เรื่องที่ผมอยากจะมาเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องที่มาจากชีวิตของผมเองล้วนๆครับ โดยที่ผมอยากแชร์เรื่องราวในชีวิตของผู้ชายคนนึงที่มีปัญหากับความรักครับ
รักครั้งแรกของผมเกิดขึ้นในช่วงประมาณ ม.3 โดยผมได้ไปรู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งน้อยครั้งมากที่ผมจะได้รู้จักกับผู้หญิงเนื่องจากผมเรียนโรงเรียนชายล้วน ผู้หญิงคนนี้ขอเรียกว่า บี ละกันนะครับ
บีเป็นคนน่ารักครับ อัธยาศัยดี เราเจอกันครั้งแรกเพราะพอดีว่าเพื่อนของพวกเราเขาเป็นแฟนกัน ก็เลยชวนๆเพื่อนๆมาแก้เขิน แล้วผมก็ได้ไปเจอเขาพอดี ด้วยรอยยิ้มที่สดใส แต่งตัวเรียบง่าย ผมก็รู้สึกชอบบีขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว และหลังจากนั้นก็ได้มีการติดต่อกันอยู่ตลอด แต่พอดีผมไม่ค่อยมีความมั่นใจ ทำให้ทุกอย่างดูไปได้ไม่ค่อยดี เราพูดคุยเหมือนเพื่อนกันมากกว่า และมาวันหนึ่งบีก็ขึ้นคบกับคนๆหนึ่ง ซึ่งผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าได้คุยกัน คนๆนั้นคือเพื่อนของผมเอง
ผมไม่โทษเพื่อนเลยครับ เพราะว่าเพื่อนก็คงไม่รู้ว่าผมชอบต่างฝ่ายต่างไม่รู้ ผมก็ได้แต่เฝ้ารอให้วันเวลาผ่านไป ครั้งนี้ไม่เจ็บครับ มันเหมือนซึมๆ นั่งกินแห้วเป็นกิโลมากกว่า และอยู่กับความช้ำไปเรื่อยๆจนเวลาผ่านไปสองปี ผมได้กลับไปบอกชอบบีอีกครั้งเมื่อผมได้ถามใจตัวเองอย่างดีแล้ว แต่แล้วชีวิตก็เล่นตลก เขาดันพึ่งกำลังจะมีแฟนอีกรอบพอดี ครั้งนี้ก็ซึมๆเหมือนเดิมครับ เหมือนคนรู้ใจตัวเองแล้วแต่ทำอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่ดูแลเขาอยู่ห่างๆต่อไป
เวลาผ่านไปได้อีกสองปี ผมเข้าสู่รั้วของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นก็ตัดสินใจได้แล้วว่าพอแล้วกับการรอคนๆหนึ่งมาตลอด 4 ปี และเราทำดีที่สุดแล้ว
ในวันรับน้องคณะ ผมได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง คนที่จะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตของผมให้เดินหน้าต่อไปอีกครั้ง คนนี้ผมขอเรียกว่าเมย์ละกันครับ
ผมได้เจอกับเมย์ที่งานรับน้องคณะ เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกดีกับการที่ได้เจอใครคนนึง ที่ทำให้ผมไม่อยากละสายตาไป คนที่ทำให้ผมลืมนึกถึงเรื่องที่ผมกำลังซึมๆกับเรื่องของบีอยู่ ซึ่งจริงๆคนๆนี้ผมไม่ได้คิดว่าจะคุยเลยครับเพราะผมเหมือนยังไม่กล้าจะคุยกับใคร แต่หลังจากนั้นเราจำเป็นต้องย้ายออกไปเรียนที่ต่างจังหวัดกันก่อน 1 ปี สำหรับนักศึกษาปีหนึ่ง ทำให้ผมได้เห็นเมย์บ่อยมาก (ถึงแม้ว่าเราจะอยู่คณะเดียวกันแต่อยู่คนละเอกครับ) แล้วก็มีฟิวแบบคนแอบชอบทั่วไปเฉยๆ มองแล้วยิ้มอยู่คนเดียว แค่มองก็มีความสุขแล้ว
แต่อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนที่แสนจะดี๊ดีก็เห็นพฤติกรรมของผม และเดินเข้าไปขอพินบีบีให้ (สมัยนั้นนี่บีบีกำลังมาเลยครับ) ผมนี่รีบมุดโต๊ะ หาอะไรมาปกปิดเพื่อปิดบังความอายเอามากๆ แต่แล้วเพื่อนก็เดินกลับมาพร้อมกับพินบีบี แล้วบอกว่าได้มาแล้ว ไอ้ผมก็ใจชื้นเลยครับ คิดว่าเขามีใจให้
แต่ !!! เปล่าเลยครับ เพื่อนมันบอกว่าเมย์มีคนคุยอยู่แล้ว เขาบอกเอง แต่กูรั้นบอกไปว่าเป็นเพื่อนก็ได้เลยได้มา
ผมนี่สับสนเลยครับตอนนั้น เหมือนมีกุญแจบ้านเขา แต่เขาพึ่งเปลี่ยนแม่กุญแจไป จะทำยังไงดีละครับ ผมก็เลยคิดว่าถึงขั้นนี้แล้ว ต้องลองดูซักทีนึงวะ
