เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (10 ตุลาคม) ผมได้มีโอกาสไปร่วมรีวิวร้านกาแฟและเค้ก จากกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยทางเว็ปพันทิป หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ชื่นชอบเค้กครับ
ร้านชื่อ White Coffee & Bakery อยู่ในซอยงามวงศ์วาน 48 (สามารถเข้าทางซอยวิภาวดี 44 ได้)
เจ้าของร้านคือคุณกรุ๊ป จากการได้พูดคุยกัน ทำให้ได้รู้ว่า คุณกรุ๊ปได้ไปเรียนเกี่ยวกับเรื่องเบเกอรี่จากสถาบัน INBP ที่ฝรั่งเศษเป็นเวลา 2 ปี (ชื่อเต็มของสถาบันจากการที่ผมพิมพ์คีย์เวิร์ดหาคำว่า "inbp" คือ Institut National de la Boulangerie Patisserie และเว็ปไซด์เผื่อใครสนใจไปเรียน www.inbp.com) ฉะนั้น เค้กของร้านนี้จะออกแนวฝรั่งเศษและเป็นเค้กแบบชิ้นเดี่ยวๆ
ข้ามตรงนี้ไปได้เลยนะครับถ้าไม่อยากรู้ประวัติร้านคร่าวๆ
(คุณกรุ๊ปเคยเปิดร้านอยู่ใกล้เอแบคบางนาราวๆ 5-6 ปี และช่วงนั้นมีความรู้สึกเบื่อชีวิตในกรุงเทพฯ ประกอบกับมีเพื่อนอยู่จังหวัดลำปาง จึงตัดสินใจย้ายร้าน (ซึ่งขายดีมาก) ไปเปิดที่ลำปางและเปิดมาแล้ว 2 ปี แต่เนื่องจากลูกค้าจำนวนมากเป็นคนที่มาจากกรุงเทพฯ ประกอบกับเค้กของทางร้านไม่สามารถเก็บได้นาน เนื่องจากเค้กส่วนใหญ่ต้องเก็บในตู้เย็น ทำให้ลูกค้า (ที่เป็นนักท่องเที่ยว) ไม่สามารถซื้อเค้กกลับมากินต่อหรือซื้อไปฝากได้ คุณกรุ๊ปจึงตัดสินใจกลับมาเปิดสาขา 2 ณ ที่ตั้งปัจจุบันนี้เมื่อราวๆ 6 เดือนที่แล้ว)
แผนที่ร้าน (ที่ตั้งนี้ ใช้ถึงสิ้นเดือนตุลาคม เพราะร้านจะทำการย้ายไปอยู่โครงการ Home Village ซอยงามวงศ์วาน 52 ซึ่งน่าจะสะดวกมากกขึ้นสำหรับลูกค้า)
รูปร้านด้านหน้า
รูปภายในร้าน จะเห็นว่าเป็นร้านเล็กๆ มีที่นั่งทั้งข้างนอกและข้างใน รองรับลูกค้าได้ประมาณ 12 ที่สำหรับด้านนอก และ 12 ที่สำหรับด้านใน
ตู้เค้ก
รายการเค้กของที่ร้านจะมีร้อยกว่ารายการ และจะมีการทำออกมาจำหน่ายในวันธรรมดา 10-12 รายการ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดจะมีราวๆ 15 รายการขึ้นไป หมุนเวียนสลับกันไป
ราคาเท่าที่ผมเห็นจะมีอยู่ 2 ราคาคือ 95 บาทและ 105 บาท ส่วนมาการอง 30 บาท
