สวัสดีครับทุกคน
ปกติผมจะโพสต์กระทู้เกี่ยวกับพับกระดาษ หรือพาไปกิน เที่ยว เล่นแถวๆญี่ปุ่น
แต่กระทู้นี้ผมจะมาในอีกบทบาทหนึ่งก็คือการเป็นอาจารย์
พวกลูกศิษย์เรียกผมว่า "โอ้ปป้า" ดังนั้นโอ้ปป้าในบริบทนี้จึงหมายถึงอาจารย์นะครับ หาใช่ศิลปินเกาหลีแต่อย่างใดไม่
ผมเป็นอาจารย์หลักสูตรการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ (IB) ในสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งย่านพัฒนาการ แต่คนมักเข้าใจผิดว่าอยู่ดินแดง
เมื่อเทอมที่ผ่านมาผมได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ให้พานักศึกษากลุ่มหนึ่งไปทัศนศึกษาที่ประเทศจีนครับ
เราอยากมีทัศนศึกษาต่างประเทศทริปหนึ่งที่พัฒนาตามแนวคิด "โมโนซูคุริ" แนวคิดที่เน้นให้ผู้เรียนได้มีอิสระการเรียนรู้ และลงมือปฏิบัติกับของจริง สถานที่จริง สถานการณ์จริงๆ เพื่อที่จะได้สามารถเชื่อมโยงกับทฤษฎีในตำรา
ซึ่งโจทย์นี้ก็ท้าทายพอสมควรครับ เพราะตัวผมเองก็ยอมรับว่ารู้จักประเทศจีนน้อยมาก
พูดภาษาจีนไม่ได้เลย สื่อสารได้แบบเบสิกสุดๆ สวัสดี ไม่เอา ไม่เข้าใจ ราคาเท่าไหร่ เอาหนึ่งอัน ขอบคุณ
เรียกว่าเป็นภาษาเพื่อการท่องเที่ยวก็ว่าได้ ดังนั้นการไป "ดูงาน" ครั้งนี้ผมต้องพึ่งพาบริษัททัวร์ครับ
แต่ด้วยความที่อยากให้ลูกศิษย์ได้รับประโยชน์ให้เต็มที่จากการเดินทางดูงานในครั้งนี้
ผมจึงเข้ามีมีส่วนร่วมในการทำแผนเดินทางอย่างใกล้ชิด
ใกล้ชิดจนบริษัททัวร์อาจจะนึกด่าแม่อยู่ในใจก็เป็นได้
วัตถุประสงค์ของการเขียนบันทึกการเดินทางในครั้งนี้คือ เขียนให้ลูกศิษย์ได้อ่านครับ และถ้ามันจะพอเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆบ้าง ผมจะยินดีมาก ถือว่าเป็นการแบ่งปันประสบการณ์กัน
ผมมีความรู้น้อย ท่านใดต้องการเสริมตรงจุดไหน แก้ไขความเข้าใจผิด สามารถทักท้วง เพิ่มเติม หรืออภิปรายได้อย่างกว้างขวางครับ ผมมองว่าดีเสียอีก ตัวผมจะได้เรียนรู้จากทุกท่าน และเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับกระทู้นี้อีกทางหนึ่งด้วย
ผมอยากให้ลูกศิษย์ผมรู้ว่า ผมคิดไตร่ตรอง และพยายามประนีประนอมกับทุกๆฝ่าย เพื่อการเรียนรู้แบบที่ผมพยายามจะให้เป็น การเรียนรู้แบบศตวรรษที่ 21
อยากพวกเขารู้ว่า "กูทำดีที่สุดแล้ว กูทำได้แค่นี้แหละ นี่ก็ครั้งแรกของกูเหมือนกัน"