ซึ่งก็ได้รู้ซึ้งเลยครับ ถามคำตอบคำ ผมก็รั้นครับ ตื้อเท่านั้นจะครองโลก ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั้น โอ้โหผมนี่มาเต็มเลยครับทุกสิ่งทุกอย่าง พยายามชวนคุยแต่ก็อย่างว่าแหละครับ เหมือนเมย์เขามีคนที่เขาสนใจอยู่แล้ว ผมเหมือนชวนคุยอยู่ฝ่ายเดียว แต่สู้ขาดใจเลยครับตอนนั้น แต่ด้วยความที่ขี้อายอยู่นั้น และไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง บวกกับความสัมพันธ์ยังไม่คืบหน้าทำให้ผมก็ไม่กล้าเจอหรือทักทายอะไรเมย์เลย จนสุดท้ายไอคนที่เมย์คุยอยู่ตอนแรกก็คาบไปกินครับ
เจ็บครั้งนี้ช่างเหมือนพระเอกเอ็มวี มันไม่ร้ายแรงมากนัก ผมก็เหมือนซึมๆบนเตียงนิดหน่อยรูมเมทถามเป็นอะไรก็บอกมันไป รูมเมทดีครับ มันบอกไปแดรกเหล้ากัน ก็ไปเลย หลังจากนั้นผมก็แค่เหมือนอยากคุยด้วย อาจจะเพราะความที่ไม่ชินเท่าไหร่ ก็มีทักไปบ้างแต่ก็ไม่ได้คุยกะไรนานนักเพราะเหมือนผมก็รู้สึกว่าให้เป็นเพื่อนกันดีแล้ว
คนต่อไปเป็นคนที่กะทั่งตัวผมเองยังไม่ถึงแต่ก่อนที่จะไปสู้คนต่อไป มันมีเรื่องราวที่คาดไม่ถึงอีกเรื่องโผล่ขึ้นมาครับ
ยังจำบีกันได้มั้ย ที่ผมได้พูดถึงไปตอนแรก เขากลับมาครับ ด้วยความที่ผมไปทำให้เขากับแฟนคนปัจจุบันเลิกกัน เพราะผมเองไปบอกว่าแฟนเขานอกใจ จริงๆเรื่องนี้ผมไม่อยากพูดเลยด้วยซ้ำเพราะเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ผมก็เป็นห่วงบีเหมือนกันในฐานะที่เราเคยรู้สึกดีกับคนนี้มากๆจริงๆถึงแม้จะไม่สมหวัง ซึ่งจริงๆแล้วผมว่ามันก็เสี่ยงนะครับ เพราะถ้าบีไม่เชื่อผม ผมก็เหมือนหมาตัวหนึ่งเลย แต่สุดท้ายบีเขาก็เชื่อครับ โดยบีบอกผมว่า เขาเคยได้ยินเรื่องนี้มาบ่อยแล้ว แต่ต่อให้ไม่ได้ยินเขาก็เชื่อผมอยู่ดี เพราะเขาเชื่อว่าผมไม่มีทางทำร้ายเขาแน่นอน
โอ้โห จริงๆผมได้ยินคำนี้ผมก็รู้สึกดีนะครับ เหมือนตัวเองเป็นเพื่อนพระเอกขึ้นมาทีเดียว และหลังจากนั้นบีก็เลิกกับแฟนไป และเราก็ได้คุยกัน แต่ครั้งนี้ปัญหามันอยู่ที่ผมเองครับ ผมยังไม่พร้อมจะมีใครเพราะเรื่องเมย์อยู่ ซึ่งสุดท้ายผมก็เลยค่อยๆห่างๆออกมา แต่ว่าหลังจากนั้นผมก็ได้มารู้จากบีว่า ทั้งผมและบีต่างก็รู้สึกเหมือนกันว่า ผมและเขาอย่าเป็นแฟนกันเลย เป็นเพื่อนที่เป็นห่วงกันและเข้าใจกันดีที่สุดแล้ว ทั้งผมและบีก็ไม่อยากเสียกันและกันไปถ้ามันจบ
หลังจากนั้นผมก็ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมาอีกประมาณปีกว่าๆ โดยอยู่แต่กับเพื่อน ทั้งเพื่อนมัธยม เพื่อนมหาลัย จนมีเพื่อนมหาลัยอยู่คนนึง เรียกว่าน้ำละกัน เขาพึ่งเลิกกับแฟน แล้วก็ผมก็ชอบแกล้งคนอยู่แล้ว แต่สุดท้ายความรู้สึกของผมมันแกล้งไปแกล้งมามันก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ บวกกับช่วงนั้นเราก็สนิทกันในระดับหนึ่ง และได้คุยไลน์กัน (ไฮโซกว่าตอนเมย์ขึ้นมาหน่อย) ผมก็รู้สึกแปลกๆกว่าเดิม ยิ่งน้ำก็ทักมาบ่อย เริ่มถามกันว่าทำอะไรอยู่ มันเริ่มแปลกๆไปในความสัมพันธ์ ผมก็เริ่มรู้สึกชอบน้ำขึ้นมา จนถึงวันสงกรานต์ก็ได้ไปเที่ยวกับเขา และพาน้ำไปส่งที่บ้าน มันมีความรู้สึกเป็นห่วงน้ำมากขึ้น จนผมรู้สึกว่าเห้ย นี่กุชอบน้ำแล้วหรอวะเนี่ย แต่ในระหว่างที่ผมกำลังช่างใจในความรู้สึกของตัวเอง และกำลังปล่อยให้ความสัมพันธ์เป็นไปตามเวลา ผมก็ต้องมาช็อคที่อยู่ดีๆน้ำก็ขึ้นว่ามีแฟนแล้วในแชทเฟส และผมก็ตกใจมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ตอนนั้นผมเริ่มรู้สึกไม่เชื่อในเรื่องความรักละ มัน 3 ครั้งแล้วนี่เนอะ มันไม่ใช่แล้ว พอกันทีกับความรัก จนเวลาก็ผ่านไปได้ 1 ปี.. .
