εїз S I N G A P O R E εїз แบบทริปสั้น ๆ กับคนขยันเที่ยว --> 2 วัน 1 คืน

✈ ✈ เพิ่งจะพูดอยู่แม๊บ ๆ ว่าเป็นประเทศที่ไม่คิดจะไปเลยจริง จริ๊งงงง แต่อยู่ดี ๆ ก็มีโอกาสได้ไปเฉยเลย เมื่อโอกาสมาถึง เราก็ควรใช้โอกาสนั้นให้เต็มที่ 5555 เราจะเที่ยวให้เต็มที่ ที่สุดค่ะ++ (ดูดีเนอะ) ทริปนี้เดินทาง 19-20 กันยา 58 ค่ะ

เขาว่ากันว่า.....

"สิงคโปร์ เป็นเมืองที่ไม่หยุดนิ่ง สะอาด สวยงาม เป็นระเบียบ มีสีสันทางวัฒนธรรมที่แตกต่าง แต่ผสมผสานกันอย่างกลมกลืนไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร ศิลปะ หรือสถาปัตยกรรม เกาะแห่งนี้เต็มเปี่ยมด้วยพลังที่ถูกปลดปล่อยเป็นเสมือนพลังของเอเชียอาคเนย์ที่รวมเอาสิ่งที่ดีที่สุดของโลกตะวันตกและตะวันออกเอาไว้ด้วยกันราวกับเป็นเมืองแห่งจินตนาการ"...... ✈✈✈

แหม...อ่านเจอมาในเว็บแบบนี้ ต้องไปพิสูจน์กันสักหน่อยล่ะ เริ่มต้นศึกษาข้อมูลเลยจร้า ตอนนี้ตั๋วเครื่องบินพร้อม ทริปนี้บินกับ Jetstar นะคะ ที่พักจองจาก agoda พร้อมแว้วววว พักแถว Jalan Besar จากนั้นเริ่มวางแผนเที่ยว... ทริปนี้ วางแผนไว้แบบนี้ค่ะ ❥❥❥

✳ วันที่ 1 ทัวร์ทำบุญไหว้พระเลยจร้า สนามบินชางกี - โรงแรม -วัดเจ้าแม่กวนอิม - วัดศรีมาริอัมมันต์ -วัดพระเขี้ยวแก้ว - วัดเซียนฮกเก๋ง - มาริน่า เบย์ - Hong Kong Flyer - เมอร์ไลออน - มาริน่า เบย์ แซนด์ **ถ้าเวลาเหลือจะไปคลาร์กคีย์ต่อ

✳ วันที่ 2 โรงแรม- มุ่งหน้าสู่ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ (ซื้อบัตรไปจากไทยค่ะ ราคา 1,650 บาท ถูกกว่าไปซื้อที่โน้นเพราะที่โน้นขาย 2,050 บาท) - ช๊อปปิ้งถนนออชาร์ดย่านสินค้าแบรนด์เนม - สนามบินชางกี

❥ มาแค่ 2 วัน เวลาน้อย แต่จะพยายามเที่ยวให้ครบนะคะ....พร้อมแล้วก็ลุย!!!
.................................................................................................
19 กันยา 58 ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ เราเลือกไฟล์ทประมาณ 9.25 น. ค่ะ ถึงสนามบาินชางกีประมาณ 12.50 น. (เวลาเร็วนั่นกว่าที่ไทย 1 ชั่วโมงค่ะ) พอไปถึงเราจะไปลงเครื่องที่ Terminal 1 ค่ะ จากนั้นเราต้องนั่งรถไฟฟ้าเข้าเมือง ซึ่งอยู่ที่ Terminal 2 เราก็เดินตามป้ายไปเรื่อย ๆ จาก Terminal 1 เราต้องนั่งรถไฟไป Terminal 2 แล้วก็มองมาป้าย Train to City เดินค่อนข้างไกลเหมือนกันค่ะ

เมื่อมาถึงแล้ว เราก็ไปต่อแถวซื้อตั๋วรถไฟฟ้า เราซื้อบัตรแบบ 2 วัน นั่งได้หมดทั้งรถไฟใต้ดิน รถบัส ไม่จำกัดรอบ ราคาบัตรใบละ 26 ดอลล่า แต่คืนบัตรก็ได้มัดจำคืน 10 ดอลล่า ค่ารถที่นี่ไม่แพงเลยค่ะ

ได้ตั๋วรถไฟฟ้าแล้ว ก็นั่งรถไฟเข้าเมืองค่ะ จะไปลงสถานีลาเวนเดอร์ แล้วเดินต่อไปโรงแรม ต้องเอากระเป๋าไปเก็บที่โรงแรมก่อน ลงรถไฟฟ้าก็มองหาของกินก่อนเลย แม็คที่นี่สั่งผ่านเครื่องค่ะ สะดวกมาก อยากให้ที่ไทยมีแบบนี้ แม็คที่นี่กับที่ไทยรสชาติเหมือนกัน ราคาก็ไม่ต่างกันค่ะ ระหว่างเดินไปโรงแรม เจอวัดอะไรก็ไม่รู้ค่ะ เห็นคนเข้าไปไหว้กันเยอะเลย

ถึงโรงแรมแล้วค่ะ The Cultural hotel อยู่ตรงถนน Jalan Besar จากสถานีรถไฟฟ้า เดินประมาณ 10 นาทีค่ะ ห้องนี้จองผ่าน agoda ตกคืนละประมาณ 1,500 บาท รวมอาหารเช้าค่ะ

เก็บของเสร็จเรียบร้อยเราก็พร้อมตะลุย จากหน้าโรงแรม เรานั่งรถบัสสาย 857 จากนั้นเดินต่อมานิดหน่อย ก็จะถึงวัดเจ้าแม่กวนอิมค่ะ



ถึงแล้วค่ะวัดที่ 1 ค่ะ วัดเจ้าแม่กวนอิม Kwan In Thong Hood Cho Temple อ่านมาจากในเว็บเค้าบอกว่าคนที่มาไหว้ มีความเชื่อกันว่าวันนี้หากมาขอพรแล้วจะสมหวัง จึงมีคนนิยมเข้ามาไหว้ขอพรกันมาก เซียมซีวัดนี้มีความเชื่อว่าแม่นยำยิ่งนัก.....แต่วันที่มาเนื่องจากเวลาจำกัด เลยได้แค่ไหว้เจ้าแม่ค่ะ ไม่ได้เข้าไปเสี่ยงเซียมซี ตรงบริเวณหน้าวัดเค้ามีขายดอกไม้ไหว้พระเหมือนบ้านเรานะ

ไหว้เจ้าแม่กวนอิมเสร็จ กำลังจะเดินกลับไปขึ้นรถ เหมือนเขามีงานเทศกาลผลไม้ด้วยกันด้วยนะคะ
จากวัดเจ้าแม่กวนอิม เดินกลับมาที่ป้ายรถเมล์ นั่งรถบัสสาย 166 นั่งไปประมาณ 26 นาที จะถึงวัดศรีมาริอัมมันต์ Sri Mariamman Temple

วัดที่ 2 ค่ะวัดศรีมาริอัมมันต์ เป็นวัดฮินดูโบราณที่เก่าแก่ที่สุดของสิงคโปร์ ตั้งอยู่ในไชน่าทาวน์ คนไทยนิยมเรียกกันว่า "วัดแขก สิงคโปร์" คงคล้ายกับวัดแขกที่สีลมบ้านเรา รอบๆ ตัวอาคารของวัดทั้งภายในและภายนอก จะมีปฏิมากรรมรูปปั้นและรูปแกะสลักสีสันสดใสของเทพเจ้า มีความเชื่อกันว่า หากเดินตามเข็มนาฬิการอบโบสถ์จะทำให้โชคดี และในเดือนตุลา-พฤศจิกายน จะมีพิธีลุยไฟมิติ ถือเป็นเทศกาลประจำปีค่ะ

มาวัดนี้ต้องแต่งกายสุภาพค่ะ แต่เราดันใส่กางเกงขาสั้นไป ต้องนุ่งผ้าถุงก่อนเข้าวัดค่ะ ใส่ขาสั้น เขาไม่ให้เข้า (555เค้าขอโทษ)

บรรยากาศไชน่าทาวน์ สิงคโปร์ จากวัดที่ 2 เดินต่อมาอีกนิดนึงก็ถึงเป้าหมายที่ 3 ของเราค่ะ

วัดที่ 3 ค่ะวัดพระเขี้ยวแก้ว Tooth Relic Buddha Temple วัดจีนศิลปกรรมสมันราชวงศ์ถังผสมศิลปะมันดาลา อาคารชั้นบนสุดของวัด จะบรรจุพระบรมสารีริกฐาตุพระทนของพระพุทธเจ้าไว้ในสถูปทองคำหนัก 320 กิโลกรัม มาถึงแล้วจุดธูปไหว้พระกันค่ะ

