คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 82
เนื่องจากผมตอบคำถามหลังไมค์ไม่ได้เพราะไม่ได้ไม่ได้ยืนยันตัวตนนะครับ
ขอตอบคำถามหลังไมค์ ดังนี้นะครับ
1.ถามว่าเป็นทอม ใส่กางเกงไปสัมภาษณ์งานได้ไหม
คำตอบ > ได้ครับ แต่แนะนำว่าควรเป็นกางเกงขายาวสีดำ (สแลคแบบผู้หญิงจะดีมาก) / หรือกระโปรงก็ได้ครับ
2.ถามว่าเป็นนักศึกษาจบใหม่ควรแต่งกายไปสัมภาษณ์อย่างไรดี ใส่ชุดนักศึกษาได้ไหม
คำตอบ > ใส่ชุดสุภาพครับ เชิ๊ตแขนยาว (สีขาวหรือสีอ่อนๆ) กางเกงขายาวสีดำ เหมาะสมที่สุด
ส่วนชุดนักศึกษาก็ใส่ไปได้ครับ (กรณีไม่มีชุด) แต่เอาเข็มหรือตราของมหาวิทยาลัยออกก่อน เพราะเราจบแล้ว
เราไม่ได้มาฝึกงาน
3.ถามว่าขอแลกเปลี่ยนความรู้ ในแวดวง HR
คำตอบ > ยินดีเป็นอย่างมากครับ เพราะผมก็ยังอ่อนประสบการณ์มาก ยินดีแชร์มากครับ
4.ถามว่าทำงานที่บริษัทไหน
คำตอบ > ไม่ขอเอาชื่อบริษัทมายุ่งเกี่ยวเนอะ เพราะเป็นความเห็นeส่วนตัวของผมล้วนๆ เดี่ยวจะกระทบ
Brand Image ของบริษัทครับ
5.ถามว่าขอคำแนะนำไปสัมภาษณ์ผู้จัดการคอนโด
คำตอบ > เห็นมีคนตอบไปแล้ว ก็ตามนั้นครับ
ปล. เหตุผลที่มาตั้งกระทู้ ไม่ได้จะมาว่าน้องๆ นะครับ (ตัวผมเองก็ยังไม่ดีเลย) ผมก็เกิด 2530 อยู่เจนเดียวกัน
คือระดับผู้บริหารส่วนใหญ่เป็นคนยุคก่อน (รวมถึง HR หลายๆท่านด้วย) ตั้งนั้นกติกาสังคม ถ้ามันถูกต้อง
ก็ควรรับและปรับตัวเข้าหาครับ เพราะเราทำงานร่วมกัน ไม่ได้ทำงานคนเดียว
ผมเองก็เคยผิดพลาด เคยไม่เตรียมตัวให้ดีก่อนไปสัมภาษณ์งาน เคยอดหลับอดนอนไปสัมภาษณ์งาน
มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี ส่งผลเสียต่อตัวเรา ผมแค่อยากแนะนำก็เท่านั้น เห็นช่วงหลังน้องๆ เริ่มเป็นกันเยอะ
ส่วนที่ว่า HR แย่ๆ ผมก็เคยเจอ ผมก็เคยเป็นผู้ถูกสัมภาษณ์มาถึง 5 ครั้ง ผมเข้าใจความรู้สึก
ผมก็เคยนั่งรอ แต่ว่าเราว่างงานก็รอได้ หรือกรณีลางานมา เราก็ลามาทั้งวัน คงไม่มีใครลามา 2 ชั่วโมง
เพื่อมาสัมภาษณ์ แต่สำหรับคนที่เขามีธุระ หรือไม่ควรเสียเวลาตรงนี้ผมก็เข้าใจ ซึ่งเป็นความผิดของ
HR ล้วนๆ (บอกเลยว่างาน HR ไม่ได้แค่สัมภษณ์คนอย่างเดียว บางครั้งมันมีงานด่วนและสำคัญเข้ามา)
เลยต้องให้รอ อันนี้ไม่ได้แก้ตัวนะครับ ยอมรับผิด ยอมให้ตำหนิ
