[CR] หลงรักฮ่องกง

การมาฮ่องกงครั้งนี้เป็นการมาเที่ยวครั้งที่ 2 ครั้งแรกตอนนั้นมากับเพื่อนสนิทครั้งนี้มากับภรรยา อันนี้ Feel ต่างกันมาก 555 จริงๆแล้ว รอบนี้ อยากจะแบ่งปันสิ่งที่รู้สึกและเรียนรู้มาเป็นข้อๆดังนี้

1.ไม่ค่อยพอใจสายการบินที่ไปในเรื่องความตรงต่อเวลา เพราะว่า Delayed ทั้ง ขาไปฮ่องกง (อันนี้ให้อภัย เพราะว่าตรวจพบว่าเครื่องยนต์มีปัญหา) ขากลับก็ยัง Delayed อีก แต่ ต้องชื่นชมเขา ว่า เขามีมาตรฐานทางด้านความปลอดภัยดี เพราะว่า ขาไปนั้น กัปตันจะขับขึ้นอยู่แล้ว แต่ตรวจพบปัญหาก็ต้องตัดสินใจซ่อม (ผมกับภรรยาขึ้นเครื่องบินไปแล้ว ต้องลงมาอีกรอบ แล้วนั่งรอที่ Gate เพื่อให้เขาแก้ไขเครื่องยนต์ด้านขวาที่มีปัญหา) นี่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพ และ ก็ยังแจก Soft drinks ให้กับผู้โดยสารที่ต้องรอเพื่อให้การแก้ไขปัญหาบางอย่างเรียบร้อย ส่วนขากลับไม่รู้ว่าทำไม Delayed แต่ก็แจกขนมเป็นการชดเชย แต่ ในบางที เราก็ไม่ได้อยากได้ขนม ความจริงแล้วจากการประเมินส่วนตัว ถ้าตัดประเด็นเรื่อง Delayed ออกไป สายการบินที่ผมเลือกครั้งนี้ “ดีเลยนะ” เพราะไม่ว่าจะเป็น อาหารบนเครื่องรสชาติดีกว่าที่คิดไว้มาก (แม้จะไม่อร่อยมาก) การบริการ อุปกรณ์ให้ความบันเทิง มีทั้งหนังให้ดู เพลงให้ฟัง เกมให้เล่น ขนาดบิน Economy นะครับ แต่ก็ต้องชมเชย เรื่อง มาตรฐานความปลอดภัย และ การดูแล ชดเชยในกรณีที่เครื่อง Delayed

2.โรงแรมที่เลือกพักที่ฮ่องกง อยู่ใกล้ กับสถานีรถไฟ Jordan ไม่ไกลมาก ทำเลดีมากเหมาะกับการ Shopping แม้จะเก่าสักนิด แต่ อุปกรณ์พื้นฐานก็ครบอยู่ในสภาพใช้ได้และสะอาดตามมาตรฐาน ข้อเสียเรื่องหนึ่งก็ คือ ปริมาณคนในการใช้ลิฟต์ ช่วงที่คนเยอะๆ อาจต้องรอนาน แล้วก็ช่วงเวลาที่คน Check In / Check Out เยอะๆก็ต้องรอนานเช่นกัน แต่อย่างอื่นผ่านหมด แนะนำเลยนะ ถ้าอยากมา Shopping ก็มาโรงแรมนี้แหละ BP international

3.จริงๆ ผมไม่เคยคิดนะครับว่า การมาฮ่องกงครั้งที่ 2 จะทำให้ผมอยากมาฮ่องกงอีกถัดจากครั้งนี้ เพราะว่า ครั้งแรกตอนนั้นที่มากับเพื่อนสนิท ก็คิดว่า ไม่ค่อยมีอะไร เท่าไร(หรือเราเที่ยวไม่เป็นเอง555) โดยส่วนตัวผมรู้สึกว่า การมาเที่ยวฮ่องกงเป็นครั้งที่ 2 นั้นทำให้ผมได้รู้ว่า

