คบกันแบบนี้เรียกเราว่า แมน หรือ โง่ ดีคะ

กระทู้คำถาม
ขอเล่าคร่าวๆ ก่อนที่เราจะตกลงคบกัน แฟนเราใช้ความพยายามถึง 2 ปีในการจีบและเปลี่ยนทัศนคติเรา จะให้เราไปเป็นแฟนกับนักฟุตบอล ไม่มีทาง !!!
ซึ่งในช่วง 2 ปีนั้นเราแทบไม่ได้ใส่ใจอะไรผู้ชายคนนี้เลย เปิดอ่านข้อความแต่ไม่ตอบบ้าง ไม่เปิดอ่านเลยเป็นเดือน 2เดือนก็มี
แต่ด้วยความความบังเอิญ มารู้ว่าเราได้งานทำที่จ. แห่งหนึ่ง ซึ่งแฟนเราก็เพิ่งย้ายมาเล่นในทีมในจังหวัดที่เราทำงานเหมือนกัน

.....เรา2คนเข้าใจว่ามันคือ *พรหมลิขิต*
ทำให้เราได้คุยกันมากขึ้น สุดท้ายตกลงเป็นแฟนกัน มันมุ้งมิ้งมากช่วงนั้น
ช่วงแรกๆที่คบกัน ทุกอย่างก็ยังมุ้งมิ้งนะ อาจมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะใกล้ชิดกันมากขึ้น
แต่ช่วงระยะหลังนี้ มันเปลี่ยนไปเหมือนหนังคนละม้วนเลยคะ แค่ติดว่ายังใช้คำว่า แฟน กันอยู่

จากเมื่อก่อน ตอนกลางคืนเราแชทคุยกันได้เป็นชั่วโมง 2ชั่วโมง ตอบเร็วเหมือนเปิดหน้าจอแชทค้างไว้ ที่สำคัญแฟนจะเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนา
แต่เดี๋ยวนี้ ไม่ได้คุยกันทุกวัน เคยไม่ได้ติดต่อกับแฟนทุกช่องทาง มากสุด 4 วัน ต่างคนก็อยู่กันได้ ถามว่าคิดถึงไหมเราก็คิดถึงนะ แต่ไม่อยากดูไร้ค่าที่จะคอยทักไปก่อน เพราะเมื่อก่อนยังทักเราก่อนได้เลย ( จะเป็นฝ่ายรอแฟนทักมาก่อนตลอด นอกจากวันไหนมีแข่งเราจะส่งไปอวยพรก่อนลงสนาม ) และช่วงนั้นแฟนเรากำลังกดดัน และต้องการสมาธิกับเกมส์มาก เพราะสถานะการณ์ทีมไม่ค่อยดีนัก... แข่งจบแฟนก็ส่งข้อความมา "นี่ฉันแฟนเธอนะ เธอรู้จักฉันไหม หรือเธอลืมแล้ว"  เราเคยถามแฟนนะ ทำไมเมื่อก่อนยังคุยนานๆได้ เค้าตอบว่าก็เดี๋ยวนี้ เรารู้จักกันมากขึ้น รู้แม้กระทั่งวันนี้ต้องทำอะไร เวลาไหน รู้ว่าแต่ละคนรู้สึกยังไง เลยไม่ต้องแสดงเหมือนเมื่อก่อนตอนจีบ... ตารางชีวิตแฟนเราไม่มีอะไรค่ะ ซ้อมเช้า กลับมานอน ตื่นทานข้าว เตรียมตัวซ้อมเย็น กลับมาซักผ้า ทานข้าว ดูซีรี่ย์ คุยกับญาติ นอน ...ขี้เซา ปนขี้เกียจ แต่ถ้าวันไหนพิเศษ คือต้องไปทำเอกสาร กทม . ต้องไปอุ่นเครื่องที่อื่น หรืออะไรที่ต่างไปจากชีวิตประจำวันเราจะส่งข้อความบอกกัน

จากเมื่อก่อน เราเจอกันบ่อยมาก เราแทบจะกินนอนที่หอแฟนเลย เพราะแฟนจะอ้อนให้อยู่ด้วยกันตลอด
แต่เดี๋ยวนี้ 2สัปดาห์จะเจอกันสักที ด้วยเหตุผลที่ว่า ซ้อมเหนื่อย !! คือเมื่อก่อนมีแข่งต่างจังหวัด กลับมาจะมารับ บอกคิดถึง อยากเจออยู่เลย.