ผมดันไปชอบรุ่นน้องคนหนึ่ง ตั้งแต่สมัยเขาอยู่ปี 1 แล้วแหละ เรียกว่า ฟ้าละกัน เพราะคนๆนี้เปรียบเสมือนท้องฟ้าสำหรับผม แต่ท้องฟ้าของผมก็หายวับไปเพราะเขาซิ่วไป และเรายังไม่ได้เคยคุยกันเลย
แต่แล้ว ความรู้สึกของผมมันรู้สึกอยากคุยกับฟ้าขึ้นมาจริงๆ บวกกับตอนนั้นฟ้าก็พึ่งเลิกกับแฟนไปได้ซักพักหนึ่ง ผมเลยคิดว่าแบบ ลองดูวะ โชคชะตา

คงไม่โหดร้ายกับกูขนาดนั้นหรอก
ผมก็เลยทักฟ้าไป แรกๆผมก็พูดคุยถามถึงเรื่องที่มหาลัย ซิ่วไปเป็นยังไง มันโอเคมั้ยสังคมที่นั่น ทุกสิ่งทุกอย่าง หลังจากนั้น ผมก็พยายามชวนคุยนู้นคุยนี่มาตลอด และเหมือนเราจะไปกันได้ดี ผมก็เลยพยายามเปิดเผยในส่วนที่ผมเป็น ให้ฟ้าเข้าใจ ให้ฟ้ารู้ เพราะผมไม่อยากโกหกฟ้า จนสุดท้ายมีอยู่เรื่องหนึ่งที่ฟ้าไม่ชอบมากๆ เพราะมันเป็นเหมือนปมของเขาในชีวิต
ตอนนั้นผมไม่รู้จะทำอย่างไรเลยครับ ใจนึงผมอยากหยุดความสัมพันธ์ตรงนี้เพื่อให้ทุกอย่างมันจบ เขาจะได้ไม่ต้องมาทนอยู่กับสิ่งที่เป็นปมสำหรับเขา แต่ว่าเขาเองตอนนั้นก็เหมือนบอกว่าแล้วแต่นะ ฟ้าเคารพการตัดสินใจของเรา ซึ่งเราเลยโทรไปคุยกับฟ้า จนได้เข้าใจว่าฟ้าไม่ได้มองมันเป็นเรื่องใหญ่ แต่มองมันเป็นเรื่องภายนอก และฟ้ารับได้ เพราะเราก็ไม่ใช่คนไม่ดี
ตอนนั้นผมรู้สึกดีนะครับ แต่ว่าเราก็คุยๆกันต่อไป เขาเป็นคนที่ทำให้ผมลบความอายทุกอย่าง เพิ่มความกล้าให้กับตัวเอง พยายามทำทุกทาง ผมชอบเขามากจริงๆ ซึ่งจะว่าไปแล้วฟ้าไม่ใช่คนที่เป็นสเปคผมเลยนะครับ ผมไม่ชอบคนเอาแต่ใจ ขี้งอน ทำอะไรตามใจตัวเอง ผมไม่ชอบเลย แต่ฟ้าทำให้ผมรู้สึกว่าผมยอมปรับทุกอย่างให้เข้ากับเขาได้ โดยที่ผมไม่รู้สึกอึดอัดเลยจริงๆ และผมมีความสุขมากๆด้วยซ้ำไป แต่แล้วมาวันหนึ่ง ฟ้าก็บอกว่าเขาเหนื่อย
ผมอึ้งเลยครับตอนนั้น เหนื่อยที่ว่าคือเหนื่อยในความสัมพันธ์นะครับ เหมือนฟ้าบอกว่าบางทีฟ้าก็อยากอยู่คนเดียว ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรและก็เข้าใจด้วยว่าบบางทีคนเรามันต้องมีโมเม้นโลกส่วนตัวบ้าง แต่เขากลับบอกว่า ผมดูซีเรียสเรื่องการคุยเยอะหรือน้อย จริงๆผมไม่ได้ซีเรียสเลยนะครับในเรื่องการคุยเยอะน้อย ผมซีเรียสเรื่องความรู้สึกต่างห่างละ ว่าเขาอยากคุยกับเราไหม ถ้าเขาจะคุยน้อยเพราะเขาทำอะไรอยู่ผมก็ไม่ได้ซีเรียสเลย
มาถึงตรงนี้ฟ้าไม่ได้ฟังอะไรผมแล้วครับ ฟ้าบอกว่าจะขอหายไป 2-3 วัน ซึ่งผมก็โอเค เพราะผมก็อยากให้เขามีความสุข แต่พอหลังจากวางสายกัน ผมก็พิมพ์ความในใจไปว่า ผมชอบเขา และไม่ว่าเขาจะเลือกทางไหนผมก็จะยอมรับมัน ถ้ามันจะทำให้เขามีความสุขจริงๆ แต่ผมก็จะรอฟ้าอยู่ตรงนี้ และหวังว่าฟ้าจะกลับมา
เวลาผ่านไปได้ไม่ถึง 1 วันเต็มเขาก็กลับมาครับ พร้อมกับบอกว่า ตอนแรกว่าจะหายไป 2-3 วัน แต่เขาทำไม่ได้ อาจจะเพราะคุยกันทุกวันเลยคิดถึงผมมั้ง เขาไม่อยากทำให้ผมเสียใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาขอโทษ
มาถึงจุดนี้ ผมรู้สึกดีมากๆเลยครับ และทุกคนก็คงคิดเหมือนกันว่ามันต้องดีมากแน่ๆ
