ก่อนอื่นต้องแจ้งก่อนว่าเรื่องนี้เกินเมื่อต้นปี 58 ที่ผ่านมา เนื่องจากผ่านมาสักพักแล้ว อาจมีตกหล่นบ้าง
เราอยากจะเขียนให้อ่าน เล่าสู่กันฟัง แต่ความขี้เกียจบังตา แต่ตอนนี้ ก็นะ ทำบุญ ก็ได้บุญ
ถ้าเรื่องของเราทำให้คนอื่นๆได้เงินคืนสักคนสองคน ก็ดีใจแล้วคะ
ถ้ามีอะไรพิมผิดไป ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ทะเลาะกับคีบอร์ดโน๊ตบุ๊ค เล็กน้อย
เริ่ม เริ่ม เริ่ม
เราได้จองทัวร์เดินทางไปเกาหลี กับบริษัท เอ (นามสมมติ) เนื่องจาก บ.เอ ชอบมีโปรโมชั่น 1แถม1 ราคา 30000 บาท ไปได้ 2คน
(เห็นแก่ของถูก จำจนตายจ๊ะ )
น้าเรา เดินทางกับบริษัทนี้ หลายรอบมาก สนิทกับหัวหน้าทัวร์เรยกะว่าได้ พอมีโปรนี้ออกมา น้าเรยมาบอกเรา
เพราะเค้าจะมีแจ้งแค่สมาชิกเค้า ถึงจะรู้โปรนี้ ไอ้เรากะงกไง แต่ตัวเราอะ ไปเกาหลีมาหลายรอบมา ตั้งแต่ทัวร์แพงยันทัวร์ถูก ไปเองกะไปมาหมดแล้ว
แต่ๆ เพื่อนๆพี่ๆคนสนิท อยากจะไปด้วย รวบรวมกันมา 7 ชีวิต รวมเรา ถ้าจะไปกันเอง ค่อนข้างลำบาก แถมราคาน่าจะเกินค่าทัวร์ อยู่หลายสตางค์
แถมราคาทัวร์มัน ยั่วยวนอยู่ ตกคนละ 15000 ได้เล่นหิมะ ที่อยุ่ที่กินพร้อม กะตกลงไป กะ บ. เอ ทั้งหมด 7 ชีวิต เป็นเงินรวม 105000 ถ้วนนนนน
โดยได้ติดต่อเรื่องทัวร์ เรื่องต่างๆ กับ นางเจ (นามสมมติ) เดินทางวันที่ 20-1-58 กลับ 24-1-58
ทุกอย่างราบรื่นนนนน จนหัวกระแทกพื้นเรยที่เดียว ก่อนเดินทาง 1 อาทิตย์ สายการบินโดนระงับบินจ้าาาาาาา
กุนี้ จิตตกเรยคะ สรุปไม่ได้ไป แถมแจ้งก่อนเดินทาง 1วัน เศร้าสิคะ รออะไร
หมดค่าเสื้อผ้ารองเท้า ลองจานเอ้ยลองจอน ก็หลายพัน แถมอิ6ชีวิต ที่มองหน้าอิชั้น ว่าจะเอาไงต่อไป แล้วเงินจะได้คืนไหม
ตอนนี้ช่างหัวค่าเสื้อผ้าคะ เอาค่าทัวร์ กุ คืนมาาาาาา แสนกว่า ขนขาร่วงหมดขา2ข้างยังไม่พอจ่ายเรย
21-1-58 ก็เริ่มติดต่อ ขอคืนเงินทันที เราติดต่อทวงเงินกับ นางเจ ที่เราติดต่อโอนเงินค่าทัวร์ให้
เริ่มมหกรรมทวงเงิน ซึ่งไม่ใช่งานถนัด แต่ก็ต้องถนัด เพราะไม่มีปัญญาหาเงินคืนชาวบ้าน
อาทิตย์แรก นางเจ ก็แจงรายละเอียดกับเราว่าจะจัดการให้ เราก็จัดไป โทรถามแมร่งทุกวัน
คือรีบไง ถ้าได้เงินมา นี้จองไปต่อเรยนะ เสื้อผ้า ข้าวของนี้จัดของหน้าหนาวรอไว้แล้ว
จนนางเจ บอกว่า พี่คะ หนูก็ยังไม่รู้อะไรเหมือนกัน ถ้าถึงคิวพี่ได้เงินเมื่อไร หนูจะโทรไปแจ้งนะคะ
เราก็ ทำใจไว้ละ คงจะได้ช้าหน่อย กะไปแจ้งคนในกลุ่มว่า ได้แน่ๆ แต่ช้าหน่อย ไม่เคยโดนโกงไงคะ ยังโลกสวยอยู่
อาทิตย์ ต่อมา ประมาณ ต้นเดือนกุมภา เราคิดว่า นางเจต้องตายแล้วแน่เรย คือ มีไม่มี กะโทรบอกให้สบายใจหน่อยไม่ได้อะ
กุนี้เครียดผมร่วงอย่างกะคนเป็นมะเร็ง ต้องให้โทรตามจิ้กเองทุกอย่าง ไม่มีโทรแสดงตัวก่อน กะเชิดใช่ไหม สารภาพมาาาาา
