สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแนะนำหนังสือหนึ่งเล่มนะคะ อันนี้เป็นกระทู้แรกของเรา ถ้าผิดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
หากย้อนไปเมื่อปี 2555 คงมีคนจำชื่อ นายอำพล ตั้งนพคุณ ได้ ที่เป็นข่าวใหญ่ เกี่ยวกับ sms ลบหลู่ หมิ่นสถาบัน ตอนแรกเราได้อ่านข่าวเราก็คิดว่า คำแก้ตัวแค่นี้ใครๆก็พูดออกมาได้โกหกเพื่อเอาตัวรอดชัดๆ เอาความแก่มาเรียกคะแนนสงสารไม่ได้หรอกนะ แต่หลังจากเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2558 เราได้ไปเดินงานหนังสือที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ ได้พบกับบูธหนึ่ง ซึ่งคนไม่เยอะมาก เราเดินไปดูหนังสือเล่มนึงที่เราสนใจ เปิดอ่านไป ก็วางลงที่เดิม แต่สายตาพลันไปมองเห็นหนังสือหน้าปกสีขาวเล่มนึง ที่เขียนด้วยอักษรที่เทาว่า “รักเอย”
มันเป็นหนังสือปกสีขาวล้วน ด้านหลังก็ปกสีขาวล้วน หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ไม่ค่อยมีใครสนใจสักเท่าไร แต่มันกลับดึงดูให้เราหยิบมันขึ้นมาแล้วจ่ายตังค์ เช้าวันที่ 31 ตุลาคม 2558 เราได้ตื่นมาแต่เช้าแล้วหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หนังสือเล่มนี้ถูกเล่าด้วยภรรยาของนายอำพล เริ่มตั้งแต่จีบกัน แต่งงาน มีลูก หลาน เหลน จนกระทั่งอากง (นายอำพล) ถูกจับ หนังสือดำเนินเรื่องไปอย่างช้าๆ แต่บอกความรู้สึกเศร้าของเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีในเล่มนี้มีเล่าเรื่องราวอีกแง่มุมซึ่งแตกต่างจากข่าวออกเป็นอย่างมาก
คุณอำพล และภรรยาคุณรสมาลิน
คุณรสมาลิน ตั้งนพคุณ เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง และเข้มแข็งที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ผ่านเรื่องราวไม่ว่าจะดีหรือร้ายมากับอากงเกือบ 50 ปี พอเสียอากงไปเขาก็ยังคงเข้มแข็ง เลี้ยงลูกหลานจนเติบโต แรกๆหลานเขามักจะบอกกับเขาเสมอว่าคิดถึงอากง คุณรสมาลินเป็นผู้หญิงที่นิสัยดี เพราะหลังจากอากงได้เสียชีวิตแล้ว คุณรสมาลิน ยังคงไปเยี่ยมเพื่อนๆของอากงในเรือนจำเสมอ ทุกครั้งที่ไปเขามักจะเห็นเหมือนอากงเดินไปเดินมาอยู่ในเรือนจำเสมอ ลูก หลาน เหลน ของอากงนั้นรักอากงมาก และหนังสือเล่มนี้ก็บอกอะไรได้หลายๆอย่างเหมือนกัน เช่น จดหมายที่เพื่อนของอากงเขียนให้อากง ในเนื้อความจดหมาย บอกความเป็นอยู่ของนักโทษที่ป่วยในเรือนจำได้เป็นอย่าดี และยังเล่าถึงมิตรภาพของพวกเขาที่อยู่ในเรือนจำด้วยกัน เราไม่ได้เขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อปลุกใจ แต่อยากให้ลองอ่านอีกแง่นึงที่ไม่ใช่ข่าว แต่เป็นคนข้างตัวของอากงที่เป็นคนเล่าเรื่องราวผ่านตัวหนังสือให้ทุกคนได้อ่าน
สุดท้ายนี้ขอจากกันไปด้วย กลอนที่คุณรสมาลิน ตั้งนพคุณ แต่งอธิบายความรู้สึกเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2554 หลังศาลตัดสินจำคุกอากง 20 ปี
“ ดังเรือน้อยลอยไปไร้ทิศทาง มองสองข้างเห็นฝั่งไม่
แหงนดูฟ้ากว้างยิ่งห่างไกล ยังไม่เห็นจุดหมายที่ปลายทาง
เจอมรสุมคลุ้มคลั่งดีงทะเลโหด สุดเดี่ยวโดดน้ำตาหลั่งเป็นสาย
ต้องซบหน้าสะอื้นยืนเดียวดาย โลกนี้ช่างร้ายร้ายสุดทน
จะมีไหมใครหนามาฉุดช่วย ส่องแสงด้วยกรุณานำพาผล
ให้ทุกข์มอดม้วยบุญช่วยมาดล ให้หลุดพ้นอยู่รอดตลอดไป “
รอยยิ้มของอากงและหลานสาว
จดหมายของหลานๆที่เขียนให้อากงผู้เป็นที่รักของพวกเขา
จดหมายจากภรรยาเขียนถึงสามีอันเป็นที่รัก
