟลท์ของ emirate ออกประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆพอ check in เสร็จผมก็หาของกินรองท้องก่อนเดินทางที่ lounge ของ Louis Travern โดยใช้สิทธิของบัตรเครดิต Citibank ซึ่งภาพรวมของ lounge อาจสู้ของการบินไทยไม่ได้ แต่ก็ดีกว่านั่งรอเฉยๆ โดยไม่มีอะไรรองท้องเลย (ของฟรี อย่าคิดมาก) พอถึงเวลาขึ้นเครื่องซึ่งเป็นครั้งแรกของผมกับสายการบินนี้ และครั้งแรกกับเครื่อง A380 ใหญ่โตโอ่อ่า ที่ข้างๆ ผมก็ไม่มีคนนั่งเลยเหยียดขาได้ สบายขึ้นไปอีก อาหารก็ดี หนังก็มีให้เลือกดูเยอะมาก
ผมนั่งดู The Hobbit 2 ภาคต่อเนื่องไม่ได้หลับจนถึงสนามบินดูไบ รอเวลาต่อเครื่องอีกประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ขึ้นเครื่องต่อจากดูไปมาปารีส
ระหว่างทางก็หลับ บ้างตื่นบ้างก็ดู The Hobbit ต่อจนมาถึงสนามบินที่ปารีส ตอนสายๆ
พอออกจากสนามบินก็ลากกระเป๋ามานั่งรถไฟเข้าไปตัวเมืองปารีส ผมซื้อตั๋วรถไฟ RER จากตู้ขายตั๋วในราคา 10 ยูโร จากสนามบินมาปารีสที่สถานี Gard de Lyon เพื่อต่อรถไฟไปที่เมือง Basel ประเทศสวิส หลายคนคงสงสัยว่าทำไมผมไม่ลงเครื่องที่สวิสเลย เหตุผลก็คือราคาตั๋วเครื่องบินที่แพงขึ้นอีกหลายพัน และด้วยผมเป็นคนชอบนั่งรถไฟในยุโรปก็เลยยอมเสียเวลามาต่อรถไฟ ระหว่างรอให้ถึงเวลารถไฟ ก็ออกไปเดินเล่นรอบๆ สถานี พร้อมหาน้ำและขนมกิน ช่วงนี้แดดค่อนข้างแรงถึงแม้ว่าอากาศจะเย็นๆ ประมาณ 15-20 องศา พอถึงเวลาผมก็ขึ้นรถไฟ TGV จากปารีส ไป Basel ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ด้วยราคา 39 ยูโร ระหว่างทางก็ดูวิวไปเรื่อยๆ เพลินๆจนถึงสถานี Basel SBB ประมาณ 5 โมงเย็น
ลากกระเป๋ามาที่ Hostel YMCA ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีเลย ระหว่างเช็คอิน พนักงานก็ให้ตั๋วรถ ใช้สำหรับการเดินทางในเมืองฟรีด้วย ผมยังไม่ได้เริ่มใช้ swiss pass จึงเป็นการดีที่ได้ตั๋วนี้มา
ผมจองห้องพักแบบห้องรวม 8 คน ที่พักสะอาดทีเดียว
พอเก็บของเสร็จผมก็ออกเดินทางเที่ยวในเมือง Basel แต่เนื่องจากผมมาถึงก็เย็นแล้ว ก็คงเดินเที่ยวได้ไม่นาน เดินผ่านสถานีรถไฟเดิมก็เลยแวะซื้อ sim card เพื่อใช้ mobile data ได้เพราะผมไม่ได้เปิด data roaming มาเพราะมาเที่ยวหลายวันแพงเกินไป ผมซื้อ sim card ราคา 19.95 CHF 1GB Data คงเหลือเฟือกับการใช้งาน 5 วันที่สวิส
พอซื้อเสร็จก็เดินออกมาจากสถานี มุ่งตรงสู่ MarkPlatz ผ่านน้ำพุที่เป็นสุดยอดผลงานศิลปะของJean Tinguely และ Rathaus ศาลาว่าการสีแดงสด