HR ทำตัวกร่างๆ ก็มีเยอะ แต่ไม่ใช่ผม ผมไม่ชอบเลยเวลามีพนักงานระดับล่างมาติดต่องาน
แล้วพูดจาไม่ดีใส่เขา ตัวตัวอย่างกะเป็นเจ้าของบริษัท ส่วนเวลาระดับผู้จัดการเข้ามาติดต่อ
พูดเสียงอ่อนเสียงหวานอย่างกะเป็นเมียน้อยเขา (อคติส่วนตัวของผมล้วนๆ 555)
ผมเองก็ไม่ใช่ HR ที่ดีมากมายอะไร แต่ผมไม่เคยดูถูก หรือพูดไม่ดีใส่พนักงาน ผมค่อนข้างเน้นเรื่อง
Service Mind เพราะนั่นคืองานของเรา
-ขอบคุณทุกความเห็น และคำติชมขอรับ-
ขอตอบคำถามหลังไมค์ ดังนี้นะครับ
1.ถามว่าเป็นทอม ใส่กางเกงไปสัมภาษณ์งานได้ไหม
คำตอบ > ได้ครับ แต่แนะนำว่าควรเป็นกางเกงขายาวสีดำ (สแลคแบบผู้หญิงจะดีมาก) / หรือกระโปรงก็ได้ครับ
2.ถามว่าเป็นนักศึกษาจบใหม่ควรแต่งกายไปสัมภาษณ์อย่างไรดี ใส่ชุดนักศึกษาได้ไหม
คำตอบ > ใส่ชุดสุภาพครับ เชิ๊ตแขนยาว (สีขาวหรือสีอ่อนๆ) กางเกงขายาวสีดำ เหมาะสมที่สุด
ส่วนชุดนักศึกษาก็ใส่ไปได้ครับ (กรณีไม่มีชุด) แต่เอาเข็มหรือตราของมหาวิทยาลัยออกก่อน เพราะเราจบแล้ว
เราไม่ได้มาฝึกงาน
3.ถามว่าขอแลกเปลี่ยนความรู้ ในแวดวง HR
คำตอบ > ยินดีเป็นอย่างมากครับ เพราะผมก็ยังอ่อนประสบการณ์มาก ยินดีแชร์มากครับ
4.ถามว่าทำงานที่บริษัทไหน
คำตอบ > ไม่ขอเอาชื่อบริษัทมายุ่งเกี่ยวเนอะ เพราะเป็นความเห็นeส่วนตัวของผมล้วนๆ เดี่ยวจะกระทบ
Brand Image ของบริษัทครับ
5.ถามว่าขอคำแนะนำไปสัมภาษณ์ผู้จัดการคอนโด
คำตอบ > เห็นมีคนตอบไปแล้ว ก็ตามนั้นครับ
ปล. เหตุผลที่มาตั้งกระทู้ ไม่ได้จะมาว่าน้องๆ นะครับ (ตัวผมเองก็ยังไม่ดีเลย) ผมก็เกิด 2530 อยู่เจนเดียวกัน
คือระดับผู้บริหารส่วนใหญ่เป็นคนยุคก่อน (รวมถึง HR หลายๆท่านด้วย) ตั้งนั้นกติกาสังคม ถ้ามันถูกต้อง
ก็ควรรับและปรับตัวเข้าหาครับ เพราะเราทำงานร่วมกัน ไม่ได้ทำงานคนเดียว
ผมเองก็เคยผิดพลาด เคยไม่เตรียมตัวให้ดีก่อนไปสัมภาษณ์งาน เคยอดหลับอดนอนไปสัมภาษณ์งาน
มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี ส่งผลเสียต่อตัวเรา ผมแค่อยากแนะนำก็เท่านั้น เห็นช่วงหลังน้องๆ เริ่มเป็นกันเยอะ
ส่วนที่ว่า HR แย่ๆ ผมก็เคยเจอ ผมก็เคยเป็นผู้ถูกสัมภาษณ์มาถึง 5 ครั้ง ผมเข้าใจความรู้สึก
ผมก็เคยนั่งรอ แต่ว่าเราว่างงานก็รอได้ หรือกรณีลางานมา เราก็ลามาทั้งวัน คงไม่มีใครลามา 2 ชั่วโมง