แต่เรื่องราวมันยังไม่จบหน่ะสิครับ เพราะหลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปอีกประมาณ 1 เดือน ซึ่งอยู่ดีๆเฉพาะวันนั้นวันเดียวเลย ผมก็รู้สึกว่าเขาแปลกๆไป ผมเลยถามด้วยความเป็นห่วงว่า เป็นอะไรเปล่า มีอะไรบอกได้นะจะได้ช่วยแก้ปัญหาไปด้วยกัน ซึ่งฟ้าก็บอกว่าเหนื่อยนิดหน่อย ขอโทษทีที่ทำให้รู้สึกแย่ ผมก็เลยบอกเขาไปว่า ไม่เป็นไร ไม่ได้เบื่ออะไรเราก็พอแล้ว ทีนี้ฟ้าเขาก็บอกว่า เขายังรู้สึกสับสนกับความรู้สึกตัวเอง ผมก็เริ่มใจเสียแล้วตอนนั้น แต่ก็ต้องแข็งใจถามออกไปว่า สับสนเรื่องอะไร ใจเย็นๆ ซึ่งฟ้าก็บอกว่าเรื่องของเรานี่แหละ ผมเริ่มรู้สึกตัวชาๆขึ้นมาทันที แต่ว่าผมก็บอกเขาไปว่า ให้ใจเย็นๆ เดี๋ยวครั้งนี้ผมลองหายไปเองก็ได้แล้วทบทวนกับความรู้สึกตัวเองดู ซึ่งตอนแรกเหมือนฟ้าจะโอเค แต่สุดท้ายฟ้าบอกว่าอยากให้จบวันนี้ ผมก็ถามเขาไปว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีความสุขเลยหรอ ซึ่งฟ้าก็บอกว่าเขามีความสุข แต่เขาเหมือนยังไม่พร้อมมีใคร ตอนแรกฟ้าคิดว่าพร้อมแต่สุดท้ายไม่ก็ยังไม่พร้อม แต่ผมไม่ได้ตบมือข้างเดียว เขาก็ชอบผม และรู้สึกมีความสุขตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมไม่อยากให้เรื่องเลยเถิดไปมากกว่านี้ เลยบอกลาเขาและฝันดีครั้งสุดท้าย แล้วคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยเคลียร์กันใหม่ ให้อารมณ์ดีกว่านี้กันก่อนดีกว่า แต่ตอนนั้นก็ร้องไห้ออกมาไม่หยุด ทั้งที่ปกติผมไม่เคยร้องไห้เลย แต่ก็ร้อง ผมโทรไปหาเพื่อนเพื่อนบอกใจเย็นๆ จนเหมือนผมจะฮึบไว้ได้แล้ว แต่สุดท้ายก็ร้องออกมาอีก
วันต่อมา ผมก็เลยเคลียร์ต่อบอกไปว่า คือฟ้าชอบเราไม่ใช่หรอ ถ้างั้นก็อย่าพึ่งจบลงตรงนี้ได้มั้ย เราไม่ได้รีบอะไร ถ้าฟ้ายังไม่พร้อม ฟ้าก็เลยตอบกลับมาว่า ชอบแต่ไม่ได้รัก เรายังไม่ใช่ ฟ้ารู้สึกอบอุ่นและมีความสุขที่มีเราอยู่ข้างๆ แต่เราไม่ใช่ เราเลยยอมรับความจริงแล้วตอนนั้น
หลังจากวันนั้นได้ 2 วัน ผมก็กดผิดทักฟ้าไป ซึ่งจริงๆผมจะคุยงานกับเพื่อน แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ผมก็เลยจะขอโทรไปคุยกับฟ้า แต่ฟ้าบอกว่าสำหรับตอนนี้ไม่ได้แล้ว แต่มีอะไรพิมพ์มาได้ ผมก็เลยขอโอกาสจากฟ้าครับ ขออีกครั้งเดียว แต่ฟ้าก็ไม่ให้ และบอกว่าสำหรับเราไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ทำยังไงก็ไม่ใช่ ผมเลยบอกว่าถ้าอย่างงั้นเอางี้ได้ไหม อนาคต ถ้าเราบังเอิญได้คุยกัน ขอให้มันเป็นเรื่องของอนาคตนะ ฟ้ากลับบอกแต่ว่า เราว่าพอเถอะ เราอยากให้ได้เจอคนที่ดีกว่าเรา ผมเลยบอกว่ายังไม่ตอบคำถามผมเลย ฟ้าก็เลยตอบว่าไม่ เพราะสำหรับฟ้าแล้วไม่ใช่คือไม่ใช่ เราเลยบอกว่าอนาคตเราไม่มีทางรู้หรอก อะไรๆมันก็อาจจะเปลี่ยนไป เราขอเถอะ สุดท้ายเขาก็เลยยอม
เมื่อชายผู้ไม่เชื่อเรื่องความรักอีกต่อไป เจอคนที่ทำให้เขาก้าวออกมา
รักครั้งแรกของผมเกิดขึ้นในช่วงประมาณ ม.3 โดยผมได้ไปรู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งน้อยครั้งมากที่ผมจะได้รู้จักกับผู้หญิงเนื่องจากผมเรียนโรงเรียนชายล้วน ผู้หญิงคนนี้ขอเรียกว่า บี ละกันนะครับ