จนเค้าคงทนไม่ไหวโยนให้เราโทรคุยกันเองกับ นายบี ผู้ดูแลการเงิน ซึ้งไม่รู้เชื่อได้ไหม
(นางเจ แจ้งมาว่านายบีเป็นคนจัดการเรื่องคืนเงินให้ลูกค้า ให้เรามาทวงเองโดยตรงอาจจะได้เร็วกว่ารองนางเจจัดการให้)
ช่วงที่เริ่มทวงเงินผ่าน นายบี ประมาณ 5-6 กุมภาละ เราก็เริ่ม ทำเสียงน่าสงสาร พี่คะหนูเดือดร้อนมาก ถ้าพี่ไม่คืนเงิน ทำเสียงเศร้าเล่าความจิง ให้นายบีฟัง
นายบีกะบอก เดียวอาทิตย์หน้า เงินจะเข้า พี่จะรีบทยอยคืนให้น้องนะ แต่ก็ต้องรอตามคิว เรากะโอเค ขอแค่ได้เงินคืออะ
เราใจดีให้ 10วันเรย นายบีบอกอาทิตย์หน้า (1อาทิตย์ เท่ากับ 7 วันไง คือซือ หรือ โง่ เริ่มแยกไม่ออก)
วันที่ 16 กุมภา ก็โทรสอบถาม(ทวงเงิน) ความคืบหน้าอีกรอบ นายบี บอกเงินยังไม่เข้าเรยคับ
(กุนี้เริ่มไม่เชื่อละ เริ่มคิด 50 เปอร์ ไม่น่าได้เงินคืนละ แต่ชีวิตต้องมีความหวัง)
เรากะถามแล้วอีกนานไหมพี่ นายบีกะบอก เดียวพี่ออกใบของบริษัทให้ ว่าทางบริษัท ค้างเงินน้องอยุ่ยอดเท่านั้นเท่านี้
กุกะสบายใจได้จิ้ดเดียวววว กะว่าอย่างน้อยกะเอาไว้ฟ้องแมร่งได้ละวะ ไม่กี่วันกะส่งมา กระดาษ 1 ใบ มีหัวบริษัท
จนวันที่ 20กว่า กุมภา โทรอีก เผื่อฟลุกเงินเข้า(ยังหวังลมๆแล้งๆ) นายบี กะบอกว่าเงินยังไม่มา
แต่สิ้นเดียวเดียวพี่ตีเช็คให้น้องไปก่อน ให้น้องแวะเข้ามารับอาจจะตีประมาณ 1 เดือนนะคับ หลังจากวันที่น้องมารับเช็ค
เรากะดีใจ อย่างน้อย คุณก็กล้าตีเช็คให้ ก็ต้องคืนละวะ มะงั้น เสียเครดิตแย่
(อีกมุม ถ้ามีเช็ค ก็มีหลังฐานฟ้องร้องได้ หลังจากที่ผ่านมา 1 เดือน เริ่มรวบรวมเอกสารขึ้นโรงขึ้นศาลละ)
เเรากะรอ ร้อ รอ สิ้นเดือนให้เค้าโทรมา ให้ไปรับเช็ค รอจนวันที่6 มีนาคะ สรุป คงตายทั้ง บริษัท อ่ะ ไม่มีการติดต่อใดๆทั้งสิ้น
จนปัจจุบัน ก็ไม่มีโทรกลับมาแม้แต่สายเดียวคะ
ส่วนตัวเราก็พอแล้วคะ เค้าผิด เค้าต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เรา ที่ต้องคอยง้อเค้า เราเริ่มทุกอย่าง โทรตาม โทรจิก เลื่อนกี่ครั้งกะไม่เหวี่ยง เข้าใจ ยอมรับ
แต่เมื่อเค้าไม่เช้าใจ ไม่เห็นใจ ก็ไม่เป็นไรคะ เราก็ต้องจัดการในแบบของเรา
เริ่มเข้ากูเกิล หาคนที่เป็นแบบเรา ส่วนใหญ่ที่อ่านเจอ กะให้แจ้งความ รวบรวมคน ไปฟ้องศาล กดดันบริษัท นั้นนู้นนี้ พ่อกะคอยด่า กึ่งสมน้ำหน้า
7-3-58 คิดอะไรไม่ออก กะเริ่มต้นด้วยการแจ้งความคะ ได้ใบแจ้งความกลับมานอนบ้าน เริ่มหาเอกสาร ที่เราโอนเงิน ใบเสร็จรับเงินที่ทางบริษัทส่งมาให้
ใบตารางทัวร์ แม้กระทั่งสเตทเมน การโอนเงินไปให้เค้า ทำไปวันละอย่าง 2 อย่าง
หลายวันต่อมา จนน้า คนที่แนะนำให้ไปกะทัวร์นี้ โทรมาถามว่าเป็นไงบ้าง เรื่องไปถึงไหน ได้เงินคืนรึยัง เรากะเล่าให้ ว่าเค้าคงไม่คืนแล้วละ พูดแถไปเรื่อยอ่ะ เลื่อนเปนสิบรอบละ