เพื่อมาสัมภาษณ์ แต่สำหรับคนที่เขามีธุระ หรือไม่ควรเสียเวลาตรงนี้ผมก็เข้าใจ ซึ่งเป็นความผิดของ
HR ล้วนๆ (บอกเลยว่างาน HR ไม่ได้แค่สัมภษณ์คนอย่างเดียว บางครั้งมันมีงานด่วนและสำคัญเข้ามา)
เลยต้องให้รอ อันนี้ไม่ได้แก้ตัวนะครับ ยอมรับผิด ยอมให้ตำหนิ
HR ทำตัวกร่างๆ ก็มีเยอะ แต่ไม่ใช่ผม ผมไม่ชอบเลยเวลามีพนักงานระดับล่างมาติดต่องาน
แล้วพูดจาไม่ดีใส่เขา ตัวตัวอย่างกะเป็นเจ้าของบริษัท ส่วนเวลาระดับผู้จัดการเข้ามาติดต่อ
พูดเสียงอ่อนเสียงหวานอย่างกะเป็นเมียน้อยเขา (อคติส่วนตัวของผมล้วนๆ 555)
ผมเองก็ไม่ใช่ HR ที่ดีมากมายอะไร แต่ผมไม่เคยดูถูก หรือพูดไม่ดีใส่พนักงาน ผมค่อนข้างเน้นเรื่อง
Service Mind เพราะนั่นคืองานของเรา
-ขอบคุณทุกความเห็น และคำติชมขอรับ-
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 35
เราก็มีอะไรอยากฝากบอก HR เหมือนกันนะ ว่าเวลาเราลงเรซูเม่ไว้ตามเว็บสมัครงานต่างๆ รายละเอียดก็บอกอยู่แล้ว ว่าเรียนจบอะไร จากไหน หรือกำลังเรียนอยู่ (คือเรากำลังเรียนป.ตรี ภาคพิเศษ) พอเรียกเราไปสัมภาษณ์ บางบริษัทร้องอ้าว!!! ยังไม่จบตรีหลอ นึกว่าจบแล้ว คือใช้คำว่านึกว่า ทำไมคุณไม่ดูให้ดี ให้ละเอียดก่อน การที่เรียกไปสัมภาษณ์ด้วยความนึกว่าของคุณทำให้เราเสียเวลา เสียทรัพยากร รูปถ่าย เอกสารประกอบการสมัคร บางที่ก็ให้ทำข้อสอบก่อนสัมภาษณ์ ซึ่งเราก็ทำได้ แล้วสัมภาษณ์เสร็จ บอกว่ารับวุฒิป.ตรีอยู่ แล้วจะเรียกมาทำข้อสอบ มากรอกใบสมัครทำไม ในหลายๆ ที่บอกจะติดต่อกลับไป ไอเราบอกถ้าไม่รับจะติดต่อมาบอกมั้ย เค้าบอกถ้าไม่รับก็ไม่ได้ติดต่อไป คือจะให้รอแบบไร้จุดหมายงี้หลอคะ เค้าให้เหตุผลว่าถ้าต้องโทรไปแจ้ง HR ก็จะทำงานเยอะ บางที่บอกภายใน 1 อาทิตย์ บางที่บอก 2 อาทิตย์ บางที่เราวาดหวังว่าอยากทำงานกับบริษัทนี้ ก็ไม่กล้าที่จะรับงานบริษัทอื่น การที่ HR ไม่แจ้งผล ไม่เป็นการปิดกั้นโอกาสกันไปหน่อยหลอคะ เป็นแบบนี้ทุกที่เลยที่เราไปสัมภาษณ์มา คนตกงานเค้าก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่ากินเวลาไปสัมภาษณ์ ใจเขาใจเรานะคะ
ความคิดเห็นที่ 20
5.กรณีจะยกเลิกการสัมภาษณ์งานควรแจ้งให้ HR ทราบ ไม่ใช่หายไปดื้อ
โทรไปก็ไม่รับสาย ใจเขาใจเรานะครับ
ผมก็อยากจะบอกว่า ถ้าคุณจะไม่รับ ก็แจ้งผ่านเมล์มาก็ได้ถ้าไม่รับ มิใช่มาบอกเดียวจะติดต่อกลับไป หรืออะไรเหตุผลร้อยแปด