แต่เราว่านั่น เหตุผลจริงๆของแฟนคือ วันนั้นเราป่วย แฟนนั่งแทกซี่จากกทม มาหาเราที่หอ มันเป็นอะไรที่เซอร์ไพรซ์มาก เพราะแฟนเราเคยมาส่งเราที่หอ
ครั้งเดียว วันนั้นก็มืดมาก ไม่คิดว่าเค้าจะจำทางได้ อีกอย่างเพราะเค้าเป็นต่างชาติ ไม่น่าบอกทางแทกซี่ถูก.... วันนั้นเค้าขอเราเข้าห้องแต่เราไม่อนุญาต เพราะห้องเรารก เละเทะ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรสักอย่าง แม้แต่จานชาม เอาง่ายๆแค่ไว้ซุกหัวนอน เราไม่ได้อายนะ แต่เราอยากให้แต่สิ่งดีๆกับเค้า สรุปเราส่งเค้ากลับคืนนั้นเลย แทกซี่ก็ไม่มี เค้าต้องนั่งมอไซต์รับจ้างกลับ เกือบ 20 กิโลเมตร และได้ส่งข้อความมาบอกเราว่า เราจะไม่ได้ไปห้องเค้าอีก เพราะเรายังไม่กล้าเปิดเผยเค้า เหมือนมีความลับ คงมีรูปผู้ชายสินะ บลา บลา บลา ..........แต่สุดท้ายเราก็ยังได้ไปห้องแฟนนะ ซึ่งคนในครอบครัวแฟน ตกใจมาก เพราะนิสัยส่วนตัวแฟนเรา เป็นคนตรงๆ คำไหนคำนั้น หนักแน่น แต่นี่เค้ากลับให้เรายังเข้าไปในชีวิตเค้าได้ ก่อนหน้านี้ครอบครัวแฟนก็ตกใจมากพอ ที่รู้ว่าเราเข้าไปอยู่กับแฟนที่ห้องได้แบบนั้น เพราะแฟนเป็นคนรักความเป็นส่วนตัวมาก อินดี้มาก ไม่ให้ใครเข้าไปในชีวิตเค้าง่ายๆ ยิ่งห้องที่นับเป็นอาณาจักรด้วยแล้ว ไม่มีใครเคยได้รับโอกาสนี้มาก่อน

จากเมื่อก่อน แฟนเป็นคนชอบคุย ชอบเล่า (เฉพาะคนที่เข้ามาในชีวิตเค้าได้ เช่น แฟน เพื่อนที่สนิทจริง) แม้แต่มดเดินผ่าน เค้าก็เอามาเล่า ด้วยความสนุกสนาน แต่เราจะชอบฟังเค้าเล่าเรื่องที่บ้านเมืองเค้า ครอบครัวเค้า ชีวิตเค้าตอนเด็กๆ ดูเค้าเปิดเผยดี แล้วเค้าก็มีความสุขที่จะเล่า ทำให้เค้าหายคิดถึงบ้านด้วยแหละ
แต่เดี๋ยวนี้ เราอยู่ด้วยกันด้วยความเงียบ เค้าก็ดูทีวี เล่นเนต โทรคุยกับที่บ้าน (ลูกพี่ลูกน้อง น้องสาว หลานชาย ..ประเทศเค้าอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ คนในครอบครัวสนิทกันหมด) คุยทีเป็นชั่วโมงๆๆๆ เพราะแฟนชอบคุย ส่วนเราก็ เก็บ กวาดห้อง นอนกอดเค้าจนหลับไปเอง เพราะจะคาดครั้นให้เค้าเล่า แต่คนเล่าไม่มีความสุข คนฟังก็คงไม่มีความสุขเช่นกัน

จากเมื่อก่อน เราไปไหนมาไหนด้วยกันได้ทุกที
แต่เดี๋ยวนี้ ข้าวยังต้องสั่งมาทานที่ห้อง