จากนั้นก็เดินผ่านCoop เลยแวะซื้อน้ำกะสลัดไว้เป็นมื้อค่ำ
เดินต่อมาข้ามสะพาน Mittere Rhienbrucke มาสู่ Careplatz
แล้วก็เดินกลับแวะนั่งกินสลัดริมแม่น้ำชิวๆ แล้วก็ขึ้น กลับมาที่สถานีรถไฟ แล้วก็เดินกลับ hostel ถึงเวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ ก็อาบน้ำเข้านอน หมดไปวันแรกกับการเดินทางที่ยาวนานมาก
ตอน 2
http://pantip.com/topic/34396864
ชื่อสินค้า:
ลุยเดี่ยว ฝรั่งเศส-สวิส-อิตาลี
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
รีวิว รถบัสรอบแรกจากสถานีรถไฟไปสนามบินโหน่ยบ่าย ฮานอย
ตอนก่อนไปฮานอยเราพยายามหาข้อมูลเรื่องรถบัสสาย 86 เที่ยวแรกของวันที่จะรับคนจากสถานีรถไฟไปสนามบินโหน่ยบ่าย เพื่อเตรียมตัวสำหรับเดินทางกลับไทย แต่ข้อมูลที่เจอก็เป็นข้อมูลเก่าเมื่อหลายปีที่แล้ว และภาพบรรย
สมาชิกหมายเลข 1108317
แบ่งปันข้อมูลเที่ยว อเมริกาใต้ 32 วัน ลุยเดี่ยว ช่วง 7/11/2025 - 8/12/2025 เปรู โบลิเวีย ชิลี อาร์เจนติน่า บราซิล
ขอแบ่งปัน และ แชร์ข้อมูล ท่องเที่ยว อเมริกาใต้ 32 วัน เดินทาง ช่วงระหว่าง วันที่ 7/11/68 - 8/12/68 ประเทศที่ไป เปรู โบลิเวีย ชิลี อาร์เจนติน่า บราซิล เตรียมตัว ล่วงหน้า ก่อนเดินทางประมาณ 4 เดือน (
สมาชิกหมายเลข 3208747
251210 - #LISA - ข่าวประจำวัน - เมื่อวานมีแฟนๆ พบลิซ่ากำลังช๊อปปิ้งกับเพื่อนที่ปารีส ฝรั่งเศส
LisaCool
นั่งรถไฟจาก ฮานอย เวียดนาม ไป จีน (หนานหนิง ) รีวิว
สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ผมมาลงข้อมูลประสบการณ์ เนื่องจากจะเดินทางรอบก่อนมีข้อมูลน้อยมาก เลย อยากลงไว้ให้พื่อนๆพี่ๆ ไว้ศึกษาดูข้อมูลครับ เริ่มแรกเลย ตั๋วรถไฟจากเวียดนาม ฮานอย ไป หนานหนิง
สมาชิกหมายเลข 3504748
[วางแผนเที่ยว] ขอคำแนะนำจัดทริปยุโรปเองครั้งแรก! (ฝรั่งเศส/เยอรมัน/สวิส/เบลเยียม/เนเธอร์แลนด์) เน้น Disneyland, Louvre
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Pantip! 🙏 รบกวนขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญการเที่ยวยุโรปด้วยตนเองหน่อยครับ ผมกำลังวางแผนไปเที่ยวยุโรปช่วงปลาย พฤษภาคม 2026 เป็นทริป 12 วันครับ พอดีว่าเคยแต่จัดทริปเองที่ญี่ปุ่น
SarinPoom
ปาดังเบซาร์ เช็ค ตม.แล้วเดินออกมาข้างนอกได้ไหมครับ
สวัสดีครับ ที่สถานีปาดังเบซาร์ฝั่งมาเลเซีย เมื่อผมผ่าน ตม.มาเรียบร้อยแล้ว ช่วงรอต่อรถไฟที่จองไว้อีกนาน ผมสามารถเดินออกมาเดินเที่ยวหาของกิน ร้านอาหาร ร้านค้าตรงชุมชนในรูปได้ไหมครับ และปลอดภัยไหมครับ .