สุดท้ายให้เรารอเกรอ จะรับเราไหม ถ้าไปสมัครที่อื่นแล้วได้ แล้วจู่ๆโทรติดต่อกลับมา
โทรไปก็ไม่รับสาย ใจเขาใจเรานะครับ
ผมก็อยากจะบอกว่า ถ้าคุณจะไม่รับ ก็แจ้งผ่านเมล์มาก็ได้ถ้าไม่รับ มิใช่มาบอกเดียวจะติดต่อกลับไป หรืออะไรเหตุผลร้อยแปด
สุดท้ายให้เรารอเกรอ จะรับเราไหม ถ้าไปสมัครที่อื่นแล้วได้ แล้วจู่ๆโทรติดต่อกลับมา
ความคิดเห็นที่ 2
ผมขอเสริมในฐานะ HR ประสบการณ์กว่า 13 ปีนะครับ
1. ก่อนที่จะสมัครงาน ควรจะศึกษาดูสถานที่ตั้งของบริษัทฯ ที่จะสมัครด้วยนะครับ (เห็นประจำที่มาบอกว่าลาออกเพราะ ไกลเดินทางไม่สะดวก) ใช้ Google map เช็คระยะ หรือคำนวณเวลาในการเดินทางก็ได้ครับ ถ้าเก่งคอมหน่อยดูแบบ Street view ไปเลยครับ
2. ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัท สินค้า หรือข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่คุณกำลังไปสัมภาษณ์, ลักษณะงานที่ต้องการสมัคร
3. ปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ หรือ เลี่ยงรับสายหากมีกรณีเร่งด่วนจำเป็น จนกว่าจะเดินก้าวพ้นออกจากบริษัทที่คุณไปสัมภาษณ์
4. หากไม่จำเป็นไม่ควรรับนัดใครในวันที่สัมภาษณ์งาน หรือ เผื่อเวลาไว้ซัก 3-4 ชั่วโมง เผื่อในกรณีที่อาจจะต้องทำการทดสอบต่างๆ (ผมเคยเจอน้องคนนึงขณะกำลังสัมภาษณ์งานเค้าอยู่นั้น เห็นก้มๆมองๆโทรศัพท์เพื่อดูนาฬิกาอยู่หน จึงถามว่าไม่ทราบว่ามีนัดหรือติดธุระที่ไหนต่ออีกเปล่าครับ น้องเค้าตอบว่า "ผมจะรีบไปซื้อเสื้อให้แฟนครับ เดี๋ยวร้านจะปิด" เหอะๆ
5. แม้ว่าคุณจะไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน หรือ อาจเคยผ่านสหกิจศึกษา คุณก็สามารถนำเสนอตัวคุณเองได้ เช่น กิจกรรมที่เคยทำในขณะเรียน, ประสบการณ์ในการแข่งขันทางด้านวิชาการ หรือกิจกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง หรือ บ่งชี้ให้เห็นว่าคุณมีทัศนคติหรือคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่คุณสมัคร
6. ที่คุณ จขกท บอกว่าให้ไปถึงก่อนเวลานัดหมาย ขอขยายความว่า เพื่อไปสังเกตการณ์เบื้องต้น (หมายถึงกิจกรรมหรือสิ่งต่างๆในบริษัท ไม่ใช่ไปยืนด้อมๆมองๆอยู่หน้าบริษัทนะครับ), เพื่อให้คุณปรับสภาวะของตัวเอง จะได้ไม่เกิดความตื่นเต้น และประหม่า จะได้มีสมาธิ, เผื่อเวลากรอกใบสมัครงาน และเข้าห้องน้ำจัดการธุระและหน้าตาให้เรียบร้อย บางคนหัวกระเซิงมาเลยก็มี
