สงสัยว่า ป.ป.ช. เขาไม่อาย ไม่กลัวความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไง
และไม่ใช่แค่กฎหมายอาญา 157 ที่รู้ ๆ จักกันดีเท่านั้น
ป.ป.ช. ยังจะโดนมาตรา 200 อีกด้วย
มาตรา 200 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญา กระทำการหรือไม่กระทำการ อย่างใด ๆ ในตำแหน่งอันการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใด มิให้ต้องโทษหรือให้รับโทษน้อยลงต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือน ถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
ถ้าการกระทำหรือไม่กระทำนั้นเป็นการเพื่อ จะแกล้งให้บุคคลหนึ่ง บุคคลใดต้องรับโทษ รับโทษหนักขึ้น หรือต้องถูกบังคับตามวิธีการ เพื่อความปลอดภัยผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
(มาตรา 200 นี่ ผมว่า ป.ป.ช. โดนครบครับ ทั้งช่วยให้คนมิต้องรับโทษตามวรรคหนึ่ง และแกล้งให้คนได้รับโทษตามวรรคสอง)
ตามวรรคหนึ่ง โทษหนักสุดคือเจ็ดปี ตามวรรคสอง โทษหนักสุดคือจำคุกตลอดชีวิต
แต่ ป.ป.ช. ไม่กลัว
ไม่กลัวเพราะอะไร คงไม่ต้องสาธยาย
ก็คล้าย ๆ พวกปากเก่ง ดีแต่พูดนั่นแหละครับ ที่ชอบพูดอ้างเอาดีใส่ตัวว่า ไม่หนี โดนโทษประหารก็ไม่หนี
ป.ป.ช. ให้เหตุผลว่า เอกสารหลักฐานยี่สิบกว่ารายการที่ขอไปตามหน่วยงานต่าง ๆ หายาก
เพราะหน่วยงานเหล่านั้นอ้างว่า เอกสารเกิดความเสียหายระหว่างเกิดน้ำท่วมใหญ่ในปี 54
และมีการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลผู้รับผิดชอบเอกสาร
จนถึงปลายปี 2557 ป.ป.ช. ก็สรุปว่า อภิสิทธิ์ไม่ผิด ไตรรงค์ไม่ผิด พร้อมแจกแจงแบบออกหน้ารับแทนให้อย่างเสร็จสรรพ
แจกแจงเป็นฉาก ๆ ว่าอภิสิทธิไม่ผิดอย่างไรยาวเฟื้อย แล้วตามด้วยนายไตรรงค์สั้น ๆ ว่า ไม่มีมูล
เหลือแค่กรณีนางพรทิวา นาคาสัย รมว.พาณิชย์ที่ต้องสอบต่อไป
แล้วก็บอกว่า จะยุติการแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติม จะไต่สวนต่อไปเท่าที่พยานหลักฐานมี
และถึงวันนี้ ผ่านมาอีก 10 เดือน ไม่รู้เรื่องนางพรทิวา นาคาสัย ถึงไหน มิดอิ่มสิ่ม
(เหมือนเรื่อง 99 ศพ ที่บอกว่าจะเสร็จภายใน 55 แน่นอน ปี 56 บอกใกล้เสร็จ ปี 57 บอกใกล้เสร็จ
ต้นปี 58 บอกจะเสร็จภายในสามเดือน จนถึงวันนี้ เดือนที่ 10 แล้ว เงียบกริบ)
เรื่องอ้างเอกสารหายนี่ ผมว่าเป็นเรื่องปัญญาอ่อนสุด ๆ เท่าที่จะมีได้ อ้างได้
แค่ใช้สามัญสำนึก ก็พอรู้ได้แล้วครับ ว่าไม่หายหรอก ไม่จริง ไม่น่าเชื่อ เป็นไปไม่ได้
ยิ่งโดยเฉพาะโลกในยุคไซเบอร์ แม้เอกสารที่เป็นกระดาษหาย เสียหาย แต่ในคอมพ์ ในอุปกรณ์ ไม่ยากที่จะค้นเจอ
ไม่ว่าราชการ ไม่ว่าเอกชน ล้วนมีระบบสารบรรณทั้งนั้น
หนังสือเข้า หนังสือออก เอกสารทางธุรการ ทางการเงิน ทางวัสดุครุภัณฑ์ มีการจัดระบบทั้งนั้น
ต่อให้คนเก่าไป คนใหม่มา ระบบก็อยู่
การติดต่อกันทางเอกสาร ไม่ว่าราชการ ไม่ว่าเอกชน มีสำเนาทั้งนั้น
ต่อให้หน่วยงานหนึ่ง องค์กรหนึ่ง บริษัทหนึ่ง โดนระเบิดเป็นจุล แผ่นดินไหวตึกถล่มทลาย
แต่หน่วยงานอื่น องค์กรอื่น บริษัทอื่นที่ติดต่อกันก็ย่อมจะมีเอกสารแน่นอน
ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ใช่เรื่องหาไม่ได้
และไม่ใช่เรื่องว่า ทำหนังสือขอเอกสารไปแล้ว เขาให้ไม่ได้ ก็แปลว่าจบเรื่องง่าย ๆ อย่างที่ ป.ป.ช. อ้าง
(ผมเคยดูนายวิชา มหาคุณ ออกรายการเผชิญหน้าของคุณดนัย เอกมหาสวัสดิ์ สปริงนิวส์
คุณวิชาอ้างว่า ขอเอกสาเรื่องระบายข้าวไปหน่วยงานไหนก็ไม่ได้ กลับได้แต่เรื่องโกงจำนำข้าวมาแทน !!!