รายการเครื่องดื่ม
อันนี้คืออันที่ผมสั่งมาลอง Caramel Marocchino
รสชาติใช้ได้ มีความเข้มของโกโก้และมีกลิ่นอ่อนๆของคาราเมล ไม่หวานมาก
ส่วนหนึ่งของเค้กที่ได้ชิมในวันนั้น
เค้กชิ้นแรกที่ชิม มิกซ์เบอร์รี่มูส
รสชาติดี ด้านในมีไส้ แต่สำหรับผมแล้ว มันหวานไปหน่อย
ตัวต่อมา ไวท์ช็อคโกแลตลาวา
ปกติเรามักจะเห็นแต่ช็อคโกแลตลาวา แต่ของร้านนี้ใช้ไวท์ช็อกโกแลตมาทำ ได้รสชาติที่แตกต่างจากช็อคโกแลตลาวาที่เคยกินทั่วๆไป
ชิ้นนี้เป็นชิ้นที่ผมชอบที่สุด เพราะรสชาติมันนุ่ม ไม่หวานมาก เป็นรสชาติที่กินได้เรื่อยๆ
ชิ้นต่อมา บราวนี่ชีสเค้ก
ตัวเนื้อเค้กเป็นเค้กเนื้อแน่น รสเข้มของช็อคโกแลต
เป็นชิ้นที่ผมรู้สึกเฉยๆ แต่ถ้าคนชอบช็อคโกแลตมากๆ น่าจะชอบ เพราะรสค่อนข้างเข้ม
ซูเฟ่สตรอเบอร์รี่ชีส
เป็นอีกชิ้นนึงที่รสชาติดี รสของชีสเค้กไม่หนักจนเกินไป
ชาไทยมูส
มันก็คือเค้กชาไทยที่เห็นได้ตามร้านเค้กหลายๆร้าน แต่ทำออกมาในรูปลักษณ์ที่ต่างออกไป และยังมีไส้อยุ่ด้านในด้วย
รสชาติดี ไม่หวานมาก กลิ่นแบบชาไทยทั่วๆไป เป็นอีกชิ้นที่ลองได้
เค้กมะพร้าว
เค้กวนิลาที่สอดไส้ด้วยครีมคัสตาร์ดมะพร้าวระหว่างชั้น และปาดหน้าด้วยวิปครีมสด
รสชาติไม่หวานมาก เป็นอีกหนึ่งชิ้นที่ผมชอบ เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างขนมฝรั่งกับผลไม้ที่ลงตัวดี
เค้กช็อคโกแลตลาวา
สำหรับชิ้นนี้ ผมเฉยๆ เพราะมันก็คือเค้กช็อคโกแลตลาวาทั่วๆไป แต่กรรมวิธีการนำเสนออาจจะแตกต่างจากร้านอื่น
เค้กนางฟ้า
ชิ้นนี้เป็นอีกชิ้นที่แนะนำให้ลอง จากการสอบถามคุณกรุ๊ป เค้กชิ้นนี้มีขั้นตอนการทำที่มากกว่าชิ้นอื่นๆ
ในส่วนของตัวมาการองอันเล็กๆที่ประดับบนเค้กชิ้นนี้ รสชาติจะไม่เหมือนมาการองชิ้นปกติที่ขายอยู่ในตู้เค้ก เพราะวัตถุดิบที่ใช้แตกต่างกัน
ทางร้านได้นำมาให้ลองชิมเปรียบเทียบดู มาการองอันเล็ก เมื่อนำเข้าปาก จะได้กลิ่นหอมอบอวล
สำหรับผมแล้ว ชิ้นนี้เป็นอีกชิ้นที่ทำออกมาได้ดีและแนะนำให้มาลอง
อันนี้คือมาการองอันเล็กๆที่ทางร้านนำมาให้ลองชิม ไม่มีขายแบบแยกชิ้นเดี่ยวๆนะครับ
ส่วนอันนี้มาการองชิ้นปกติ ราคาที่ผมเห็น ชิ้นละ 30 บาท ซึ่งเทียบกับร้านอื่นๆแล้ว ราคามันถูกเกินไปครับกับรสชาติที่ได้สัมผัส
