สวัสดีคะ ขอบอกก่อนว่านี่เป็นเรื่องผีเรื่องแรกที่เราเคยเล่า เห็นหลายๆคนโพสต์เล่าเลยอยากเล่าบ้าง
เป็นเรื่องของยายแท้ๆเราเอง นับรวมตอนนี้ท่านก็จากเราไปเกือบสิบปีแล้วนะ
ตอนนั้นเราอายุ 17 ปี คะ ยายเราเป็นคนแข็งแรงดี ถึงแม้มีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจโต แต่ท่านไม่เคยอยู่นิ่งเลยจับโน่นทำนี่ตลอดเวลา และงานหลักๆของท่านคือเลี้ยงวัวคะ ที่บ้านเรานี่ไม่ต้องเฝ้านะคะ ตอนเช้าเอาวัวออกจากคอก ให้กินน้ำ แล้วจูงไปปักหลักไว้กลางทุ่ง ตอนเที่ยงก็ไปปลดหลักให้มันกินน้ำ แล้วเลื่อนหลักไปเรื่อยๆ ตอนเย็นก็ไปเอามาอาบน้ำอาบท่า ให้กินน้ำเข้าคอกแบบนี้ตลอดคะ ว่างๆท่านก็ปลูกผักปลูกหญ้า บ้านเราไม่เคยขาดผักเพราะยายปลูกไว้ซะทุกอย่าง ตอนเที่ยงๆหลังจากให้วัวกินน้ำแล้ว ยายก็จะงีบนิดหน่อยเป็นปกติคะ
เราต้องบอกก่อนว่า ตั้งแต่เด็กจนโต เรากลัวผีมากกกกก ถึงแม้ไม่เคยเจอจังๆก็เหอะ เพราะเคยเห็นแม่โดนของ เลยกลัวจับใจ ยายว่าเราตาขาว ถ้ากูตายกูจะมาหลอกเมิงคนแรก อันนี้ยายพูดไว้ขำๆ แต่เราไม่ขำเท่าไหร่นะ เพราะเรากลัว 55555
ตอนนั้นเราอยู่ประมาณ ม.5 เราเรียนในตัวเมืองเลยย้ายไปอยู่หอเพราะขี้เกียจตื่นเช้านั่งรถไปโรงเรียนเพราะมันเหนื่อยมาก เลยจะกลับบ้านมาแค่ทุกวันศุกร์ อยู่วันเสาร์วันนึง วันอาทิตย์บ่ายๆจะกลับหอ เป็นแบบนี้มาตลอด จนกระทั่งก่อนวันเกิดเราประมาณอาทิตย์นึง เราโทรไปหายายว่าเดี๋ยววันศุกร์นี้กลับนะคะ เพราะตรงกับวันเกิดจะซื้อเค้กไปเป่ากับยาย ยายก็ดีใจนะ แต่สุดท้ายเราไม่ได้กลับเพราะอาจารย์มาเกณท์เด็กให้ไปเดินพาเหรดในวันเสาร์ เราโกรธมากแต่ไม่รู้จะทำยังไงเพราะอาจารย์ขู่ เลยต้องอยู่ต่อ พอถึงวันที่ต้องเดินพาเหรด เรารับชุดไม่ได้จริงๆ หน้าก็แต่งแค่เอาแป้งทา กับทาลิปสติก แล้วก็เอาผ้าถุงที่ยังไม่ได้เย็บมาพันๆตัว เรากับเพื่อนเลยหนีขบวนพาเหรด จะมาเอาชุด แต่ห้องเก็บชุดโดนล็อค เลยต้องยืมชุดเพื่อนอีกคนมาใส่ ต้องรอจนขบวนพาเหรดจบ จึงได้ชุด พอกลับไปถึงหอแม่ก็โทรมาบอกยายเข้าโรงพยาบาล เรารีบกลับบ้านไปถึงก็ค่ำพอดีเลยรีบไปโรงพยาบาลกับน้า ยายนอนอยู่บนเตียง พอไปถึงเห็นเรา ยายก็ร้องไห้ กอดเราแล้วก็พูดกับเรา พูดๆๆๆๆๆๆ เราฟังไม่รู้เรื่องแม้แต่คำเดียวเพราะลิ้นยายแข็ง ยายดูเหนื่อย ยายพยายามจะบอกอะไรเราก็ไม่รู้ เรากลัวยายเหนื่อยเลยบอกยายพอแล้ว ยายจะเหนื่อย เราฟังไม่รู้เรื่องจริงๆ ยายนอนร้องไห้ เพราะไม่มีใครเข้าใจที่ยายพูดเลยสักคน ลิ้นยายแข็ง คืนนั้นเรานอนเฝ้ายาย รุ่งเช้า ดูแล้วยายอาการดีขึ้น เราก็จำเป็นต้องรีบกลับหอเพราะเราต้องไปทำโปรเจ็คต่อ ป้าเราเป็นคนเฝ้ายาย เราลายาย ยายยังคงลิ้นแข็งพูดไม่เข้าใจอยู่ดี
