มาฟังเรื่องของผมกันหน่อยคับ ขอแทนตัวเองว่า อ. น่ะคับ แทนน้องว่า ม. เรารู้จักกันมาสามปีแล้วคับ
ผมชอบน้องคนหนึ่งไม่สวย ไม่น่ารัก แต่อยู่ด้วยแล้วสนุก ผมชอบนิสัยน้องเค้า ผมทำทุกอย่างแต่น้องเขาไม่โต้ตอบอะไรใดๆเลยควรทำยังไงดี
เราเรียนเอกเดียวกัน ผมอยู่ปีสี่ ม. อยู่ปีสาม จริงๆเราไม่ได้สนิทกันเลย เราเจอ ม. เขาที่ตึกเอก ม. ก็จะแค่ยกมือไหว้เราแล้วก็เดินไปเลย ตอนน้องอยู่ปีหนึ่ง ผมหมั่นใส้ ม. มาก เพราะดูหยิ่งๆ ไม่ค่อยเข้าหารุ่นพี่ ให้ทำอะไรก็ไม่ค่อยทำ ตอนมาสัมภาษณ์ เข้ามหาลัยทุกคนคุยเล่นกับรุ่นพี่ทุกคน ยกเว้น ม. เขาคนเดียว เขามากับเพื่อนเขา เพื่อนผมเข้าไปคุยด้วยตอนเพื่อน ม. ไปไหนไม่รู้ ม. ก็แค่ยิ้มให้แล้วเล่นเกมในโทรศัพท์ ม. เขามีหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวของเขาทำให้ใครเห็นก็จำได้ ผมและเพื่อนๆ เลยชอบสั่งให้ทำโน้นทำนี่แบบแปลก แต่อันไหนที่ ม. อยากทำ ม. ก็จะทำ อันไหน ไม่อยากทำ ม.ก็จะไม่ทำเลย จน ม. อยู่ปีสอง ต้องมารับน้องเอง ผมและเพื่อนๆ ก็สังเกตุ ม. ว่าจะไม่เข้ามาดูน้อง จะยืนดูอยู่ไกลๆ จนผมและเพื่อนๆ ทนไม่ไหว ผมเลยเดินเข้าไปถามว่าทำไม ไม่มาดูน้องไกล ไม่เห็นหรอเพื่อนเขาก็อยู่นี่หมด ม. ก็ตอบมาว่า " ยืนอยู่ใกล้ๆ มันก็เห็นแค่นั้น แต่ถ้าอยู่ไกลๆ แบบนี้มันจะเห็นอะไรมากกว่าแค่น้อง มันได้เห็นถึง ความสัมพันธ์ ความสามัคคี ความทุ่มเท ที่ทุกคนมีให้แก่กัน " พอผมกับเพื่อนได้ยินคำตอบถึงกับไปต่อไม่เป็นเลย ตั้งแต่นั้นพวกผมก็นั่งดูน้องอยู่ไกลๆ
เหตุการณ์ต่อมาที่ทำให้ประทับใจ ม. ก็คือ ตอนช่วงก่อนแข่งเชียร์เป็นช่วงที่น้องๆ ปีหนึ่งต้องซ้อมกันหนักมาก แล้วอยู่ดีๆ มีน้องคนนึงล้มลงแล้วนอนชักอยู่ที่พื้น ทุกคนทุกใจมาก แล้ว ม. ก็วิ่งมาจากด้านหลัง แล้วเข้ามาช่วยตะโกนบอกให้ทุกคนถอยออกและนั่งลง ให้โทรเรียกรถโรงพยาบาล มานวดน้อง ปลดกระดุมให้น้อง อยู่กับน้องจนรถโรงพยาบาลมา ทำให้วันนั้นมีแต่คนชม ม. รวมถึงผมด้วย
หลังจากนั้นเพื่อนสนิทผม เรียกมันว่า น. หละกัน น.ก็มาชวนผมไปเลี้ยงสายรหัสมันที่ร้านคาราโอเกะ ผมก็ตอบตกลงไปเพราะผมเอาสายหรัสผมไปด้วย