ae BP
ห้าหนุ่มน้อยชวนสามสาวน้อยไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ ตอนที่ 1
ทริปนี้เกิดจาก ตัวตาต้องดูแลยายเกือบตลอดเวลา เลยขอออกไปปล่อยของบ้างปีละ 2 ครั้ง ให้ลูกมาอยู่เวรดูแลแม่แทนชั่วคราว ปกติจะออกทริปครั้งละ 15-20 วัน แต่ห่วงยายครั้งนี้ไปแค่ 12 วัน ตอนจะจองตั๋วเครื่องบิน ก
ห้าสิบกะรัต
รบกวนแนะนำการขอวีซ่าและวางแผนเดินทาง อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี กรีซ ด้วยครับ
ตอนนี้กำลังจะขอวีซ่าครับ เลยมีข้อสงสัยตั๋วเครื่องบินที่ต้องเอาไปยืนยันต้องจองยังไงโดยที่ยังไม่ชำระเงินครับ แล้วฝรั่งเศส อิตาลี กรีซ นี่ใช้เซงเก้นฝรั่งเศสได้เลยใช่ไหมครับ แล้วสถานที่พำนักในต่างประเทศถ้
สมาชิกหมายเลข 2176433
สอบถามวิธีการนั่งรถไฟTGVจากParisไปBasel
1.อยากทราบว่าหากจองตั๋วรถไฟTGV จากParisไปBasel สามารถจองกับเอเจนซี่ในไทย แล้วสามารถใช้ได้เลยหรือเปล่าคะ หรือจะต้องมีพวกEurail pass / Swiss passด้วย (Swiss passตั้งใจจะซื้ออยู่แล้วค่ะ) 2.Swiss pass ต
สมาชิกหมายเลข 3540668
รีวิวทริปเที่ยวโตเกียว-คาวากุจิโกะ-Trekking ปีนเขาฟูจิ-คามาคุระ (7 วัน)
สวัสดีปี 2025 กับทริปญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ของเราสองคน แต่ปีนี้เราจะจัดทริปเดินป่า และเป็นการเดินป่าขึ้นเขาต่างประเทศที่แรกเลยค่ะ มาญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องเดินขึ้นฟูจิซังซะหน่อย ทริปนี้อาจจะยาวสักหน่อยค่ะ เรา
patcha-ผัดฉ่า
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
สายการบิน
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 1
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] ลุยเดี่ยว ฝรั่งเศส-สวิส-อิตาลี 16 วัน 8 เมือง และอีกหลายๆ หมู่บ้าน
Paris-Basel-Interlaken-Zermatt-Zurich-Milan-Rome-Florence-Venice-Paris
จากนั้นก็เริ่มจองที่พัก และซื้อตั๋วรถไฟล่วงหน้าเพราะ การเดินทางทั้งหมดจะใช้รถไฟ โดยที่พักผมจองจาก เวปไซต์ booking.com โดยจะพยายามหาที่พักที่ใกล้กับสถานีรถไฟ ส่วนตั๋วรถไฟ หากจอง 2-3 เดือนล่วงหน้า ก็จะได้ราคาถูก แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนหรือคืนเงินได้ (www.sncf.com สำหรับการเดินทางในฝรั่งเศส และจากฝรั่งเศสมาสวิส, www.sbb.ch สำหรับการเดินทางในสวิส ซึ่งผมซื้อ Swiss Pass จึงใช้เวปนี้เช็คตารางเวลารถไฟ, www.trenitalia.com สำหรับการเดินทางในอิตาลี และ www.thello.com ซึ่งเป็น night train สำหรับการเดินทางจาก Venice ไป Paris
พอรายละเอียดทุกอย่างลงตัวก็มาถึงขั้นตอนการขอวีซ่า ครั้งนี้ผมอยู่ที่อิตาลี นานที่สุด จึงต้องไปขอวีซ่าแชงเก้นที่สถานทูตอิตาลี ซึ่งใช้ VFS Global เป็น agent ในการยื่นเอกสาร ผมไปตอนบ่ายโมงได้คิวที่ 30 แต่กว่าจะได้ยื่นเอกสารปาเข้าไปสี่โมงเย็น (ใช้เวลาตรวจเอกสารแต่ละคนนานมากๆ ) เจ้าหน้าที่เขียนในใบสมัครว่าให้ Single Entry 18 Days หลังจากนั้นอีกประมาณ 4 วัน ก็ได้รับ sms ให้ไปรับได้ พอวันที่ไปรับก็ตกใจเนื่องจากได้วีซ่า 1 ปี Multiple Entry 90 Days เป็นที่อิจฉาของเพื่อนๆ เมื่อรู้ข่าว พอได้วีซ่าก็เริ่มนับถอยหลังวันเดินทางกันเลย