น้ากะเรยแนะนำ ลองไป ร้องเรียน สคบ ดีมั้ย เรากะ อ้าวได้หรอ ก็เริ่มไปหาแบบฟอร์มมากรองส่ง
เตรียมเอกสารที่เค้าต้องการ มีมากเท่าที่มากได้ กรอกข้อมูล อธิบายเหตุการณ์ เราส่งเอกสารไปทาง สคบ ประมาณวันที่ 10 เดือนมีนา ได้
(อย่าทำตามเรา ถ้าจะให้ไว ส่งไปกรมการท่องเที่ยวโดยตรงเรยนะคะ)
(แต่ไปอ่านเจอว่ากรมการท่องเที่ยวต้องไปยื่นเรื่องด้วยตัวเอง แต่เราไม่สะดวก เรยส่งไปทาง สคบ แทน ทำให้เสียเวลาไปพอสมควร)
เอาแบบฟอร์ม เปนตัวอย่างนะ ว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการแจ้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.ocpb.go.th/download/pdf/p01.pdf
(เราพอรู้จักคนวงการทัวร์มาบ้าง เค้าว่า บริษัททัวร์ จะมีเงินประกันกับทางกรมการท่องเที่ยว บริษัทละ 100000 บาท ก็คือวงเงินที่เค้าจะคืนเรานี้ละ
ยอดของเรา 105000 บาท แต่ถ้าวงเงิน ได้แค่ 100000 เราก็เอา ขาดทุน 5000 ถือว่าค่าโง่แล้วกัน)
หลังจากเราส่งเรื่องไปทาง สคบ พอต้นเมษา มีจดหมายตอบกลับมาว่า เรื่องนี้อยุ่ในความรับผิดชอบของกรมการท่องเที่ยว
ทางสคบ จะส่งข้อมูล และเอกสารทั้งหมด ไปให้ทางกรมการท่องเที่ยว เราก็เรยโทรหากรมการท่องเที่ยว โทรกว่าจะติด หรือเราดวงไม่ดีก็ไม่รุ้
โทรอยุ่ 2 วัน กว่าจะติด เรากะอธิบายให้เค้าฟังว่า สบคส่งเรื่องมาทางกรมการท่องเที่ยว ทางนี้ได้รับ เอกสารหรือยังคะ คุยไปคุยมาจนมาเจอคนที่รับเรื่องไว้ กะเรยได้คุยกับพี่เค้า พี่เค้ากะบอกว่าเรื่องพึ่งมาถึง เดียวขอตรวจสอบเอกสารก่อน ว่าโอเคไหม ถ้าโอเค เดียวเค้าจะโทรคุยกับทางบริษัททัวร์ให้มาไกล่เกลี่ยค่าใช้จ่ายที่ต้องคืนกับเรา เรากะโอเค อย่างน้อย เรื่องก็ถึงกรมการท่องเที่ยวแล้ว สบายใจไปได้เปราะหนึ่ง
เรากะเรยถามเค้าว่า บริษัทที่เราร้องเรียนไป มีคนอื่นแจ้งบ้างไหม เค้าบอกว่า ไม่มีเรย มีน้องคนเดียว เท่ากับเราได้เต็มๆ (คาดหวังๆๆๆ)
(เราก็โล่งใจ เพราะ ถ้ามีคนแจ้งถึงบริษัทเดียวกันมากกว่า 1คนหรือ 1กรณี เราก็จะต้องหาร เงินประกัน เช่น 3 กรณี กะแบ่งตามอัตราส่วน ของแต่ละกรณี)
จนอาทิตย์ ต่อมา ทางกรมการท่องเที่ยวกะโทรกลับมา บอกว่า เค้าได้โทรแจ้งกับทางบริษัททัวร์แล้วเข้ามาไกล่เกลี่ย ตกลงว่าจะชำระคืนเงินเรายังไง
เค้าก็อธิบายให้เราฟังว่า กรมการท่องเที่ยวจะเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยให้ แต่ถ้าทางบริษัททัวร์ มีท่าทางอะไรที่เข้าข่ายผิดคำพูด ผิดกติกา เค้าจะยึดเงินประกันแล้วนำมาชดใช้ให้เราแทน แต่ตอนนี้อยู่ในกรณีไกล่เกลี่ยอยู่
เรากะ รอ ร้อ รอ ต่อไป จนเข้าเดือน พฤษภาคม ก็ยังไม่มีวีแว่วใดๆ เรากะโทรกลับไป เพราะเห็นว่าเค้าจะเรียก บริษัททัวร์ เข้ามาเจรจาว่าจะแก้ปัญหายังไง (เรายังมีความหวังว่าจะได้เงินคืนไง จะกี่หมื่นกะเอาไว้ก่อน โทรตามเข้าไว้ อายกะต้องทน)