ผม ไอ น. แฟน ไอน. มารถผม พร้อมกัน มาก่อนน้องๆ ไม่นานก็มาครบ พวกเราก็สั่งอาหารมากินกัน พออาหารมา อยู่ดีๆ ไอ น. ก็เดินออกไปข้างนอกห้อง แล้วกลับมาพร้อม ม. ซึ่งผมก็รู้ว่า ม. เป็นน้องรหัสของใคร ก็เลยถามว่ามาทำไม ไอ น. ก็บอกว่า ม. เป็นน้องเทคมัน ก็เลยมาด้วยทุกคนสนุกมาก ยกเว้น ม. ผมเลยเข้าไปถามว่าไม่สนุกหรอ ม. ก็บอกว่า ไม่ชอบเสียงดังคนเยอะๆ ผมก็เลยนั่งคุยกับ ม. แต่เหมือน ม. ไม่ค่อยอยากคุยด้วย นั่งเล่นโทรศัพท์อย่างเดียวเลย ถามคำตอบคำ พอกินเลี้ยงเสร็จ พวกผมมาเจอ ม. เดินอยู่หน้าร้าน เลยจอดถามจะไปส่ง แต่ ม. ก็ปฎิเสธ บอกหอเพื่อนอยู่แค่ข้างนี้ ไปเองได้
พอผม เจอ ม. อีกรอบที่ตึกเอก ก็ให้ ม. แอดเฟสบุ้คมา เพราะเฟสบุ้คผมแอดใครไม่ได้ไม่รู้เป็นว่าเพราะอะไร ผ่านไปประมาณสามสี่วัน ม.ก็ไม่แอดเฟสบุ้คมา ผมเลยไปถามว่าทำไมไม่แอดผมมา ม.ก็ตอบว่า ไม่เห็นเฟสบุ้ค เลยไม่แอดไป ผมก็บอกให้ ม. ไปขอเพื่อน ม. จนผมเลิกเรียน ม.ก็ยังไม่แอดมา ผมไปเจอ ม. ลงมาจากตึกเอกพอดี เลยเข้าขอไลน์ ม. ม. บอกจำไอดีไม่ได้ ผมเลยขอเบอร์โทร ม. มา แล้วแอดไลน์ไป ตอนคุยไลน์เราก็คุยปกติน่ะ ไม่ได้มีอะไรมาก เหมือนคุยกับเพื่อนปกติเลย
เราไม่เคยไม่ไหนมาไหนกันสองคน หรือคุยกันสองต่อสองเลย จนวันที่ผมหนีเพื่อนไปนั่งทำงานที่ร้านกาแฟ ผมก็สั่งกาแฟมากิน แล้วมองไปเห็น ม .นั่งวาดรูปอยู่ใส่หูฟังแบบตั้งใจทำมาก เลยไม่กล้าเข้าไปกวน ม. ผมเลยถ่ายรูปแล้วส่งไปแกล้ง ม. พอเห็นไลน์ ม. หันซ้าย หันขวาใหญ่เลย ผมเลยเดินไปหา ม. ผมเลยถาม ม. ว่าทำไมมาคนเดียว ม. บอกอยากมานั่งทำงานเงียบๆ คนเดียว ผมก็บอกไปว่าเหมือนกันเลย แล้ว ม. ก็ถามว่า จะลุกไปตอนไหนจะทำงานต่อ ตอนนั้นผมจุกมาก ไม่ได้ไล่โดยตรงแต่จุกมากจริงๆ พอผมกำลังลุก ม. ก็หัวเราะ แล้วบอกว่า ล้อเล่นไม่คิดว่าจะลุกไปจริงๆ ผมก็นั่งทำงานกับ ม. ม. เป็นคนวาดรูปไม่เก่งพอเขาว่าได้ปุปเขาก็จะถามว่าควรเพิ่มตรงไหนอีกไหม หรือควรลดอะไรอีก แบบตลกมาก จนผมคิดว่าคิดถูกหรือคิดผิดเนี้ยที่ทัก ม. ไป แต่ก็สนุกดีน่ะ เหมือนเราได้ซ้อมเป็นครูมาสอนเด็กเลย พอ ม. จะกลับผมก็เลยจะไปส่ง ม.บอกไม่เป็นไรเพราะ เขาไม่ได้พักแถวมหาลัย เขาพักในเมือง ผมก็บอกว่าจะไปลานย่าพอดีเดี๋ยวแวะไปส่ง พอมาถึงหอ ม. ผมก็บอก ม.ไปว่าคราวหน้าถ้าจะไปร้านไหนทักชวนพี่ได้น่ะ ม. ก็ตอบมาว่า โอเค
นั่นคือจุดเริ่มต้นของผม กับม.