1. ก่อนที่จะสมัครงาน ควรจะศึกษาดูสถานที่ตั้งของบริษัทฯ ที่จะสมัครด้วยนะครับ (เห็นประจำที่มาบอกว่าลาออกเพราะ ไกลเดินทางไม่สะดวก) ใช้ Google map เช็คระยะ หรือคำนวณเวลาในการเดินทางก็ได้ครับ ถ้าเก่งคอมหน่อยดูแบบ Street view ไปเลยครับ
2. ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัท สินค้า หรือข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่คุณกำลังไปสัมภาษณ์, ลักษณะงานที่ต้องการสมัคร
3. ปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ หรือ เลี่ยงรับสายหากมีกรณีเร่งด่วนจำเป็น จนกว่าจะเดินก้าวพ้นออกจากบริษัทที่คุณไปสัมภาษณ์
4. หากไม่จำเป็นไม่ควรรับนัดใครในวันที่สัมภาษณ์งาน หรือ เผื่อเวลาไว้ซัก 3-4 ชั่วโมง เผื่อในกรณีที่อาจจะต้องทำการทดสอบต่างๆ (ผมเคยเจอน้องคนนึงขณะกำลังสัมภาษณ์งานเค้าอยู่นั้น เห็นก้มๆมองๆโทรศัพท์เพื่อดูนาฬิกาอยู่หน จึงถามว่าไม่ทราบว่ามีนัดหรือติดธุระที่ไหนต่ออีกเปล่าครับ น้องเค้าตอบว่า "ผมจะรีบไปซื้อเสื้อให้แฟนครับ เดี๋ยวร้านจะปิด" เหอะๆ
5. แม้ว่าคุณจะไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน หรือ อาจเคยผ่านสหกิจศึกษา คุณก็สามารถนำเสนอตัวคุณเองได้ เช่น กิจกรรมที่เคยทำในขณะเรียน, ประสบการณ์ในการแข่งขันทางด้านวิชาการ หรือกิจกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง หรือ บ่งชี้ให้เห็นว่าคุณมีทัศนคติหรือคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่คุณสมัคร
6. ที่คุณ จขกท บอกว่าให้ไปถึงก่อนเวลานัดหมาย ขอขยายความว่า เพื่อไปสังเกตการณ์เบื้องต้น (หมายถึงกิจกรรมหรือสิ่งต่างๆในบริษัท ไม่ใช่ไปยืนด้อมๆมองๆอยู่หน้าบริษัทนะครับ), เพื่อให้คุณปรับสภาวะของตัวเอง จะได้ไม่เกิดความตื่นเต้น และประหม่า จะได้มีสมาธิ, เผื่อเวลากรอกใบสมัครงาน และเข้าห้องน้ำจัดการธุระและหน้าตาให้เรียบร้อย บางคนหัวกระเซิงมาเลยก็มี
ความคิดเห็นที่ 31
ถึง HR