พี่เค้าบอกว่า เค้าได้คุยกับทางนั้นแล้ว เค้ามีปัญหาทางการเงิน แต่ทางบริษัททัวร์ จะทยอยโอนคืนให้เรา เริ่มสิ้นเดือน มิถุนายน
(เราจำยอดไม่ได้ละ ว่าเค้าจะทยอยให้กี่ครั้ง ครั้งละเท่าไร แต่ประมาณ 4-5 เดือนถึงจะครบอ่ะ )
ตอนแรกเราก็บ่นนะ ทำไมนานขนาดนั้น เรารอมาตั้งแต่เดือน มกราคมแล้ว แถมเค้าก็ไม่คิดจะติดต่อคืนเงินเรย จะมีคนแบบเราอีกกี่คน
เราต้องมารอหลังเดือน มิ.ย อีก แถมได้ไม่ครบ (แต่เรากะคิดว่า ตอนนี้แบบไหนได้ก็เอาไว้ก่อน ชาวคณะรอเหงือกแห้งละ)
แต่สุดท้ายก็โอเค ยอม เพราะพี่คนที่คอยดูเรื่องให้ เค้าการันตีว่า ถ้าเค้าเบี้ยวแม้แต่งวดเดียวเค้าจะจัดการให้เอง คือไงก็ได้เงินแน่นอน แต่อาจจะช้าหน่อย
เราก็เชื่อพี่เค้า ไม่รู้จะทำไงละ
รอ ร้อ รอ รอเป็น บังอรเรย เป็นการทวงเงินมาราธอนมาก สุดท้ายกะจะถึงสิ้นเดือน 6 จุดเริ่มต้นที่รอคอย
แต่ๆๆๆๆๆๆๆ ก่อนถึงสิ้นเดือน 3 วัน พี่พัชร (ที่อยู่กรมการท่องเที่ยว ไม่รู้จำชื่อถูกไหม หนุต้องขอบคุณพี่เค้ามากๆคะ)
เค้าโทรมาก่อนนนน เห้ยยยยยย จะได้เงินแล้ว เค้าดันโทรมาว่า ทางบริษัท เค้าคงไม่คืนเงินน้องแล้วนะ เรานี้น้ำตาแถบไหลเรย
รอมาตั้งนาน ไหนพี่ว่าได้แน่ไง เรากะเรยถามเค้าไปว่า ทำไมพี่มั่นใจละ ว่าเค้าจะไม่คืนเงินหนูแล้ว เค้าก็บอกว่าทางนั้นยืนเอกสาร ขอปิดบริษัท
แล้วขอรับเงินประกันคืน แต่เรื่องน้องมันคาอยู่ ทางกรมการท่องเที่ยวคืนเงินประกันให้ไม่ได้
พี่เค้าวิเคราะห์ว่า ถ้ามาลักษณะนี้ ทางนั้นคงไม่จ่ายให้เราแล้วละ เค้าก็เรยบอกเราว่า แต่ถือเป็นเรื่องดีของน้องนะพี่ว่า
เพราะไม่งั้นต้องมารอเงินเค้าทุกเดือน แต่ถ้ามาแนวนี้ ทางกรมการท่องเที่ยวจะสำรองจ่ายให้ก่อนตามยอดที่เราแจ้งมาเรย
พี่พัชร เค้าก็บอก คราวนี้ได้แน่นอน สบายใจได้ แต่ขอเวลาพี่ยื่นเรื่องเซนอนุมัติก่อน อาจจะใช่เวลาหน่อยนะ
เรานี้ยิ้มเรย รอได้คะพี่ รอมาขนาดนี้แล้ว แถมได้ครบ ทุกบาททุกสตาร์ง
สรุปได้รับเช็คตอนต้นเดือน 9 คะ เช็คนี้ตีไวมาก แต่กว่าจะถึงเรา ปาเข้าไปเดือน 9 แนะ
พอได้รับเช็คเราก็ถามพี่คนที่ดูเแลเรื่องนี้ ว่า ในกรณี ที่มีคนแจ้งบริษัท เดียวกันมากกว่า 1 กรณี แล้วได้เงินไม่ครบ จะทำยังไงต่อ พี่เค้าก็บอกว่า ให้ส่งเรื่องมาใหม่ ส่งมาเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ครบตามจำนวนเงินที่เสียไป เดียวทางกรมการท่องเที่ยวจะไล่บี้ กับทางบริษัททัวร์เอง คะ
ปอลูแรก สำหรับคนที่อ่านจนจบ หวังว่าคุณจะได้ความรู้ไม่มากก็น้อยนะคะ หรือใครที่กำลังมีปัญหากับบริษัททัวร์ หวังว่าจะเป็นประโยชน์
ปอลู ส่วนเรา กับหมู่คณะ ก็ได้เดินทางไปเกาหลีกับอีกบริษัทนะคะ ช่วงเดือนกุมภา แต่ก็ต้องสำรองเงินออกไปก่อนทั้งหมด แต่ก็ได้เที่ยวสมใจ
