ถ้าเราไปเอาเด็กป่าคนหนึ่งมาเลี้ยง เราจะมีเเผนการดูเเลเขาให้ดีได้อย่างไรค่ะ

A Sweet Illustrated Celebration of Our Wild Inner Child
ตัวอย่างการเฉลิมฉลองที่น่ารักของเด็กที่มีหัวใจรักป่า

           
           A tender and mischievous invitation to pause and ask, as Mary Oliver did: “What is it you plan to do with your one wild and precious life?”
       การเชิญชวนที่อ่อนโยนและเป็นอันตราย หยุดและถามว่า ตามที่ เมรี่ โอลิเวอร์ ทำนั้น อะไรที่คุณวางเเผนจะทำเพื่อคนป่าของคุณคนหนึ่ง และชีวิตที่มีคุณค่าคุณ


       
            “All good things are wild and free,” Thoreau wrote in his terrific treatise on walking. More than 150 years later, Hawaiian-born, British-based illustrator Emily Hughes makes an imaginative 21st-century case for this in Wild (public library | IndieBound) — an irreverent, charming, and oh-so-delightfully illustrated story, partway between Kipling’s The Jungle Book and Sendak’s Where the Wild Things Are.
       
            สิ่งที่ดีทั้งหมดคือการมีป่าและความมีอิสระ Thoreau เขียนบทความมากมายในการดำเนินชีวิต มากกว่า 150 ปีต่อมา Emily Hughes เกิดที่ฮาวาย เป็นนักวาดภาพการ์ตูนชาวอังกฤษ หล่อนจินตนาการ ถึงศตวรรษ 21 ที่มีป่า ที่ไม่น่าเลื่อมใส ดึงดูดใจ และเป็นเรื่องราวมีภาพประกอบที่ประทับใจมาก เนื้อเรื่องถ่ายทอด เหมือนครึ่งหนึ่งเป็น หนังสือของ Kipling ชื่อเรื่อง The Jungle Book และ อีกครึ่งหนึ่ง เป็นของ Sendak เรื่อง Where the Wild Things Are.

           The story opens with a joyful and carefree little girl native to the woods, raised by the creatures of the whole forest. She is boundlessly, ebulliently wild, and wholly unashamed of her wildness.
          เรื่องราวเปิดเผยความรื่นเริง และ ไม่มีความกังวลใจของเด็กพื้นเมืองหญิงตัวเล็กๆในป่า ที่ถูกเลี้ยงโดยสัตว์ที่อยู่ในป่าทั้งหมด หล่อนอยู่สุดลูกหูลูกตาจนทำให้ป่าเดือดพล่าน และเป็นคนที่ไม่มีความยางอายในความมุ่งมั่นของหล่อนเอง






Bird taught her to speak.
นกสอนเธอให้พูด
Bear taught her how to eat.
หมีสอนเธอให้กินอย่างไร
Fox taught her how to play.
สุนัขจิ้งจอกสอนเธอให้เล่นอย่างไร
And she understood, and was happy.
และเธอก็เข้าใจ และมีความสุข





              One day, two creatures who look an awful lot like her, only bigger, appear out of nowhere, put her in the belly of their metal beast, and hurl her into a wholly different new life — a civilized one.
             วันหนึ่ง มี 2 บุคคล ผู้ซึ่งดูน่ากลัวมาก ดูเหมือนหล่อน เพียงแค่ใหญ่กว่าเท่านั้น ไม่เคยเห็นเขาอยู่ที่ไหนเลย พวกเขาวางหล่อนในช่องโลหะที่นูนออก และเหวี่ยงหล่อน ไปสู่ชีวิตใหม่ที่ต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เป็นที่ศิวิไลซ์ที่หนึ่ง


           
             Off in the big city, a somewhat well-meaning but rather dictatorial elderly couple sets out to de-wild her. “FAMED PSYCHIATRIST TAKES IN FERAL CHILD,” a newspaper headline proclaims.
             ห่างออกไปในเมืองใหญ่ มี 2 สามีภรรยาผู้สูงวัยซึ่งบางทีเขามีเจตนาดี แต่ชอบใช้อำนาจมากกว่าเท่านั้น เขากำหนดให้ลดความเป็นชาวป่าของหล่อน. “จิตแพทย์ผู้มีชื่อเสียงรับเอาเด็กไม่เชื่องมาเลี้ยง” พาดหัวประกาศหนังสือพิมพ์


