สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านกระทู้พันทิพย์ กระทู้นี้อยู่ที่น่ารักทุกคน
วันนี้ข้าพเจ้าจะมาเล่าเรื่อง "ประสบการณ์เที่ยวคนเดียว" ให้ได้อ่านกัน
เอ่อ...ว่าแต่ไปคนเดียวมันแปลกตรงไหน ใคร ๆ ก็ไปเที่ยวคนเดียวได้
นั่นน่ะสิ แต่เท้าความก่อนละกัน
ว่าก่อนหน้านี้ จขกท. เคยมีผู้บ่าวมาคอยดูแลหัวใจ
แล้วคราวนี้ตอนแรก ๆ ที่คบกัน นี่คือไปเดินเล่นสวนรถไฟ จังหวะที่ปั่นจักยานอยู่นั้น ดวงตาก็เหลือไปเห็น "สวนผีเสื้อ"
แต่เวลาที่ไปอ่ะ มันปิดไปแล้ว ก็เลยหันมาพูดกับเขาว่า "คราวหน้ามาดูด้วยกันนะ" พี่แกก็ say yes แหละ
จริง ๆ คือเกือบได้ไปดูล่ะ หลังจากที่คุยกัน แต่เนื่องด้วยขณะเดินทางไป อีกฝ่ายบอกเมื่อยขา ก็เลยไม่ได้ไปอีกเลย
แต่ไม่ใช่ว่าเรื่องจะเงียบหายไปนะ ชวนไปตลอด แทบจะกราบก็ไม่ยอมไปด้วย จนในที่สุดเราก็แยกเส้นทางกัน โป๊งฉึ่ง!
จนถึงตอนนี้อาการเฮิร์ท เริ่มจะดีขึ้นแล้ว จขกท. จากเมื่อก่อนที่ยังยอมรับความจริงไม่ได้ ต้องชวนแฟนเก่าไปด้วย
และก็ถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยเสมอ คำพูดของเขาที่ทำให้ตัดสินใจเลิกชวนตลอดกาล คือ "ไม่ต้องรอฉันหรอก"
โอ้โห้! เจ็บสิคะ คุณผู้ชม หลังจากนั้นมาก็เลยวางแผนว่า "ไปคนเดียวนี่แหละ เฟี้ยวฟ้าว" ก็เลยเกิดกระทู้นี้ขึ้นมาไง
ก่อนหน้านี้วางแผนเอาไว้ว่าจะไปเที่ยว "วัด" ก่อนตอนเช้า แต่พอรู้ว่างานหนังสือกำลังจัดอยู่ก็เลยเปลี่ยนแผน
และเพิ่มแผนใหม่เข้าไปด้วย "ไปสวนผีเสื้อ เพื่อจบๆ กันไปสักที" ว่าแล้วการเดินทางในเช้าของวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคมก็เริ่มขึ้น !
โดยตั้งใจว่าจะไปงานหนังสือก่อน การแต่งตัวนั้นเลือกชุดที่เริ่ดที่สุดไป นั่นคือ ชุดที่แฟนเก่าเลือกให้ กระเป๋าก็เอาใบที่เขาซื้อให้มาใช้
แต่ที่เปลี่ยนไปคือ การเริ่มสนใจ ใบหน้า และ ทรงผม คือทำมาดี จนคนที่เห็นกันอยู่ทุกวัน ชมว่าน่ารักอ่ะ (แอบหลงตัวเองเล็กน้อยนะเนี้ย)
การเดินทางคือนั่ง รถเมล์สาย 97 มาลงที่ mrt บางซื่อ และลงสถานีศูนย์ประชุมได้เลยจ้า
พอถึงแล้วจะเห็นได้ว่าแค่หน้าสถานีคนก็เยอะสุด ๆ แล้ว อากาศก็ร้อน แต่ไม่เป็นไร เรามีเป้าหมาย เราต้องทำให้สำเร็จ!!!