เราไม่แน่ใจว่าต้องแท๊คห้องไหนบ้าง ผิดพลาดข้าน้อยขออภัย
อยากแชร์ประสบการณ์ โดนบริษัททัวร์โกงเงิน แต่ได้เงินคืนครบทุกบาททุกสตางค์
เราอยากจะเขียนให้อ่าน เล่าสู่กันฟัง แต่ความขี้เกียจบังตา แต่ตอนนี้ ก็นะ ทำบุญ ก็ได้บุญ
ถ้าเรื่องของเราทำให้คนอื่นๆได้เงินคืนสักคนสองคน ก็ดีใจแล้วคะ
ถ้ามีอะไรพิมผิดไป ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ทะเลาะกับคีบอร์ดโน๊ตบุ๊ค เล็กน้อย
เริ่ม เริ่ม เริ่ม
เราได้จองทัวร์เดินทางไปเกาหลี กับบริษัท เอ (นามสมมติ) เนื่องจาก บ.เอ ชอบมีโปรโมชั่น 1แถม1 ราคา 30000 บาท ไปได้ 2คน
(เห็นแก่ของถูก จำจนตายจ๊ะ )
น้าเรา เดินทางกับบริษัทนี้ หลายรอบมาก สนิทกับหัวหน้าทัวร์เรยกะว่าได้ พอมีโปรนี้ออกมา น้าเรยมาบอกเรา
เพราะเค้าจะมีแจ้งแค่สมาชิกเค้า ถึงจะรู้โปรนี้ ไอ้เรากะงกไง แต่ตัวเราอะ ไปเกาหลีมาหลายรอบมา ตั้งแต่ทัวร์แพงยันทัวร์ถูก ไปเองกะไปมาหมดแล้ว
แต่ๆ เพื่อนๆพี่ๆคนสนิท อยากจะไปด้วย รวบรวมกันมา 7 ชีวิต รวมเรา ถ้าจะไปกันเอง ค่อนข้างลำบาก แถมราคาน่าจะเกินค่าทัวร์ อยู่หลายสตางค์
แถมราคาทัวร์มัน ยั่วยวนอยู่ ตกคนละ 15000 ได้เล่นหิมะ ที่อยุ่ที่กินพร้อม กะตกลงไป กะ บ. เอ ทั้งหมด 7 ชีวิต เป็นเงินรวม 105000 ถ้วนนนนน
โดยได้ติดต่อเรื่องทัวร์ เรื่องต่างๆ กับ นางเจ (นามสมมติ) เดินทางวันที่ 20-1-58 กลับ 24-1-58
ทุกอย่างราบรื่นนนนน จนหัวกระแทกพื้นเรยที่เดียว ก่อนเดินทาง 1 อาทิตย์ สายการบินโดนระงับบินจ้าาาาาาา
กุนี้ จิตตกเรยคะ สรุปไม่ได้ไป แถมแจ้งก่อนเดินทาง 1วัน เศร้าสิคะ รออะไร
หมดค่าเสื้อผ้ารองเท้า ลองจานเอ้ยลองจอน ก็หลายพัน แถมอิ6ชีวิต ที่มองหน้าอิชั้น ว่าจะเอาไงต่อไป แล้วเงินจะได้คืนไหม
ตอนนี้ช่างหัวค่าเสื้อผ้าคะ เอาค่าทัวร์ กุ คืนมาาาาาา แสนกว่า ขนขาร่วงหมดขา2ข้างยังไม่พอจ่ายเรย
21-1-58 ก็เริ่มติดต่อ ขอคืนเงินทันที เราติดต่อทวงเงินกับ นางเจ ที่เราติดต่อโอนเงินค่าทัวร์ให้
เริ่มมหกรรมทวงเงิน ซึ่งไม่ใช่งานถนัด แต่ก็ต้องถนัด เพราะไม่มีปัญญาหาเงินคืนชาวบ้าน
อาทิตย์แรก นางเจ ก็แจงรายละเอียดกับเราว่าจะจัดการให้ เราก็จัดไป โทรถามแมร่งทุกวัน
คือรีบไง ถ้าได้เงินมา นี้จองไปต่อเรยนะ เสื้อผ้า ข้าวของนี้จัดของหน้าหนาวรอไว้แล้ว
จนนางเจ บอกว่า พี่คะ หนูก็ยังไม่รู้อะไรเหมือนกัน ถ้าถึงคิวพี่ได้เงินเมื่อไร หนูจะโทรไปแจ้งนะคะ
เราก็ ทำใจไว้ละ คงจะได้ช้าหน่อย กะไปแจ้งคนในกลุ่มว่า ได้แน่ๆ แต่ช้าหน่อย ไม่เคยโดนโกงไงคะ ยังโลกสวยอยู่
อาทิตย์ ต่อมา ประมาณ ต้นเดือนกุมภา เราคิดว่า นางเจต้องตายแล้วแน่เรย คือ มีไม่มี กะโทรบอกให้สบายใจหน่อยไม่ได้อะ
กุนี้เครียดผมร่วงอย่างกะคนเป็นมะเร็ง ต้องให้โทรตามจิ้กเองทุกอย่าง ไม่มีโทรแสดงตัวก่อน กะเชิดใช่ไหม สารภาพมาาาาา