3.1 หาที่นั่งยากมาก คน นิยมเดิน และใช้ระบบขนส่งมวลชน ชอบจริงๆ ไปที่ไหนก็ได้ของฮ่องกง ถ้ากล้าเดิน และ นั่งรถเมล์เป็น เพราะว่า ระบบขนส่งมวลชนเขาดีจริงๆ สำหรับคนทั่วๆไปหรือนักท่องเที่ยวขาจร เดินทางไปกินไปด้วยซ้ำ จะเข้าร้านกาแฟได้นั่งที่หนึ่งก็ต้องไปหาใน Mall Plaza ละ ไปฮ่องกง ซ้อมเดินเยอะๆ เข้าขั้น Marathon555

3.2 สถานที่และสิ่งที่ประทับใจ ผมมองว่า ฮ่องกง นั้น คนหลากหลายมาก และ คนไทยก็ไปเที่ยวมากด้วย ดังนั้น ผมอาจมองไม่เหมือนคนอื่นผมชอบวัดที่นี่นะ สวย และ สถาปัตยกรรมมันผสมผสาน เต๋า ขงจื๊อ เซ็น อะไรประมาณนั้น  ไม่ว่าจะเป็นวัดกังหัน (Che Kung Temple) (คนไทยไปมาก จนเจ้าหน้าที่ที่ขายธูปเทียนนั้นสามารถพูดไทยคำที่ใช้บ่อย เช่น ไหว้ตรงนั้นกี่ดอก ตรงนี้กี่ดอก เป็นต้น ได้แล้ว โห มันน่าแปลกมากนะ) วัดที่สอง วัดหว่องไทซิน หรือ วัดหวังต้าเซียน เดินขึ้นมาจากสถานี Wong Tai Sin ขึ้นมาก็เจอเลยนะ เดี๋ยวนี้ มี Temple Mall ใกล้ๆกำลังสร้าง เสร็จบางส่วนและเปิดขายของแล้วบางส่วน วัดสวย สวนสวย ร่มรื่น และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดท้ายที่ประทับใจ วัดจี้หลิน (เป็นสำนักชี) สวยเหมือนกัน แต่ สีของตัววัดมีความเป็น เซ็น เต๋า มากเพราะตกแต่งสีไม่ฉูดฉาด แต่หากเป็นสีดำ สีน้ำตาล เสียเป็นส่วนใหญ่ (ดีไซน์เรียบง่ายไม่ซับซ้อนแต่เล่นระดับ) ผมไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 3 สถานที่นี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะมาก และ เราไม่แพ้ชาติใดในโลก เจอคนไทย...ต้องเจอ อย่างน้อย บางเวลา บางสถานที่ ไม่ว่าจะเป็น MTR ที่สถานีบนดิน ใต้ดิน ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้าแบรนด์ฮ่องกง เช่น Bossini, Giodano, G2000)

3.3 โดยส่วนตัว T-Shirt Bossini ใส่สบายมากๆ และซื้อที่นั่นก็ราคาไม่แพงขนาดผมไปนอกช่วงลดทั้งเกาะ ปกติ ลดทั้งเกาะ จะเป็นช่วง กรกฎาคม ถึง กันยายน ของทุกปี ผมไปช่วงเดือนตุลาคม เขามี Promotion ลดแลกแจกแถมตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น มี passport ลด ontop 15% 3 ชิ้นในราคาเท่านี้ 2 ชิ้นในราคาเท่านี้ และ ที่สถานี Mong Kok นั้นมี Shop ที่เป็น Outlet ของ Bossini ด้วย ขึ้นจากสถานีมาก็เดินไปเรื่อยๆประมาณ 200 เมตร ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ สำหรับ Giodano และ G2000 ใส่แล้วดูดีครับก็มีร้านให้เลือกมากมาย ผมมองในมุมการตลาด ที่ ฮ่องกงนั้น  Brand Giordano นั้น คล้ายร้านที่มีสาขาอย่าง 7-11 เลยครับ มี Gior ร้านเล็ก ร้านน้อย ร้านใหญ่ ทั่วไปหมด ทั้งแหล่ง shopping ทั้งส่วนของ ร้านรวงในรถไฟฟ้า สาขาเยอะมากเดินเดี๋ยวเจอ เดี๋ยวเจอ พิสูจน์แล้วว่า สำหรับ Brand Giordano นั้น Channel of Distribution (สาขาของร้าน) & Brand Awareness (การเป็นที่จดจำได้ของลูกค้า) เป็นปัจจัยความสำเร็จจริงๆ และถ้ามองในหลักทางเศรษฐศาสตร์ ผมว่า Brand Giordano อาจจะเล่นราคาในสินค้าเสื้อผ้าแบบเดียวกัน ถ้าร้านอยู่ในทำเลที่ต่างกัน อาจราคาไม่เท่ากัน ผมคิดว่า ของมี Brand ที่มีสาขาเยอะๆในฮ่องกงก็น่าจะเป็นแบบนี้ ร้านที่ทำเลหนึ่งก็ขายอีกราคาหนึ่ง อีกทำเลหนึ่งก็ขายอีกราคาหนึ่ง Price Discrimination (ขายราคาไม่เท่ากัน) ได้เลย