ผมเริ่มจากการอ่านรีวิวในพันทิปและหาบริษัททัวร์ อย่างแรกที่ผมได้เรียนรู้คือ "ถ้าอาจารย์อยากได้ 5 วัน 4 คืน ในงบ 3 หมื่นบาท เราต้องแวะร้านรัฐบาลจีนนะคะ"
ผมพยายามเช็คถึง 9 บริษัทแล้ว ต่างก็พูดตรงกันหมดครับ
บางบริษัทเสนอราคามา 5 หมื่นบ้าง 4 หมื่นบ้าง
แต่ผมยังไม่พอใจ เพราะรู้ดีว่าเงินหายาก สงสารพ่อแม่ผู้ปกครอง
ผมคิดว่างบ 3 หมื่นบาทเนี่ยแหละพอสมเหตุสมผลที่สุด โดยพิจารณาจากโปรแกรมทัวร์เซี่ยงไฮ้-หังโจวของหลายๆบริษัททัวร์เป็นจุดเริ่มต้น
ปัญหาต่อมาคือแผนเดินทางครับ
ปกติทัวร์ราคาไม่เกิน 3 หมื่นบาท จะไปได้แค่ร้านรัฐบาล และวัด และสถานที่ที่ไม่มีค่าเข้า
ซึ่งผมมองว่ามันไม่เหมาะกับวัตถุประสงค์ของทริปเราเลย
ทัศนศึกษาที่เคยเห็นเค้าจัดกัน เขาพาไปดูโรงงานผลิตนู่นผลิตนี่
แต่ผมคิดต่างออกไป ผมอยากให้ลูกศิษย์เห็นต้นกำเนิดของสินค้าจีนที่วางขายในโลกใบนี้ ถุงเท้า กระเป๋า ของเล่นเด็ก ฯลฯ
ผมอยากพาไปเดินในตลาดค้าส่งจริง ได้คุยกับคนค้าขายจริงๆ ได้สืบราคาจริงๆ ได้รู้ว่าถ้าอยากนำเข้าสินค้ามาขายในประเทศไทยจะต้องทำอะไรบ้าง
สถานที่นั้นคือเมือง "อี้อู" ครับ เมืองค้าส่งที่เป็นหัวใจของประเทศจีน
มันตั้งอยู่ใจกลางมณฑลเจ้อเจียง ห่างไป 4 ชั่วโมงโดยรถยนต์จากเซี่ยงไฮ้ครับ
เชื่อไหมว่าแทบไม่มีบริษัทไหนเคยพาคณะทัวร์ไปอี้อู เพราะมันไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว
อีกทั้งระยะทางที่ห่างไกล ทำให้ต้องเสียเวลาเดินทางค่อนข้างมาก บริษัททัวร์อยากเอาเวลาไปเข้าร้านขายชา ผ้าไหม หยก ซะมากกว่า
ที่อาจจะบ้าง ก็มีทัวร์พาไปซื้อของโดยบริษัทชิ้ปปิ้งในราคา 2 หมื่นบาท แต่ไป 2 วัน 2 คืนนะ ไปอี้อูอย่างเดียว พาซื้อของหลายๆอย่างตามความพอใจของกรุ๊ปเดินทาง แต่ไม่ได้ไปเห็นเมืองอื่น
แต่ไหนๆจะไปแล้ว อยากให้ลูกศิษย์เห็นหลายๆอย่าง จะได้ไป "ดูงาน" หลากหลายที่กันหน่อย
โชคดีที่ในตอนสุดท้ายผมได้บริษัททัวร์หนึ่งตกลงรับทำทัศนศึกษาในสไตล์ของผม 5D4N ในงบที่ผมกำหนด
จนเกิดเป็นการดูงานที่อี้อู ผสมกับโปรแกรมทัวร์แบบฉบับ และแน่นอนมันมีร้านรัฐบาลอยู่ในนั้นด้วย
แต่เราก็จะพยายามให้ทุกที่ๆเราไปเกิดประโยชน์และได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากมัน
ผมจะแบ่งเรื่องราวออกเป็น 6 บทนะครับ
บทที่ 1 เขามาถึงจุดนี้ได้ยังไง บทบาทเซี่ยงไฮ้ในระบบเศรษฐกิจจีน
บทที่ 2 มาเมืองจีน เค้าบอกว่าต้องไปหาของปลอม เค้าคือใคร?