เทดดี้แบร์ช็อคโกแลต
ชิ้นนี้ผมชิมแค่คำเดียว มันคือมูสช็อคโกแลตทั้งชิ้น สำหรับผม เฉยๆครับ
สุดท้าย รูปคุณกรุ๊ป เจ้าของร้านครับ
สรุป
- เค้กของร้านนี้ส่วนใหญ่จะไม่หวานมาก ทำให้กินได้เรื่อยๆ
- ราคากับคุณภาพของเค้ก ส่วนตัวแล้ว ผมให้ผ่าน เพราะจากการที่เคยกินเค้กมาหลายที่ ผมว่าร้านนี้คุ้มที่จะจ่าย
- เครื่องดื่ม เนื่องจากผมได้ชิมแค่ชนิดเดียว จึงบอกไม่ได้ว่าโดยรวมแล้วเป็นยังไง แต่ในเรื่องราคา ผมว่าแพงไปนิดนึง (ความเห็นส่วนตัว)
- ร้านตั้งอยู่ในทำเลที่หาค่อนข้างยาก (วันที่ไปรีวิว) แต่หลังจากเดือนพฤศจิกายนนี้ จะย้ายไปที่ใหม่ซึ่งน่าจะทำให้ไปได้ง่ายขึ้น (แต่ผมคงไม่ค่อยได้ไปเนื่องจากไกลจากบ้านผมมาก ถ้าไม่มีธุระแถวนั้นจริงๆคงไม่ได้ไปอุดหนุน)
- ขนาดของร้าน (ทั้งร้านเดิมและที่ใหม่) รองรับลูกค้าไม่ได้เยอะมาก ราวๆ 25-30 คน ซึ่งวันที่ผมไป ช่วงระหว่างบ่าย 2 ถึง 4 โมงเย็น มีลูกค้าเข้ามาตลอด ทั้งๆที่อยู่ในทำเลที่ไม่น่าจะหาได้ง่าย ผมคิดเอาเองว่า เมื่อย้ายไปที่ใหม่แล้ว ลูกค้าน่าจะเพิ่มขึ้นเพราะร้านอยู่ในคอมมูนิตี้มอลล์ ก็หวังว่าหากลูกค้าเข้ามาเยอะๆ จะมีการจัดการได้ดี
[SR] ไปชิมเค้กร้าน White Coffee & Bakery
ร้านชื่อ White Coffee & Bakery อยู่ในซอยงามวงศ์วาน 48 (สามารถเข้าทางซอยวิภาวดี 44 ได้)
เจ้าของร้านคือคุณกรุ๊ป จากการได้พูดคุยกัน ทำให้ได้รู้ว่า คุณกรุ๊ปได้ไปเรียนเกี่ยวกับเรื่องเบเกอรี่จากสถาบัน INBP ที่ฝรั่งเศษเป็นเวลา 2 ปี (ชื่อเต็มของสถาบันจากการที่ผมพิมพ์คีย์เวิร์ดหาคำว่า "inbp" คือ Institut National de la Boulangerie Patisserie และเว็ปไซด์เผื่อใครสนใจไปเรียน www.inbp.com) ฉะนั้น เค้กของร้านนี้จะออกแนวฝรั่งเศษและเป็นเค้กแบบชิ้นเดี่ยวๆ
ข้ามตรงนี้ไปได้เลยนะครับถ้าไม่อยากรู้ประวัติร้านคร่าวๆ
(คุณกรุ๊ปเคยเปิดร้านอยู่ใกล้เอแบคบางนาราวๆ 5-6 ปี และช่วงนั้นมีความรู้สึกเบื่อชีวิตในกรุงเทพฯ ประกอบกับมีเพื่อนอยู่จังหวัดลำปาง จึงตัดสินใจย้ายร้าน (ซึ่งขายดีมาก) ไปเปิดที่ลำปางและเปิดมาแล้ว 2 ปี แต่เนื่องจากลูกค้าจำนวนมากเป็นคนที่มาจากกรุงเทพฯ ประกอบกับเค้กของทางร้านไม่สามารถเก็บได้นาน เนื่องจากเค้กส่วนใหญ่ต้องเก็บในตู้เย็น ทำให้ลูกค้า (ที่เป็นนักท่องเที่ยว) ไม่สามารถซื้อเค้กกลับมากินต่อหรือซื้อไปฝากได้ คุณกรุ๊ปจึงตัดสินใจกลับมาเปิดสาขา 2 ณ ที่ตั้งปัจจุบันนี้เมื่อราวๆ 6 เดือนที่แล้ว)