ทำยังไงให้เขารู้ว่าเราจีบเขา หรือถ้าเขารู้แล้วเราควรทำยังไงต่อดี
เราเรียนเอกเดียวกัน ผมอยู่ปีสี่ ม. อยู่ปีสาม จริงๆเราไม่ได้สนิทกันเลย เราเจอ ม. เขาที่ตึกเอก ม. ก็จะแค่ยกมือไหว้เราแล้วก็เดินไปเลย ตอนน้องอยู่ปีหนึ่ง ผมหมั่นใส้ ม. มาก เพราะดูหยิ่งๆ ไม่ค่อยเข้าหารุ่นพี่ ให้ทำอะไรก็ไม่ค่อยทำ ตอนมาสัมภาษณ์ เข้ามหาลัยทุกคนคุยเล่นกับรุ่นพี่ทุกคน ยกเว้น ม. เขาคนเดียว เขามากับเพื่อนเขา เพื่อนผมเข้าไปคุยด้วยตอนเพื่อน ม. ไปไหนไม่รู้ ม. ก็แค่ยิ้มให้แล้วเล่นเกมในโทรศัพท์ ม. เขามีหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวของเขาทำให้ใครเห็นก็จำได้ ผมและเพื่อนๆ เลยชอบสั่งให้ทำโน้นทำนี่แบบแปลก แต่อันไหนที่ ม. อยากทำ ม. ก็จะทำ อันไหน ไม่อยากทำ ม.ก็จะไม่ทำเลย จน ม. อยู่ปีสอง ต้องมารับน้องเอง ผมและเพื่อนๆ ก็สังเกตุ ม. ว่าจะไม่เข้ามาดูน้อง จะยืนดูอยู่ไกลๆ จนผมและเพื่อนๆ ทนไม่ไหว ผมเลยเดินเข้าไปถามว่าทำไม ไม่มาดูน้องไกล ไม่เห็นหรอเพื่อนเขาก็อยู่นี่หมด ม. ก็ตอบมาว่า " ยืนอยู่ใกล้ๆ มันก็เห็นแค่นั้น แต่ถ้าอยู่ไกลๆ แบบนี้มันจะเห็นอะไรมากกว่าแค่น้อง มันได้เห็นถึง ความสัมพันธ์ ความสามัคคี ความทุ่มเท ที่ทุกคนมีให้แก่กัน " พอผมกับเพื่อนได้ยินคำตอบถึงกับไปต่อไม่เป็นเลย ตั้งแต่นั้นพวกผมก็นั่งดูน้องอยู่ไกลๆ
เหตุการณ์ต่อมาที่ทำให้ประทับใจ ม. ก็คือ ตอนช่วงก่อนแข่งเชียร์เป็นช่วงที่น้องๆ ปีหนึ่งต้องซ้อมกันหนักมาก แล้วอยู่ดีๆ มีน้องคนนึงล้มลงแล้วนอนชักอยู่ที่พื้น ทุกคนทุกใจมาก แล้ว ม. ก็วิ่งมาจากด้านหลัง แล้วเข้ามาช่วยตะโกนบอกให้ทุกคนถอยออกและนั่งลง ให้โทรเรียกรถโรงพยาบาล มานวดน้อง ปลดกระดุมให้น้อง อยู่กับน้องจนรถโรงพยาบาลมา ทำให้วันนั้นมีแต่คนชม ม. รวมถึงผมด้วย
หลังจากนั้นเพื่อนสนิทผม เรียกมันว่า น. หละกัน น.ก็มาชวนผมไปเลี้ยงสายรหัสมันที่ร้านคาราโอเกะ ผมก็ตอบตกลงไปเพราะผมเอาสายหรัสผมไปด้วย
