เปรียบเทียบหลักฐานการเอาผิดในเรื่องจำนำข้าว โรงพักที่มีแต่เสาโด่เด่ และการระบายข้าวที่ ป.ป.ช. บอกว่าไม่ผิด

กระทู้คำถาม
คงไม่ต้องสาธยายนะครับ  ว่า ป.ป.ช. หาเรื่องเอาผิดนายกฯยิ่งลักษณ์อย่างไรในเรื่องจำนำข้าว

แต่ขอพูดถึงประเด็นล่าสุด  ที่มีข่าวว่าอัยการสูงสุดได้เพิ่มหลักฐานนอกสำนวนฟ้อง 60,000 กว่าหน้า และพยานอีก 23 ปาก
หลังจากสั่งฟ้องไปแล้วเพื่อเอาผิดนายกฯยิ่งลักษณ์ให้ได้

ข่าวว่า  หนึ่งในหลักฐานนั้น  คือคลิป ๆ นี้   https://www.youtube.com/watch?v=NEHePvfW3d4

คลิปที่มีความยาวแค่ 22 วินาที   เพื่อใช้เป็นหลักฐานเอาผิดว่านายกฯยิ่งลักษณ์รับรู้ รู้เห็น มีส่วนร่วมในการทุจริต

การที่นายกฯยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ไม่กี่คำว่า  เห็น MOU  การซื้อขายข้าวนี่แหละ
ที่อัยการสูงสุดจะใช้เป็นหลักฐานมัดว่า  รู้เรื่องการทุจริตจีทูจีของนายบุญทรง  เตริยาภิรมย์  รมว.พาณิชนย์ ในขณะนั้น
(แต่ยังไม่รู้ว่านายบุญทรงทุจริตจริงหรือไม่)


เทียบกับเรื่องที่มีหลักฐานชัด ๆ   ในเรื่องโรงพัก   แต่ ป.ป.ช. กลับทำเป็นไม่เห็น

การรวบสัญญาการสร้างโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศเป็นสัญญาเดียว ผู้รับเหมาเจ้าเดียว   งบประมาณเกือบเจ็ดพันล้าน
(ความจริงมีเรื่องสร้างแฟลตตำรวจด้วยครับ  งบประมาณเกือบสี่พันล้าน)  
ผู้รับเหมาเจ้าเดียวนั้น  ประมูลชนะด้วยวงเงิน 5,840 ล้านบาท

สัญญาระบุว่า  
กำหนดให้มีการจ่ายเงินล่วงหน้าให้บริษัทผู้รับเหมาร้อยละ 15 ของราคาค่าจ้าง  เป็นเงินจำนวน 877,200,000 บาท
และมีการเบิกเงินค่างวดไปแล้วทั้งสิ้น 656,251,000 บาท
รวมเป็นเงินที่มีการเบิกจ่ายไปแล้วทั้งสิ้น 1,533,451,000 บาท

ผลก็คือ  ผู้รับเหมาสร้างโรงพักใหม่ไป 280 หลัง  แต่ไม่เสร็จสักหลัง  และยังไม่ได้สร้างอีก 116 หลัง

ผู้รับเหมาได้เงินไปพันห้าร้อยล้าน  แล้วพังโรงพัก  ก่ออิฐเทปูนนิดหน่อย  ได้แค่เสาโด่เด่  ก็ทิ้งงาน
ตำรวจก็ไปหาโรงรถ  วัด  โรงเรียน  สร้างเพิงหมาแหงนเป็นที่ทำงานแทนไป

กินกันง่าย ๆ ยังงี้แหละ
ดีที่เป็นข่าวก่อน  มีเรื่องก่อน  มีการเปลี่ยนรัฐบาลก่อน   ไม่งั้นอาจมีการเบิกจ่ายค่างวดอีกมโหฬาร  
แล้วได้โครงหลังคาเป็นของแถมนิดหน่อย