พอเรากลับมาหอ วันนั้นตอนหัวค่ำ แม่ก็โทรมาบอกว่ายายโดนย้ายมาอยู่โรงพยาบาลประจำจังหวัด ใกล้โรงเรียนเรา เราเลยไปเช่ามอร์ไซต์ไปดูยายขับไปร้องไห้ไปทั้งที่ไม่เคยขับแถวนั้นมาก่อนเลย แบบตอนนั้นไม่กลัวแล้ว พอไปเห็นนี่แบบเหมือนจะล้มทั้งยืน ยายไม่ฟื้นแล้ว โดนใส่ท่ออะไรไม่รู้ระโยงรยางค์ไปหมด เราเลยลาโรงเรียนไปเฝ้ายาย แม่เรารีบมาจาก ตจว เพื่อมาดูยายพวกป้าๆเราก็มา เรานี่ร้องไห้อย่างเดียว มีป้าเราคนนึงพูดว่ายาตายแล้ว นางไม่ถูกกับยายเท่าไหร่ เรานี่ขึ้นเลย เราเกือบตบป้าเลย มันทำอะไรไม่ถูก
เราอยากไปเฝ้ายายทุกวัน แต่แม่บอกค่อยมาตอนเย็น แม่เฝ้าได้ เราไปเรียน ตอนเย็นก็รีบไปดูยาย จนหมดเวลาเยี่ยม ก็กลับ ยายอยู่โรงพยาบาลนั้นประมาณ 2 วัน ยายก็เสียประมาณตอนตี 3 แม่โทรมาบอกเราตอนประมาณตีสีกว่าๆ เราร้องไห้เป็นบ้าไปเลย แม่บอกให้เรารอหน้าหอเลย เดี๋ยวพาศพยายกลับบ้านผ่านหน้าหอเราจะได้แวะรับเลย
เราเห็นร่างยายเรานี่ร้องไห้ไม่หยุดเลย น้าเราคนสุดท้องมาว่าเราว่าเพราะเมิงนั้นแหละชอบเถียงยาย เราตื้อไปหมด เราบอกวันที่ยายเข้าโรงพยาบาลเราไม่อยู่บ้านอย่ามาโทษเรา เราทะเลาะกับยายบ่อยก็จริงๆ เถียงกันแป็บๆ ไม่เกิน 5 นาทีก็กลับมากอดกันเหมือนเดิม มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เราเอาศพยายมาอยู่บ้านหลังใหม่ที่น้าตั้งใจสร้างให้ยาย ใหม่ขนาดประตูหน้าต่างยังไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ ใส่กันวันนั้นเลย ไม่ใช่บ้านเราหลังที่ยายอยู่ก่อนเสียนะคะ มันอยู่ใกล้ๆกัน
ตอนนั้นเราสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นพยายามหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ได้ความคร่าวๆว่าวันนั้นก่อนเที่ยง น้ากับแฟนน้า ซึ่งคนที่บ้านไม่ชอบนางเท่าไหร่รวมทั้งยายด้วย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะลูกรัก แกก็ต้องรักด้วย (คือนางแก่กว่าน้าเราเกือบ 20 ปี แก่กว่าแม่เรา นางมีสามีมาหลายคนมาก คนล่าสุดได้สามีฝรั่งได้อยู่ ตปท. มาหลายปี พ่อแม่ผัวรังเกียจ กลับมาอยู่บ้านมาได้กับน้าเรา นางเป็นทุกอย่าง หมายถึง