ผมเป็นคนนึงที่โดนสัมภาษหนักมาก...... ซึ่งพอได้งานแล้ว ไอ้ที่ถาม ไอ้ที่สัมภาษ ไอ้ที่สอบ ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับงานที่ทำ งานที่ทำแต่ละหน้าที่มันเหมือนเฟืองเครื่องจักร ที่ต้องทำตามระบบขององค์กร ตำแหน่งใหม่ก็เฟืองตัวใหม่ ที่ติดๆกับเฟืองอันเดิม เพื่อให้ดูมีประสบการณ์ไปสอนคนที่จะมาแทนคุณได้ ก็เท่านั้น.......แต่คนเหล่านี้ไม่ได้สร้าง มูลค่า ให้กับองค์กรหรอกครับ เป็นแค่เครื่องจักร ถ้าผมเป็น HR อยากให้ถามเกี่ยวกับ people passion มากกว่านะ ใครชอบอะไร ถ้ากดดันแบบนี้ จะรับได้ไหม กลับดึกนะ วัฒนธรรมองค์กร มากกว่า เหมือน two way communication ไม่ใช่คุณจะรับข้อมูลอย่างเดียว ตัดสินคนอย่างเดียว แบบนี้คุณไม่มีทางสร้างไรให้กับองค์กรได้หรอก......... นึกภาพว่า HR หลายคนก็ไม่ได้จบ HR มา ยังมาทำงาน HR 5 ปี 10 ปี ก็ยังอยู่ได้ ประสาอะไรกับคนทำอะไรไม่เป็นเลย จะมาเรียนรู้ใหม่แล้วคิดอะไรใหม่ๆออกมา........ ทำซะ แล้วจะดี
ผมเป็นคนนึงที่โดนสัมภาษหนักมาก...... ซึ่งพอได้งานแล้ว ไอ้ที่ถาม ไอ้ที่สัมภาษ ไอ้ที่สอบ ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับงานที่ทำ งานที่ทำแต่ละหน้าที่มันเหมือนเฟืองเครื่องจักร ที่ต้องทำตามระบบขององค์กร ตำแหน่งใหม่ก็เฟืองตัวใหม่ ที่ติดๆกับเฟืองอันเดิม เพื่อให้ดูมีประสบการณ์ไปสอนคนที่จะมาแทนคุณได้ ก็เท่านั้น.......แต่คนเหล่านี้ไม่ได้สร้าง มูลค่า ให้กับองค์กรหรอกครับ เป็นแค่เครื่องจักร ถ้าผมเป็น HR อยากให้ถามเกี่ยวกับ people passion มากกว่านะ ใครชอบอะไร ถ้ากดดันแบบนี้ จะรับได้ไหม กลับดึกนะ วัฒนธรรมองค์กร มากกว่า เหมือน two way communication ไม่ใช่คุณจะรับข้อมูลอย่างเดียว ตัดสินคนอย่างเดียว แบบนี้คุณไม่มีทางสร้างไรให้กับองค์กรได้หรอก......... นึกภาพว่า HR หลายคนก็ไม่ได้จบ HR มา ยังมาทำงาน HR 5 ปี 10 ปี ก็ยังอยู่ได้ ประสาอะไรกับคนทำอะไรไม่เป็นเลย จะมาเรียนรู้ใหม่แล้วคิดอะไรใหม่ๆออกมา........ ทำซะ แล้วจะดี
แสดงความคิดเห็น
เด็กจบใหม่จ๋า ฟัง HR หน่อย หนูมาสัมภาษณ์งาน หรือ มาเที่ยวจ๊ะ
แบบบทจะหายก็หายไปดื้อๆ ไม่บอกไม่กล่าว โทรหาก็ไม่รับสาย บางคนเอกสาร
ก็ไม่พร้อม บัตรประชาชนก็ไม่มี บางคนแต่งตัวอย่างกะจะไปเที่ยวต่างจังหวัด
กับครอบครัว บางคนมือถือดังตลอด บางคนสัมภาษณ์กวน Foot และอื่นๆอีกมาก
น้องเอ้ยยยย รู้ว่าเก่ง แต่ว่าช่วยมีมารยาท มีความเกรงใจกันหน่อย เสียเวลามา