แผนที่ร้าน (ที่ตั้งนี้ ใช้ถึงสิ้นเดือนตุลาคม เพราะร้านจะทำการย้ายไปอยู่โครงการ Home Village ซอยงามวงศ์วาน 52 ซึ่งน่าจะสะดวกมากกขึ้นสำหรับลูกค้า)
รูปร้านด้านหน้า
รูปภายในร้าน จะเห็นว่าเป็นร้านเล็กๆ มีที่นั่งทั้งข้างนอกและข้างใน รองรับลูกค้าได้ประมาณ 12 ที่สำหรับด้านนอก และ 12 ที่สำหรับด้านใน
ตู้เค้ก
รายการเค้กของที่ร้านจะมีร้อยกว่ารายการ และจะมีการทำออกมาจำหน่ายในวันธรรมดา 10-12 รายการ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดจะมีราวๆ 15 รายการขึ้นไป หมุนเวียนสลับกันไป
ราคาเท่าที่ผมเห็นจะมีอยู่ 2 ราคาคือ 95 บาทและ 105 บาท ส่วนมาการอง 30 บาท
รายการเครื่องดื่ม
อันนี้คืออันที่ผมสั่งมาลอง Caramel Marocchino
รสชาติใช้ได้ มีความเข้มของโกโก้และมีกลิ่นอ่อนๆของคาราเมล ไม่หวานมาก
ส่วนหนึ่งของเค้กที่ได้ชิมในวันนั้น
เค้กชิ้นแรกที่ชิม มิกซ์เบอร์รี่มูส
รสชาติดี ด้านในมีไส้ แต่สำหรับผมแล้ว มันหวานไปหน่อย
ตัวต่อมา ไวท์ช็อคโกแลตลาวา
ปกติเรามักจะเห็นแต่ช็อคโกแลตลาวา แต่ของร้านนี้ใช้ไวท์ช็อกโกแลตมาทำ ได้รสชาติที่แตกต่างจากช็อคโกแลตลาวาที่เคยกินทั่วๆไป
ชิ้นนี้เป็นชิ้นที่ผมชอบที่สุด เพราะรสชาติมันนุ่ม ไม่หวานมาก เป็นรสชาติที่กินได้เรื่อยๆ
ชิ้นต่อมา บราวนี่ชีสเค้ก
ตัวเนื้อเค้กเป็นเค้กเนื้อแน่น รสเข้มของช็อคโกแลต
เป็นชิ้นที่ผมรู้สึกเฉยๆ แต่ถ้าคนชอบช็อคโกแลตมากๆ น่าจะชอบ เพราะรสค่อนข้างเข้ม
ซูเฟ่สตรอเบอร์รี่ชีส
เป็นอีกชิ้นนึงที่รสชาติดี รสของชีสเค้กไม่หนักจนเกินไป
ชาไทยมูส
มันก็คือเค้กชาไทยที่เห็นได้ตามร้านเค้กหลายๆร้าน แต่ทำออกมาในรูปลักษณ์ที่ต่างออกไป และยังมีไส้อยุ่ด้านในด้วย
รสชาติดี ไม่หวานมาก กลิ่นแบบชาไทยทั่วๆไป เป็นอีกชิ้นที่ลองได้
เค้กมะพร้าว
เค้กวนิลาที่สอดไส้ด้วยครีมคัสตาร์ดมะพร้าวระหว่างชั้น และปาดหน้าด้วยวิปครีมสด