3.4 Dim Sum หรือ คนไทย เรียกว่า ขนมจีบ ซาลาเปา แถวโรงแรม BP ที่พักนั้นอร่อยชื่อร้าน Royal One แต่ เสียดายที่คนที่มารับออเดอร์นั้น พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ และเมนูหลักก็ภาษาจีนล้วน รูปน้อย 55 แล้วจะกินอย่างไร แต่ ขนมจีบนี่อร่อยดี ซาลาเปายังไม่ได้กิน ราคาก็ไม่ถูก ไม่แพง มาตรฐานฮ่องกง แต่เป็นขนมจีบ ซาลาเปาที่แพงกว่าเมืองไทยนะครับ อย่าไปสั่งเยอะๆ ซี้ซั๊ว เดี๋ยวจะอ้วกตอนจ่ายตังค์

3.4 นั่งกระเช้า Ngong Ping 360  ถ้าไม่ติดว่าต้องทั้งขึ้นกระเช้าไปทั้งไปทั้งกลับ นั้นก็ลอง ขึ้นรถบัสสาย 23 ที่ท่ารถอยู่แถวๆที่ซื้อตั๋ว จะใช้เวลาในการนั่งรถบัสขึ้นไปถึงข้างบนเขาประมาณ 30-35 นาที (แต่การขึ้นรถบัส อาจไม่เหมาะกับคนที่เมารถง่าย เพราะทางขึ้นเขาบางช่วงชันและ คดเคี้ยว) ขึ้นไปจนถึงหมู่บ้าน Ngong Ping แล้วเดินต่อไปเพื่อไปไหว้พระใหญ่อีกนิด แล้วขากลับค่อยลงด้วยกระเช้า ผมว่าวิธีนี้ Work นะ เพราะว่ารอซื้อตั๋วเป็นเล่นไป นานมาก ยกเว้นคุณซื้อจากเมืองไทยไปแล้ว อันนี้ ก็น่าจะประหยัดเวลาไปได้  แต่ผมว่า ขึ้นด้วยรถบัส ลงด้วยกระเช้านี่ละ ครบอรรถรสครับ

4. ถ้ามีโอกาสไปอีกครั้งก็จะไปเก็บ Goldfinch Restaurant ที่หว่องกาไว ใช้ ถ่ายหนัง In The Mood For Love นำแสดงโดย เหลียง เฉา เหว่ย และ จางม่านอวี้  (อยากเป็นพระเอก แต่ไม่อยากสูบบุหรี่นะครับ)

ถ้ามีโอกาสไปอีกครั้งก็จะไปเก็บ Mido Café ร้านกาแฟยุค 1950 ที่มีมนต์ขลัง

ถ้ามีโอกาสไปอีกครั้งก็จะไปเก็บ Repulse Bay ที่มีทั้งเจ้าแม่กวนอิมที่ปลายอ่าว Repulse  สถาปัตยกรรม-ตึกมีรู