เคยมีครั้งหนึ่ง เราแอบเห็นเราแชทกับผู้หญิง สืบจนรู้ว่าเป็นแฟนคลับ แต่บทสนทาไม่ใช่เลย (นี่แหละ ทำไมเราถึงเกลียดนักฟุตบอล) เราเลือกที่จะทำไม่รู้ไม่เห็น แต่จริงๆข้างในโคตรช้ำ ช่วงนั้นเราเหมือนคนบ้า กินไม่ได้ ไม่เป็นอันทำงาน เหมือนร่างไร้วิญญาณเลย เพ้อเจ้อบนเฟชบุ๊ค ส่งข้อความไปหาผู้หญิงคนนั้น ส่งข้อความไปเล่าให้ครอบครัวแฟนฟัง ที่สำคัญ ...ส่งข้อความไปหาเพื่อนแฟน (เพื่อนร่วมทีม ไม่สนิท แต่ห้องใกล้กัน) ให้เค้ามาเคาะห้องว่าแฟนเอาใครมาหรือเปล่า คำตอบคือไม่มีใครในห้องแฟน (ที่เราเชื่อเพื่อนคนนี้ เพราะเค้านิสัยม่อ ตั้งแต่เราแชทปรึกษา ก็แสดงอาการม่อเรา ทั้งๆเป็นแฟนเพื่อน  ถ้าใรใครในห้องเค้าคงบอกแล้ว เรากับแฟนจะได้เลิกกัน เราคิดเข้าข้างตัวเองแบบนี้อิอิ)

แฟนเราคงได้เห็นสเตตัส ตัดพ้อต่างๆนาๆ เค้าเลยบอกเลิกเราด้วยเหตุผลที่ว่า เค้าก็ไม่เชื่อใจเราตั้งแต่ครั้งนั้น แล้วตอนนี้เราก็ไม่เชื่อใจเค้า มันจะคบกันต่อได้ไง....แถมเรายังส่งข้อความหาคนนู้นคนนี้ ทำให้เค้าดูเป็นคนไม่ดี นับว่าเราไม่ให้เกียรติเค้า (แฟน เป็นคนวางตัวดีมาก ไม่อยากให้ชื่อเสียงตัวเองเสีย ) ตอนนั้นเราชาไปทั้งตัว ไม่คิดว่าจะได้ยินคำว่าเลิก* จากปากแฟน แถมยังลงท้ายด้วยว่า ไม่มีทางที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก
ตอนนั้นเราคิดว่าต้องเสียแฟนไปแล้วแน่ๆ เพราะแฟนเราเป็นคนหนักแน่นไง แต่เราร้องห่มร้องไห้อ้อนวอน นั่งเฝ้าหน้าห้อง จนได้รับสัญญาณที่ดีจากแฟนคือ ขอเวลาเค้าทบทวนอะไรหน่อยอีกอย่างจะแข่งแล้ว เค้าอยากมีสมาธิ ให้เรากลับห้องไปก่อน ดึกแล้ว ฝนก็จะตก ไม่อยากให้เราเปียกฝน

แต่สุดท้ายเราก็คบกันมาจนวันนี้ แต่คบด้วยความคุ้นชิน และ ชา
เจอก็ได้ ไม่เจอก็ได้ ไม่เรียกร้อง ไม่อยากลดคุณค่าตัวเอง แต่ถ้าอยากเจอบอกเรา เพราะทุกเวลา เราก็อยากเจอเค้าเหมือนกัน
ไม่ทักแชท ไม่รอเสียงโทรศัพท์ หาอะไรทำเพลินๆ พยายามไม่คิด สุดท้ายแฟนก็ติดต่อมา หรือถ้าจะหายไป ตอนนี้เราคงไม่รู้สึกอะไรแล้วด้วยซ้ำ
เมื่อก่อนข้อความเข้า เราต้องรีบเปิด เดี๋ยวนี้ เห็นแต่ เดี๋ยวค่อยตอบ ขอดูทีวีก่อน ขอคุยกับเพื่อนก่อน
คือเหมือนคนไร้ความรู้สึก เหมือนอิ่ม แต่ยังไม่อยากเลิก