จนเค้าคงทนไม่ไหวโยนให้เราโทรคุยกันเองกับ นายบี ผู้ดูแลการเงิน ซึ้งไม่รู้เชื่อได้ไหม
(นางเจ แจ้งมาว่านายบีเป็นคนจัดการเรื่องคืนเงินให้ลูกค้า ให้เรามาทวงเองโดยตรงอาจจะได้เร็วกว่ารองนางเจจัดการให้)
ช่วงที่เริ่มทวงเงินผ่าน นายบี ประมาณ 5-6 กุมภาละ เราก็เริ่ม ทำเสียงน่าสงสาร พี่คะหนูเดือดร้อนมาก ถ้าพี่ไม่คืนเงิน ทำเสียงเศร้าเล่าความจิง ให้นายบีฟัง
นายบีกะบอก เดียวอาทิตย์หน้า เงินจะเข้า พี่จะรีบทยอยคืนให้น้องนะ แต่ก็ต้องรอตามคิว เรากะโอเค ขอแค่ได้เงินคืออะ
เราใจดีให้ 10วันเรย นายบีบอกอาทิตย์หน้า (1อาทิตย์ เท่ากับ 7 วันไง คือซือ หรือ โง่ เริ่มแยกไม่ออก)
วันที่ 16 กุมภา ก็โทรสอบถาม(ทวงเงิน) ความคืบหน้าอีกรอบ นายบี บอกเงินยังไม่เข้าเรยคับ
(กุนี้เริ่มไม่เชื่อละ เริ่มคิด 50 เปอร์ ไม่น่าได้เงินคืนละ แต่ชีวิตต้องมีความหวัง)
เรากะถามแล้วอีกนานไหมพี่ นายบีกะบอก เดียวพี่ออกใบของบริษัทให้ ว่าทางบริษัท ค้างเงินน้องอยุ่ยอดเท่านั้นเท่านี้
กุกะสบายใจได้จิ้ดเดียวววว กะว่าอย่างน้อยกะเอาไว้ฟ้องแมร่งได้ละวะ ไม่กี่วันกะส่งมา กระดาษ 1 ใบ มีหัวบริษัท
จนวันที่ 20กว่า กุมภา โทรอีก เผื่อฟลุกเงินเข้า(ยังหวังลมๆแล้งๆ) นายบี กะบอกว่าเงินยังไม่มา
แต่สิ้นเดียวเดียวพี่ตีเช็คให้น้องไปก่อน ให้น้องแวะเข้ามารับอาจจะตีประมาณ 1 เดือนนะคับ หลังจากวันที่น้องมารับเช็ค
เรากะดีใจ อย่างน้อย คุณก็กล้าตีเช็คให้ ก็ต้องคืนละวะ มะงั้น เสียเครดิตแย่
(อีกมุม ถ้ามีเช็ค ก็มีหลังฐานฟ้องร้องได้ หลังจากที่ผ่านมา 1 เดือน เริ่มรวบรวมเอกสารขึ้นโรงขึ้นศาลละ)
เเรากะรอ ร้อ รอ สิ้นเดือนให้เค้าโทรมา ให้ไปรับเช็ค รอจนวันที่6 มีนาคะ สรุป คงตายทั้ง บริษัท อ่ะ ไม่มีการติดต่อใดๆทั้งสิ้น
จนปัจจุบัน ก็ไม่มีโทรกลับมาแม้แต่สายเดียวคะ
ส่วนตัวเราก็พอแล้วคะ เค้าผิด เค้าต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เรา ที่ต้องคอยง้อเค้า เราเริ่มทุกอย่าง โทรตาม โทรจิก เลื่อนกี่ครั้งกะไม่เหวี่ยง เข้าใจ ยอมรับ
แต่เมื่อเค้าไม่เช้าใจ ไม่เห็นใจ ก็ไม่เป็นไรคะ เราก็ต้องจัดการในแบบของเรา
เริ่มเข้ากูเกิล หาคนที่เป็นแบบเรา ส่วนใหญ่ที่อ่านเจอ กะให้แจ้งความ รวบรวมคน ไปฟ้องศาล กดดันบริษัท นั้นนู้นนี้ พ่อกะคอยด่า กึ่งสมน้ำหน้า
7-3-58 คิดอะไรไม่ออก กะเริ่มต้นด้วยการแจ้งความคะ ได้ใบแจ้งความกลับมานอนบ้าน เริ่มหาเอกสาร ที่เราโอนเงิน ใบเสร็จรับเงินที่ทางบริษัทส่งมาให้
ใบตารางทัวร์ แม้กระทั่งสเตทเมน การโอนเงินไปให้เค้า ทำไปวันละอย่าง 2 อย่าง
หลายวันต่อมา จนน้า คนที่แนะนำให้ไปกะทัวร์นี้ โทรมาถามว่าเป็นไงบ้าง เรื่องไปถึงไหน ได้เงินคืนรึยัง เรากะเล่าให้ ว่าเค้าคงไม่คืนแล้วละ พูดแถไปเรื่อยอ่ะ เลื่อนเปนสิบรอบละ