วันที่ 1 Bangkok-Paris-Basel
เนื่องจากไฟลท์ของ emirate ออกประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆพอ check in เสร็จผมก็หาของกินรองท้องก่อนเดินทางที่ lounge ของ Louis Travern โดยใช้สิทธิของบัตรเครดิต Citibank ซึ่งภาพรวมของ lounge อาจสู้ของการบินไทยไม่ได้ แต่ก็ดีกว่านั่งรอเฉยๆ โดยไม่มีอะไรรองท้องเลย (ของฟรี อย่าคิดมาก) พอถึงเวลาขึ้นเครื่องซึ่งเป็นครั้งแรกของผมกับสายการบินนี้ และครั้งแรกกับเครื่อง A380 ใหญ่โตโอ่อ่า ที่ข้างๆ ผมก็ไม่มีคนนั่งเลยเหยียดขาได้ สบายขึ้นไปอีก อาหารก็ดี หนังก็มีให้เลือกดูเยอะมาก
ผมนั่งดู The Hobbit 2 ภาคต่อเนื่องไม่ได้หลับจนถึงสนามบินดูไบ รอเวลาต่อเครื่องอีกประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ขึ้นเครื่องต่อจากดูไปมาปารีส
ระหว่างทางก็หลับ บ้างตื่นบ้างก็ดู The Hobbit ต่อจนมาถึงสนามบินที่ปารีส ตอนสายๆ
พอออกจากสนามบินก็ลากกระเป๋ามานั่งรถไฟเข้าไปตัวเมืองปารีส ผมซื้อตั๋วรถไฟ RER จากตู้ขายตั๋วในราคา 10 ยูโร จากสนามบินมาปารีสที่สถานี Gard de Lyon เพื่อต่อรถไฟไปที่เมือง Basel ประเทศสวิส หลายคนคงสงสัยว่าทำไมผมไม่ลงเครื่องที่สวิสเลย เหตุผลก็คือราคาตั๋วเครื่องบินที่แพงขึ้นอีกหลายพัน และด้วยผมเป็นคนชอบนั่งรถไฟในยุโรปก็เลยยอมเสียเวลามาต่อรถไฟ ระหว่างรอให้ถึงเวลารถไฟ ก็ออกไปเดินเล่นรอบๆ สถานี พร้อมหาน้ำและขนมกิน ช่วงนี้แดดค่อนข้างแรงถึงแม้ว่าอากาศจะเย็นๆ ประมาณ 15-20 องศา พอถึงเวลาผมก็ขึ้นรถไฟ TGV จากปารีส ไป Basel ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ด้วยราคา 39 ยูโร ระหว่างทางก็ดูวิวไปเรื่อยๆ เพลินๆจนถึงสถานี Basel SBB ประมาณ 5 โมงเย็น
ลากกระเป๋ามาที่ Hostel YMCA ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีเลย ระหว่างเช็คอิน พนักงานก็ให้ตั๋วรถ ใช้สำหรับการเดินทางในเมืองฟรีด้วย ผมยังไม่ได้เริ่มใช้ swiss pass จึงเป็นการดีที่ได้ตั๋วนี้มา
ผมจองห้องพักแบบห้องรวม 8 คน ที่พักสะอาดทีเดียว
พอเก็บของเสร็จผมก็ออกเดินทางเที่ยวในเมือง Basel แต่เนื่องจากผมมาถึงก็เย็นแล้ว ก็คงเดินเที่ยวได้ไม่นาน เดินผ่านสถานีรถไฟเดิมก็เลยแวะซื้อ sim card เพื่อใช้ mobile data ได้เพราะผมไม่ได้เปิด data roaming มาเพราะมาเที่ยวหลายวันแพงเกินไป ผมซื้อ sim card ราคา 19.95 CHF 1GB Data คงเหลือเฟือกับการใช้งาน 5 วันที่สวิส
พอซื้อเสร็จก็เดินออกมาจากสถานี มุ่งตรงสู่ MarkPlatz ผ่านน้ำพุที่เป็นสุดยอดผลงานศิลปะของJean Tinguely และ Rathaus ศาลาว่าการสีแดงสด
จากนั้นก็เดินผ่านCoop เลยแวะซื้อน้ำกะสลัดไว้เป็นมื้อค่ำ
เดินต่อมาข้ามสะพาน Mittere Rhienbrucke มาสู่ Careplatz
แล้วก็เดินกลับแวะนั่งกินสลัดริมแม่น้ำชิวๆ แล้วก็ขึ้น กลับมาที่สถานีรถไฟ แล้วก็เดินกลับ hostel ถึงเวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ ก็อาบน้ำเข้านอน หมดไปวันแรกกับการเดินทางที่ยาวนานมาก
ตอน 2 http://pantip.com/topic/34396864