เห็นไหมครับ แบบนี้แหละ หากบ้านเมืองเป็นธรรมจริง ๆ นายวิชากับพวกนี่ โดน 157 กับ 200 เรียบร้อย
ไม่ได้ลอยหน้าลอยตาอยู่ยังงี้หรอก โดนไปนานแล้ว)
ทำไม ป.ป.ช. กล้าอ้างเห่ย ๆ อย่างนี้แบบไม่เกรงกลังความผิด
ก็ลองมองย้อนอดีตดูครับ
นึกถึงเรื่องยุบพรรค ปชป. ครับ กรณีเงินทีพีไอ และเงินอุดหนุนพรรคการเมืองจาก กกต.
ที่ กกต. ถ่วงรั้ง ไม่ยอมเดินเรื่องสักที ผ่านไปไม่รู้กี่ปี
สุดท้าย ทนแรงด่าไม่ไหว ก็ส่งเรื่องยุบพรรคต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ศาลรัฐธรรมนูญก็หารูออกให้ง่าย ๆ ว่า กกต.ส่งเรื่องช้าเกินกว่า 15 วัน
วินิจฉัยยุติเรื่อง ไม่มีเหตุให้ต้องวินิจฉัยว่า ปชป. ทำผิดกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่
จบกันไปง่าย ๆ เหมือนลิเกลาโรงงั้นล่ะครับ
หรือเรื่องอภิสิทธิ์หนีทหาร ที่พอกลาโหมมีคำสั่งปลดออกจากราชการ ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ผิดวินัยร้ายแรง ในปี 2555
ส.ส.เพื่อไทยก็ทำเรื่องยื่นต่อศาลรัฐธรมนูญ ให้วินิจฉัยว่า อภิสิทธิ์ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. หรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญก็เอาเรื่องไปอมไว้ครึ่งปี แล้วจึงแถลงข่าวแบบไม่ยอมวินิจฉัยอะไร
อ้างว่าเพื่อความเป็นธรรมในการที่อภิสิทธิ์ร้องค้านต่อศาลปกครองอยู่
ทั้งที่ไม่เกี่ยวกันเลย เพราะคำสั่งกลาโหมมีผลตามกฎหมายแล้วสมบูรณ์ ศาลรัฐธรรมนูญไม่ต้องรออะไรเลย
แล้วพอนายกฯยิ่งลักษณ์ยุบสภาเมื่อปลายปี 56 ศาลรัฐธรรมนูญก็รีบแถลงข่าจำหน่ายเรื่องอภิสิทธิ์ทันที
อ้างว่า ยุบสภาแล้ว ไม่มีเหตุต้องให้วินิจฉัยคุณสมบัติ ส.ส. แล้ว
นี่จบแบบหมอลำปวดท้องขี้ คือลำไม่ถึงไหน ก็ชิงจบเอาดื้อ ๆ รีบโดดไปส้วม
และตอนนี้ กองทัพบกก็ไม่ยอมทำอะไรต่อ
เรื่องเรียกเบี้ยงหวัดเงินเดือนคืนก็เงียบ เรื่องถอดยศก็เงียบ เหมือนกลัวเด็กเส้นซะงั้น
ที่ตลกกว่านั้น พออภิสิทธฺิ์ร้องไปศาลปกครอง ศาลปกครองรับเรื่องทันที
ทั้งที่กฎหมายบอกว่าศาลปกครองไม่มีอำนาจในเรื่องเกี่ยวกับวินัยทหาร
ผ่านไปสามปี ศาลปกครองถึงออกแถลงแบบเพิ่มรู้ตัวว่า ไม่มีอำนาจพิจารณาเรื่องอภิสิทธฺิ์
จะส่งเรื่องต่อไปยังศาลยุติธรรโดยเร็ว จนถึงวันนี้ ไม่รู้ถึงไหน ยังไง
และเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย
ก็ลอง ๆ เทียบเคียงดูครับ ว่าทำไม ป.ป.ช. (และคณะอื่น ๆ ทำไมไม่กลัวโดนกฎหมายเล่นงาน)
เฮ้อออ....