ยา เหล้า บุหรี่ การพนัน ชีวิตอยู่แต่วงไพ่ แต่นางมีของดี มีผัว ผัวหลง นางเคยบอกว่าถ้านางไม่เลิกก็ไม่มีใครเลิกนางได้ หน้าตาอย่าให้พูด) ทะเลาะกันแล้วยายเข้าห้ามน้าผลักยายล้มลงแล้ววิ่งตามแฟนไป ซ้อนมอร์ไซต์ไป ยายก็ไปเอาน้ำให้วัว กลับมาก็กินข้าวอาบน้ำ แกบ่นว่าร้อน เลยนอนพัก แล้วอยู่แกเหมือนเป็นลม โชคดีวันนั้นป้าเรามาอยู่กับยายด้วย เลยตามคนข้างบ้างให้เอารถไปส่งโรงพยาบาล
หลายๆคนบอกว่าอาการยายเหมือนโดนยาสั่ง น่าจะมีใครใส่ในหม้อยาต้ม ยายเรากินยาต้มด้วยคะ หม้อยาจะอยู่นอกบ้านเพราะเราเอาเตาแก๊สไว้นอกบ้าน
เราตั้งศพยายกี่วันจำไม่ได้นะ แต่คืนสุดท้ายนี่ฝนตกหนักมากกกกก น้ำนี่แทบท่วมเลย รุ่งเช้าก่อนยกศพไปเผา ป้าข้างบ้านรีบเอาเงินมาช่วยเป็นเจ้าภาพสวดก่อนเผาเลย นางเล่าว่าเมื่อวันก่อนลูกสาวนางทำสร้อยคอทองตก หายังไงก็หาไม่เจอ เลยบนบานกับยายเราว่าจะเป็นเจ้าภาพสวดให้คืนนึง นางก็เจอมันค้างอยู่ที่ต้นไม้ นางทำเฉยๆจนเมื่อคืน ยายเราไปทวงทุกคนในบ้านเห็นนางเลยกลัวมาทำเอาวันนี้
วันเผายายผ่านไปด้วยดีรุ่งเช้าเราต้องไปเก็บอัฐิ คืนนั้นพอเผาเสร็จเราก็กลับไปนอนบ้านเรา พอตี 3 นาฬิกาดังแกร็ก เราสะดุ้งตื่นดูเวลาแล้วตี 3 พอดีเป๊ะ เราได้ยินเสียงเดินลากเท้าจากในครัวมาหน้าบ้านตรงหน้าทีวี บานเราปูเสื่อน้ำมันได้ยินชัด ซึ่งในบ้านมีคนนอนอยู่ในบ้านแค่ 3 คน คือ เรา แม่ และ น้อง ไม่มีใครเลย เดินลากมาปุ๊บได้ยินเสียงนั่งลง แล้วก็เป็นเสียงตำหมาก ซึ่งยายเราจะลุกขึ้นมาตำหมากทุกคืนตอนตี 3 ดัง ก็อกๆๆๆๆๆ เป็นจังหวะเดียวกับยายเลย ประมาณ 10 นาทีเสียงก็หายไป รุ่งเช้าไปเก็บอัฐิ เราถามแม่ว่าได้ยินไหม แม่บอกได้ยิน ยายแน่ๆ
หลังจากนั้นเราก็กลับเรียนอยู่หอเหมือนเดิม แม่กับไปทำงาน หลังจากนั้นอาทิตย์นึงเราก็กลับบ้านมาเหมือนปกติ ช่วงนั้นเราติดหนังเรื่องดาบมังกรหยกช่อง 3 ซึ่งมันดึกมากๆ น้าถามว่าเราจะนอนในห้องไหมแกจะล็อค เราว่าไม่นอน จะนอนหน้าทีวี ซึ่งมันเป็นที่เดียวกับที่ตั้งศพยายตอนที่เพิ่งมาถึง ยังไม่ใส่โลง แต่เราไม่ได้คิดไร เราดูทีวีประมาณเที่ยงคืน หนังจบ เราก็ปิดไฟนอนตรงนั้นแหละ ห่มผ้านอนเหลือแต่หัว หลับไป พอตี 3 นิฬิกาดังแก๊ก เราตื่นเหมือนโดนเปิดสวิตซ์เลย ได้ยินเสียงหมาหอนตั้งแต่ปากทางเข้าบ้านมาจาถึงหน้าบ้าน ได้ยินเสียงลากเท้ามาหยุดช้างเรา ผ้าห่มเราโดนดึงช้าๆจากทางปลายเท้าจนหลุดลงมากองที่พื้นข้างๆ เราไม่กล้าเปิดตา ไม่กล้ากระดุกกระดิก ตัวเราค่อยๆชาจาปลายเท้าขึ้นมาทั้งตัว ขยับไม่ได้ เราได้ยินเสียงยาย จำได้แม่น เป็นเสียงแบบลิ้นยังแข็งแบบก่อนตายมาพูด เรานี่ไม่ฟังแล้วอ่ะตอนนั้น สวดมนต์ผิดๆถูก จนเราบอกยายไปเถอะหนูกลัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พูดในใจเป็นร้อยรอบเพราะปากขยับไม่ได้ มันค่อยๆคลาย แล้วก็เป็นอีก เสียงยายพูดๆๆๆ อยู่ข้างเรา เราก็เหมือนเดิมเลย บอกหนูกลัวๆๆๆๆๆๆๆๆ ประมาณ 10 นาทีได้ ยายก็ไป ตัวเราขยับได้ เราได้หมาหอนจากหน้าประตูบ้านดังไกลออกไปเรื่อยๆ เราค่อยๆเปิดตาดูทีละข้าง พอดูว่าไม่มีอะไร ไม่ต้องบอกกระเด้งอัตโนมัติหอบผ้าห่มหมอนเคาะประตูห้องน้าเป็นคนบ้าไปเลย
เราไปเล่าให้ฟังเค้าหาว่าเราคิดมาก หัวเราะบ้าง ไม่ก็บอกว่าก็ยายเมิงบอกแล้วนี่ว่าจะมาหลอก ขำใหญ่เรานี่กลัวเกือบตาย
นับจากวันเผาถึงวันที่เราเจอคือ 7 วันพอดีคะ คิดว่าน่าจะเป็นอาถรรณพ์ 7 วันหลังวันเผา วิญญาณจะกลับมาเยี่ยมบ้าน
หลังจากนั้นมีอีกเหตุการณ์ น้าเรา แฟน กับน้องสาวเราไม่อยู่ ไป ตจว. เราเลยชวนลูกพี่ลูกน้องมานอนเป็นเพื่อน รุ่งเช้ามันบอก พี่หนูไม่มานอนอีกแล้วนะ หนู 2 คนไม่ได้นอนเลยทั้งคืน ไอ้เรานี่หลับไม่รู้เรื่อง
มันเล่าว่ามันได้ยินเสียงเดินไปเดินมาอยู่นอกห้องทั้งคืน เดินไปมาแล้วมานั่งพิงประตู ไอแค๊กๆ เป็นแบบนี้ทั้งคืนเลย มันมั่นใจว่ายายเราแน่เพราะว่ายายแกเดินลากเท้า
หลังจากนั่นอีก 2-3 ปี เราย้ายไปเรียน ตจว. ลูกพี่ลูกน้องเราท้องเพิ่งแต่งงาน แม่บอกว่า มันจะเอาข้าวเหนียวมะม่วงไปให้น้าเรา มันเลยไปยืนเรียกหน้าบ้าน พอประตูเปิดออก มันเห็นยาย แบบทั้งตัวเลยเดินออกมา มันโยนข้าวเหนียวมะม่วงทิ้งทั้งจานเลย วิ่งกลับบ้านไม่คิดชีวิต ก็ไม่รู้ว่าจริงแค่ไหน
ล่าสุด เราไปดูหมอดูมา เค้าบอกยายเราไปใช้กรรมนนรกหมดแล้ว กำลังรอไปเกิดอยู่ ให้ทำบุญไปให้เยอะๆนะ
เราคิดว่ายายคงหมดห่วงแล้ว เพราะน้าเราเลิกกับเมียไปแล้ว นางจากไปพร้อมหาคดีมาให้น้า พอน้าเข้าคุกนางไม่เคยโผล่ไปเลย พร้อมกวาดทุกอย่างในบ้านไปเรียบไม่เหลือไว้สักบาท
เพราะยายรักน้าที่สุด ห่วงน้าที่สุด พอคนแย่ๆเดินออกไปจากชีวิตลูกท่านคงหมดห่วงจริงๆนะ
เดี๋ยวค่อยเอาเรื่องอื่นมาเล่าต่อ นะคะ
ปล. แก้แล้วนะคะ ทีพิมพ์ตกๆ ที่จริงพิมพ์ใน word ก่อน แต่เพราะคีย์บอร์ดเราไม่ค่อยดีแล้วเลยหายไปบ้างคะ
เมื่อยายมาหลอกตามคำสัญญาก่อนจาก .........
