ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/34376337
ตอนที่ 2
http://pantip.com/topic/34377951
มาต่อกันดีกว่า ...หลังจากที่ผมเดินเดี่ยวมาก็นาน การเดินทางจากน้ำตกเพ็บพบใหม่ เพื่อไปสู่น้ำตกถ้ำใหญ่ ใช้เวลานานพอสมควรเพราะต้องไต่ระดับความสูงบ้างเล็กน้อย ระหว่างทาง เจอเพื่อนใหม่มากมายที่คอยทักทาย ไม่ว่าจะเป็น น้องสาวชาวอุบล ที่พาฝรั่งปีนป่ายน้ำตกอย่างสนุก ทำให้เส้นทางสายน้ำตกมุ่งสู่น้ำตกถ้ำใหญ่ไม่เงียบเหงาเหมือนที่ผ่านมา และตอนนี้ผมก็มาถึงละนะ "น้ำตกถ้ำใหญ่" แต่ เอ....ทำไมน้ำน้อยจัง
น้ำตกนี้ถึงน้ำจะน้อยไปนิด แต่ความเขียว ความสดยังมีอยู่มาก ก้อนหินโดยรอบเต็มไปด้วยสีเขียว นี่ถ้ามาช่วงที่ใบเมเปิ้ล จะสวยงามอย่างบอกไม่ถูกแน่นอน ชื่นชมและลื่นลมจนกางเกงผมขายไปพอสมควร เดินต่อเพื่อไปยังจุดต่อไป... ผมตัดสินใจเดินต่อไปที่สระอโนดาต เพื่อหวังว่า หาที่กินข้าว และเดินต่อไปที่ผาหล่มสัก แต่เนื่องจาก กางเกงที่ขาดไม่เอื้ออำนวย บวกกับ เส้นทางที่ไปผาหล่มสัก ช่วงที่ผมไปแทบจะไม่มีคนเอาซะเลย การเดินคนเดียวในป่า ที่มีขี้ช้างอยู่รอบด้าน มันก็เสี่ยงอยู่นะ 555 ผมเลยถอยทัพ เดินเข้าสู่เส้นทางหน้าผาแทน เส้นทางหน้าผาที่ผมเดิน นองไปด้วยน้ำ ใครที่มาเส้นควรใส่ถุงกันทากนะครับ การมาครั้งนี้ของผม ไม่ได้อะไรเลย ก็เลยต้องบริจาคเลือดให้กับ ทาก ไป 5 ตัว ....สนุกไปเลยครับ เสียดายช่วงนี้ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย
หลังจากเดินลุยน้ำ ลุยกองทัพทาก มาพอสมควร ในที่สุดผมก็มาถึง ผาเหยียบเมฆ ตรงนี้จะมีร้านค้าอยู่ 2 ร้าน ผมใช้เวลาตรงจุดนี้นานพอสมควรเพื่อหยุดดูแผลที่โดนทากดูดเลือดไป ทำให้รองเท้าผมเต็มไปด้วยสีแดง....อืมม ผมไม่กล้าถ่ายให้ดู (อย่าทำแบบผมนะ ไม่งั้นเสียเลือดแบบผมแน่)
ผมนอนเล่นอยู่ที่นี่พักใหญ่ ๆจึงเริ่มเดินต่อไปยังผาหมากดูด เพื่อหวังว่าจะไปนอนดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก แทนผาหล่มสักที่ผมขอข้ามไป เพราะอย่างที่บอกครับ กางเกงขาด 5555
ระหว่างทางเจอทุ่งกระดุมเงินขนาดย่อม เจอดอกไม้ที่ผมก็ไม่รู้ว่าดอกอะไร เจอสนภูเขาสวยๆ เจอผู้คนที่แว้นจักรยานผ่านมาทักทายผมตลอดทาง กับคำพูดที่ว่า "เดินเก่งแท้น้อ"
ผมเดินผ่าน ผาแล้วผาเล่า ทั้ง ผาเหยียบเมฆ ผาแดง ผานาน้อย ผาจำศีล ทุกที่ๆ ผมได้พบกับมิตรภาพ บางคนถามไถ่ บางคนทักทาย บางคน ถามว่า"กางเกงไปโดนไรมา ขาดเละเทะเลย" บางคนชวนปั่นไปผาหล่มสัก และบางคนชวนไปนอนเล่นผาหมากดูก