ผ่านมาถึงวันนี้  ยังสอบไม่ถึงไหนสัก  
ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหาเทพเทือกเพียงคนเดียวตั้งแต่ต้นปี  จนจะสิ้นปีแล้ว   ไม่ถึงไหนสักที
แถมแจ้งในเรื่องทำผิดมติ ครม.เท่านั้น  ไม่ได้แจ้งข้อหาทุจริตอื่นใด
(ครม.สมชาย  มีมติไว้ให้แยกสร้างโรงพักเป็นรายภาค  แต่สุเทพมารวบเป็นสัญญาเดียว)


ประเด็นคือ   แล้วอภิสิทธิ์หายไปไหน   ทำไมไม่โดนด้วย    ต่างกับยิ่งลักษณ์ในเรื่องจำนำข้าวอย่างไร ?

การสร้างโรงพัก   มีผู้รับเหมาแปดรายทำหนังสือร้องเรียนต่อนายอภิสิทธิ์ในฐานะนายกรัฐมนตรี
ว่าการรวบสัญญาเป็นสัญญาเดียว ผู้รับเหมาเจ้าเดียว  จะเกิดปัญหาในการก่อสร้าง  และไม่เป็นธรรม  เป็นการฮั้ว

เมื่อมีข่าว  อภิสิทธฺิ์ปฏิเสธไม่เคยเห็นหนังสือร้องเรียนนี้
แต่เมื่อนายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีดีเอสไอในขณะนั้น  เปิดหลักฐานว่า  นายอภิสิทธิ์เป็นผู้ลงนามในหนังสือร้องเรียนเอง
นายอภิสิทธิ์ถึงได้ออกมายอมรับว่า ใช่

แล้วก็อ้างว่า  ได้ลงนามสั่งการให้นายสุเทพพิจารณาหนังสือร้องเรียนนั้น

นี่คือหลักฐานชัดเจนครับ   ว่ามีการร้องเรียน  แต่อภิสิทธิ์ไม่ได้กำกับดูแล  สั่งการแก้ไขปรับปรุงใด ๆ
จนเกิดปัญหาโรงพักเหลือแต่เสาโด่เด่ตามมา

เทียบสิครับ  กับหนังสือข้อเสนอแนะที่ ป.ป.ช. ทำถึงนายกฯยิ่งลักษณ์  แล้วกล่าวหาว่า เตือนแล้วไม่ฟัง

เรื่องหนึ่งทำไมเป็นเรื่องเตือนแล้วไม่ฟัง  ปล่อยปละละเลย  ฟ้องต่อศาล  และจะเล่นทางแพ่งอีกนับแสนล้าน

แต่อีกเรื่องหนึ่ง  ทั้งที่ปรากฎหลักฐานหนังสือร้องเรียนชัดเจน   แต่บอกว่าไม่เกี่ยว ไม่ข้อง  ไม่เอาผิด



หรืออย่างเรื่องระบายข้าวในรัฐบาลอภิสิทธฺิ์

เคยได้ยินชื่อ บริษัทหนองลังกาฟาร์ม ไหมครับ ?

เป็นบริษัทเลี้ยงหมูครับ    แต่มาเป็นบริษัทที่ซื้อข้าวจากรัฐบาลอภิสิทธิ์  (ก่อนหน้านี้ก็ซื้อมันเส้นจากรัฐบาลอภิสิทธิ์ 7.4 หมื่นตัน)
เป็นเจ้าเดียว (เหมือนสร้างโรงพัก) ที่ยื่นข้อเสนอซื้อข้าวจากสต๊อกรัฐบาลอภิสิทธฺิ์

ซื้อข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ นาปี 2544/45
ซื้อข้าวหอมมะลิ 100 เปอร์เซ็นต์ชั้น 2 นาปีปี 2547/48
และซื้อข้าวขาว 25 เปอร์เซ็นต์ นาปรัง ปี 2548
รวมทั้งสิ้น 8,953 ตัน
โดยเสนอขอซื้อข้าวสารทุกชนิด ในราคา 5,400 บาทต่อตัน ในวันที่ 5 สิงหาคม 2553

สังเกตนะครับ  ใช้วิธีทำสัญญาซื้อแบบรวมข้าวสารทุกชนิด !!!