เป็นเรื่องของยายแท้ๆเราเอง นับรวมตอนนี้ท่านก็จากเราไปเกือบสิบปีแล้วนะ
ตอนนั้นเราอายุ 17 ปี คะ ยายเราเป็นคนแข็งแรงดี ถึงแม้มีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจโต แต่ท่านไม่เคยอยู่นิ่งเลยจับโน่นทำนี่ตลอดเวลา และงานหลักๆของท่านคือเลี้ยงวัวคะ ที่บ้านเรานี่ไม่ต้องเฝ้านะคะ ตอนเช้าเอาวัวออกจากคอก ให้กินน้ำ แล้วจูงไปปักหลักไว้กลางทุ่ง ตอนเที่ยงก็ไปปลดหลักให้มันกินน้ำ แล้วเลื่อนหลักไปเรื่อยๆ ตอนเย็นก็ไปเอามาอาบน้ำอาบท่า ให้กินน้ำเข้าคอกแบบนี้ตลอดคะ ว่างๆท่านก็ปลูกผักปลูกหญ้า บ้านเราไม่เคยขาดผักเพราะยายปลูกไว้ซะทุกอย่าง ตอนเที่ยงๆหลังจากให้วัวกินน้ำแล้ว ยายก็จะงีบนิดหน่อยเป็นปกติคะ
เราต้องบอกก่อนว่า ตั้งแต่เด็กจนโต เรากลัวผีมากกกกก ถึงแม้ไม่เคยเจอจังๆก็เหอะ เพราะเคยเห็นแม่โดนของ เลยกลัวจับใจ ยายว่าเราตาขาว ถ้ากูตายกูจะมาหลอกเมิงคนแรก อันนี้ยายพูดไว้ขำๆ แต่เราไม่ขำเท่าไหร่นะ เพราะเรากลัว 55555
ตอนนั้นเราอยู่ประมาณ ม.5 เราเรียนในตัวเมืองเลยย้ายไปอยู่หอเพราะขี้เกียจตื่นเช้านั่งรถไปโรงเรียนเพราะมันเหนื่อยมาก เลยจะกลับบ้านมาแค่ทุกวันศุกร์ อยู่วันเสาร์วันนึง วันอาทิตย์บ่ายๆจะกลับหอ เป็นแบบนี้มาตลอด จนกระทั่งก่อนวันเกิดเราประมาณอาทิตย์นึง เราโทรไปหายายว่าเดี๋ยววันศุกร์นี้กลับนะคะ เพราะตรงกับวันเกิดจะซื้อเค้กไปเป่ากับยาย ยายก็ดีใจนะ แต่สุดท้ายเราไม่ได้กลับเพราะอาจารย์มาเกณท์เด็กให้ไปเดินพาเหรดในวันเสาร์ เราโกรธมากแต่ไม่รู้จะทำยังไงเพราะอาจารย์ขู่ เลยต้องอยู่ต่อ พอถึงวันที่ต้องเดินพาเหรด เรารับชุดไม่ได้จริงๆ หน้าก็แต่งแค่เอาแป้งทา กับทาลิปสติก แล้วก็เอาผ้าถุงที่ยังไม่ได้เย็บมาพันๆตัว เรากับเพื่อนเลยหนีขบวนพาเหรด จะมาเอาชุด แต่ห้องเก็บชุดโดนล็อค เลยต้องยืมชุดเพื่อนอีกคนมาใส่ ต้องรอจนขบวนพาเหรดจบ จึงได้ชุด พอกลับไปถึงหอแม่ก็โทรมาบอกยายเข้าโรงพยาบาล เรารีบกลับบ้านไปถึงก็ค่ำพอดีเลยรีบไปโรงพยาบาลกับน้า ยายนอนอยู่บนเตียง พอไปถึงเห็นเรา ยายก็ร้องไห้ กอดเราแล้วก็พูดกับเรา พูดๆๆๆๆๆๆ เราฟังไม่รู้เรื่องแม้แต่คำเดียวเพราะลิ้นยายแข็ง ยายดูเหนื่อย ยายพยายามจะบอกอะไรเราก็ไม่รู้ เรากลัวยายเหนื่อยเลยบอกยายพอแล้ว ยายจะเหนื่อย เราฟังไม่รู้เรื่องจริงๆ ยายนอนร้องไห้ เพราะไม่มีใครเข้าใจที่ยายพูดเลยสักคน ลิ้นยายแข็ง คืนนั้นเรานอนเฝ้ายาย รุ่งเช้า ดูแล้วยายอาการดีขึ้น เราก็จำเป็นต้องรีบกลับหอเพราะเราต้องไปทำโปรเจ็คต่อ ป้าเราเป็นคนเฝ้ายาย เราลายาย ยายยังคงลิ้นแข็งพูดไม่เข้าใจอยู่ดี