น้ากะเรยแนะนำ ลองไป ร้องเรียน สคบ ดีมั้ย เรากะ อ้าวได้หรอ ก็เริ่มไปหาแบบฟอร์มมากรองส่ง
เตรียมเอกสารที่เค้าต้องการ มีมากเท่าที่มากได้ กรอกข้อมูล อธิบายเหตุการณ์ เราส่งเอกสารไปทาง สคบ ประมาณวันที่ 10 เดือนมีนา ได้
(อย่าทำตามเรา ถ้าจะให้ไว ส่งไปกรมการท่องเที่ยวโดยตรงเรยนะคะ)
(แต่ไปอ่านเจอว่ากรมการท่องเที่ยวต้องไปยื่นเรื่องด้วยตัวเอง แต่เราไม่สะดวก เรยส่งไปทาง สคบ แทน ทำให้เสียเวลาไปพอสมควร)
เอาแบบฟอร์ม เปนตัวอย่างนะ ว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการแจ้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(เราพอรู้จักคนวงการทัวร์มาบ้าง เค้าว่า บริษัททัวร์ จะมีเงินประกันกับทางกรมการท่องเที่ยว บริษัทละ 100000 บาท ก็คือวงเงินที่เค้าจะคืนเรานี้ละ
ยอดของเรา 105000 บาท แต่ถ้าวงเงิน ได้แค่ 100000 เราก็เอา ขาดทุน 5000 ถือว่าค่าโง่แล้วกัน)
หลังจากเราส่งเรื่องไปทาง สคบ พอต้นเมษา มีจดหมายตอบกลับมาว่า เรื่องนี้อยุ่ในความรับผิดชอบของกรมการท่องเที่ยว
ทางสคบ จะส่งข้อมูล และเอกสารทั้งหมด ไปให้ทางกรมการท่องเที่ยว เราก็เรยโทรหากรมการท่องเที่ยว โทรกว่าจะติด หรือเราดวงไม่ดีก็ไม่รุ้
โทรอยุ่ 2 วัน กว่าจะติด เรากะอธิบายให้เค้าฟังว่า สบคส่งเรื่องมาทางกรมการท่องเที่ยว ทางนี้ได้รับ เอกสารหรือยังคะ คุยไปคุยมาจนมาเจอคนที่รับเรื่องไว้ กะเรยได้คุยกับพี่เค้า พี่เค้ากะบอกว่าเรื่องพึ่งมาถึง เดียวขอตรวจสอบเอกสารก่อน ว่าโอเคไหม ถ้าโอเค เดียวเค้าจะโทรคุยกับทางบริษัททัวร์ให้มาไกล่เกลี่ยค่าใช้จ่ายที่ต้องคืนกับเรา เรากะโอเค อย่างน้อย เรื่องก็ถึงกรมการท่องเที่ยวแล้ว สบายใจไปได้เปราะหนึ่ง
เรากะเรยถามเค้าว่า บริษัทที่เราร้องเรียนไป มีคนอื่นแจ้งบ้างไหม เค้าบอกว่า ไม่มีเรย มีน้องคนเดียว เท่ากับเราได้เต็มๆ (คาดหวังๆๆๆ)
(เราก็โล่งใจ เพราะ ถ้ามีคนแจ้งถึงบริษัทเดียวกันมากกว่า 1คนหรือ 1กรณี เราก็จะต้องหาร เงินประกัน เช่น 3 กรณี กะแบ่งตามอัตราส่วน ของแต่ละกรณี)
จนอาทิตย์ ต่อมา ทางกรมการท่องเที่ยวกะโทรกลับมา บอกว่า เค้าได้โทรแจ้งกับทางบริษัททัวร์แล้วเข้ามาไกล่เกลี่ย ตกลงว่าจะชำระคืนเงินเรายังไง
เค้าก็อธิบายให้เราฟังว่า กรมการท่องเที่ยวจะเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยให้ แต่ถ้าทางบริษัททัวร์ มีท่าทางอะไรที่เข้าข่ายผิดคำพูด ผิดกติกา เค้าจะยึดเงินประกันแล้วนำมาชดใช้ให้เราแทน แต่ตอนนี้อยู่ในกรณีไกล่เกลี่ยอยู่
เรากะ รอ ร้อ รอ ต่อไป จนเข้าเดือน พฤษภาคม ก็ยังไม่มีวีแว่วใดๆ เรากะโทรกลับไป เพราะเห็นว่าเค้าจะเรียก บริษัททัวร์ เข้ามาเจรจาว่าจะแก้ปัญหายังไง (เรายังมีความหวังว่าจะได้เงินคืนไง จะกี่หมื่นกะเอาไว้ก่อน โทรตามเข้าไว้ อายกะต้องทน)