สัมภาษณ์งานแล้วก็อยากให้ได้งานกัน หากยังไม่พร้อมก็นอนดูโดราเอม่อน
อยู่ที่บ้านไปก่อนนะครับ
ผมเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ผมทำงานเป็นฝ่ายบุคคล (HR) มาได้ 5 ปี กว่าๆ
ตอนนี้ผมอายุ 28 ปี ซึ่งอายุของผมก็ไม่ได้มากกว่านักศึกษาจบใหม่ซักเท่าไหร่
ผมคงไม่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้ใหญ่กับน้องๆ ปกติผมไม่ค่อยตำหนิ หรือต่อว่าให้ใคร
เพราะผมคิดเสมอว่า ถ้าตัวผมเองยังไม่ดีพอ ที่จะว่าให้ใคร ผมก็ควรเงียบไว้ดีกว่า
แต่หากเรื่องไหนที่แนะนำกันได้ เพื่อให้มันดีขึ้น ผมขออนุญาตพูดแล้วกันนะครับ
ย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ผมเป็นนักศึกษาจบใหม่ จากมหาวิทยาลัยภูธรแห่งหนึ่ง
ในจังหวัดเชียงใหม่ เด็กใหม่ทุกคนตื่นเต้นเสมอ เมื่อมีโทรศัพท์นัดสัมภาษณ์งาน
สัมภาษณ์งานครั้งแรกที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเด็กบ้านนอกอย่างผม เคยมาไม่กี่ครั้ง
ผมนั่งรถทัวร์จากต่างจังหวัดเข้ามาที่สถานีขนส่งหมอชิต ต่อรถเมล์มาแถวดินแดง
ด้วยตัวคนเดียว ผมมาถึงก่อนวันสัมภาษณ์จริง 1 วัน ต้องเดินหาห้องเช่าราคาถูก
แถวๆ นั้น เพื่อรอไปสัมภาษณ์งานในวันรุ่งขึ้น
การสัมภาษณ์งานครั้งแรกในชีวิต เป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างใช้ความรู้เฉพาะด้าน
พอสมควร โชคร้ายที่ผมไม่ได้เตรียมตัวมา พอผู้สัมภาษณ์ถามคำถามที่เจาะลึก
ผมตอบไม่ได้เลย สุดท้ายผู้สัมภาษณ์ไล่กลับ (บอกให้กลับไปเตรียมตัวมาใหม่
แล้วค่อยมาสัมภาษณ์) แต่ผมก็ไม่ได้กลับไปสัมภาษณ์อีก
การสัมภาษณ์งานครั้งที่ 2 ผมเตรียมตัวมาค่อนข้างดี หลังจากมีประสบการณ์
ในครั้งแรก ที่เราเตรียมตัวไม่พร้อม เป็นการสัมภาษณ์ที่ผมค่อนข้างมั่นใจ
แต่ปรากฎว่า ผมไม่ได้งานเพราะตำแหน่งนั้นต้องการคนที่เคยทำกิจกรรม
สมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วย ซึ่งคนที่ได้งานเป็นประธานรุ่น ของมหาวิทยาลัย
มีชื่อแห่งหนึ่งในกรุงเทพ (มีโอกาสได้ประสานงานกันในภายหลัง)
การสัมภาษณ์งานครั้งที่ 3 เป็นโรงพิมพ์เล็กๆแถวบางประกง สัมภาษณ์ผ่านหมด
จนกระทั่งถึงเจ้าของบริษัท แต่ไม่ได้งานเพราะผมเรียกเงินเดือนสูงเกินไป
(ความจริงแล้วเงินโครงสร้างเงินเดือนของที่นั่นต่ำมากๆ)
การสัมภาษณ์งานครั้งที่ 4 ต้องไปจังหวัดปราจีนบุรี เป็นบริษัทกระดาษแห่งหนึ่ง