ราคาข้าวในตลาดขณะนั้น  หากขายตามปกติ   ควรจะได้ราคาไม่ต่ำกว่าร้อยล้านบาท
แต่ขายให้หนองลังกาฟาร์มเพียง 47 ล้านบาท

กินกันง่าย ๆ ยังงี้แหละครับ

นางพรทิวา  นาคาสัย รมว.พาณิชย์ ในขณะนั้น ได้อนุมัติให้มีการจำหน่าย ในวันที่ 9 สิงหาคม 2553
จากนั้นนำเสนอต่อไปยังนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี และรองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.)
ให้เห็นชอบ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2553

แล้วนายอภิสิทธิ์  ในฐานะประธานกรรมการ กขช. หายไปไหน ?    ทำไมไม่มีส่วนร่วมรับผิดชอบ
(แต่กับยิ่งลักษณ์  จะเอาให้ได้   ด้วยข้ออ้างเป็นประธานกรรมการ กขช.)

ธันวาคม 2557    ป.ป.ช. นั่งแถลงเป็นฉาก ๆ ว่า  รัฐบาลอภิสิทธิ์ต้องขายในราคาต่ำเพราะอะไร
แล้วสรุปว่า  อภิสิทธิ์ไม่เกี่ยว  ไตรรงค์ไม่มีมูล  เหลือเพียงแค่นางพรทิวา  ที่จะสอบต่อไป
พร้อมอ้าง  เอกสารโดนน้ำท่วม  หายาก  ยุติแสวงหาหลักฐาน  จะสอบไปตามเท่าที่หลักฐานมี

ที่มันน่าตลกก็คือ   หนองลังกาฟาร์มนี่  มีนางบุญยิ่ง  นิติกาญจนา  เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา นี้
ได้รับการแต่งตั้งจาก “คณะรัฐมนตรี”  ที่มี  “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”  นั่งหัวโต๊ะเป็น “นายกรัฐมนตรี”
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2552   ให้เป็น “ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พรทิวา นาคาศัย)”

แต่ ป.ป.ช. ไม่ว่าอภิสิทธิ์   ไม่ว่าไตรรงค์   เหลือแค่นางพรทิวาที่ติดบ่วง
แต่ถึงวันนี้  ผ่านมา 10 เดือนเต็ม   เงียบกริบ

แล้วก็เอาเรื่องจำนวนเงินมากลบ
อ้างจำนำข้าวเสียหายหลายแสนล้าน   มีการโกงหลายหมื่นล้าน   ขนเงินออกนอกประเทศ 7 แสนล้าน   ข้าวหายหลายล้านตัน
แล้วทำเป็นไม่เห็นเรื่องการทุจริตที่นักการเมืองหาเงินหลักสิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน  เข้ากระเป๋าหวาน ๆ  ง่าย ๆ  
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้




ก็เห็น ๆ กันอยู่แบบนี้แหละครับ    ทุกเรื่อง  ทุกกรณี

ที่ผิดเห็น ๆ   บอกไม่ผิด  ไม่เกี่ยว  ไม่ข้อง
แต่กับอีกฝ่าย   ต้องผิดให้ได้

ยังเล่นอาญาไม่ได้   ก็เล่นถอดถอนก่อน   เล่นวินิจฉัยให้พ้นตำแหน่งก่อน
แล้วโมเมเล่นอาญา   ฟ้องไปทั้งที่หลักฐานไม่สมบูรณ์นั่นแหละ   แล้วค่อยหาพยายหลักฐานใส่ทีหลัง
อาญาจะช้า  ไม่ทันใจ   ก็ใช้วิธีสั่งให้ชดใช้ทางแพ่งก่อน  เพื่อจะได้โยงไปหาอาญาอีกชั้น

หน้าไหนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ   ก็ไม่ใช่คนล่ะครับ



ขอบ่นอีกสักรอบเหอะ   เพราะเบื่อความยุติธรรมอำพราง
ถีบขาคู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่