บีเป็นคนน่ารักครับ อัธยาศัยดี เราเจอกันครั้งแรกเพราะพอดีว่าเพื่อนของพวกเราเขาเป็นแฟนกัน ก็เลยชวนๆเพื่อนๆมาแก้เขิน แล้วผมก็ได้ไปเจอเขาพอดี ด้วยรอยยิ้มที่สดใส แต่งตัวเรียบง่าย ผมก็รู้สึกชอบบีขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว และหลังจากนั้นก็ได้มีการติดต่อกันอยู่ตลอด แต่พอดีผมไม่ค่อยมีความมั่นใจ ทำให้ทุกอย่างดูไปได้ไม่ค่อยดี เราพูดคุยเหมือนเพื่อนกันมากกว่า และมาวันหนึ่งบีก็ขึ้นคบกับคนๆหนึ่ง ซึ่งผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าได้คุยกัน คนๆนั้นคือเพื่อนของผมเอง
ผมไม่โทษเพื่อนเลยครับ เพราะว่าเพื่อนก็คงไม่รู้ว่าผมชอบต่างฝ่ายต่างไม่รู้ ผมก็ได้แต่เฝ้ารอให้วันเวลาผ่านไป ครั้งนี้ไม่เจ็บครับ มันเหมือนซึมๆ นั่งกินแห้วเป็นกิโลมากกว่า และอยู่กับความช้ำไปเรื่อยๆจนเวลาผ่านไปสองปี ผมได้กลับไปบอกชอบบีอีกครั้งเมื่อผมได้ถามใจตัวเองอย่างดีแล้ว แต่แล้วชีวิตก็เล่นตลก เขาดันพึ่งกำลังจะมีแฟนอีกรอบพอดี ครั้งนี้ก็ซึมๆเหมือนเดิมครับ เหมือนคนรู้ใจตัวเองแล้วแต่ทำอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่ดูแลเขาอยู่ห่างๆต่อไป
เวลาผ่านไปได้อีกสองปี ผมเข้าสู่รั้วของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นก็ตัดสินใจได้แล้วว่าพอแล้วกับการรอคนๆหนึ่งมาตลอด 4 ปี และเราทำดีที่สุดแล้ว
ในวันรับน้องคณะ ผมได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง คนที่จะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตของผมให้เดินหน้าต่อไปอีกครั้ง คนนี้ผมขอเรียกว่าเมย์ละกันครับ
ผมได้เจอกับเมย์ที่งานรับน้องคณะ เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกดีกับการที่ได้เจอใครคนนึง ที่ทำให้ผมไม่อยากละสายตาไป คนที่ทำให้ผมลืมนึกถึงเรื่องที่ผมกำลังซึมๆกับเรื่องของบีอยู่ ซึ่งจริงๆคนๆนี้ผมไม่ได้คิดว่าจะคุยเลยครับเพราะผมเหมือนยังไม่กล้าจะคุยกับใคร แต่หลังจากนั้นเราจำเป็นต้องย้ายออกไปเรียนที่ต่างจังหวัดกันก่อน 1 ปี สำหรับนักศึกษาปีหนึ่ง ทำให้ผมได้เห็นเมย์บ่อยมาก (ถึงแม้ว่าเราจะอยู่คณะเดียวกันแต่อยู่คนละเอกครับ) แล้วก็มีฟิวแบบคนแอบชอบทั่วไปเฉยๆ มองแล้วยิ้มอยู่คนเดียว แค่มองก็มีความสุขแล้ว
แต่อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนที่แสนจะดี๊ดีก็เห็นพฤติกรรมของผม และเดินเข้าไปขอพินบีบีให้ (สมัยนั้นนี่บีบีกำลังมาเลยครับ) ผมนี่รีบมุดโต๊ะ หาอะไรมาปกปิดเพื่อปิดบังความอายเอามากๆ แต่แล้วเพื่อนก็เดินกลับมาพร้อมกับพินบีบี แล้วบอกว่าได้มาแล้ว ไอ้ผมก็ใจชื้นเลยครับ คิดว่าเขามีใจให้
แต่ !!! เปล่าเลยครับ เพื่อนมันบอกว่าเมย์มีคนคุยอยู่แล้ว เขาบอกเอง แต่กูรั้นบอกไปว่าเป็นเพื่อนก็ได้เลยได้มา
ผมนี่สับสนเลยครับตอนนั้น เหมือนมีกุญแจบ้านเขา แต่เขาพึ่งเปลี่ยนแม่กุญแจไป จะทำยังไงดีละครับ ผมก็เลยคิดว่าถึงขั้นนี้แล้ว ต้องลองดูซักทีนึงวะ
ซึ่งก็ได้รู้ซึ้งเลยครับ ถามคำตอบคำ ผมก็รั้นครับ ตื้อเท่านั้นจะครองโลก ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั้น โอ้โหผมนี่มาเต็มเลยครับทุกสิ่งทุกอย่าง พยายามชวนคุยแต่ก็อย่างว่าแหละครับ เหมือนเมย์เขามีคนที่เขาสนใจอยู่แล้ว ผมเหมือนชวนคุยอยู่ฝ่ายเดียว แต่สู้ขาดใจเลยครับตอนนั้น แต่ด้วยความที่ขี้อายอยู่นั้น และไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง บวกกับความสัมพันธ์ยังไม่คืบหน้าทำให้ผมก็ไม่กล้าเจอหรือทักทายอะไรเมย์เลย จนสุดท้ายไอคนที่เมย์คุยอยู่ตอนแรกก็คาบไปกินครับ