และในที่สุดผม ก็มาถึงผาหมากดูก ผมเห็นว่ามันยังเหลือเวลาอีกนานพอสมควรกว่าจะถึงเวลาพระอาทิตย์ตก ผมเลยขอตัวนอนต่ออีกรอบ เพื่อเก็บแรงเอาไว้สำหรับเดินกลับ ตื่นมาอีกทีก็ประมาณ 5 โมง เจอหนุ่มๆ จากสมุทรปราการ 4 หนุ่ม มานั่งรอดูพระอาทิตย์ตกเหมือนกันครับ ผมเลยชวนไปนั่งดูอีกมุมหนึ่ง ซึ่งสวยกว่าจุดที่ผมนอนเล่นอยู่แน่นอน น้องๆก็ถามนุ้นถามนี่มากมาย จนเราคุยกันเพลินเลยครับ จนกระทั้งถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน วันนี้พระอาทิตย์อาจจะตกเร็วไปนิด แต่อย่างน้อยมันก็สาดส่องแสงสวยๆให้ผมได้จับภาพไว้ได้พอสมควร แค่นี้ก็ Happy แล้วละครับ
ผมกับเพื่อนใหม่อีก 4 คน ชื่นชมความสวยงามยามเย็นที่ผาหมากดูกอยู่พอสมควร เราก็มุ่งหน้ากลับที่พักครับ กับระยะทาง 2.3 กิโล วันนี้ท้องฟ้ามืดเร็วมาก แต่รู้สึกว่าคืนนี้เราน่าจะเห็นดาวแน่นอน เดินไปเดินมา คุยบ้าง เดินฟังเสียงร้องเพลงของเด็กๆ ของครอบครัวเล็กๆ ที่เดินนำหน้าบ้าง น่ารักมาก ซักพักก็ถึงจุดหมาย ผมแยกตัวไปกลับเต็นท์เพื่อเปลี่ยนกางเกง และหาข้าวกิน เสิรมพลังสำหรับวันนี้
อย่างที่บอกครับคืนนี้ดาวเห็นชัดมากกว่า เมื่อคืนเยอะเลย เสียดายที่ไม่มีโอกาสไปถ่ายดาวที่ผาหมากดูก เพราะหนาว กางเกงขาดทำพิษผมจริงๆ ดังนั้นผมจึงหามุมถ่ายมันแถวนี้ละครับ ถึงแม้จะมีแสงจากร้านค้าจุดต่างๆ รบกวน แต่อย่างน้อยผมก็เห็นดาว และทางช้างเผือกจางๆ แค่นี้ก็โอเคละครับ
ครับ จบแล้วครับคืนนี้ ขอให้หลับฝันดีนะครับ
เช้าสายๆ ของวันที่ 19 ตุลาคม วันนี้ผมไม่รีบไปไหนครับ และไม่เดินไปไหนด้วยครับ หาข้าวกินผมก็คงเดินลงภูแล้ว ไม่รู้ว่าการเดินทางมาภูกระดึงครั้งที่ 5 ของผมครั้งนี้ จะมีครั้งที่ 6 อีกหรือเปล่านะ 555 ถ้ามีนะก็คงดี ขาลงผมก็ได้เจอพี่น้องสาวชาวอุบลที่ Friendly สุดๆ เดินลงพร้อมกันครับ ก็คุยกันเพลินๆ ตลอดตั้งแต่ยอดภู ยันตีนภู แถมพาผมไปส่งที่ร้านเจ๊กิมด้วย ขอบคุณจริงๆ ครับ พี่จุ๊ และน้องตุ๊กตา หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะครับ ไว้ว่างๆ จะไปเที่ยวอุบลฯ แน่นอน น้องๆขาโบก ที่โบกรถมาเที่ยวภูกระดึง ไว้มีโอกาสเจอกันพาพี่โบกด้วยนะ รวมทั้งคุณครูสาว และหนุ่มน้อยอีกคน ที่คุยกันได้แป๊บเดียวก่อนจะขึ้นรถกลับ กทม. ไว้มีโอกาสเที่ยวด้วยกันนะครับ คุณครู... ^___^
สุดท้ายนี้ผมเชื่อว่า ไม่ว่าคุณที่คิดจะมาเที่ยวภูกระดึง จะมาเดี่ยว มาคู่ มาเป็นกลุ่ม หรือจะมาในรูปแบบไหน ภูกระดึง จะเป็นสถานที่ที่คุณจะพบกับ "ความสุข" ได้ง่ายทุกที่ ทุกก้าวที่คุณเดิน จะปั่น จะปีนป่าย คุณจะพบกับความรัก ที่รายล้อมไปด้วย "มิตรภาพ" ของเพื่อนร่วมทาง ที่ไม่รู้จักกัน และที่สำคัญ ธรรมชาติของที่นี่ ภูผา สายธาร ท้องฟ้า ดวงดาว และทุกๆสิ่งที่ "ภูกระดึง" จะทำให้คุณหลงรักภูกระดึง เหมือนที่ผมเป็นอยุ่ทุกวันนี้
Bye Bye แล้วพบกันใหม่
[SR] "ภูกระดึง" ภูผา สายธาร ท้องฟ้า ดวงดาว ตอนที่ 2
ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/34376337
ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/34377951
มาต่อกันดีกว่า ...หลังจากที่ผมเดินเดี่ยวมาก็นาน การเดินทางจากน้ำตกเพ็บพบใหม่ เพื่อไปสู่น้ำตกถ้ำใหญ่ ใช้เวลานานพอสมควรเพราะต้องไต่ระดับความสูงบ้างเล็กน้อย ระหว่างทาง เจอเพื่อนใหม่มากมายที่คอยทักทาย ไม่ว่าจะเป็น น้องสาวชาวอุบล ที่พาฝรั่งปีนป่ายน้ำตกอย่างสนุก ทำให้เส้นทางสายน้ำตกมุ่งสู่น้ำตกถ้ำใหญ่ไม่เงียบเหงาเหมือนที่ผ่านมา และตอนนี้ผมก็มาถึงละนะ "น้ำตกถ้ำใหญ่" แต่ เอ....ทำไมน้ำน้อยจัง
น้ำตกนี้ถึงน้ำจะน้อยไปนิด แต่ความเขียว ความสดยังมีอยู่มาก ก้อนหินโดยรอบเต็มไปด้วยสีเขียว นี่ถ้ามาช่วงที่ใบเมเปิ้ล จะสวยงามอย่างบอกไม่ถูกแน่นอน ชื่นชมและลื่นลมจนกางเกงผมขายไปพอสมควร เดินต่อเพื่อไปยังจุดต่อไป... ผมตัดสินใจเดินต่อไปที่สระอโนดาต เพื่อหวังว่า หาที่กินข้าว และเดินต่อไปที่ผาหล่มสัก แต่เนื่องจาก กางเกงที่ขาดไม่เอื้ออำนวย บวกกับ เส้นทางที่ไปผาหล่มสัก ช่วงที่ผมไปแทบจะไม่มีคนเอาซะเลย การเดินคนเดียวในป่า ที่มีขี้ช้างอยู่รอบด้าน มันก็เสี่ยงอยู่นะ 555 ผมเลยถอยทัพ เดินเข้าสู่เส้นทางหน้าผาแทน เส้นทางหน้าผาที่ผมเดิน นองไปด้วยน้ำ ใครที่มาเส้นควรใส่ถุงกันทากนะครับ การมาครั้งนี้ของผม ไม่ได้อะไรเลย ก็เลยต้องบริจาคเลือดให้กับ ทาก ไป 5 ตัว ....สนุกไปเลยครับ เสียดายช่วงนี้ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย
หลังจากเดินลุยน้ำ ลุยกองทัพทาก มาพอสมควร ในที่สุดผมก็มาถึง ผาเหยียบเมฆ ตรงนี้จะมีร้านค้าอยู่ 2 ร้าน ผมใช้เวลาตรงจุดนี้นานพอสมควรเพื่อหยุดดูแผลที่โดนทากดูดเลือดไป ทำให้รองเท้าผมเต็มไปด้วยสีแดง....อืมม ผมไม่กล้าถ่ายให้ดู (อย่าทำแบบผมนะ ไม่งั้นเสียเลือดแบบผมแน่)
ผมนอนเล่นอยู่ที่นี่พักใหญ่ ๆจึงเริ่มเดินต่อไปยังผาหมากดูด เพื่อหวังว่าจะไปนอนดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก แทนผาหล่มสักที่ผมขอข้ามไป เพราะอย่างที่บอกครับ กางเกงขาด 5555
ระหว่างทางเจอทุ่งกระดุมเงินขนาดย่อม เจอดอกไม้ที่ผมก็ไม่รู้ว่าดอกอะไร เจอสนภูเขาสวยๆ เจอผู้คนที่แว้นจักรยานผ่านมาทักทายผมตลอดทาง กับคำพูดที่ว่า "เดินเก่งแท้น้อ"
ผมเดินผ่าน ผาแล้วผาเล่า ทั้ง ผาเหยียบเมฆ ผาแดง ผานาน้อย ผาจำศีล ทุกที่ๆ ผมได้พบกับมิตรภาพ บางคนถามไถ่ บางคนทักทาย บางคน ถามว่า"กางเกงไปโดนไรมา ขาดเละเทะเลย" บางคนชวนปั่นไปผาหล่มสัก และบางคนชวนไปนอนเล่นผาหมากดูก
