แรงบันดาลใจ ให้อะไรหลายๆอย่างกับชีวิตเรา 1 ชีวิตที่ลืมตาขึ้นมา คุณรู้มั้ย มันเป็นเหมือนแรงผลักดัน ให้เราต้องรู้จักรับผิดชอบชีวิตเค้า ดูแลเทคแคร์เอาใจใส่ วางแผนอนาคตเพื่อให้เขาได้รับสิ่งที่ผมคิดว่าดีที่สุดสำหรับเขา ผมมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง..
................ตอนเด็กๆผมเป็นคนชอบคุยชอบถามแม่ ทำแบบนี้ไม่ดียังไง ทำไมเราต้องทำงาน แม่อิ่มหรอกินข้าวแค่นี้ ผมเชื่อมาตลอดเลยว่าสิ่งที่ท่านบอกมันคือความจริง
จนเมื่อผมโตขึ้นก็รู้ว่า แม่จ๋า แม่คงเหนื่อยมากเลยใช่ไหม ผมจะดูแลแม่ยังไงดี ให้แม่ไม่ลำบาก แม่ผมตอบเพียงสั้นๆครับว่า ถึงแม่จะลำบากกายแต่แม่ไม่ลำบากใจเลยเพราะลูกแม่เป็นคนดี แม่เหนื่อยแต่แม่ก็มีความสุข ลูกคือความภาคภูมิใจของแม่นะ จากคำพูดของแม่ในตอนนั้น เหมือนเป็นแรงผลักดันให้ผมก้าวมาจนถึงตอนนี้ ตอนฝึกนอนดึกโดนกดดันทางจิตใจ บางทีผมก็โทรไปเล่าให้แม่ฟัง เหมือนเราได้เติมพลังใจ หลังพูดคุยกับแม่ก็มีกำลังใจสู้ต่อครับ ตอนนี้ครอบครัวผมสบายขึ้นกว่าแต่ก่อน แม่ไม่ลำบากแล้ว แต่แม่บ่นว่าคิดถึงลูกชาย ไม่ค่อยได้กลับบ้าน มาแต่ละครั้งแม่จะมีของโปรดหลายเมนูไว้เสมอ กำลังใจตอนนี้ดีมาก รู้สึกว่าแค่มีแม่ก็ไม่ต้องการผู้หญิงคนไหนแล้ว แม้จะคิดแบบนั้น แม่ก็มักถามถึงเสมอว่าอนาคตจะวางแผนครอบครัวยังไง นี่แหละคือสิ่งที่ผมกังวล การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ครับ ไม่ว่าสำหรับผู้ชายหรือผู้หญิง หากวันนึงลูกมีลูก ก็จะเข้าใจว่าทำไม แม่ถึงคอยห้ามเรื่องต่างๆ และทำไมแม่ไม่กล้าใช้เงิน คอยเก็บออมไว้ให้ลูกเรียน ลูกจะได้มีต้นทุนชีวิตที่ดี ผมคิดมาตลอดว่าเรื่องครอบครัวเป็นหน้าที่ของฝ่ายหญิง เรามีหน้าที่หาอย่างเดียว แต่ความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้น ชีวิตคู่เราไม่ได้แบ่งหน้าที่ว่าอันนี้คุณต้องรับไป แต่เราต้องช่วยกัน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าชีวิตคู่ รับรู้และตระหนักเสมอ ประคับประคองกันไป ค่อยๆสร้างอย่างมั่นคง ไอ้ตัวเล็กที่เกิดมา จะได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ คิดไว้เยอะเหมือนกันนะ แต่ทำไมผู้หญิงถึงชอบบอกว่า ผู้ชายมันไม่ค่อยคิดหรอก ไม่เคยรับรู้หรอก มาเหมารวมแบบนี้ มันก็น่าน้อยใจนะ แต่เอาเถอะ เราเจอมาไม่เหมือนกัน ผมรับรู้ความเหน็ดเหนื่อยของแม่ในการรับภาระของครอบครัว ".........เข้าใจครับว่าเกิดเป็นผู้หญิงมันเหนื่อย ก็มาช่วยแบ่งเบาแล้วนี่ไง พวกคุณไม่เห็นจริงๆหรอ ผู้ชายที่คิดแบบนี้ ยังไม่ตายหมดโลก แถมยังโสดด้วย "