เป็นการสัมภาษณ์ที่สนุกมาก ได้นอนโรงแรมฟรี เป็นการสัมภาษณ์แบบ Open
ได้แสดงความคิดเห็นกับเพื่อนๆ ที่มาร่วมสัมภาษณ์งาน สุดท้ายผมได้งานนี้
แต่ตอบปฏิเสธไป เพราะระหว่างรอผล ผมได้งานอื่นก่อน
การสัมภาษณ์งานครั้งที่ 5 ผมได้เจอผู้ร่วมสัมภาษณ์ที่ค่อนข้างเก่ง ส่วนใหญ่จบ
เกียรตินิยม และมาจากมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงในกรุงเทพ หรือไม่ก็เป็นผู้สมัคร
จากมหาวิทยาลัยในพื้นที่ ที่เกรดเฉลี่ยสูงปรี๊ด แตกต่างจากผมโดยสิ้นเชิงที่เกรด
3 นิดๆ สุดท้ายผมได้งานนี้ ด้วยเหตุผลเรื่องทัศนคติที่มีต่อตำแหน่งงานค่อนข้าง
โอเคกว่าคนอื่น และสามารถตอบคำถามในเชิงวิชาการได้น่าพอใจ
(หัวหน้างานเป็นคนบอกในภายหลัง) ซึ่งผมพอใจที่ได้ร่วมงานกับบริษัทนี้มาก
เพราะสวัสดิการดี ความมั่นคงสูง และเพื่อนร่วมงานค่อนข้างมีคุณภาพ
เป็นบริษัทในธุรกิจยานยนต์ ในจังหวัดชลบุรี
จะเห็นได้ว่างานนั้นหายากมาก กว่าจะได้งานที่ดีผมไปสัมภาษณ์ถึง 5 ครั้ง
และอยากจะบอกน้องๆว่า เวลาไปสัมภาษณ์งาน ควรเตรียมตัวดังนี้
1.เตรียมพร้อมด้านความรู้ทางวิชาการให้มากที่สุด เพราะเราเป็นเด็กใหม่
ไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน ก็ต้องมีความรู้ทางวิชาการเป็นหลัก
ซึ่งเกิดจากการตั้งใจเรียน และควรทำกิจกรรมควบคู่ไปด้วย
2.ควรไปถึงก่อนเวลานัดสัมภาษณ์งานอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อเราจะได้
เตรียมตัวให้พร้อม ควรเตรียมเอกสารต่างๆมาให้เรียบร้อย (ผมเคยนั่งรถ
ไปหาสถานที่สัมภาษณ์งานก่อน 1 วัน เพื่อความชัวร์)
3.ทัศนคติที่มีต่อตำแหน่งหน้าที่เป็นเรื่องสำคัญ เราควรศึกษามาก่อนว่า
ตำแหน่งที่เราสมัครต้องการคนแบบไหน ต้องการคนมีคุณสมบัติอย่างไร
ซึ่งหากไม่ตรงกับตัวตนของเราก็ควรปฏิเสธการนัดสัมภาษณ์งานแต่แรก
4.การแต่งกายในการไปสัมภาษณ์งาน ควรแต่งแบบสุภาพ น่าเชื่อถือ
เรามาสมัครงานไปใช่มาเดินห้าง เวลาสัมภาษณ์งานไม่ควรหยิบมือถือ
ขึ้นมาเล่น ไม่ว่าคนจะมาอัพสเตตัส (สงสัยอัพว่า "เจอ HR หล่อ")
หรือเอาขึ้นมาดูเวลา จะโทรหาป้า หรืออะไรก็แล้วแต่ คุณไม่ควรทำ
ตอนผมสัมภาษณ์งาน ผมปิดเครื่อง
5.กรณีจะยกเลิกการสัมภาษณ์งานควรแจ้งให้ HR ทราบ ไม่ใช่หายไปดื้อ
โทรไปก็ไม่รับสาย ใจเขาใจเรานะครับ