งานหนังสือคนเยอะมาก ๆ เลย จะเห็นว่าหลายคนขากลับมาได้หนังสือติดมือมาเป็นกระเป๋าเลย จริง ๆ ก็อยากควักเงินมาซื้อเหมือนกัน
แต่หนังสือที่จะซื้อนี่ "เกินงบ" ฮ่าๆๆๆ เราเลยได้แค่ไปยืนดู ยืนอ่าน เก็บข้อมูลไปพลาง ๆ
โดยเฉพาะบูทนี้ คนเยอะ คนแน่น คนยืนอ่านทดลองนี่ขำกันตลอด เราก็ลองไปอ่านดู เห้ย! สุดยอดดดด โดยเฉพาะนิทานอ่ะ อื้อหื้อเลย ><
ท่ามกลางความสับสน วุ่นวายของหลายคนที่ทั้งยืน ทั้งเดิน ทั้งนั่งพัก เราก็เดินไปเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ที่ตู้ ๆ หนึ่ง เห็นอะไรคุ้น ๆ และ....
เห้ยเธอ ! นี่มันรองเท้าเรา อุ๊ย ! ล้อเล่นจ้า จริง ๆ แล้วเป็นรองเท้าและชุดของ cinderella 2015 งดงามวิ๊ง ๆ (ชอบอ่ะแกร ซื้อกลับบ้านได้ไหมอ่ะ)
ถึงตอนนี้ก็ได้เวลากลับออกไปแล้ว จริง ๆ จขกท.ได้นิตยสารฟรีมาสองเล่ม ทีแรกพี่เขาถามว่า "อยากให้ดาราคนไหนขึ้นปกฉบับต่อไปคะ?"
ไอ้เราก็คิด คิด และ คิด จนในที่สุด "แมท ภีรนีย์ ค่ะ" เท่านั้นแหละค่ะ คุณพี่ที่ถามนี่ยืนยิ้มเลย "คุณน้องคะ แมทเพิ่งขึ้นปกฉบับที่แล้วไปเอง"
โอ้ ! คุณพระเลยค่ะ ตอบใครไม่ตอบ ดันไปตอบคนที่เพิ่งขึ้นไป อีกทั้งยังหยิบมาให้ดูเป็นหลักฐาน และก็ยกหนังสือให้ฟรีเลยสองเล่ม กับ กระเป๋าใบเล็ก ๆ 1 ea
จากบูทขายนิตยสาร O-live ขอบคุณค่ะ (หนังสือดี พี่แมทสวยจังเลย ><)
แล้วก็เริ่มเดินทางไปสวนรถไฟต่อ...
โดยต่อจากนี้ก็นั่ง mrt กลับไปสถานีจัตุจักรค่ะ ลงมาปุ๊บเดินผ่านสวนก็ถ่ายรูปเก็บไว้สักหน่อย
พอเดินคนเดียวแล้วรู้สึกแปลก ๆ ชอบกล แต่ไม่เป็นไร ^^
มาถึงแล้วจ้า สวนรถไฟ ฝั่งที่มีสระว่ายน้ำ คราวนี้ก็เดินค่ะ
ใช้เวลาเดินไม่นาน ก็มาถึงแล้ว "สวนผีเสื้อ"
ที่นี่เปิด 10.00 - 16.30 น. วันจันทร์ปิดให้ทำการ ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม แต่เขามีกฎอยู่นะว่า "ห้ามส่งเสียงดัง"
บรรยากาศร่มรื่น สงบดี ผีเสื้อดูจะไม่กลัวอะไรคนเลย ซ้ำมันยังอยู่นิ่งให้ถ่ายรูปอีกต่างหาก
(นี่ผีเสื้อ หรือ หมา? ฮ่าๆๆๆ) และบางตัวก็ "บินเข้าหน้าเลยจ้า"
ยิ่งเจ้าตัวด้านบนนี่ทีแรกดูไม่ออกเลยว่าเป็นผีเสื้อเหมือนกัน พอเจ้าหน้าเดินมาปุ๊บ สะกิดใบไม้เก่านิดหน่อย มันก็สยายปีกออกเลย ข้างในปีกเป็นสีดำส้ม
มีชั้นสองให้ขึ้นไปดูวิวจากมุมสูงด้วย ก็เลยลองเดินขึ้นไปดูต่อ...
เนื่องจาก จขกท. ไปคนเดียว ตอนถ่านรูปตัวเองก็เลยต้องไหว้วานคนที่อยู่แถวนั้นถ่ายให้ ซึ่งขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ
ที่ช่วยถ่ายรูปสาวน้อยผู้อาภัพรักคนนี้ ^^
ตัวนี้มันจะกินเค้าไหมอ่ะ?
