อีกแล้วครับท่าน...
ไปเดินเล่นถิ่นเก่าตามประสาคนเท้าอยู่ไม่สุข...
เปล่าครับ...ไม่ได้ไปเตะหมูเตะหมาที่ไหนอ่ะครับ...หมายถึงผมมันประเภทชีพจรลงเท้าอ่ะครับ...
ถิ่นเก่า...ก็บางขุนพรหมไง....
คราวนี้ไปถึงบ้าน..น้าเบิ้มเลย...
อ่ะ...ไปถึงบางขุนพรหมแล้ว ก็ขอเล่าเรื่องเจ้าของบางซักนิดหน่อยๆละกันครับ...
เจ้าของบาง ก็...วังบางขุนพรหมไงครับ...
ผู้เป็นเจ้าของวัง คือ จอมพลเรือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
หรือที่ชาววังบางขุนพรหมคุ้นเคยในพระนาม ...ทูลกระหม่อมบริพัตร...
ซึ่งเป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๓๓ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี
ตามประวัติความเป็นมาบอกเล่าไว้ว่า....
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๗ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์ที่จะหาซื้อที่ดิน
และปลูกวังพระราชทานแก่พระเจ้าลูกยาเธอ ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ แทนการพระราชทานวังสำเร็จรูป
ที่ดินบริเวณวังบางขุนพรหม เป็นที่เหมาะสมหลายประการ เพราะด้านหนึ่ง อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
และอีกด้านติดถนนสามเสนใน
ที่ดินบริเวณนี้มีหลายเจ้าของ และมีวัดอยู่วัดหนึ่งชื่อ "วัดสารพัดช่าง"
พระองค์ต้องใช้เวลาหาซื้อที่ดินกว่าจะปลูกวังได้ร่วม ๕ ปี
และหลังจากสร้างวังแล้ว ก็ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะรวบรวมซื้อที่ดินได้เท่าที่มีอยู่ทุกวันนี้
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเหล้า พระราชทานที่ดินผืนดังกล่าวให้เป็นกรรมสิทธิ์ของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๒ โดยเน้นว่าใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อ ไม่เกี่ยวกับเงินของทางราชการ
มีหนังสือมอบให้เป็นลายลักษณ์อักษร และเน้นย้ำว่า เงินที่ใช้ในการนี้ ไม่ใช่เงินแผ่นดิน แต่เป็น...เงินพระคลังข้างที่....
ความหมายของคำว่า ...เงินพระคลังข้างที่ หมายถึง เงินสำหรับส่วนพระองค์ของพระเจ้าแผ่นดินเอง
ไม่เกี่ยวข้องด้วยเงินราชการแผ่นดิน...
บ้านเรือนราษฎร เรือกสวนที่อยู่บริเวณนั้น ก็ซื้อชาวบ้านด้วยเงินส่วนนี้
ส่วนวัดสารพัดช่าง ก็ได้ยุบรวมกับวัดอินทารามที่มีอยู่อีกฝั่งหนึ่งของวัง...
ปัจจุบันเมื่อบ้านเมืองเจริญขึ้นมีการตัดถนนขึ้นใหม่มากมาย วันอินทาราม จึงถูกแยกออกจากกันเป็นสองวัด
ด้านทิศเหนือคือ...วัดอินทรวิหาร...วัดด้านใต้คือ ...วัดใหม่อมตรส...ในปัจจุบัน
วัดสารพัดช่าง ไม่หลงเหลือ แต่ยังคงมีชื่อเรียกชุมชนนี้ว่าชุมชนสารพัดช่าง
ชุมชนแห่งนี้เป็นที่อยู่ของบรรดาข้าราชบริพาร ขุนน้ำขุนนางเก่า สืบเชื้อสายกันต่อๆมา
จนปัจจุบันเรียกสถานที่นี้ว่า ตรอกสารพัดช่าง
มีช่างอะไรบ้าง ผมไม่รู้อ่ะ...
รู้แต่ว่าชุมชนนี้ เป็นบ้านเก่าของน้าเบิ้ม (naiberm)
...น้าเบิ้มเนี่ย เชื้อสายขุนนางเก่าของวังบางขุนพรหมเชียวนา...
เรื่องวังบางขุนพรหมนี่ขอเล่านิดๆละกันครับ...เพราะรู้น้อย...
รอคนรู้มากมาช่วยเล่าต่อละกัน....โน่นเลย...
ชื่อ
พจนารถ๓๒๒ นั่นไง
เพราะท่านผู้นี้ท่านเชี่ยวชาญเรื่อง แขกมอญบางขุนพรหม เป็นอย่างมากทีเดียวเชียว
แฮ่....!!