หนังสือเล่มนี้สอนให้เด็กอายุ 15 อย่างเราได้รู้ว่า “ การจะรับรู้สิ่งใดหรือเรื่องราวใดๆไม่ควรฟังเพียงข้างเดียว อาจจะมีบางมุมที่เรายังไม่รู้ก็เป็นได้ “
ขอไว้อาลัยให้คุณอำพล ตั้งนพคุณ ไปสู่สุคติ และภพภูมิที่ดี
หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่สละเวลาเข้ามาอ่านกระทู้นี้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
ขอลาไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ
หนังสือรูปเล่มที่ไม่น่าสนใจ แต่กลับเล่าเรื่องราวอีกด้านของข่าวได้เป็นอย่างดี
หากย้อนไปเมื่อปี 2555 คงมีคนจำชื่อ นายอำพล ตั้งนพคุณ ได้ ที่เป็นข่าวใหญ่ เกี่ยวกับ sms ลบหลู่ หมิ่นสถาบัน ตอนแรกเราได้อ่านข่าวเราก็คิดว่า คำแก้ตัวแค่นี้ใครๆก็พูดออกมาได้โกหกเพื่อเอาตัวรอดชัดๆ เอาความแก่มาเรียกคะแนนสงสารไม่ได้หรอกนะ แต่หลังจากเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2558 เราได้ไปเดินงานหนังสือที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ ได้พบกับบูธหนึ่ง ซึ่งคนไม่เยอะมาก เราเดินไปดูหนังสือเล่มนึงที่เราสนใจ เปิดอ่านไป ก็วางลงที่เดิม แต่สายตาพลันไปมองเห็นหนังสือหน้าปกสีขาวเล่มนึง ที่เขียนด้วยอักษรที่เทาว่า “รักเอย”
มันเป็นหนังสือปกสีขาวล้วน ด้านหลังก็ปกสีขาวล้วน หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ไม่ค่อยมีใครสนใจสักเท่าไร แต่มันกลับดึงดูให้เราหยิบมันขึ้นมาแล้วจ่ายตังค์ เช้าวันที่ 31 ตุลาคม 2558 เราได้ตื่นมาแต่เช้าแล้วหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หนังสือเล่มนี้ถูกเล่าด้วยภรรยาของนายอำพล เริ่มตั้งแต่จีบกัน แต่งงาน มีลูก หลาน เหลน จนกระทั่งอากง (นายอำพล) ถูกจับ หนังสือดำเนินเรื่องไปอย่างช้าๆ แต่บอกความรู้สึกเศร้าของเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีในเล่มนี้มีเล่าเรื่องราวอีกแง่มุมซึ่งแตกต่างจากข่าวออกเป็นอย่างมาก
คุณรสมาลิน ตั้งนพคุณ เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง และเข้มแข็งที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ผ่านเรื่องราวไม่ว่าจะดีหรือร้ายมากับอากงเกือบ 50 ปี พอเสียอากงไปเขาก็ยังคงเข้มแข็ง เลี้ยงลูกหลานจนเติบโต แรกๆหลานเขามักจะบอกกับเขาเสมอว่าคิดถึงอากง คุณรสมาลินเป็นผู้หญิงที่นิสัยดี เพราะหลังจากอากงได้เสียชีวิตแล้ว คุณรสมาลิน ยังคงไปเยี่ยมเพื่อนๆของอากงในเรือนจำเสมอ ทุกครั้งที่ไปเขามักจะเห็นเหมือนอากงเดินไปเดินมาอยู่ในเรือนจำเสมอ ลูก หลาน เหลน ของอากงนั้นรักอากงมาก และหนังสือเล่มนี้ก็บอกอะไรได้หลายๆอย่างเหมือนกัน เช่น จดหมายที่เพื่อนของอากงเขียนให้อากง ในเนื้อความจดหมาย บอกความเป็นอยู่ของนักโทษที่ป่วยในเรือนจำได้เป็นอย่าดี และยังเล่าถึงมิตรภาพของพวกเขาที่อยู่ในเรือนจำด้วยกัน เราไม่ได้เขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อปลุกใจ แต่อยากให้ลองอ่านอีกแง่นึงที่ไม่ใช่ข่าว แต่เป็นคนข้างตัวของอากงที่เป็นคนเล่าเรื่องราวผ่านตัวหนังสือให้ทุกคนได้อ่าน
สุดท้ายนี้ขอจากกันไปด้วย กลอนที่คุณรสมาลิน ตั้งนพคุณ แต่งอธิบายความรู้สึกเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2554 หลังศาลตัดสินจำคุกอากง 20 ปี
แหงนดูฟ้ากว้างยิ่งห่างไกล ยังไม่เห็นจุดหมายที่ปลายทาง
เจอมรสุมคลุ้มคลั่งดีงทะเลโหด สุดเดี่ยวโดดน้ำตาหลั่งเป็นสาย
ต้องซบหน้าสะอื้นยืนเดียวดาย โลกนี้ช่างร้ายร้ายสุดทน
จะมีไหมใครหนามาฉุดช่วย ส่องแสงด้วยกรุณานำพาผล
ให้ทุกข์มอดม้วยบุญช่วยมาดล ให้หลุดพ้นอยู่รอดตลอดไป “