สุดท้ายแล้ว เนื่องด้วยเราอยู่ในสวนสาธารณะ แน่นอนว่าต้องเป็นนพื้นที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์มากมายอยู่ในที่แห่งนี้แน่นอน
หลังจากออกมาจากโดมผีเสื้อแล้ว ก็เลยเดินเล่นรอบ ๆ สวนรถไฟ สูดอากาศดี ๆ ให้เต็มปอด เพื่อพร้อมที่จะกลับไปใช้ชีวิตตามเดิม
อากาศสดใส แดดจ้าตลอดทั้งวัน คนรักสุขภาพต่างพากันมาวิ่ง ครอบครัวต่างพากันมาทำกิจกรรมด้วยกันที่นี่ เห็นแล้วนึกถึงคนที่บ้าน
จากมาไกลหลายร้อยกิโล เพื่อมาเล่าเรียน ไม่เจอหน้ากันเป็นเดือน ๆ เดี๋ยวทำงานทุกอย่างเสร็จ จะกลับไปอยู่ที่บ้านให้หายคิดถึงเลย ><
บทสรุปแล้ว จขกท. จากที่ตอนแรก คิดว่าคงไม่มีทางได้มีความสุขอีกแล้ว ถ้าไม่มีใครสักคนมาช่วยแบ่งเบาความทุกข์
แต่จริง ๆ แล้ว เพียงแค่เราเปิดใจ ยอมพึ่งพาตัวเอง เชื่อสิว่าความสุขที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่คนอื่นหรอก "อยู่ที่ตัวเองนี่แหละ"
ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่ผิดหวังในความรัก อกหัก เสียใจ หรือโดนอะไรมาหนัก สู้ ๆ นะคะ กว่าตัวเองจะยอมออกมาจากเรื่องเศร้าได้
นี่มันยากเหลือเกิน
ยังไงก็ "ฉันไม่รอเธอแล้ว" ละกันนะ
ป.ล. รูปจากกล้องโทรศัพท์มือถือ Sony Xperia Z1 + แต่งภาพจากเว็บ Befunky ค่ะ
"ฉันไม่รอเธอแล้ว" ไปเที่ยวคนเดียว จะชิลล์ไปไหน [งานหนังสือ 2558 + สวนรถไฟ]
สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านกระทู้พันทิพย์ กระทู้นี้อยู่ที่น่ารักทุกคน
วันนี้ข้าพเจ้าจะมาเล่าเรื่อง "ประสบการณ์เที่ยวคนเดียว" ให้ได้อ่านกัน
เอ่อ...ว่าแต่ไปคนเดียวมันแปลกตรงไหน ใคร ๆ ก็ไปเที่ยวคนเดียวได้
นั่นน่ะสิ แต่เท้าความก่อนละกัน
ว่าก่อนหน้านี้ จขกท. เคยมีผู้บ่าวมาคอยดูแลหัวใจ
แล้วคราวนี้ตอนแรก ๆ ที่คบกัน นี่คือไปเดินเล่นสวนรถไฟ จังหวะที่ปั่นจักยานอยู่นั้น ดวงตาก็เหลือไปเห็น "สวนผีเสื้อ"
แต่เวลาที่ไปอ่ะ มันปิดไปแล้ว ก็เลยหันมาพูดกับเขาว่า "คราวหน้ามาดูด้วยกันนะ" พี่แกก็ say yes แหละ
จริง ๆ คือเกือบได้ไปดูล่ะ หลังจากที่คุยกัน แต่เนื่องด้วยขณะเดินทางไป อีกฝ่ายบอกเมื่อยขา ก็เลยไม่ได้ไปอีกเลย
แต่ไม่ใช่ว่าเรื่องจะเงียบหายไปนะ ชวนไปตลอด แทบจะกราบก็ไม่ยอมไปด้วย จนในที่สุดเราก็แยกเส้นทางกัน โป๊งฉึ่ง!