ก็เป็นบุญประเทศไทยนิด ๆ ที่ ป.ป.ช. ชุดนี้จะหมดวาระไป 5 คนในไม่กี่วันนี้
(หมดวาระตั้งแต่ 21 ก.ย. ตอนนี้อยู่ระหว่างรักษาการจนกว่าจะมี ป.ป.ช. คนใหม่เข้ามาแทน)
แต่ว่าก็ว่าเหอะ คุณ
ภักดี โพธิศิริ ที่ขาดคุณสมบัติการเป็น ป.ป.ช. มาตั้งแต่แรก
(ไม่ลาออกจากบริษัทภายใน 15 วันหลังได้รับการแต่งตั้งเป็น ป.ป.ช. ตามกฎหมาย)
จนถึงวันนี้ที่รักษาการอยู่นี่ จะไม่เอาผิด ไม่เอาโทษกันจริง ๆ เหรอครับ
เป็นแบบผิดกฎหมาย ก็ปล่อยให้เป็นจนครบวาระ ใครท้วงก็ทำเฉย ทำเรื่องร้องต่อศาลก็เงียบ
แล้วก็จะหมดวาระไปอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อีกกี่ชาติครับ ถึงจะปราบโกงได้
เห็นกระทู้เรื่อง ป.ป.ช. อ้างเรื่องเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการระบายข้าวของรัฐบาลอภิสิทธิ์หายแล้ว ผมสงสัยจริง ๆ ครับ
และไม่ใช่แค่กฎหมายอาญา 157 ที่รู้ ๆ จักกันดีเท่านั้น
ป.ป.ช. ยังจะโดนมาตรา 200 อีกด้วย
มาตรา 200 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญา กระทำการหรือไม่กระทำการ อย่างใด ๆ ในตำแหน่งอันการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใด มิให้ต้องโทษหรือให้รับโทษน้อยลงต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือน ถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
ถ้าการกระทำหรือไม่กระทำนั้นเป็นการเพื่อ จะแกล้งให้บุคคลหนึ่ง บุคคลใดต้องรับโทษ รับโทษหนักขึ้น หรือต้องถูกบังคับตามวิธีการ เพื่อความปลอดภัยผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
(มาตรา 200 นี่ ผมว่า ป.ป.ช. โดนครบครับ ทั้งช่วยให้คนมิต้องรับโทษตามวรรคหนึ่ง และแกล้งให้คนได้รับโทษตามวรรคสอง)
ตามวรรคหนึ่ง โทษหนักสุดคือเจ็ดปี ตามวรรคสอง โทษหนักสุดคือจำคุกตลอดชีวิต
แต่ ป.ป.ช. ไม่กลัว
ไม่กลัวเพราะอะไร คงไม่ต้องสาธยาย
ก็คล้าย ๆ พวกปากเก่ง ดีแต่พูดนั่นแหละครับ ที่ชอบพูดอ้างเอาดีใส่ตัวว่า ไม่หนี โดนโทษประหารก็ไม่หนี
ป.ป.ช. ให้เหตุผลว่า เอกสารหลักฐานยี่สิบกว่ารายการที่ขอไปตามหน่วยงานต่าง ๆ หายาก
เพราะหน่วยงานเหล่านั้นอ้างว่า เอกสารเกิดความเสียหายระหว่างเกิดน้ำท่วมใหญ่ในปี 54
และมีการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลผู้รับผิดชอบเอกสาร