รสชาติไม่หวานมาก เป็นอีกหนึ่งชิ้นที่ผมชอบ เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างขนมฝรั่งกับผลไม้ที่ลงตัวดี
เค้กช็อคโกแลตลาวา
สำหรับชิ้นนี้ ผมเฉยๆ เพราะมันก็คือเค้กช็อคโกแลตลาวาทั่วๆไป แต่กรรมวิธีการนำเสนออาจจะแตกต่างจากร้านอื่น
เค้กนางฟ้า
ชิ้นนี้เป็นอีกชิ้นที่แนะนำให้ลอง จากการสอบถามคุณกรุ๊ป เค้กชิ้นนี้มีขั้นตอนการทำที่มากกว่าชิ้นอื่นๆ
ในส่วนของตัวมาการองอันเล็กๆที่ประดับบนเค้กชิ้นนี้ รสชาติจะไม่เหมือนมาการองชิ้นปกติที่ขายอยู่ในตู้เค้ก เพราะวัตถุดิบที่ใช้แตกต่างกัน
ทางร้านได้นำมาให้ลองชิมเปรียบเทียบดู มาการองอันเล็ก เมื่อนำเข้าปาก จะได้กลิ่นหอมอบอวล
สำหรับผมแล้ว ชิ้นนี้เป็นอีกชิ้นที่ทำออกมาได้ดีและแนะนำให้มาลอง
อันนี้คือมาการองอันเล็กๆที่ทางร้านนำมาให้ลองชิม ไม่มีขายแบบแยกชิ้นเดี่ยวๆนะครับ
ส่วนอันนี้มาการองชิ้นปกติ ราคาที่ผมเห็น ชิ้นละ 30 บาท ซึ่งเทียบกับร้านอื่นๆแล้ว ราคามันถูกเกินไปครับกับรสชาติที่ได้สัมผัส
เทดดี้แบร์ช็อคโกแลต
ชิ้นนี้ผมชิมแค่คำเดียว มันคือมูสช็อคโกแลตทั้งชิ้น สำหรับผม เฉยๆครับ
สุดท้าย รูปคุณกรุ๊ป เจ้าของร้านครับ
สรุป
- เค้กของร้านนี้ส่วนใหญ่จะไม่หวานมาก ทำให้กินได้เรื่อยๆ
- ราคากับคุณภาพของเค้ก ส่วนตัวแล้ว ผมให้ผ่าน เพราะจากการที่เคยกินเค้กมาหลายที่ ผมว่าร้านนี้คุ้มที่จะจ่าย
- เครื่องดื่ม เนื่องจากผมได้ชิมแค่ชนิดเดียว จึงบอกไม่ได้ว่าโดยรวมแล้วเป็นยังไง แต่ในเรื่องราคา ผมว่าแพงไปนิดนึง (ความเห็นส่วนตัว)
- ร้านตั้งอยู่ในทำเลที่หาค่อนข้างยาก (วันที่ไปรีวิว) แต่หลังจากเดือนพฤศจิกายนนี้ จะย้ายไปที่ใหม่ซึ่งน่าจะทำให้ไปได้ง่ายขึ้น (แต่ผมคงไม่ค่อยได้ไปเนื่องจากไกลจากบ้านผมมาก ถ้าไม่มีธุระแถวนั้นจริงๆคงไม่ได้ไปอุดหนุน)
- ขนาดของร้าน (ทั้งร้านเดิมและที่ใหม่) รองรับลูกค้าไม่ได้เยอะมาก ราวๆ 25-30 คน ซึ่งวันที่ผมไป ช่วงระหว่างบ่าย 2 ถึง 4 โมงเย็น มีลูกค้าเข้ามาตลอด ทั้งๆที่อยู่ในทำเลที่ไม่น่าจะหาได้ง่าย ผมคิดเอาเองว่า เมื่อย้ายไปที่ใหม่แล้ว ลูกค้าน่าจะเพิ่มขึ้นเพราะร้านอยู่ในคอมมูนิตี้มอลล์ ก็หวังว่าหากลูกค้าเข้ามาเยอะๆ จะมีการจัดการได้ดี