ยานเกราะ 8 ล้อ DTI Black windows

กระทู้คำถาม


DTI: DTI ทดสอบสมรรถนะยานเกราะ 8x8 พร้อมเข้าสู่การผลิต สร้างความมั่นคงยุทธยานยนต์ไทย


สถาบัน เทคโนโลยีป้องกันประเทศ (DTI) เดินหน้าโครงการพัฒนายานเกราะล้อยาง 8x8 รุ่น Black Widow Spider (BWS)  เพื่อสนับสนุนด้านยุทธยานยนต์ไทย  และทดสอบสมรรถนะยานยนต์ ด้านความแข็งแรง ปลอดภัย ตามมาตรฐานทหารระดับสากล  เผยผลทดสอบเป็นที่น่าพอใจทำให้มั่นใจได้ว่าสามารถสนับสนุนงานพัฒนายุทธยาน ยนต์ของไทยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

- ทดสอบวิ่งระยะไกล  (16 ก.ย. 58)

เมื่อ กลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา DTI ได้จัดทดสอบยานเกราะล้อยาง 8x8  ขึ้นเป็นครั้งแรกนับแต่ได้มีการพัฒนาต้นแบบยานเกราะล้อยางขึ้นมา  โดยย้อนไปเมื่อปี 2556 โครงการพัฒนายานเกราะได้กำเนิดขึ้นจากนโยบายของรัฐบาลสมัยนั้นที่อยากให้ ประเทศไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยีป้องกันประเทศด้วยตนเอง เพื่อลดการนำเข้ายุทโธปกรณ์ และลดงบประมาณในการจัดหา จึงทำให้ DTI เร่งดำเนินการโครงการพัฒนายานเกราะอย่างเต็มรูปแบบ  ซึ่งใช้นักวิจัยไทยทั้งหมดร่วมกันพัฒนาออกแบบ โดยยึดต้นแบบยานเกราะประสิทธิภาพสูงจากทั่วโลกเป็นตัวเปรียบเทียบ และวิจัยพัฒนาให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานและความต้องการของประเทศไทย

ใน การทดสอบครั้งแรกนี้ เป็นการทดสอบการวิ่งระยะทางไกล  64 กิโลเมตร โดยใช้การวิ่งไป  – กลับทางตรง ในสภาพถนนทั่วไป โดยมีระยะทางไป 8  กม. และกลับ  8 กม.  ซึ่งได้จัดให้มีการทดสอบจำนวน 4 รอบ   เพื่อทดสอบสมรรถนะของรถในเบื้องต้น /ทดสอบระบบเลี้ยว /ทดสอบอัตราการเร่ง  (โดยวิ่งที่ความเร็วเฉลี่ย 40-60 กม./ชม.) และการทำงานของเครื่องยนต์และระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ  ซึ่งผลจากการทดสอบในครั้งแรกนี้ถือว่าประสบความสำเร็จตามที่คาดการณ์ไว้

- ทดสอบความปลอดภัย - ความแข็งแกร่งตัวรถ (17 ก.ย.58)

การทดสอบต่อมาสำหรับ ยานเกราะล้อยาง  DTI 8x8 BWS คือการทดสอบคุณสมบัติเกราะกันระเบิด (Mine Blast Test)  ด้วยวิธีการจุดระเบิดน้ำหนัก 6 กิโลกรัมที่ตำแหน่งกึ่งกลางใต้ท้องรถ และใต้ล้อ เพื่อทดสอบว่าเกราะและตัวถังของยานเกราะที่ออกแบบมานั้นสามารถกันการระเบิด ตามที่ออกแบบไว้ได้หรือไม่ ซึ่งเป็นการทดสอบตามมาตรฐาน AEP-55 V.2 Edition 1 (STANAG 4569 Level 2a และ 2b) หรือมาตรฐานทางทหารของกลุ่มประเทศ NATO และผลจากการทดสอบก็ประสบความสำเร็จด้วยดี ตัวรถและเกราะมีความปลอดภัยสูงจึงไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

- ทดสอบสมรรถนะของรถ (21 ก.ย.58)

หลังจากที่ได้มีการทดสอบการวิ่งระยะทางไกล และคุณสมบัติเกราะกันระเบิดแล้ว ครั้งที่ 3 นี้ได้เพิ่มรายละเอียดการทดสอบมากขึ้นไปอีก โดยเริ่มจากอัตราเร่งของเครื่องยนต์ , ความเร็วสูงสุดและทดสอบเสียง , ประสิทธิภาพการทำงานของระบบเบรค ,ระบบบังคับเลี้ยว ,ระบบช่วงล่าง  , ทดสอบการขึ้นลาดเอียง  เป็นต้น

