อยู่ดีๆเคยกลายเป็นดาวพลูโตไหม?

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะเรียกเราว่าพลูโตก็ได้ ต้องบอกก่อนเลยว่านี่คือชีวิตจริงไม่อิงนิยาย //แอบดราม่า เมื่อก่อนเราเป็นสาวฮ็อตมากในโรงเรียนและนอกโรงเรียนเพราะเราเป็นหัวหน้าสโมสรจิตอาสาของโรงเรียน เลยทำให้ได้ไปค่ายต่างจังหวัด ได้รู้จักเพื่อนๆต่างโรงเรียนเยอะแยะไปหมด มีเพื่อนๆ รุ่นพี่รุ่นน้อง มีคนรู้จักมากมาย แม้แต่คนเข้ามาคุยก็เยอะมาก คือบอกเลยว่าเวลามีคนรักเยอะๆมันมีความสุขมากกกกกกกกกกกกกก แต่ก็นะ...ไม่มีอะไรที่ยั่งยืน พอเราขึ้น ม 5 ก็มีน้อง ม 4 เข้ามาใหม่ น่ารักๆทั้งนั้น แล้วเราก็หมดวาระของหัวหน้าสโมสรและได้ไปทำงานเบื้องหลังเป็นที่ปรึกษาแทน เฮ้อออออ หลังจากนั้นคนรู้จักก็น้อยลงคนคุยก็น้อยลงเรื่อยๆ กิ๊กๆก็ห่างหายไปหมดเลย ฮื่ออออออ T^T แรกๆก็ยังไม่ได้คิดมากอะไรก็ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนๆ ตั้งใจเรียน เฮฮากับเพื่อนๆที่มีอยู่ไปวันๆ แต่พอขึ้น ม 6 เทอมสองก็เริ่มเครียดๆกับการเข้ามหาลัย ต้องสอบนู้นนี่ ไหนจะกิจกรรมที่โรงเรียนอีก ไหนจะต้องไปติวที่สถาบันกวดวิชาหรือแคมป์ต่างๆอีก ทำให้มีเวลาให้คนรอบข้างน้อยลง แต่เราก็ยังโทรคุยกับเพื่อนๆในกลุ่มอยู่บ่อยๆ บอกก่อนว่ากลุ่มเรามีแปดคน แต่ที่สนิทมากๆมีสามคนรวมเราแล้ว ไปไหนไปด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน นั่งเรียนด้วยกันไม่เคยแยกจากกัน คนนึงเรียนเก่งมากกกกสอบได้ที่หนึ่งตลอด อีกคนเก่งจีนวิชาเดียวแต่ก็เป็นคนขยัน ส่วนเราหรอเราเป็นคนขี้เกียจแต่หัวดี กล้าแสดงออกพูดเก่ง แต่บอกเลยว่าโง่คำนวณมากกก เลขเอยฟิสิกส์เอยเคมีอีกตัวนี่โง่มากกกกกกกก เศร้า เราอยากเป็นวิศวะเพราะมีแรงบันดาลใจจากการไปเข้าค่ายแนะแนววิศวะมา แต่คนมันโง่คำนวณจะไปสอบติดได้ไง แต่เพื่อนๆเราก็ให้กำลังใจตลอดนะ มีแนวข้อสอบก็บอกกันตลอด เป็นเพื่อนกันตั้งแต่มอต้นเลยสนิทกันมากๆ เราคิดว่าเรามีความสุขที่มีเพื่อนที่รักกันแบบนี้ เราเป็นตัวของตัวเองได้สุดๆ เรายิ้มหัวเราะได้อย่างสุดๆ เราไว้ใจที่สุดจนเล่าเรื่องปัญหาครอบครัวให้ฟัง เพื่อนก็โอ๋เราให้กำลังใจเราเสมอ
        แต่อยู่มาวันนึงช่วงก่อนจบ ม.6 ได้ซักสองเดือนได้มั้ง ก็เริ่มมีงานกลุ่มวิชาคณิต ซึ่งก็แบ่งงานกันทำดีช่วยกันทำดี แต่เราเป็นคนที่ไม่ค่อยเก่งเลข เลยไม่ได้รับหน้าที่ที่ให้คำนวณ ส่วนใากได้ทำแค่ตัดกระดาษกับทากาว แถมบ้านเราก็ไกลจากโรงเรียนมาก ต้องเรียนพิเศษด้วยเวลาเพื่อนนัดกันทำงานเพื่อนก็มักจะไม่บอกเรา แบบไปทำกันเองแล้วมาเก็บเงินค่าของที่ซื้อไปทีหลัง แล้วก็เก็บค่ารถที่เพื่อนเดินทางไปทำด้วย เราก็ทำอะไรไม่ได้ก็จ่ายๆไป แต่เราก็ทำหน้าที่ส่วนของเราเสร็จแล้วนะ แต่เพื่อนๆก็ไปเปลี่ยนหัวข้อเรื่องแต่ไม่บอกเรา แล้วคือเราต้องเป็นคนไปรายงานหน้าชั้นต้องเตรียมข้อมูลเตรียมพูด เราก็เตรียมในหัวข้อเดิมที่เตรียมไว้ เพราะเพื่อนไม่บอกอะไรเราเลย แล้วก็มาบอกเราคืนก่อนวันรายงานวันเดียว บอกเลยเราเฟลมากเลยคือเราช่วยส่วนคำนวณไม่ได้ก็เลยตั้งใจจะเต็มที่กับส่วนรายงานที่ตัวเองจะทำได้ดี เราก็ทำอะไรไม่ได้ก็ต้องพรีเซนท์สดๆไป แบบอ่านก่อนรายงานแปปเดียว