และในที่สุดผม ก็มาถึงผาหมากดูก ผมเห็นว่ามันยังเหลือเวลาอีกนานพอสมควรกว่าจะถึงเวลาพระอาทิตย์ตก ผมเลยขอตัวนอนต่ออีกรอบ เพื่อเก็บแรงเอาไว้สำหรับเดินกลับ ตื่นมาอีกทีก็ประมาณ 5 โมง เจอหนุ่มๆ จากสมุทรปราการ 4 หนุ่ม มานั่งรอดูพระอาทิตย์ตกเหมือนกันครับ ผมเลยชวนไปนั่งดูอีกมุมหนึ่ง ซึ่งสวยกว่าจุดที่ผมนอนเล่นอยู่แน่นอน น้องๆก็ถามนุ้นถามนี่มากมาย จนเราคุยกันเพลินเลยครับ จนกระทั้งถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน วันนี้พระอาทิตย์อาจจะตกเร็วไปนิด แต่อย่างน้อยมันก็สาดส่องแสงสวยๆให้ผมได้จับภาพไว้ได้พอสมควร แค่นี้ก็ Happy แล้วละครับ
ผมกับเพื่อนใหม่อีก 4 คน ชื่นชมความสวยงามยามเย็นที่ผาหมากดูกอยู่พอสมควร เราก็มุ่งหน้ากลับที่พักครับ กับระยะทาง 2.3 กิโล วันนี้ท้องฟ้ามืดเร็วมาก แต่รู้สึกว่าคืนนี้เราน่าจะเห็นดาวแน่นอน เดินไปเดินมา คุยบ้าง เดินฟังเสียงร้องเพลงของเด็กๆ ของครอบครัวเล็กๆ ที่เดินนำหน้าบ้าง น่ารักมาก ซักพักก็ถึงจุดหมาย ผมแยกตัวไปกลับเต็นท์เพื่อเปลี่ยนกางเกง และหาข้าวกิน เสิรมพลังสำหรับวันนี้
อย่างที่บอกครับคืนนี้ดาวเห็นชัดมากกว่า เมื่อคืนเยอะเลย เสียดายที่ไม่มีโอกาสไปถ่ายดาวที่ผาหมากดูก เพราะหนาว กางเกงขาดทำพิษผมจริงๆ ดังนั้นผมจึงหามุมถ่ายมันแถวนี้ละครับ ถึงแม้จะมีแสงจากร้านค้าจุดต่างๆ รบกวน แต่อย่างน้อยผมก็เห็นดาว และทางช้างเผือกจางๆ แค่นี้ก็โอเคละครับ
ครับ จบแล้วครับคืนนี้ ขอให้หลับฝันดีนะครับ
เช้าสายๆ ของวันที่ 19 ตุลาคม วันนี้ผมไม่รีบไปไหนครับ และไม่เดินไปไหนด้วยครับ หาข้าวกินผมก็คงเดินลงภูแล้ว ไม่รู้ว่าการเดินทางมาภูกระดึงครั้งที่ 5 ของผมครั้งนี้ จะมีครั้งที่ 6 อีกหรือเปล่านะ 555 ถ้ามีนะก็คงดี ขาลงผมก็ได้เจอพี่น้องสาวชาวอุบลที่ Friendly สุดๆ เดินลงพร้อมกันครับ ก็คุยกันเพลินๆ ตลอดตั้งแต่ยอดภู ยันตีนภู แถมพาผมไปส่งที่ร้านเจ๊กิมด้วย ขอบคุณจริงๆ ครับ พี่จุ๊ และน้องตุ๊กตา หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะครับ ไว้ว่างๆ จะไปเที่ยวอุบลฯ แน่นอน น้องๆขาโบก ที่โบกรถมาเที่ยวภูกระดึง ไว้มีโอกาสเจอกันพาพี่โบกด้วยนะ รวมทั้งคุณครูสาว และหนุ่มน้อยอีกคน ที่คุยกันได้แป๊บเดียวก่อนจะขึ้นรถกลับ กทม. ไว้มีโอกาสเที่ยวด้วยกันนะครับ คุณครู... ^___^
สุดท้ายนี้ผมเชื่อว่า ไม่ว่าคุณที่คิดจะมาเที่ยวภูกระดึง จะมาเดี่ยว มาคู่ มาเป็นกลุ่ม หรือจะมาในรูปแบบไหน ภูกระดึง จะเป็นสถานที่ที่คุณจะพบกับ "ความสุข" ได้ง่ายทุกที่ ทุกก้าวที่คุณเดิน จะปั่น จะปีนป่าย คุณจะพบกับความรัก ที่รายล้อมไปด้วย "มิตรภาพ" ของเพื่อนร่วมทาง ที่ไม่รู้จักกัน และที่สำคัญ ธรรมชาติของที่นี่ ภูผา สายธาร ท้องฟ้า ดวงดาว และทุกๆสิ่งที่ "ภูกระดึง" จะทำให้คุณหลงรักภูกระดึง เหมือนที่ผมเป็นอยุ่ทุกวันนี้
Bye Bye แล้วพบกันใหม่
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น