พอเรากลับมาหอ วันนั้นตอนหัวค่ำ แม่ก็โทรมาบอกว่ายายโดนย้ายมาอยู่โรงพยาบาลประจำจังหวัด ใกล้โรงเรียนเรา เราเลยไปเช่ามอร์ไซต์ไปดูยายขับไปร้องไห้ไปทั้งที่ไม่เคยขับแถวนั้นมาก่อนเลย แบบตอนนั้นไม่กลัวแล้ว พอไปเห็นนี่แบบเหมือนจะล้มทั้งยืน ยายไม่ฟื้นแล้ว โดนใส่ท่ออะไรไม่รู้ระโยงรยางค์ไปหมด เราเลยลาโรงเรียนไปเฝ้ายาย แม่เรารีบมาจาก ตจว เพื่อมาดูยายพวกป้าๆเราก็มา เรานี่ร้องไห้อย่างเดียว มีป้าเราคนนึงพูดว่ายาตายแล้ว นางไม่ถูกกับยายเท่าไหร่ เรานี่ขึ้นเลย เราเกือบตบป้าเลย มันทำอะไรไม่ถูก
เราอยากไปเฝ้ายายทุกวัน แต่แม่บอกค่อยมาตอนเย็น แม่เฝ้าได้ เราไปเรียน ตอนเย็นก็รีบไปดูยาย จนหมดเวลาเยี่ยม ก็กลับ ยายอยู่โรงพยาบาลนั้นประมาณ 2 วัน ยายก็เสียประมาณตอนตี 3 แม่โทรมาบอกเราตอนประมาณตีสีกว่าๆ เราร้องไห้เป็นบ้าไปเลย แม่บอกให้เรารอหน้าหอเลย เดี๋ยวพาศพยายกลับบ้านผ่านหน้าหอเราจะได้แวะรับเลย
เราเห็นร่างยายเรานี่ร้องไห้ไม่หยุดเลย น้าเราคนสุดท้องมาว่าเราว่าเพราะเมิงนั้นแหละชอบเถียงยาย เราตื้อไปหมด เราบอกวันที่ยายเข้าโรงพยาบาลเราไม่อยู่บ้านอย่ามาโทษเรา เราทะเลาะกับยายบ่อยก็จริงๆ เถียงกันแป็บๆ ไม่เกิน 5 นาทีก็กลับมากอดกันเหมือนเดิม มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เราเอาศพยายมาอยู่บ้านหลังใหม่ที่น้าตั้งใจสร้างให้ยาย ใหม่ขนาดประตูหน้าต่างยังไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ ใส่กันวันนั้นเลย ไม่ใช่บ้านเราหลังที่ยายอยู่ก่อนเสียนะคะ มันอยู่ใกล้ๆกัน
ตอนนั้นเราสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นพยายามหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ได้ความคร่าวๆว่าวันนั้นก่อนเที่ยง น้ากับแฟนน้า ซึ่งคนที่บ้านไม่ชอบนางเท่าไหร่รวมทั้งยายด้วย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะลูกรัก แกก็ต้องรักด้วย (คือนางแก่กว่าน้าเราเกือบ 20 ปี แก่กว่าแม่เรา นางมีสามีมาหลายคนมาก คนล่าสุดได้สามีฝรั่งได้อยู่ ตปท. มาหลายปี พ่อแม่ผัวรังเกียจ กลับมาอยู่บ้านมาได้กับน้าเรา นางเป็นทุกอย่าง หมายถึง ยา เหล้า บุหรี่ การพนัน