#เง้ออออออ จบครับจบ 55555
อย่าว่าแต่ผู้หญิงเลย...เรื่องนี้ผู้ชายก็คิดเหมือนกัน
................ตอนเด็กๆผมเป็นคนชอบคุยชอบถามแม่ ทำแบบนี้ไม่ดียังไง ทำไมเราต้องทำงาน แม่อิ่มหรอกินข้าวแค่นี้ ผมเชื่อมาตลอดเลยว่าสิ่งที่ท่านบอกมันคือความจริง
จนเมื่อผมโตขึ้นก็รู้ว่า แม่จ๋า แม่คงเหนื่อยมากเลยใช่ไหม ผมจะดูแลแม่ยังไงดี ให้แม่ไม่ลำบาก แม่ผมตอบเพียงสั้นๆครับว่า ถึงแม่จะลำบากกายแต่แม่ไม่ลำบากใจเลยเพราะลูกแม่เป็นคนดี แม่เหนื่อยแต่แม่ก็มีความสุข ลูกคือความภาคภูมิใจของแม่นะ จากคำพูดของแม่ในตอนนั้น เหมือนเป็นแรงผลักดันให้ผมก้าวมาจนถึงตอนนี้ ตอนฝึกนอนดึกโดนกดดันทางจิตใจ บางทีผมก็โทรไปเล่าให้แม่ฟัง เหมือนเราได้เติมพลังใจ หลังพูดคุยกับแม่ก็มีกำลังใจสู้ต่อครับ ตอนนี้ครอบครัวผมสบายขึ้นกว่าแต่ก่อน แม่ไม่ลำบากแล้ว แต่แม่บ่นว่าคิดถึงลูกชาย ไม่ค่อยได้กลับบ้าน มาแต่ละครั้งแม่จะมีของโปรดหลายเมนูไว้เสมอ กำลังใจตอนนี้ดีมาก รู้สึกว่าแค่มีแม่ก็ไม่ต้องการผู้หญิงคนไหนแล้ว แม้จะคิดแบบนั้น แม่ก็มักถามถึงเสมอว่าอนาคตจะวางแผนครอบครัวยังไง นี่แหละคือสิ่งที่ผมกังวล การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ครับ ไม่ว่าสำหรับผู้ชายหรือผู้หญิง หากวันนึงลูกมีลูก ก็จะเข้าใจว่าทำไม แม่ถึงคอยห้ามเรื่องต่างๆ และทำไมแม่ไม่กล้าใช้เงิน คอยเก็บออมไว้ให้ลูกเรียน ลูกจะได้มีต้นทุนชีวิตที่ดี ผมคิดมาตลอดว่าเรื่องครอบครัวเป็นหน้าที่ของฝ่ายหญิง เรามีหน้าที่หาอย่างเดียว แต่ความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้น ชีวิตคู่เราไม่ได้แบ่งหน้าที่ว่าอันนี้คุณต้องรับไป แต่เราต้องช่วยกัน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าชีวิตคู่ รับรู้และตระหนักเสมอ ประคับประคองกันไป ค่อยๆสร้างอย่างมั่นคง ไอ้ตัวเล็กที่เกิดมา จะได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ คิดไว้เยอะเหมือนกันนะ แต่ทำไมผู้หญิงถึงชอบบอกว่า ผู้ชายมันไม่ค่อยคิดหรอก ไม่เคยรับรู้หรอก มาเหมารวมแบบนี้ มันก็น่าน้อยใจนะ แต่เอาเถอะ เราเจอมาไม่เหมือนกัน ผมรับรู้ความเหน็ดเหนื่อยของแม่ในการรับภาระของครอบครัว ".........เข้าใจครับว่าเกิดเป็นผู้หญิงมันเหนื่อย ก็มาช่วยแบ่งเบาแล้วนี่ไง พวกคุณไม่เห็นจริงๆหรอ ผู้ชายที่คิดแบบนี้ ยังไม่ตายหมดโลก แถมยังโสดด้วย " #เง้ออออออ จบครับจบ 55555