เจ็บครั้งนี้ช่างเหมือนพระเอกเอ็มวี มันไม่ร้ายแรงมากนัก ผมก็เหมือนซึมๆบนเตียงนิดหน่อยรูมเมทถามเป็นอะไรก็บอกมันไป รูมเมทดีครับ มันบอกไปแดรกเหล้ากัน ก็ไปเลย หลังจากนั้นผมก็แค่เหมือนอยากคุยด้วย อาจจะเพราะความที่ไม่ชินเท่าไหร่ ก็มีทักไปบ้างแต่ก็ไม่ได้คุยกะไรนานนักเพราะเหมือนผมก็รู้สึกว่าให้เป็นเพื่อนกันดีแล้ว
คนต่อไปเป็นคนที่กะทั่งตัวผมเองยังไม่ถึงแต่ก่อนที่จะไปสู้คนต่อไป มันมีเรื่องราวที่คาดไม่ถึงอีกเรื่องโผล่ขึ้นมาครับ
ยังจำบีกันได้มั้ย ที่ผมได้พูดถึงไปตอนแรก เขากลับมาครับ ด้วยความที่ผมไปทำให้เขากับแฟนคนปัจจุบันเลิกกัน เพราะผมเองไปบอกว่าแฟนเขานอกใจ จริงๆเรื่องนี้ผมไม่อยากพูดเลยด้วยซ้ำเพราะเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ผมก็เป็นห่วงบีเหมือนกันในฐานะที่เราเคยรู้สึกดีกับคนนี้มากๆจริงๆถึงแม้จะไม่สมหวัง ซึ่งจริงๆแล้วผมว่ามันก็เสี่ยงนะครับ เพราะถ้าบีไม่เชื่อผม ผมก็เหมือนหมาตัวหนึ่งเลย แต่สุดท้ายบีเขาก็เชื่อครับ โดยบีบอกผมว่า เขาเคยได้ยินเรื่องนี้มาบ่อยแล้ว แต่ต่อให้ไม่ได้ยินเขาก็เชื่อผมอยู่ดี เพราะเขาเชื่อว่าผมไม่มีทางทำร้ายเขาแน่นอน
โอ้โห จริงๆผมได้ยินคำนี้ผมก็รู้สึกดีนะครับ เหมือนตัวเองเป็นเพื่อนพระเอกขึ้นมาทีเดียว และหลังจากนั้นบีก็เลิกกับแฟนไป และเราก็ได้คุยกัน แต่ครั้งนี้ปัญหามันอยู่ที่ผมเองครับ ผมยังไม่พร้อมจะมีใครเพราะเรื่องเมย์อยู่ ซึ่งสุดท้ายผมก็เลยค่อยๆห่างๆออกมา แต่ว่าหลังจากนั้นผมก็ได้มารู้จากบีว่า ทั้งผมและบีต่างก็รู้สึกเหมือนกันว่า ผมและเขาอย่าเป็นแฟนกันเลย เป็นเพื่อนที่เป็นห่วงกันและเข้าใจกันดีที่สุดแล้ว ทั้งผมและบีก็ไม่อยากเสียกันและกันไปถ้ามันจบ
หลังจากนั้นผมก็ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมาอีกประมาณปีกว่าๆ โดยอยู่แต่กับเพื่อน ทั้งเพื่อนมัธยม เพื่อนมหาลัย จนมีเพื่อนมหาลัยอยู่คนนึง เรียกว่าน้ำละกัน เขาพึ่งเลิกกับแฟน แล้วก็ผมก็ชอบแกล้งคนอยู่แล้ว แต่สุดท้ายความรู้สึกของผมมันแกล้งไปแกล้งมามันก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ บวกกับช่วงนั้นเราก็สนิทกันในระดับหนึ่ง และได้คุยไลน์กัน (ไฮโซกว่าตอนเมย์ขึ้นมาหน่อย) ผมก็รู้สึกแปลกๆกว่าเดิม ยิ่งน้ำก็ทักมาบ่อย เริ่มถามกันว่าทำอะไรอยู่ มันเริ่มแปลกๆไปในความสัมพันธ์ ผมก็เริ่มรู้สึกชอบน้ำขึ้นมา จนถึงวันสงกรานต์ก็ได้ไปเที่ยวกับเขา และพาน้ำไปส่งที่บ้าน มันมีความรู้สึกเป็นห่วงน้ำมากขึ้น จนผมรู้สึกว่าเห้ย นี่กุชอบน้ำแล้วหรอวะเนี่ย แต่ในระหว่างที่ผมกำลังช่างใจในความรู้สึกของตัวเอง และกำลังปล่อยให้ความสัมพันธ์เป็นไปตามเวลา ผมก็ต้องมาช็อคที่อยู่ดีๆน้ำก็ขึ้นว่ามีแฟนแล้วในแชทเฟส และผมก็ตกใจมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ตอนนั้นผมเริ่มรู้สึกไม่เชื่อในเรื่องความรักละ มัน 3 ครั้งแล้วนี่เนอะ มันไม่ใช่แล้ว พอกันทีกับความรัก จนเวลาก็ผ่านไปได้ 1 ปี.. .