======================== กาลครั้งหนึ่ง...อีกแระ !=====================
ไปเดินเล่นถิ่นเก่าตามประสาคนเท้าอยู่ไม่สุข...
เปล่าครับ...ไม่ได้ไปเตะหมูเตะหมาที่ไหนอ่ะครับ...หมายถึงผมมันประเภทชีพจรลงเท้าอ่ะครับ...
ถิ่นเก่า...ก็บางขุนพรหมไง....
คราวนี้ไปถึงบ้าน..น้าเบิ้มเลย...
อ่ะ...ไปถึงบางขุนพรหมแล้ว ก็ขอเล่าเรื่องเจ้าของบางซักนิดหน่อยๆละกันครับ...
เจ้าของบาง ก็...วังบางขุนพรหมไงครับ...
ผู้เป็นเจ้าของวัง คือ จอมพลเรือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
หรือที่ชาววังบางขุนพรหมคุ้นเคยในพระนาม ...ทูลกระหม่อมบริพัตร...
ซึ่งเป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๓๓ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี
ตามประวัติความเป็นมาบอกเล่าไว้ว่า....
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๗ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์ที่จะหาซื้อที่ดิน
และปลูกวังพระราชทานแก่พระเจ้าลูกยาเธอ ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ แทนการพระราชทานวังสำเร็จรูป
ที่ดินบริเวณวังบางขุนพรหม เป็นที่เหมาะสมหลายประการ เพราะด้านหนึ่ง อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
และอีกด้านติดถนนสามเสนใน
ที่ดินบริเวณนี้มีหลายเจ้าของ และมีวัดอยู่วัดหนึ่งชื่อ "วัดสารพัดช่าง"
พระองค์ต้องใช้เวลาหาซื้อที่ดินกว่าจะปลูกวังได้ร่วม ๕ ปี
และหลังจากสร้างวังแล้ว ก็ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะรวบรวมซื้อที่ดินได้เท่าที่มีอยู่ทุกวันนี้
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเหล้า พระราชทานที่ดินผืนดังกล่าวให้เป็นกรรมสิทธิ์ของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๒ โดยเน้นว่าใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อ ไม่เกี่ยวกับเงินของทางราชการ
มีหนังสือมอบให้เป็นลายลักษณ์อักษร และเน้นย้ำว่า เงินที่ใช้ในการนี้ ไม่ใช่เงินแผ่นดิน แต่เป็น...เงินพระคลังข้างที่....
ความหมายของคำว่า ...เงินพระคลังข้างที่ หมายถึง เงินสำหรับส่วนพระองค์ของพระเจ้าแผ่นดินเอง
ไม่เกี่ยวข้องด้วยเงินราชการแผ่นดิน...
บ้านเรือนราษฎร เรือกสวนที่อยู่บริเวณนั้น ก็ซื้อชาวบ้านด้วยเงินส่วนนี้
ส่วนวัดสารพัดช่าง ก็ได้ยุบรวมกับวัดอินทารามที่มีอยู่อีกฝั่งหนึ่งของวัง...
ปัจจุบันเมื่อบ้านเมืองเจริญขึ้นมีการตัดถนนขึ้นใหม่มากมาย วันอินทาราม จึงถูกแยกออกจากกันเป็นสองวัด
ด้านทิศเหนือคือ...วัดอินทรวิหาร...วัดด้านใต้คือ ...วัดใหม่อมตรส...ในปัจจุบัน
วัดสารพัดช่าง ไม่หลงเหลือ แต่ยังคงมีชื่อเรียกชุมชนนี้ว่าชุมชนสารพัดช่าง
ชุมชนแห่งนี้เป็นที่อยู่ของบรรดาข้าราชบริพาร ขุนน้ำขุนนางเก่า สืบเชื้อสายกันต่อๆมา
จนปัจจุบันเรียกสถานที่นี้ว่า ตรอกสารพัดช่าง
มีช่างอะไรบ้าง ผมไม่รู้อ่ะ...
รู้แต่ว่าชุมชนนี้ เป็นบ้านเก่าของน้าเบิ้ม (naiberm)
...น้าเบิ้มเนี่ย เชื้อสายขุนนางเก่าของวังบางขุนพรหมเชียวนา...
เรื่องวังบางขุนพรหมนี่ขอเล่านิดๆละกันครับ...เพราะรู้น้อย...
รอคนรู้มากมาช่วยเล่าต่อละกัน....โน่นเลย...
ชื่อ พจนารถ๓๒๒ นั่นไง
เพราะท่านผู้นี้ท่านเชี่ยวชาญเรื่อง แขกมอญบางขุนพรหม เป็นอย่างมากทีเดียวเชียว
แฮ่....!!