- สรุปรายละเอียดผลการทดสอบ

ทดสอบอัตราเร่งของเครื่องยนต์  โดยกำหนดค่าความเร็วจาก 0-60 กม. และ 0-90 กม. เป็นการวิ่งทางตรง และทำการทดสอบเป็นจำนวน 5 ครั้ง เพื่อหาค่าเฉลี่ยที่เหมาะสม  ซึ่งระหว่างทดสอบได้ติดตั้งกล้องวิดีโอบันทึกภาพหน้าปัดแสดงผลการขับขี่  เพื่อบันทึกข้อมูลตลอดการวิ่ง เช่น ความเร็ว ปริมาณน้ำมัน ความร้อน ระยะทาง เป็นต้น  และติดตั้งกล้องทางด้านซ้ายและขวาของรถเพื่อให้เห็นการทำงานของระบบขับ เคลื่อนทั้ง 8 ล้อ  เพื่อทดสอบการทำงานของล้อและระบบเลี้ยวและการรั่วไหลต่าง ๆ

ทดสอบความเร็วสูงสุดและทดสอบเสียง   โดยเริ่มวิ่งทดสอบจาก 0 – ความเร็วสูงสุด กม./ชม.  ทำการทดสอบ 5 ครั้ง  เพื่อหาค่าเวลาในการทำความเร็วและความเร็วสูงสุดที่ทำได้  ในการทดสอบหัวข้อนี้จะติดตั้ง Sensor เพื่อวัดอุณหภูมิบริเวณชุดเกียร์ และติดตั้งเครื่องทดสอบเสียงเพื่อเก็บค่าความดังเมื่อรถวิ่งผ่าน

ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของระบบเบรก  โดยใช้วิธีการปักหลักสำหรับการเบรกเพื่อวัดระยะทาง  และเริ่มวิ่งทดสอบที่ความเร็ว 90 กม.  จากนั้นเมื่อผ่านหลักแล้ว เจ้าหน้าที่ประจำหลักจะให้สัญญาณ เพื่อให้คนขับเหยียบเบรกให้เต็มที่จนรถหยุดสนิท แล้วจึงวัดระยะทางและบันทึกค่าอุณหภูมิที่จานเบรก และในการบันทึกการทำงานของระบบเบรคนี้ต้องวิ่งทดสอบที่ความเร็วทุก ๆ ค่าความเร็วในการวิ่ง ตั้งแต่ 80, 70 ,60 ไปจนถึง 20 กม./ชม.

ทดสอบระบบบังคับเลี้ยว โดยวิธีการปักหลักอีกเช่นกันเพื่อวัดระยะทางจากระยะไม้ไปถึงตัวรถ  ซึ่งวิ่งทดสอบเลี้ยวซ้ายสุดจนกลับมาที่เดิมแล้วจึงวัดระยะทางวงเลี้ยว และทำเช่นเดียวกันในการเลี้ยวขวาสุด นอกจากนี้ยังต้องทำการตรวจสอบการรั่วไหลของน้ำมันไฮดรอลิคด้วย

ทดสอบระบบช่วงล่างและการบังคับเลี้ยว โดยวิธีการตั้งกรวยเป็นแนวตรงระยะห่าง 15-20 เมตร  และติดตั้งเครื่องวัดระดับเพื่อดูการเอียงของรถตรงกึ่งกลางคัน จากนั้นวิ่งทดสอบเลี้ยวซ้ายขวาไปมาเหมือนการเปลี่ยนเลนโดยอ้อมกรวยลักษณะซิก แซกไปมา

ทดสอบการขึ้นลาดเอียง  โดยมีด่านทดสอบการขึ้นลาดเอียงระดับองศาตั้งแต่  20-60 เปอร์เซ็นต์  ทดสอบสิ่งกีดขวาง  โดยการวิ่งข้ามขอนไม้ , วิ่งลงบ่อโคลน  ทดสอบการลุยน้ำ โดยการวิ่งลงบ่อน้ำที่มีความลึกประมาณ  0.8 เมตร  และสุดท้ายทดสอบวิ่งในภูมิประเทศ ด้วยการวิ่งเป็นระยะทาง 10 กม. เพื่อหาค่าความสั่นสะเทือนในตัวรถ

จากการทดสอบทั้งหมด DTI 8x8 BWS สามารถผ่านมาตรฐานการทดสอบดังกล่าวได้เป็นอย่างดี  ซึ่งต่อจากนี้ DTI  จะได้นำผลการทดสอบทั้งหมดนี้ไปพัฒนาปรับแต่งให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งาน ของเหล่าทัพภายในประเทศต่อไป ซึ่งถือได้ว่าเป็นความท้าทายครั้งสำคัญในการพิสูจน์ตนเอง ว่าจะสามารถสร้างยุทธยานยนต์ให้ใช้ได้ในประเทศโดยไม่ต้องนำเข้าจากต่าง ประเทศได้สำเร็จหรือไม่ ในอนาค

Credit :  thaiarmedforce.com
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่