The little girl is frightened, but mostly perplexed.
เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ถูกทำให้หวาดกลัว แต่ส่วนใหญ่ถูกทำให้สงสัย






They spoke wrong.
พวกเขาพูดผิด
They ate wrong.
พวกเขากินผิด
They played wrong.
พวกเขาเล่นผิด
And she did not understand, and she was not happy.
และหล่อนไม่เข้าใจ และไม่มีความสุข




One day, she has had enough.
วันหนึ่ง เธอเคยมีเพียงพอแล้ว





Because you cannot tame something so happily wild…
เพราะว่าคุณไม่สามารถทำบางส่งให้เชื่องได้ ดังนั้น ป่าแห่งความสุข.......


            Emanating from the playful and poetic story is a clarion call to shake off the external should’s that shackle us and stop keeping ourselves small by trying to please others, to celebrate what John Steinbeck called “the freedom of the mind to take any direction it wishes, undirected”.
            การปรากฏเรื่องราวสนุกสนานและในบทกวี ที่มีเสียงดัง เรียกว่าการสลัดห่วงที่ผูกมัดเราไว้ออก และหยุดที่จะทำตัวพวกเราให้เล็ก โดยการพยายามทำให้ผู้อื่นพอใจ เพื่อฉลอง สิ่งที่ John Steinbeck เรียกว่า อิสระของจิตใจที่จะเลือกสักทิศทาง หรือไม่มีทิศทางที่มันปรารถนา

             It is an invitation, at once tender and mischievous, to pause and ask, as Mary Oliver memorably did: “What is it you plan to do with your one wild and precious life?”
            มันเป็นการเชิญครั้งหนึ่งที่อ่อนโยนและเป็นอันตราย หยุดและถามว่า ตามที่  Mary Oliver ทำอย่างน่าจดจำ อะไรที่คุณวางแผนที่จะทำเพื่อ คนป่าของคุณคนหนึ่ง และชีวิตที่มีคุณค่าคุณ




            Wild is one of the loveliest and most endearing picture-books I’ve seen this side of the century and comes from British indie publisher Flying Eye Books, unending source of treasures like Mr. Tweed’s Good Deeds, Monsters & Legends, Shackleton’s Journey,Professor Astro Cat’s Frontiers of Space, and Hug Me.
            ป่าเป็นสิ่งหนึ่งที่สวยงามที่สุด และเป็นหนังสือรูปภาพที่น่ารักที่สุด ที่ฉัยเคยเห็นในศตวรรษนี้ และมาจาก บริษัทพิมพ์เล็กๆของอังกฤษ ชื่อ Flying Eye Books เป็นแหล่งขุมทรัพย์ไม่รู้จบ เหมือนกับ Mr. Tweed’s Good Deeds, Monsters & Legends, Shackleton’s Journey,Professor Astro Cat’s Frontiers of Space, และ Hug Me.

เเปลโดย Gulin Lunla
ที่มา https://www.brainpickings.org/2014/11/17/emily-hughes-wild/

เเปลผิดพลาดตรงไหนช่วยเเนะนำด้วยน่ะค่ะ^^ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
หนังสือเรื่องนี้เป็นเรื่องอ่านเล่นก่อนวัยเรียนพิมพ์เผยเเพร่ที่ประเทศอังกฤษ

จขกท คิดว่าน่าสนใจดีค่ะ ถ้าเราเจอเด็กป่าคนหนึ่งมีชีวิตที่มีความสุขดีอยู่เเล้ว เราจะเอาเค้ามาเลี้ยงในเมืองที่สะดวกสบาย เเละน่าอยู่เหมือนเรา หรือเราจะปล่อยให้เค้าใช้ชีวิต ในเเบบที่เค้ารักเเละมีความสุขดีค่ะ เเล้วถ้าเอาเค้ามาเลี้ยงเราจะเลี้ยงดูเค้าเเบบไหนดีค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่