บทที่ 3 เถียนจื่อฟาง Unseen Shanghai ย่านชิคๆของคนสร้างสรรค์
บทที่ 4 มารยาทธุรกิจฉบับเร่งรัด
บทที่ 5 บทเรียนแบบโหดๆ เรียลๆ ที่อี้อู
บทที่ 6 มารู้จัก Cognitive Bias ที่ร้านชา ยาสมุนไพร ผ้าไหม กำไลหยก
ตามมาครับ โอ้ปป้าจะพาคุณๆทุกท่านไป "ดูงาน" ด้วยกัน
[กระทู้เบิกเนตร] มาดูงาน เซี่ยงไฮ้-หังโจว-อี้อู ในแบบโอ้ปป้า IB สไตล์กันเถอะ
สวัสดีครับทุกคน
ปกติผมจะโพสต์กระทู้เกี่ยวกับพับกระดาษ หรือพาไปกิน เที่ยว เล่นแถวๆญี่ปุ่น
แต่กระทู้นี้ผมจะมาในอีกบทบาทหนึ่งก็คือการเป็นอาจารย์
พวกลูกศิษย์เรียกผมว่า "โอ้ปป้า" ดังนั้นโอ้ปป้าในบริบทนี้จึงหมายถึงอาจารย์นะครับ หาใช่ศิลปินเกาหลีแต่อย่างใดไม่
ผมเป็นอาจารย์หลักสูตรการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ (IB) ในสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งย่านพัฒนาการ แต่คนมักเข้าใจผิดว่าอยู่ดินแดง
เมื่อเทอมที่ผ่านมาผมได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ให้พานักศึกษากลุ่มหนึ่งไปทัศนศึกษาที่ประเทศจีนครับ
เราอยากมีทัศนศึกษาต่างประเทศทริปหนึ่งที่พัฒนาตามแนวคิด "โมโนซูคุริ" แนวคิดที่เน้นให้ผู้เรียนได้มีอิสระการเรียนรู้ และลงมือปฏิบัติกับของจริง สถานที่จริง สถานการณ์จริงๆ เพื่อที่จะได้สามารถเชื่อมโยงกับทฤษฎีในตำรา
ซึ่งโจทย์นี้ก็ท้าทายพอสมควรครับ เพราะตัวผมเองก็ยอมรับว่ารู้จักประเทศจีนน้อยมาก
พูดภาษาจีนไม่ได้เลย สื่อสารได้แบบเบสิกสุดๆ สวัสดี ไม่เอา ไม่เข้าใจ ราคาเท่าไหร่ เอาหนึ่งอัน ขอบคุณ
เรียกว่าเป็นภาษาเพื่อการท่องเที่ยวก็ว่าได้ ดังนั้นการไป "ดูงาน" ครั้งนี้ผมต้องพึ่งพาบริษัททัวร์ครับ
แต่ด้วยความที่อยากให้ลูกศิษย์ได้รับประโยชน์ให้เต็มที่จากการเดินทางดูงานในครั้งนี้
ผมจึงเข้ามีมีส่วนร่วมในการทำแผนเดินทางอย่างใกล้ชิด
ใกล้ชิดจนบริษัททัวร์อาจจะนึกด่าแม่อยู่ในใจก็เป็นได้
วัตถุประสงค์ของการเขียนบันทึกการเดินทางในครั้งนี้คือ เขียนให้ลูกศิษย์ได้อ่านครับ และถ้ามันจะพอเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆบ้าง ผมจะยินดีมาก ถือว่าเป็นการแบ่งปันประสบการณ์กัน
ผมมีความรู้น้อย ท่านใดต้องการเสริมตรงจุดไหน แก้ไขความเข้าใจผิด สามารถทักท้วง เพิ่มเติม หรืออภิปรายได้อย่างกว้างขวางครับ ผมมองว่าดีเสียอีก ตัวผมจะได้เรียนรู้จากทุกท่าน และเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับกระทู้นี้อีกทางหนึ่งด้วย
ผมอยากให้ลูกศิษย์ผมรู้ว่า ผมคิดไตร่ตรอง และพยายามประนีประนอมกับทุกๆฝ่าย เพื่อการเรียนรู้แบบที่ผมพยายามจะให้เป็น การเรียนรู้แบบศตวรรษที่ 21
อยากพวกเขารู้ว่า "กูทำดีที่สุดแล้ว กูทำได้แค่นี้แหละ นี่ก็ครั้งแรกของกูเหมือนกัน"