ผมดันไปชอบรุ่นน้องคนหนึ่ง ตั้งแต่สมัยเขาอยู่ปี 1 แล้วแหละ เรียกว่า ฟ้าละกัน เพราะคนๆนี้เปรียบเสมือนท้องฟ้าสำหรับผม แต่ท้องฟ้าของผมก็หายวับไปเพราะเขาซิ่วไป และเรายังไม่ได้เคยคุยกันเลย
แต่แล้ว ความรู้สึกของผมมันรู้สึกอยากคุยกับฟ้าขึ้นมาจริงๆ บวกกับตอนนั้นฟ้าก็พึ่งเลิกกับแฟนไปได้ซักพักหนึ่ง ผมเลยคิดว่าแบบ ลองดูวะ โชคชะตา
ผมก็เลยทักฟ้าไป แรกๆผมก็พูดคุยถามถึงเรื่องที่มหาลัย ซิ่วไปเป็นยังไง มันโอเคมั้ยสังคมที่นั่น ทุกสิ่งทุกอย่าง หลังจากนั้น ผมก็พยายามชวนคุยนู้นคุยนี่มาตลอด และเหมือนเราจะไปกันได้ดี ผมก็เลยพยายามเปิดเผยในส่วนที่ผมเป็น ให้ฟ้าเข้าใจ ให้ฟ้ารู้ เพราะผมไม่อยากโกหกฟ้า จนสุดท้ายมีอยู่เรื่องหนึ่งที่ฟ้าไม่ชอบมากๆ เพราะมันเป็นเหมือนปมของเขาในชีวิต
ตอนนั้นผมไม่รู้จะทำอย่างไรเลยครับ ใจนึงผมอยากหยุดความสัมพันธ์ตรงนี้เพื่อให้ทุกอย่างมันจบ เขาจะได้ไม่ต้องมาทนอยู่กับสิ่งที่เป็นปมสำหรับเขา แต่ว่าเขาเองตอนนั้นก็เหมือนบอกว่าแล้วแต่นะ ฟ้าเคารพการตัดสินใจของเรา ซึ่งเราเลยโทรไปคุยกับฟ้า จนได้เข้าใจว่าฟ้าไม่ได้มองมันเป็นเรื่องใหญ่ แต่มองมันเป็นเรื่องภายนอก และฟ้ารับได้ เพราะเราก็ไม่ใช่คนไม่ดี
ตอนนั้นผมรู้สึกดีนะครับ แต่ว่าเราก็คุยๆกันต่อไป เขาเป็นคนที่ทำให้ผมลบความอายทุกอย่าง เพิ่มความกล้าให้กับตัวเอง พยายามทำทุกทาง ผมชอบเขามากจริงๆ ซึ่งจะว่าไปแล้วฟ้าไม่ใช่คนที่เป็นสเปคผมเลยนะครับ ผมไม่ชอบคนเอาแต่ใจ ขี้งอน ทำอะไรตามใจตัวเอง ผมไม่ชอบเลย แต่ฟ้าทำให้ผมรู้สึกว่าผมยอมปรับทุกอย่างให้เข้ากับเขาได้ โดยที่ผมไม่รู้สึกอึดอัดเลยจริงๆ และผมมีความสุขมากๆด้วยซ้ำไป แต่แล้วมาวันหนึ่ง ฟ้าก็บอกว่าเขาเหนื่อย
ผมอึ้งเลยครับตอนนั้น เหนื่อยที่ว่าคือเหนื่อยในความสัมพันธ์นะครับ เหมือนฟ้าบอกว่าบางทีฟ้าก็อยากอยู่คนเดียว ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรและก็เข้าใจด้วยว่าบบางทีคนเรามันต้องมีโมเม้นโลกส่วนตัวบ้าง แต่เขากลับบอกว่า ผมดูซีเรียสเรื่องการคุยเยอะหรือน้อย จริงๆผมไม่ได้ซีเรียสเลยนะครับในเรื่องการคุยเยอะน้อย ผมซีเรียสเรื่องความรู้สึกต่างห่างละ ว่าเขาอยากคุยกับเราไหม ถ้าเขาจะคุยน้อยเพราะเขาทำอะไรอยู่ผมก็ไม่ได้ซีเรียสเลย
มาถึงตรงนี้ฟ้าไม่ได้ฟังอะไรผมแล้วครับ ฟ้าบอกว่าจะขอหายไป 2-3 วัน ซึ่งผมก็โอเค เพราะผมก็อยากให้เขามีความสุข แต่พอหลังจากวางสายกัน ผมก็พิมพ์ความในใจไปว่า ผมชอบเขา และไม่ว่าเขาจะเลือกทางไหนผมก็จะยอมรับมัน ถ้ามันจะทำให้เขามีความสุขจริงๆ แต่ผมก็จะรอฟ้าอยู่ตรงนี้ และหวังว่าฟ้าจะกลับมา
เวลาผ่านไปได้ไม่ถึง 1 วันเต็มเขาก็กลับมาครับ พร้อมกับบอกว่า ตอนแรกว่าจะหายไป 2-3 วัน แต่เขาทำไม่ได้ อาจจะเพราะคุยกันทุกวันเลยคิดถึงผมมั้ง เขาไม่อยากทำให้ผมเสียใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาขอโทษ
มาถึงจุดนี้ ผมรู้สึกดีมากๆเลยครับ และทุกคนก็คงคิดเหมือนกันว่ามันต้องดีมากแน่ๆ
แต่เรื่องราวมันยังไม่จบหน่ะสิครับ เพราะหลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปอีกประมาณ 1 เดือน ซึ่งอยู่ดีๆเฉพาะวันนั้นวันเดียวเลย ผมก็รู้สึกว่าเขาแปลกๆไป ผมเลยถามด้วยความเป็นห่วงว่า เป็นอะไรเปล่า มีอะไรบอกได้นะจะได้ช่วยแก้ปัญหาไปด้วยกัน ซึ่งฟ้าก็บอกว่าเหนื่อยนิดหน่อย ขอโทษทีที่ทำให้รู้สึกแย่ ผมก็เลยบอกเขาไปว่า ไม่เป็นไร ไม่ได้เบื่ออะไรเราก็พอแล้ว ทีนี้ฟ้าเขาก็บอกว่า เขายังรู้สึกสับสนกับความรู้สึกตัวเอง ผมก็เริ่มใจเสียแล้วตอนนั้น แต่ก็ต้องแข็งใจถามออกไปว่า สับสนเรื่องอะไร ใจเย็นๆ ซึ่งฟ้าก็บอกว่าเรื่องของเรานี่แหละ ผมเริ่มรู้สึกตัวชาๆขึ้นมาทันที แต่ว่าผมก็บอกเขาไปว่า ให้ใจเย็นๆ เดี๋ยวครั้งนี้ผมลองหายไปเองก็ได้แล้วทบทวนกับความรู้สึกตัวเองดู ซึ่งตอนแรกเหมือนฟ้าจะโอเค แต่สุดท้ายฟ้าบอกว่าอยากให้จบวันนี้ ผมก็ถามเขาไปว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีความสุขเลยหรอ ซึ่งฟ้าก็บอกว่าเขามีความสุข แต่เขาเหมือนยังไม่พร้อมมีใคร ตอนแรกฟ้าคิดว่าพร้อมแต่สุดท้ายไม่ก็ยังไม่พร้อม แต่ผมไม่ได้ตบมือข้างเดียว เขาก็ชอบผม และรู้สึกมีความสุขตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมไม่อยากให้เรื่องเลยเถิดไปมากกว่านี้ เลยบอกลาเขาและฝันดีครั้งสุดท้าย แล้วคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยเคลียร์กันใหม่ ให้อารมณ์ดีกว่านี้กันก่อนดีกว่า แต่ตอนนั้นก็ร้องไห้ออกมาไม่หยุด ทั้งที่ปกติผมไม่เคยร้องไห้เลย แต่ก็ร้อง ผมโทรไปหาเพื่อนเพื่อนบอกใจเย็นๆ จนเหมือนผมจะฮึบไว้ได้แล้ว แต่สุดท้ายก็ร้องออกมาอีก
วันต่อมา ผมก็เลยเคลียร์ต่อบอกไปว่า คือฟ้าชอบเราไม่ใช่หรอ ถ้างั้นก็อย่าพึ่งจบลงตรงนี้ได้มั้ย เราไม่ได้รีบอะไร ถ้าฟ้ายังไม่พร้อม ฟ้าก็เลยตอบกลับมาว่า ชอบแต่ไม่ได้รัก เรายังไม่ใช่ ฟ้ารู้สึกอบอุ่นและมีความสุขที่มีเราอยู่ข้างๆ แต่เราไม่ใช่ เราเลยยอมรับความจริงแล้วตอนนั้น
หลังจากวันนั้นได้ 2 วัน ผมก็กดผิดทักฟ้าไป ซึ่งจริงๆผมจะคุยงานกับเพื่อน แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ผมก็เลยจะขอโทรไปคุยกับฟ้า แต่ฟ้าบอกว่าสำหรับตอนนี้ไม่ได้แล้ว แต่มีอะไรพิมพ์มาได้ ผมก็เลยขอโอกาสจากฟ้าครับ ขออีกครั้งเดียว แต่ฟ้าก็ไม่ให้ และบอกว่าสำหรับเราไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ทำยังไงก็ไม่ใช่ ผมเลยบอกว่าถ้าอย่างงั้นเอางี้ได้ไหม อนาคต ถ้าเราบังเอิญได้คุยกัน ขอให้มันเป็นเรื่องของอนาคตนะ ฟ้ากลับบอกแต่ว่า เราว่าพอเถอะ เราอยากให้ได้เจอคนที่ดีกว่าเรา ผมเลยบอกว่ายังไม่ตอบคำถามผมเลย ฟ้าก็เลยตอบว่าไม่ เพราะสำหรับฟ้าแล้วไม่ใช่คือไม่ใช่ เราเลยบอกว่าอนาคตเราไม่มีทางรู้หรอก อะไรๆมันก็อาจจะเปลี่ยนไป เราขอเถอะ สุดท้ายเขาก็เลยยอม