ผม ไอ น. แฟน ไอน. มารถผม พร้อมกัน มาก่อนน้องๆ ไม่นานก็มาครบ พวกเราก็สั่งอาหารมากินกัน พออาหารมา อยู่ดีๆ ไอ น. ก็เดินออกไปข้างนอกห้อง แล้วกลับมาพร้อม ม. ซึ่งผมก็รู้ว่า ม. เป็นน้องรหัสของใคร ก็เลยถามว่ามาทำไม ไอ น. ก็บอกว่า ม. เป็นน้องเทคมัน ก็เลยมาด้วยทุกคนสนุกมาก ยกเว้น ม. ผมเลยเข้าไปถามว่าไม่สนุกหรอ ม. ก็บอกว่า ไม่ชอบเสียงดังคนเยอะๆ ผมก็เลยนั่งคุยกับ ม. แต่เหมือน ม. ไม่ค่อยอยากคุยด้วย นั่งเล่นโทรศัพท์อย่างเดียวเลย ถามคำตอบคำ พอกินเลี้ยงเสร็จ พวกผมมาเจอ ม. เดินอยู่หน้าร้าน เลยจอดถามจะไปส่ง แต่ ม. ก็ปฎิเสธ บอกหอเพื่อนอยู่แค่ข้างนี้ ไปเองได้
พอผม เจอ ม. อีกรอบที่ตึกเอก ก็ให้ ม. แอดเฟสบุ้คมา เพราะเฟสบุ้คผมแอดใครไม่ได้ไม่รู้เป็นว่าเพราะอะไร ผ่านไปประมาณสามสี่วัน ม.ก็ไม่แอดเฟสบุ้คมา ผมเลยไปถามว่าทำไมไม่แอดผมมา ม.ก็ตอบว่า ไม่เห็นเฟสบุ้ค เลยไม่แอดไป ผมก็บอกให้ ม. ไปขอเพื่อน ม. จนผมเลิกเรียน ม.ก็ยังไม่แอดมา ผมไปเจอ ม. ลงมาจากตึกเอกพอดี เลยเข้าขอไลน์ ม. ม. บอกจำไอดีไม่ได้ ผมเลยขอเบอร์โทร ม. มา แล้วแอดไลน์ไป ตอนคุยไลน์เราก็คุยปกติน่ะ ไม่ได้มีอะไรมาก เหมือนคุยกับเพื่อนปกติเลย
เราไม่เคยไม่ไหนมาไหนกันสองคน หรือคุยกันสองต่อสองเลย จนวันที่ผมหนีเพื่อนไปนั่งทำงานที่ร้านกาแฟ ผมก็สั่งกาแฟมากิน แล้วมองไปเห็น ม .นั่งวาดรูปอยู่ใส่หูฟังแบบตั้งใจทำมาก เลยไม่กล้าเข้าไปกวน ม. ผมเลยถ่ายรูปแล้วส่งไปแกล้ง ม. พอเห็นไลน์ ม. หันซ้าย หันขวาใหญ่เลย ผมเลยเดินไปหา ม. ผมเลยถาม ม. ว่าทำไมมาคนเดียว ม. บอกอยากมานั่งทำงานเงียบๆ คนเดียว ผมก็บอกไปว่าเหมือนกันเลย แล้ว ม. ก็ถามว่า จะลุกไปตอนไหนจะทำงานต่อ ตอนนั้นผมจุกมาก ไม่ได้ไล่โดยตรงแต่จุกมากจริงๆ พอผมกำลังลุก ม. ก็หัวเราะ แล้วบอกว่า ล้อเล่นไม่คิดว่าจะลุกไปจริงๆ ผมก็นั่งทำงานกับ ม. ม. เป็นคนวาดรูปไม่เก่งพอเขาว่าได้ปุปเขาก็จะถามว่าควรเพิ่มตรงไหนอีกไหม หรือควรลดอะไรอีก แบบตลกมาก จนผมคิดว่าคิดถูกหรือคิดผิดเนี้ยที่ทัก ม. ไป แต่ก็สนุกดีน่ะ เหมือนเราได้ซ้อมเป็นครูมาสอนเด็กเลย พอ ม. จะกลับผมก็เลยจะไปส่ง ม.บอกไม่เป็นไรเพราะ เขาไม่ได้พักแถวมหาลัย เขาพักในเมือง ผมก็บอกว่าจะไปลานย่าพอดีเดี๋ยวแวะไปส่ง พอมาถึงหอ ม. ผมก็บอก ม.ไปว่าคราวหน้าถ้าจะไปร้านไหนทักชวนพี่ได้น่ะ ม. ก็ตอบมาว่า โอเค
นั่นคือจุดเริ่มต้นของผม กับม.