จนถึงปลายปี 2557 ป.ป.ช. ก็สรุปว่า อภิสิทธิ์ไม่ผิด ไตรรงค์ไม่ผิด พร้อมแจกแจงแบบออกหน้ารับแทนให้อย่างเสร็จสรรพ
แจกแจงเป็นฉาก ๆ ว่าอภิสิทธิไม่ผิดอย่างไรยาวเฟื้อย แล้วตามด้วยนายไตรรงค์สั้น ๆ ว่า ไม่มีมูล
เหลือแค่กรณีนางพรทิวา นาคาสัย รมว.พาณิชย์ที่ต้องสอบต่อไป
แล้วก็บอกว่า จะยุติการแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติม จะไต่สวนต่อไปเท่าที่พยานหลักฐานมี
และถึงวันนี้ ผ่านมาอีก 10 เดือน ไม่รู้เรื่องนางพรทิวา นาคาสัย ถึงไหน มิดอิ่มสิ่ม
(เหมือนเรื่อง 99 ศพ ที่บอกว่าจะเสร็จภายใน 55 แน่นอน ปี 56 บอกใกล้เสร็จ ปี 57 บอกใกล้เสร็จ
ต้นปี 58 บอกจะเสร็จภายในสามเดือน จนถึงวันนี้ เดือนที่ 10 แล้ว เงียบกริบ)
เรื่องอ้างเอกสารหายนี่ ผมว่าเป็นเรื่องปัญญาอ่อนสุด ๆ เท่าที่จะมีได้ อ้างได้
แค่ใช้สามัญสำนึก ก็พอรู้ได้แล้วครับ ว่าไม่หายหรอก ไม่จริง ไม่น่าเชื่อ เป็นไปไม่ได้
ยิ่งโดยเฉพาะโลกในยุคไซเบอร์ แม้เอกสารที่เป็นกระดาษหาย เสียหาย แต่ในคอมพ์ ในอุปกรณ์ ไม่ยากที่จะค้นเจอ
ไม่ว่าราชการ ไม่ว่าเอกชน ล้วนมีระบบสารบรรณทั้งนั้น
หนังสือเข้า หนังสือออก เอกสารทางธุรการ ทางการเงิน ทางวัสดุครุภัณฑ์ มีการจัดระบบทั้งนั้น
ต่อให้คนเก่าไป คนใหม่มา ระบบก็อยู่
การติดต่อกันทางเอกสาร ไม่ว่าราชการ ไม่ว่าเอกชน มีสำเนาทั้งนั้น
ต่อให้หน่วยงานหนึ่ง องค์กรหนึ่ง บริษัทหนึ่ง โดนระเบิดเป็นจุล แผ่นดินไหวตึกถล่มทลาย
แต่หน่วยงานอื่น องค์กรอื่น บริษัทอื่นที่ติดต่อกันก็ย่อมจะมีเอกสารแน่นอน
ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ใช่เรื่องหาไม่ได้
และไม่ใช่เรื่องว่า ทำหนังสือขอเอกสารไปแล้ว เขาให้ไม่ได้ ก็แปลว่าจบเรื่องง่าย ๆ อย่างที่ ป.ป.ช. อ้าง
(ผมเคยดูนายวิชา มหาคุณ ออกรายการเผชิญหน้าของคุณดนัย เอกมหาสวัสดิ์ สปริงนิวส์
คุณวิชาอ้างว่า ขอเอกสาเรื่องระบายข้าวไปหน่วยงานไหนก็ไม่ได้ กลับได้แต่เรื่องโกงจำนำข้าวมาแทน !!!
เห็นไหมครับ แบบนี้แหละ หากบ้านเมืองเป็นธรรมจริง ๆ นายวิชากับพวกนี่ โดน 157 กับ 200 เรียบร้อย
ไม่ได้ลอยหน้าลอยตาอยู่ยังงี้หรอก โดนไปนานแล้ว)
ทำไม ป.ป.ช. กล้าอ้างเห่ย ๆ อย่างนี้แบบไม่เกรงกลังความผิด
ก็ลองมองย้อนอดีตดูครับ
นึกถึงเรื่องยุบพรรค ปชป. ครับ กรณีเงินทีพีไอ และเงินอุดหนุนพรรคการเมืองจาก กกต.