ชีวิตอยู่แต่วงไพ่ แต่นางมีของดี มีผัว ผัวหลง นางเคยบอกว่าถ้านางไม่เลิกก็ไม่มีใครเลิกนางได้ หน้าตาอย่าให้พูด) ทะเลาะกันแล้วยายเข้าห้ามน้าผลักยายล้มลงแล้ววิ่งตามแฟนไป ซ้อนมอร์ไซต์ไป ยายก็ไปเอาน้ำให้วัว กลับมาก็กินข้าวอาบน้ำ แกบ่นว่าร้อน เลยนอนพัก แล้วอยู่แกเหมือนเป็นลม โชคดีวันนั้นป้าเรามาอยู่กับยายด้วย เลยตามคนข้างบ้างให้เอารถไปส่งโรงพยาบาล
หลายๆคนบอกว่าอาการยายเหมือนโดนยาสั่ง น่าจะมีใครใส่ในหม้อยาต้ม ยายเรากินยาต้มด้วยคะ หม้อยาจะอยู่นอกบ้านเพราะเราเอาเตาแก๊สไว้นอกบ้าน
เราตั้งศพยายกี่วันจำไม่ได้นะ แต่คืนสุดท้ายนี่ฝนตกหนักมากกกกก น้ำนี่แทบท่วมเลย รุ่งเช้าก่อนยกศพไปเผา ป้าข้างบ้านรีบเอาเงินมาช่วยเป็นเจ้าภาพสวดก่อนเผาเลย นางเล่าว่าเมื่อวันก่อนลูกสาวนางทำสร้อยคอทองตก หายังไงก็หาไม่เจอ เลยบนบานกับยายเราว่าจะเป็นเจ้าภาพสวดให้คืนนึง นางก็เจอมันค้างอยู่ที่ต้นไม้ นางทำเฉยๆจนเมื่อคืน ยายเราไปทวงทุกคนในบ้านเห็นนางเลยกลัวมาทำเอาวันนี้
วันเผายายผ่านไปด้วยดีรุ่งเช้าเราต้องไปเก็บอัฐิ คืนนั้นพอเผาเสร็จเราก็กลับไปนอนบ้านเรา พอตี 3 นาฬิกาดังแกร็ก เราสะดุ้งตื่นดูเวลาแล้วตี 3 พอดีเป๊ะ เราได้ยินเสียงเดินลากเท้าจากในครัวมาหน้าบ้านตรงหน้าทีวี บานเราปูเสื่อน้ำมันได้ยินชัด ซึ่งในบ้านมีคนนอนอยู่ในบ้านแค่ 3 คน คือ เรา แม่ และ น้อง ไม่มีใครเลย เดินลากมาปุ๊บได้ยินเสียงนั่งลง แล้วก็เป็นเสียงตำหมาก ซึ่งยายเราจะลุกขึ้นมาตำหมากทุกคืนตอนตี 3 ดัง ก็อกๆๆๆๆๆ เป็นจังหวะเดียวกับยายเลย ประมาณ 10 นาทีเสียงก็หายไป รุ่งเช้าไปเก็บอัฐิ เราถามแม่ว่าได้ยินไหม แม่บอกได้ยิน ยายแน่ๆ
หลังจากนั้นเราก็กลับเรียนอยู่หอเหมือนเดิม แม่กับไปทำงาน หลังจากนั้นอาทิตย์นึงเราก็กลับบ้านมาเหมือนปกติ ช่วงนั้นเราติดหนังเรื่องดาบมังกรหยกช่อง 3 ซึ่งมันดึกมากๆ น้าถามว่าเราจะนอนในห้องไหมแกจะล็อค เราว่าไม่นอน จะนอนหน้าทีวี ซึ่งมันเป็นที่เดียวกับที่ตั้งศพยายตอนที่เพิ่งมาถึง ยังไม่ใส่โลง แต่เราไม่ได้คิดไร เราดูทีวีประมาณเที่ยงคืน หนังจบ เราก็ปิดไฟนอนตรงนั้นแหละ ห่มผ้านอนเหลือแต่หัว หลับไป พอตี 3 นิฬิกาดังแก๊ก เราตื่นเหมือนโดนเปิดสวิตซ์เลย ได้ยินเสียงหมาหอนตั้งแต่ปากทางเข้าบ้านมาจาถึงหน้าบ้าน ได้ยินเสียงลากเท้ามาหยุดช้างเรา ผ้าห่มเราโดนดึงช้าๆจากทางปลายเท้าจนหลุดลงมากองที่พื้นข้างๆ เราไม่กล้าเปิดตา ไม่กล้ากระดุกกระดิก ตัวเราค่อยๆชาจาปลายเท้าขึ้นมาทั้งตัว ขยับไม่ได้ เราได้ยินเสียงยาย จำได้แม่น เป็นเสียงแบบลิ้นยังแข็งแบบก่อนตายมาพูด เรานี่ไม่ฟังแล้วอ่ะตอนนั้น สวดมนต์ผิดๆถูก จนเราบอกยายไปเถอะหนูกลัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พูดในใจเป็นร้อยรอบเพราะปากขยับไม่ได้ มันค่อยๆคลาย แล้วก็เป็นอีก เสียงยายพูดๆๆๆ อยู่ข้างเรา เราก็เหมือนเดิมเลย บอกหนูกลัวๆๆๆๆๆๆๆๆ ประมาณ 10 นาทีได้ ยายก็ไป ตัวเราขยับได้ เราได้หมาหอนจากหน้าประตูบ้านดังไกลออกไปเรื่อยๆ เราค่อยๆเปิดตาดูทีละข้าง พอดูว่าไม่มีอะไร ไม่ต้องบอกกระเด้งอัตโนมัติหอบผ้าห่มหมอนเคาะประตูห้องน้าเป็นคนบ้าไปเลย
เราไปเล่าให้ฟังเค้าหาว่าเราคิดมาก หัวเราะบ้าง ไม่ก็บอกว่าก็ยายเมิงบอกแล้วนี่ว่าจะมาหลอก ขำใหญ่เรานี่กลัวเกือบตาย
นับจากวันเผาถึงวันที่เราเจอคือ 7 วันพอดีคะ คิดว่าน่าจะเป็นอาถรรณพ์ 7 วันหลังวันเผา วิญญาณจะกลับมาเยี่ยมบ้าน
หลังจากนั้นมีอีกเหตุการณ์ น้าเรา แฟน กับน้องสาวเราไม่อยู่ ไป ตจว. เราเลยชวนลูกพี่ลูกน้องมานอนเป็นเพื่อน รุ่งเช้ามันบอก พี่หนูไม่มานอนอีกแล้วนะ หนู 2 คนไม่ได้นอนเลยทั้งคืน ไอ้เรานี่หลับไม่รู้เรื่อง
มันเล่าว่ามันได้ยินเสียงเดินไปเดินมาอยู่นอกห้องทั้งคืน เดินไปมาแล้วมานั่งพิงประตู ไอแค๊กๆ เป็นแบบนี้ทั้งคืนเลย มันมั่นใจว่ายายเราแน่เพราะว่ายายแกเดินลากเท้า
หลังจากนั่นอีก 2-3 ปี เราย้ายไปเรียน ตจว. ลูกพี่ลูกน้องเราท้องเพิ่งแต่งงาน แม่บอกว่า มันจะเอาข้าวเหนียวมะม่วงไปให้น้าเรา มันเลยไปยืนเรียกหน้าบ้าน พอประตูเปิดออก มันเห็นยาย แบบทั้งตัวเลยเดินออกมา มันโยนข้าวเหนียวมะม่วงทิ้งทั้งจานเลย วิ่งกลับบ้านไม่คิดชีวิต ก็ไม่รู้ว่าจริงแค่ไหน
ล่าสุด เราไปดูหมอดูมา เค้าบอกยายเราไปใช้กรรมนนรกหมดแล้ว กำลังรอไปเกิดอยู่ ให้ทำบุญไปให้เยอะๆนะ
เราคิดว่ายายคงหมดห่วงแล้ว เพราะน้าเราเลิกกับเมียไปแล้ว นางจากไปพร้อมหาคดีมาให้น้า พอน้าเข้าคุกนางไม่เคยโผล่ไปเลย พร้อมกวาดทุกอย่างในบ้านไปเรียบไม่เหลือไว้สักบาท
เพราะยายรักน้าที่สุด ห่วงน้าที่สุด พอคนแย่ๆเดินออกไปจากชีวิตลูกท่านคงหมดห่วงจริงๆนะ
เดี๋ยวค่อยเอาเรื่องอื่นมาเล่าต่อ นะคะ
ปล. แก้แล้วนะคะ ทีพิมพ์ตกๆ ที่จริงพิมพ์ใน word ก่อน แต่เพราะคีย์บอร์ดเราไม่ค่อยดีแล้วเลยหายไปบ้างคะ