พี่เค้าบอกว่า เค้าได้คุยกับทางนั้นแล้ว เค้ามีปัญหาทางการเงิน แต่ทางบริษัททัวร์ จะทยอยโอนคืนให้เรา เริ่มสิ้นเดือน มิถุนายน
(เราจำยอดไม่ได้ละ ว่าเค้าจะทยอยให้กี่ครั้ง ครั้งละเท่าไร แต่ประมาณ 4-5 เดือนถึงจะครบอ่ะ )
ตอนแรกเราก็บ่นนะ ทำไมนานขนาดนั้น เรารอมาตั้งแต่เดือน มกราคมแล้ว แถมเค้าก็ไม่คิดจะติดต่อคืนเงินเรย จะมีคนแบบเราอีกกี่คน
เราต้องมารอหลังเดือน มิ.ย อีก แถมได้ไม่ครบ (แต่เรากะคิดว่า ตอนนี้แบบไหนได้ก็เอาไว้ก่อน ชาวคณะรอเหงือกแห้งละ)
แต่สุดท้ายก็โอเค ยอม เพราะพี่คนที่คอยดูเรื่องให้ เค้าการันตีว่า ถ้าเค้าเบี้ยวแม้แต่งวดเดียวเค้าจะจัดการให้เอง คือไงก็ได้เงินแน่นอน แต่อาจจะช้าหน่อย
เราก็เชื่อพี่เค้า ไม่รู้จะทำไงละ
รอ ร้อ รอ รอเป็น บังอรเรย เป็นการทวงเงินมาราธอนมาก สุดท้ายกะจะถึงสิ้นเดือน 6 จุดเริ่มต้นที่รอคอย
แต่ๆๆๆๆๆๆๆ ก่อนถึงสิ้นเดือน 3 วัน พี่พัชร (ที่อยู่กรมการท่องเที่ยว ไม่รู้จำชื่อถูกไหม หนุต้องขอบคุณพี่เค้ามากๆคะ)
เค้าโทรมาก่อนนนน เห้ยยยยยย จะได้เงินแล้ว เค้าดันโทรมาว่า ทางบริษัท เค้าคงไม่คืนเงินน้องแล้วนะ เรานี้น้ำตาแถบไหลเรย
รอมาตั้งนาน ไหนพี่ว่าได้แน่ไง เรากะเรยถามเค้าไปว่า ทำไมพี่มั่นใจละ ว่าเค้าจะไม่คืนเงินหนูแล้ว เค้าก็บอกว่าทางนั้นยืนเอกสาร ขอปิดบริษัท
แล้วขอรับเงินประกันคืน แต่เรื่องน้องมันคาอยู่ ทางกรมการท่องเที่ยวคืนเงินประกันให้ไม่ได้
พี่เค้าวิเคราะห์ว่า ถ้ามาลักษณะนี้ ทางนั้นคงไม่จ่ายให้เราแล้วละ เค้าก็เรยบอกเราว่า แต่ถือเป็นเรื่องดีของน้องนะพี่ว่า
เพราะไม่งั้นต้องมารอเงินเค้าทุกเดือน แต่ถ้ามาแนวนี้ ทางกรมการท่องเที่ยวจะสำรองจ่ายให้ก่อนตามยอดที่เราแจ้งมาเรย
พี่พัชร เค้าก็บอก คราวนี้ได้แน่นอน สบายใจได้ แต่ขอเวลาพี่ยื่นเรื่องเซนอนุมัติก่อน อาจจะใช่เวลาหน่อยนะ
เรานี้ยิ้มเรย รอได้คะพี่ รอมาขนาดนี้แล้ว แถมได้ครบ ทุกบาททุกสตาร์ง
สรุปได้รับเช็คตอนต้นเดือน 9 คะ เช็คนี้ตีไวมาก แต่กว่าจะถึงเรา ปาเข้าไปเดือน 9 แนะ
พอได้รับเช็คเราก็ถามพี่คนที่ดูเแลเรื่องนี้ ว่า ในกรณี ที่มีคนแจ้งบริษัท เดียวกันมากกว่า 1 กรณี แล้วได้เงินไม่ครบ จะทำยังไงต่อ พี่เค้าก็บอกว่า ให้ส่งเรื่องมาใหม่ ส่งมาเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ครบตามจำนวนเงินที่เสียไป เดียวทางกรมการท่องเที่ยวจะไล่บี้ กับทางบริษัททัวร์เอง คะ
ปอลูแรก สำหรับคนที่อ่านจนจบ หวังว่าคุณจะได้ความรู้ไม่มากก็น้อยนะคะ หรือใครที่กำลังมีปัญหากับบริษัททัวร์ หวังว่าจะเป็นประโยชน์
ปอลู ส่วนเรา กับหมู่คณะ ก็ได้เดินทางไปเกาหลีกับอีกบริษัทนะคะ ช่วงเดือนกุมภา แต่ก็ต้องสำรองเงินออกไปก่อนทั้งหมด แต่ก็ได้เที่ยวสมใจ
เราไม่แน่ใจว่าต้องแท๊คห้องไหนบ้าง ผิดพลาดข้าน้อยขออภัย