จนถึงตอนนี้อาการเฮิร์ท เริ่มจะดีขึ้นแล้ว จขกท. จากเมื่อก่อนที่ยังยอมรับความจริงไม่ได้ ต้องชวนแฟนเก่าไปด้วย
และก็ถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยเสมอ คำพูดของเขาที่ทำให้ตัดสินใจเลิกชวนตลอดกาล คือ "ไม่ต้องรอฉันหรอก"
โอ้โห้! เจ็บสิคะ คุณผู้ชม หลังจากนั้นมาก็เลยวางแผนว่า "ไปคนเดียวนี่แหละ เฟี้ยวฟ้าว" ก็เลยเกิดกระทู้นี้ขึ้นมาไง
ก่อนหน้านี้วางแผนเอาไว้ว่าจะไปเที่ยว "วัด" ก่อนตอนเช้า แต่พอรู้ว่างานหนังสือกำลังจัดอยู่ก็เลยเปลี่ยนแผน
และเพิ่มแผนใหม่เข้าไปด้วย "ไปสวนผีเสื้อ เพื่อจบๆ กันไปสักที" ว่าแล้วการเดินทางในเช้าของวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคมก็เริ่มขึ้น !
โดยตั้งใจว่าจะไปงานหนังสือก่อน การแต่งตัวนั้นเลือกชุดที่เริ่ดที่สุดไป นั่นคือ ชุดที่แฟนเก่าเลือกให้ กระเป๋าก็เอาใบที่เขาซื้อให้มาใช้
แต่ที่เปลี่ยนไปคือ การเริ่มสนใจ ใบหน้า และ ทรงผม คือทำมาดี จนคนที่เห็นกันอยู่ทุกวัน ชมว่าน่ารักอ่ะ (แอบหลงตัวเองเล็กน้อยนะเนี้ย)
การเดินทางคือนั่ง รถเมล์สาย 97 มาลงที่ mrt บางซื่อ และลงสถานีศูนย์ประชุมได้เลยจ้า
พอถึงแล้วจะเห็นได้ว่าแค่หน้าสถานีคนก็เยอะสุด ๆ แล้ว อากาศก็ร้อน แต่ไม่เป็นไร เรามีเป้าหมาย เราต้องทำให้สำเร็จ!!!
งานหนังสือคนเยอะมาก ๆ เลย จะเห็นว่าหลายคนขากลับมาได้หนังสือติดมือมาเป็นกระเป๋าเลย จริง ๆ ก็อยากควักเงินมาซื้อเหมือนกัน
แต่หนังสือที่จะซื้อนี่ "เกินงบ" ฮ่าๆๆๆ เราเลยได้แค่ไปยืนดู ยืนอ่าน เก็บข้อมูลไปพลาง ๆ
โดยเฉพาะบูทนี้ คนเยอะ คนแน่น คนยืนอ่านทดลองนี่ขำกันตลอด เราก็ลองไปอ่านดู เห้ย! สุดยอดดดด โดยเฉพาะนิทานอ่ะ อื้อหื้อเลย ><
ท่ามกลางความสับสน วุ่นวายของหลายคนที่ทั้งยืน ทั้งเดิน ทั้งนั่งพัก เราก็เดินไปเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ที่ตู้ ๆ หนึ่ง เห็นอะไรคุ้น ๆ และ....
เห้ยเธอ ! นี่มันรองเท้าเรา อุ๊ย ! ล้อเล่นจ้า จริง ๆ แล้วเป็นรองเท้าและชุดของ cinderella 2015 งดงามวิ๊ง ๆ (ชอบอ่ะแกร ซื้อกลับบ้านได้ไหมอ่ะ)
ถึงตอนนี้ก็ได้เวลากลับออกไปแล้ว จริง ๆ จขกท.ได้นิตยสารฟรีมาสองเล่ม ทีแรกพี่เขาถามว่า "อยากให้ดาราคนไหนขึ้นปกฉบับต่อไปคะ?"
ไอ้เราก็คิด คิด และ คิด จนในที่สุด "แมท ภีรนีย์ ค่ะ" เท่านั้นแหละค่ะ คุณพี่ที่ถามนี่ยืนยิ้มเลย "คุณน้องคะ แมทเพิ่งขึ้นปกฉบับที่แล้วไปเอง"
โอ้ ! คุณพระเลยค่ะ ตอบใครไม่ตอบ ดันไปตอบคนที่เพิ่งขึ้นไป อีกทั้งยังหยิบมาให้ดูเป็นหลักฐาน และก็ยกหนังสือให้ฟรีเลยสองเล่ม กับ กระเป๋าใบเล็ก ๆ 1 ea
จากบูทขายนิตยสาร O-live ขอบคุณค่ะ (หนังสือดี พี่แมทสวยจังเลย ><)
แล้วก็เริ่มเดินทางไปสวนรถไฟต่อ...