แล้วอีกไม่กี่วันก็มีงานกลุ่มฟิสิกส์อีก แล้วก็เกิดปัญหาเดิมอีก เราก็ถามแล้วนะว่ามีงานอะไรให้เราช่วยอีกมั้ยก็ไม่ยอมบอก แล้วคืองานฟิสิกส์ต้องลอกโจทย์ข้อสอบโอเน็ตเป็นร้อยข้อเลย คือแล้วเพื่อนให้เราลอกวันเดียวก่อนส่ง คือก่อนหน้านี้เราก็ขอแล้วแต่ก็ไม่ยอมให้เราซักที บอกว่าลืมบ้าง บอกว่าหนักบ้างเลยขี้เกียจแบกมาให้เรา เราเลยโมโหอ่ะคืองานวิชาอื่นก็เยอะแล้ว แล้วก็ไม่ยอมให้เราทำงานนี้เสร็จซะที เราเลยบอกไปว่าเราไม่อยากงานค้าง แต่ที่ตอบกลับมาคือคำว่า "หนวกหู หยุดพูดซะทีได้ไหม" พร้อมกัยเอามือปิดหูแล้วก็เดินหนีไปไม่รอเรา กินข้าวก็ไม่รอ ไปไหนมาไหนก็ไม่รอเราอีกต่อไป จากเคยไปกันสามคนก็ไปกันสองคนทิ้งเราไว้ข้างหลังคนเดียว ช่วงนั้นเราเสียใจมากอ่ะ นอนร้องไห้ทุกวันเลย เราเลยตัดสินใจหนีมาสอบเข้ามหาลัยในภาคเหนือ หนีมาไกลมากไม่อยากอยู่ในสภาพแวดล้อมเก่าๆ ไม่อยากเจอ ไม่อยากเห็น ไม่อยากแม้แต่จะได้ยินชื่อของสองคนนั้นเลย พอวันจบ ม 6 วันปัจฉิมนิเนศ ที่ต้องมีกิจกรรมเรื่ออาจารย์และแน่นอนค่ะเรื่องเพื่อน เราทำใจไม่ได้เราไม่เข้ากิจกรรมนั้น แม้แต่รูปเรายังไม่ถ่ายด้วยเลย แล้วไลน์กลุ่มใหญ่แปดคนถ้าสองคนนั้นตอบเราจะไม่ตอบก็เหมือนกันถ้าเราตอบสองคนนั้นก็ไม่ตอบเหมือนกัน แล้ววันนั้นมีกิจกรรมที่ให้เอากระดาษแปะหลังแล้วให้เพื่อนๆมาเขียนความในใจ เราจำลายมือสองคนนั้นได้ดี สองคนนั้นเขียนขอโทษเรา อีกคนก็บอกว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เราเขียนกลับไปคือคำว่า "Nice to meet you" เราไม่ได้โกรธนะ ไม่เคยเกลียด แต่เราแค่รู้สึกใจสลาย มันเหมือนล้มทั้งยืนอ่ะแก เคยมั้ยคนที่เราไว้ใจที่สุดกลับทำร้ายเราทั้งตัวและหัวใจ จากที่เคยรักกันมาก เป็นกำลังใจให้ตลอดทั้งเรื่องเรียน ปัญหาครอบครัวหรือแม้แต่เรื่องกิ๊ก สุดท้ายมาว่าเราว่าเราครอบครัวไม่อบอุ่น เลิกหลอกตัวเองซักทีที่อยากเป็นวิศวะ เธอเป็นไม่ได้หรอก ตอกย้ำเราทุกเรื่องที่ทำได้ ทำทุกอย่างที่ทำให้เราเจ็บปวดที่สุด เราอยากบอกว่าไม่ต้องเหนื่อยทำถึงขนาดนั้นหรอกแค่เดินไม่รอเรา บอกว่ารำคาญตอนเราจับมือเราก็เสียใจจะแย่แล้ว เราได้แค่นับเวลาให้จบ ม 6 นับวันประกาศผลที่เราจะสอบติดที่ไกลๆ เราไม่อยากเจ็บปวดอีกแล้ว ใจเราบอบช้ำมากถึงมากที่สุด
        ตอนนี้เราอยู่ปีหนึ่ง ได้เรียนมหาลัยบนดอยที่ไกลบ้านมากกกกกกก //บ้านเราอยู่ภาคกลาง และเราก็ได้เรียนวิศวะด้วย เรากดออกจากไลน์กลุ่ม เลิกติดต่อกับทุกคนที่โรงเรียนเก่า //มีคุยแค่ไม่ถึงสิบคน เราคิดว่าในเมื่อเราหนีมาไกลขนาดนี้แล้วเราก็ไม่อยากจะรับรู้อะไรอีก เราอยากเริ่มต้นใหม่ อยากบอกเพื่อนๆเก่าว่าเราไม่ได้โกรธไม่เคยเกลียดที่ใจร้ายกับเราแบบนี้ แต่เราแค่ทำใจกลับไปคุยดีกับคนที่ทำร้ายจิตใจที่เราให้ไปอย่างจริงใจไม่ได้ เราขอเป็นดาวพลูโตที่มีคนรู้จักมากมาย แต่อยู่ไกลจนหลุดวงโคจรจนบางคนอาจจะลืมไปด้วยซ้ำว่ามีตัวตน เราขอเริ่มชีวิตใหม่กับวงโคจรใหม่ๆที่เขาเห็นคุณค่าในตัวเราดีกว่า เรายังคิดถึงวันเวลาดีๆที่เคยมีพวกเธอเสมอนะ ขอให้พวกเธอมีความสุขและอย่าไปทำร้ายเพื่อนที่จริงใจกับเธอเหมือนเราอีกเลย ขอให้พวกเธอโชคดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่