ผมเริ่มจากการอ่านรีวิวในพันทิปและหาบริษัททัวร์ อย่างแรกที่ผมได้เรียนรู้คือ "ถ้าอาจารย์อยากได้ 5 วัน 4 คืน ในงบ 3 หมื่นบาท เราต้องแวะร้านรัฐบาลจีนนะคะ"
ผมพยายามเช็คถึง 9 บริษัทแล้ว ต่างก็พูดตรงกันหมดครับ
บางบริษัทเสนอราคามา 5 หมื่นบ้าง 4 หมื่นบ้าง
แต่ผมยังไม่พอใจ เพราะรู้ดีว่าเงินหายาก สงสารพ่อแม่ผู้ปกครอง
ผมคิดว่างบ 3 หมื่นบาทเนี่ยแหละพอสมเหตุสมผลที่สุด โดยพิจารณาจากโปรแกรมทัวร์เซี่ยงไฮ้-หังโจวของหลายๆบริษัททัวร์เป็นจุดเริ่มต้น
ปัญหาต่อมาคือแผนเดินทางครับ
ปกติทัวร์ราคาไม่เกิน 3 หมื่นบาท จะไปได้แค่ร้านรัฐบาล และวัด และสถานที่ที่ไม่มีค่าเข้า
ซึ่งผมมองว่ามันไม่เหมาะกับวัตถุประสงค์ของทริปเราเลย
ทัศนศึกษาที่เคยเห็นเค้าจัดกัน เขาพาไปดูโรงงานผลิตนู่นผลิตนี่
แต่ผมคิดต่างออกไป ผมอยากให้ลูกศิษย์เห็นต้นกำเนิดของสินค้าจีนที่วางขายในโลกใบนี้ ถุงเท้า กระเป๋า ของเล่นเด็ก ฯลฯ
ผมอยากพาไปเดินในตลาดค้าส่งจริง ได้คุยกับคนค้าขายจริงๆ ได้สืบราคาจริงๆ ได้รู้ว่าถ้าอยากนำเข้าสินค้ามาขายในประเทศไทยจะต้องทำอะไรบ้าง
สถานที่นั้นคือเมือง "อี้อู" ครับ เมืองค้าส่งที่เป็นหัวใจของประเทศจีน
มันตั้งอยู่ใจกลางมณฑลเจ้อเจียง ห่างไป 4 ชั่วโมงโดยรถยนต์จากเซี่ยงไฮ้ครับ
เชื่อไหมว่าแทบไม่มีบริษัทไหนเคยพาคณะทัวร์ไปอี้อู เพราะมันไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว
อีกทั้งระยะทางที่ห่างไกล ทำให้ต้องเสียเวลาเดินทางค่อนข้างมาก บริษัททัวร์อยากเอาเวลาไปเข้าร้านขายชา ผ้าไหม หยก ซะมากกว่า
ที่อาจจะบ้าง ก็มีทัวร์พาไปซื้อของโดยบริษัทชิ้ปปิ้งในราคา 2 หมื่นบาท แต่ไป 2 วัน 2 คืนนะ ไปอี้อูอย่างเดียว พาซื้อของหลายๆอย่างตามความพอใจของกรุ๊ปเดินทาง แต่ไม่ได้ไปเห็นเมืองอื่น
แต่ไหนๆจะไปแล้ว อยากให้ลูกศิษย์เห็นหลายๆอย่าง จะได้ไป "ดูงาน" หลากหลายที่กันหน่อย
โชคดีที่ในตอนสุดท้ายผมได้บริษัททัวร์หนึ่งตกลงรับทำทัศนศึกษาในสไตล์ของผม 5D4N ในงบที่ผมกำหนด
จนเกิดเป็นการดูงานที่อี้อู ผสมกับโปรแกรมทัวร์แบบฉบับ และแน่นอนมันมีร้านรัฐบาลอยู่ในนั้นด้วย
แต่เราก็จะพยายามให้ทุกที่ๆเราไปเกิดประโยชน์และได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากมัน
ผมจะแบ่งเรื่องราวออกเป็น 6 บทนะครับ
บทที่ 1 เขามาถึงจุดนี้ได้ยังไง บทบาทเซี่ยงไฮ้ในระบบเศรษฐกิจจีน
บทที่ 2 มาเมืองจีน เค้าบอกว่าต้องไปหาของปลอม เค้าคือใคร?
บทที่ 3 เถียนจื่อฟาง Unseen Shanghai ย่านชิคๆของคนสร้างสรรค์
บทที่ 4 มารยาทธุรกิจฉบับเร่งรัด
บทที่ 5 บทเรียนแบบโหดๆ เรียลๆ ที่อี้อู
บทที่ 6 มารู้จัก Cognitive Bias ที่ร้านชา ยาสมุนไพร ผ้าไหม กำไลหยก
ตามมาครับ โอ้ปป้าจะพาคุณๆทุกท่านไป "ดูงาน" ด้วยกัน