ที่ยังไม่อยากเลิกมีเหตุผลเข้าข้างตัวเองอยู่หลายอย่างนะ เช่น...
-ล่าสุด วันเกิดแฟน เราสามารถอยู่กับเค้าในวันพิเศษของเค้าได้ทั้งวันทั้งคืน แล้วสะใจมาก ที่เห็นผู้หญิงคนนั้น พร่ำเพ้อ อวยพรวันเกิดแฟนเรา ลงท้ายด้วยอีโมติคอนเศร้าๆ หน้าเฟชนางเอง เรารู้สึกว่า ....แฟนเราเลือกให้เราเป็นคนสำคัญ
-วันหยุด ที่เป็นวันหยุดจริงๆ ช่วงปิดเลค 3-4 วัน เราใช้ชีวิตด้วยกันในกทม ....เราคิดว่า นานๆเค้าจะมีเวลาว่างที แต่เค้ายังเลือกใช้กับเรา
-จากการที่ครอบครัวแฟน บอก และเราได้ศึกษาแฟน ...มีไม่มีคนที่เข้ามาในชีวิตแฟนได้ และคนที่เข้ามาได้นั่นคือคนที่สำคัญกับแฟนจริง ฉะนั้นข้าวของเราในห้องแฟน ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ที่เดิม ...แฟนให้เหตุผลว่าถ้ามีสาวมาในห้อง คงไม่ยอมที่จะเห็นเสื้อผ้า ข้าวของเราในห้องเค้าแน่ เราเลยรู้สึกผิดที่ระแวงเกินไป
-แฟน จะแนะนำคนที่สามารถเข้ามาในชีวิตเค้าได้ ซึ่งมีไม่มีคน เช่นเพื่อนสนิทเค้า แฟนเราบอกต่อหน้าเพื่อน ตอนแนะนำให้รู้จักว่า ถ้าเกิดเค้ามากทม แสดงว่าเค้ามาหาเพื่อนคนนี้ คนเดียว... รู้สึกสร้างความมั่นใจ ว่าเวลาเค้ามากทม หายไปเราไม่ต้องห่วง กังวล
-แฟนเราจะไม่ค่อยมีรุปกับแฟนคลับเท่าไหร่ ด้วยลุคเค้า ด้วยการวางตัว เลยไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาถ่ายมากๆ แต่จริงไม่หยิ่งนะ
-ใครถามแฟนเราพูดไทยได้ไหม เค้าจะตอบเลย NO เพราะเค้าไม่อยากสนทนากับคนมากๆ มากคนมากเรื่อง มากนินทา เค้าบอก ...สังเกตที่หอจะไม่มีใครทักแฟนเรา แต่จะทักเพื่อนในทีมคนอื่นๆ แบบออกอรรถรสมาก
-เราเลยนั่งเชคเพื่อนในเฟชบุคแฟนทุกคนที่เป็นผู้หญิง รวมถึงเข้าไปเชคในกรุ๊ปสโมสรที่แฟนอยู่ เผื่อใครมีวัมติงอะไร เราเชื่อว่าผู้หญิงมีเซ้นนะ
โดยจะดูรูปถ่ายมีบรรยากาศ มีของใช้ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันแฟนไหม สเตตัสที่ตั้งเป็นไทยหรืออังกฤษ...สรุป เรายังไม่เจอ ไม่กล้าใช้คำว่าไม่มี
-หมอดูบอกว่า ผู้ชายคนนี้ คือแฟนเรา เป็นคนที่โลกส่วนตัวสูง ยากที่ใครจะเข้าไปในโลกเค้าได้ และยากที่ใครจะเข้าใจ แต่ถ้าใครได้เข้า ถือว่า พิเศษมากๆ
หมอดูอีกคน บอก ความรักเรา ถ้าเราอยู่นิ่งๆ ไม่วิ่งเข้าหา ความรักจะมาหาเราเอง รักมากๆด้วย (((นี่ละ ที่เราเลือกไม่ติดต่อแฟน 55 ซึ่งมันก้จริง ถ้าเราหาย แฟนจะส่งข้อความาก่อน แล้วถามไม่คิดถึงไอหรอ นู่นนี่นั่น )))


ขอโทษนะคะ ถ้ายาวไป ทำให้หลายๆคนไม่อยากอ่าน แต่มันความรู้สึกเราล้วนๆ
เราอยากรู้จริงๆว่าที่เรายังอยู่กับเค้าตอนนี้ เราแมน หรือ เราโง่
แมนที่เชื่อใจเค้ามาก เลือกที่จะไม่เสพอะไรให้ไม่สบายใจ เพราะคิดว่าทุกวันที่ได้รับมันก็พอแล้ว แค่ยังมีเค้าอยู่
ให้เค้ามีโลกของเค้า ให้เรามีโลกของเรา แล้วเราก็มีโลกของกันและกันบ้าง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่