โดยต่อจากนี้ก็นั่ง mrt กลับไปสถานีจัตุจักรค่ะ ลงมาปุ๊บเดินผ่านสวนก็ถ่ายรูปเก็บไว้สักหน่อย
พอเดินคนเดียวแล้วรู้สึกแปลก ๆ ชอบกล แต่ไม่เป็นไร ^^
มาถึงแล้วจ้า สวนรถไฟ ฝั่งที่มีสระว่ายน้ำ คราวนี้ก็เดินค่ะ
ใช้เวลาเดินไม่นาน ก็มาถึงแล้ว "สวนผีเสื้อ"
ที่นี่เปิด 10.00 - 16.30 น. วันจันทร์ปิดให้ทำการ ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม แต่เขามีกฎอยู่นะว่า "ห้ามส่งเสียงดัง"
บรรยากาศร่มรื่น สงบดี ผีเสื้อดูจะไม่กลัวอะไรคนเลย ซ้ำมันยังอยู่นิ่งให้ถ่ายรูปอีกต่างหาก
(นี่ผีเสื้อ หรือ หมา? ฮ่าๆๆๆ) และบางตัวก็ "บินเข้าหน้าเลยจ้า"
ยิ่งเจ้าตัวด้านบนนี่ทีแรกดูไม่ออกเลยว่าเป็นผีเสื้อเหมือนกัน พอเจ้าหน้าเดินมาปุ๊บ สะกิดใบไม้เก่านิดหน่อย มันก็สยายปีกออกเลย ข้างในปีกเป็นสีดำส้ม
มีชั้นสองให้ขึ้นไปดูวิวจากมุมสูงด้วย ก็เลยลองเดินขึ้นไปดูต่อ...
เนื่องจาก จขกท. ไปคนเดียว ตอนถ่านรูปตัวเองก็เลยต้องไหว้วานคนที่อยู่แถวนั้นถ่ายให้ ซึ่งขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ
ที่ช่วยถ่ายรูปสาวน้อยผู้อาภัพรักคนนี้ ^^
ตัวนี้มันจะกินเค้าไหมอ่ะ?
สุดท้ายแล้ว เนื่องด้วยเราอยู่ในสวนสาธารณะ แน่นอนว่าต้องเป็นนพื้นที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์มากมายอยู่ในที่แห่งนี้แน่นอน
หลังจากออกมาจากโดมผีเสื้อแล้ว ก็เลยเดินเล่นรอบ ๆ สวนรถไฟ สูดอากาศดี ๆ ให้เต็มปอด เพื่อพร้อมที่จะกลับไปใช้ชีวิตตามเดิม
อากาศสดใส แดดจ้าตลอดทั้งวัน คนรักสุขภาพต่างพากันมาวิ่ง ครอบครัวต่างพากันมาทำกิจกรรมด้วยกันที่นี่ เห็นแล้วนึกถึงคนที่บ้าน
จากมาไกลหลายร้อยกิโล เพื่อมาเล่าเรียน ไม่เจอหน้ากันเป็นเดือน ๆ เดี๋ยวทำงานทุกอย่างเสร็จ จะกลับไปอยู่ที่บ้านให้หายคิดถึงเลย ><
บทสรุปแล้ว จขกท. จากที่ตอนแรก คิดว่าคงไม่มีทางได้มีความสุขอีกแล้ว ถ้าไม่มีใครสักคนมาช่วยแบ่งเบาความทุกข์
แต่จริง ๆ แล้ว เพียงแค่เราเปิดใจ ยอมพึ่งพาตัวเอง เชื่อสิว่าความสุขที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่คนอื่นหรอก "อยู่ที่ตัวเองนี่แหละ"
ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่ผิดหวังในความรัก อกหัก เสียใจ หรือโดนอะไรมาหนัก สู้ ๆ นะคะ กว่าตัวเองจะยอมออกมาจากเรื่องเศร้าได้
นี่มันยากเหลือเกิน
ยังไงก็ "ฉันไม่รอเธอแล้ว" ละกันนะ
ป.ล. รูปจากกล้องโทรศัพท์มือถือ Sony Xperia Z1 + แต่งภาพจากเว็บ Befunky ค่ะ
***ค่าเดินทางทั้งหมดอยู่ 200 บาท (ข้าวกินจากบ้าน ประหยัดดี อิอิ)
ภาพจริงมีขนาดใหญ่มาก....เลยย่อเอานะ