ถ้ามีโอกาสไปอีกครั้งก็จะไปเก็บ อาหารอร่อยๆที่เขาแนะนำให้กินกันทั้ง Dim Sum หรือ อาหารอื่นๆที่เขาว่าอร่อยๆ (Trip กิน)

ถ้ามีโอกาสไปอีกครั้งน่าจะใช้ภาษาจีนได้บ้าง(พูด ฟัง อ่าน ก็พอ เขียนอาจจะดูยากไปแต่ได้ก็ดี) น่าจะสนุกดี ตอนแรกเราเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่จะพูดจีนกลาง (Mandarin Chinese) แต่เราเข้าใจผิด  ภาษาจีนกลางที่จีนแผ่นดินใหญ่ใช้แน่นอน ใช้เยอะ แต่ ไม่ใช่ คนระดับกลาง หรือ คนทั่วไปที่เป็นคนฮ่องกงที่ ภาษาจีนกวางตุ้ง (Cantonese Chinese) ครับ ใช้เยอะมาก เราก็งง เรานึก คำภาษาจีนกลางที่เคยเรียน กลายเป็นเขาฟังออกบ้าง ไม่ออกบ้าง บางคนฟังออกบางคนฟังไม่ออกเหมือนคนที่พอเรียนจีนกลางมาบ้างจะฟังออก แต่ ภาษาอังกฤษเขาก็ใช้กันได้มากอยู่ครับ พวกทำงานโรงแรม พนักงานขาย ภาษาอังกฤษดี หรือ ถ้าเขาไม่สามารถพูดอังกฤษได้ ก็ชี้ภาพไปเลย กดตัวเลขราคาไปเลยครับ ซื้อขาย ง่ายสะดวก555 ผมลองมาแล้ว

ถ้ามีโอกาสไปอีกครั้งน่าจะต้องเตรียมตังค์ไปเยอะนิดนึง แม้เราจะไม่เน้นใช้ตังค์ จะได้ กินได้หลายๆอย่าง เที่ยวได้หลายๆที่ และซื้อของได้ตามอัตภาพ(ไม่เน้น Shopping 555)

5.ระวังตังค์และบัตรเครดิตคุณไว้ให้ดี ประเทศฮ่องกง เป็นสถานที่ดูดเงินตัวยง มีให้ซื้อตั้งแต่ Duty Free---Shopping Plaza---Outlet---Citygate---Shop@MTR---Market ตามถนน---Duty Free---สุดท้ายต้องกินมาม่า จะบอกว่า มีที่ให้ซื้อของตั้งแต่ลงเครื่องจนจะขึ้นเครื่องกลับ ภูมิต้านทานการ Shopping ต่ำ ควรถือเงินน้อยๆ จริงๆ ไม่ได้ล้อเล่น แล้ว พนักงานขายเขามีความพยายามที่จะขายสูงมากไม่ว่าจะเป็นสินค้าอะไรก็ตาม แต่ จะขายได้หรือไม่ได้แล้วแต่คน ขายเก่งหรือไม่เก่งแล้วแต่เทคนิคในการอ่านลูกค้า คิดดูแล้วกัน มีภาษาไทยตัวใหญ่ๆ คนจีนพูดภาษาไทยได้ แสดงว่าคนไทยเอาเงินไปให้ประเทศฮ่องกงเยอะมาก ผมก็ไม่เว้น เหอๆๆๆ

พอแค่นี้ก่อนนะ หลงรักฮ่องกง เสียแล้ว ไม่รู้ทำไม มันมีเสน่ห์ลึกๆกระมัง...สงสัยต้องไปเยี่ยมฮ่องกงอีกครั้งแล้วละ ในชีวิตนี้...

จาก เลี้ยงไม่เฉา เราไม่เอ่ย
ชื่อสินค้า:   ผมก็รู้อยู่ว่า เซียนฮ่องกงมีเป็นพันเป็นร้อยคนในนี้ แค่อยากจะเขียนความประทับใจ...
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่