บรรยากาศในวัดค่ะ สวยมาก

ภายในวัดนี้มีพระประจำวันเกิดให้สักการะด้วยค่ะ
พระประจำวันเกิด "ปีจอและกุน ค่ะ

พระประจำวันเกิด "ปีระกา" ค่ะ

พระประจำวันเกิด "ปีมะแมและปีวอก" ค่ะ

พระประจำวันเกิด "ปีมะเมีย" ค่ะ

พระประจำวันเกิด "ปีมะโรงและมะเส็ง" ค่ะ

พระประจำวันเกิด "ปีเถาะ" ค่ะ

พระประจำวันเกิด "ปีขาล" ค่ะ

พระประจำวันเกิด "ปีฉลู" ค่ะ

ไหว้พระประจำวัดเกิดค่ะ *** ปีชวดจร้า***

ออกจากวัดที่ 3 เดินต่อไปยังวัดที่ 4 ทางตรงนี้เดินไกลหน่อยค่ะ เล่นเอาเมื่อยเท้าเลยทีเดียวค่ะ

ถึงแล้วค่ะ วัดที่ 4 วัดเซียนฮกเก๋ง Thian Hock Keng Temple


วัดที่ 4 ค่ะวัดเซียนฮกเก๋ง Thian Hock Keng Temple เค้าว่ากันว่าเป็นวัดแห่งความสุขบนสรวงสวรรค์ สร้างขึ้นเพื่อถวายเทพธิดาแห่งท้องทะเล เป็นวัดที่มีความวิจิตรงดงามมาก ขึ้นชื่อว่าเป็นวัดที่สวยที่สุดในสิงคโปร์ ความอัศจรรย์อย่างนึงของวัดนี้คือ โครงสร้างทุกอย่างของวัดถูกสร้างขึ้นมาโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ว้าวววว


บริเวณประตูของวัด งดงามมากค่ะ

จบจากวัดทั้ง 4 วัดค่ะ เดินเท้าต่อกันอีกไกลสักหน่อยค่ะ เพราะเราจะไปดูมารีน่า เบย์ แซนด์ส และเมอร์ไลออนกันค่ะ จากจุดนี้ขอบอกเลย เดินจนเท้าระบม เมื่อแล้ว เมื่อยอีก ฮือฮือ และเราก็มาถึง

มารีน่า เบย์ แซนด์ส ตั้งตระหง่านด้วยตึก สูง 57 ชั้น มี 3 ตึก โดยเชื่อมต่อถึงกัน ด้วย Sky Park ห้องพักมองเห็นทิวทัศน์ของเมือง และวิวทะเลค่ะ

เจอแล้วค่ะ เจ้าสิงโตทะเล (Merlion) ที่ถูกออกแบบเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ (Singapore Tourist Promotion Board - STPB) ในปี 1964 – ต่อมาไม่นาน สัตว์ประหลาดที่หัวเป็นสิงโต ตัวเป็นปลา และยืนอยู่บนยอดคลื่นตัวนี้ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ในสายตาของทุกประเทศทั่วโลก ใครมาสิงคโปร์ก็ต้องมาถ่ายรูปที่มุมนี้ ใช่ไหมค่ะ ^___^

วันที่เรามามีการจัดแข่งขันฟอมูล่าวันด้วย ปิดถนนแข่งกันเลย ถ่ายรูปกับเมอร์ไลออนเสร็จเราก็จะเดินย้อนกลับขึ้นมานั่งรถไฟฟ้าค่ะ เราจะไป Garden by the bay กันค่ะ
ตรงนี้เราจะได้เห็นอีกด้านนึงของมาริน่า เบย์ แซนด์ ค่ะ เดินต่ออีกหน่อยเราก็จะถึงเป้าหมายที่ 7 Gardens by the Bay

มองไปไกลๆ เราจะเห็น Singapore Flyer ชิงช้ายักษ์ เคยนั่งชิงช้าที่เอเชียทีคบ้านเรา เล็กไปเลยค่ะ

เนื่องจากเราอยากขึ้นไปเดินบน Sky Walker เลยต้องไปซื้อตั๋วค่ะ แต่ถ้าใครไม่ต้องการขึ้นไป เดินเล่นอยู่ด้านล่างได้ ไม่ต้องเสียค่าเข้าค่ะ







หลังจากถ่ายรูปกันเหนื่อย เมื่อยล้า และหิวเต็มที ถึงเวลาอาหารค่ำค่ะ มื้อค่ำของวันนี้ Outback



สเต็กเนื้อจานตรงข้ามไม่สุก บอกพนักงานให้เอากลับไปย่างเพิ่ม พนักงานที่นี่ดีมาก เชฟเดินออกมาถามเองเลยว่าเอาสุกประมาณไหน แบบว่าใส่ใจลูกค้าสุดๆ เลยค่ะ ประทับใจค่ะ
(ข้อความเต็ม อ่านต่อใน comment นะคะ) ^^

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่