ที่ กกต. ถ่วงรั้ง ไม่ยอมเดินเรื่องสักที ผ่านไปไม่รู้กี่ปี
สุดท้าย ทนแรงด่าไม่ไหว ก็ส่งเรื่องยุบพรรคต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ศาลรัฐธรรมนูญก็หารูออกให้ง่าย ๆ ว่า กกต.ส่งเรื่องช้าเกินกว่า 15 วัน
วินิจฉัยยุติเรื่อง ไม่มีเหตุให้ต้องวินิจฉัยว่า ปชป. ทำผิดกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่
จบกันไปง่าย ๆ เหมือนลิเกลาโรงงั้นล่ะครับ
หรือเรื่องอภิสิทธิ์หนีทหาร ที่พอกลาโหมมีคำสั่งปลดออกจากราชการ ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ผิดวินัยร้ายแรง ในปี 2555
ส.ส.เพื่อไทยก็ทำเรื่องยื่นต่อศาลรัฐธรมนูญ ให้วินิจฉัยว่า อภิสิทธิ์ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. หรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญก็เอาเรื่องไปอมไว้ครึ่งปี แล้วจึงแถลงข่าวแบบไม่ยอมวินิจฉัยอะไร
อ้างว่าเพื่อความเป็นธรรมในการที่อภิสิทธิ์ร้องค้านต่อศาลปกครองอยู่
ทั้งที่ไม่เกี่ยวกันเลย เพราะคำสั่งกลาโหมมีผลตามกฎหมายแล้วสมบูรณ์ ศาลรัฐธรรมนูญไม่ต้องรออะไรเลย
แล้วพอนายกฯยิ่งลักษณ์ยุบสภาเมื่อปลายปี 56 ศาลรัฐธรรมนูญก็รีบแถลงข่าจำหน่ายเรื่องอภิสิทธิ์ทันที
อ้างว่า ยุบสภาแล้ว ไม่มีเหตุต้องให้วินิจฉัยคุณสมบัติ ส.ส. แล้ว
นี่จบแบบหมอลำปวดท้องขี้ คือลำไม่ถึงไหน ก็ชิงจบเอาดื้อ ๆ รีบโดดไปส้วม
และตอนนี้ กองทัพบกก็ไม่ยอมทำอะไรต่อ
เรื่องเรียกเบี้ยงหวัดเงินเดือนคืนก็เงียบ เรื่องถอดยศก็เงียบ เหมือนกลัวเด็กเส้นซะงั้น
ที่ตลกกว่านั้น พออภิสิทธฺิ์ร้องไปศาลปกครอง ศาลปกครองรับเรื่องทันที
ทั้งที่กฎหมายบอกว่าศาลปกครองไม่มีอำนาจในเรื่องเกี่ยวกับวินัยทหาร
ผ่านไปสามปี ศาลปกครองถึงออกแถลงแบบเพิ่มรู้ตัวว่า ไม่มีอำนาจพิจารณาเรื่องอภิสิทธฺิ์
จะส่งเรื่องต่อไปยังศาลยุติธรรโดยเร็ว จนถึงวันนี้ ไม่รู้ถึงไหน ยังไง
และเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย
ก็ลอง ๆ เทียบเคียงดูครับ ว่าทำไม ป.ป.ช. (และคณะอื่น ๆ ทำไมไม่กลัวโดนกฎหมายเล่นงาน)
เฮ้อออ....
ก็เป็นบุญประเทศไทยนิด ๆ ที่ ป.ป.ช. ชุดนี้จะหมดวาระไป 5 คนในไม่กี่วันนี้
(หมดวาระตั้งแต่ 21 ก.ย. ตอนนี้อยู่ระหว่างรักษาการจนกว่าจะมี ป.ป.ช. คนใหม่เข้ามาแทน)
แต่ว่าก็ว่าเหอะ คุณภักดี โพธิศิริ ที่ขาดคุณสมบัติการเป็น ป.ป.ช. มาตั้งแต่แรก
(ไม่ลาออกจากบริษัทภายใน 15 วันหลังได้รับการแต่งตั้งเป็น ป.ป.ช. ตามกฎหมาย)
จนถึงวันนี้ที่รักษาการอยู่นี่ จะไม่เอาผิด ไม่เอาโทษกันจริง ๆ เหรอครับ
เป็นแบบผิดกฎหมาย ก็ปล่อยให้เป็นจนครบวาระ ใครท้วงก็ทำเฉย ทำเรื่องร้องต่อศาลก็เงียบ
แล้วก็จะหมดวาระไปอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อีกกี่ชาติครับ ถึงจะปราบโกงได้