หมอดูขอเล่า : รักษาโรคขาดความน่าเชื่อถือ

กระทู้สนทนา
ผมทำงานเป็น Creative Design และทำอาชีพเสริมคือ Tarot Reader หรือหมอดูนั่นเเหละครับ ตลอดเวลา 8 ปีที่เป็นหมอดู ได้ดูดวงให้คนเยอะมากๆ ผมไม่เคยเชื่อเรื่องชะตากรรม ดังนั้นในการดูไพ่ ผมจึงใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้จากลูกค้าที่ประสบความสำเร็จในชีวิตด้วย (นี่หลักฐาน http://www.vittarot.com )

สัจธรรมข้อหนึ่งที่ผมพบเจอจากชีวิตของผู้คน คือ การพยายามทำให้คนอื่นเข้าใจในสิ่งที่เราปรารถนาแต่ยังไม่มีผลงานเป็นเรื่องที่เสียเวลาเป็นอย่างยิ่ง...!!! ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ การอ่านตำราพัฒนาตัวเอง เข้าคอร์สสัมมนา หรือแม้กระทั่งพยายามทำตัวเองให้ดูน่าเชื่อถือด้วยการเปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนการแต่งตัว เปลี่ยนวิธีการพูดให้โปร สุดท้ายก็จะวกกลับมาอยู่จุดเดิมคือ "ไม่น่าเชื่อถืออยู่ดี" นั่นเพราะว่าความน่าเชื่อถือวัดกันด้วยสิ่งๆหนึ่งที่สำคัญยิ่งกว่าทุกสิ่งที่กล่าวมา

อย่างเช่นถ้าคุณฝันว่าอยากจะเป็นเจ้าของกิจการ คุณประกาศให้ใครต่อใครรู้ว่าคุณต้องการอะไรในชีวิต พวกเขาจะไม่เข้าใจคุณ และถ้าอาการหนักมากๆ พวกเขาก็จะล้อเลียนคุณ กระแนะกระแหนคุณ เยาะเย้ยคุณ ถากถางคุณ แซวคุณ และดูถูกความฝันของคุณ

ผมเจอมาแล้ว...!!!

ตรงนี้คือจุดวัดใจ ถ้าใครพยายามเอาชนะคนเหล่านั้นด้วยเหตุผล ยกตัวอย่างของคนที่ทำได้มากมายมาเล่า พวกเขาจะเสียเวลาเปล่าแล้วพาลให้ท้อแท้ในที่สุด ไม่มีใครยอมฟังคนที่ทำไม่ได้แม้จะมีหลักฐานที่คนอื่นทำได้ก็ตาม แต่ถ้าคุณตัดสินใจไม่ฟังเสียงคนรอบข้างและสร้างผลงานมาเป็นตัวพิสูจน์ ยามที่ประสบความสำเร็จแล้วต่อให้ไม่อยากให้ใครเข้าใจ คนรอบข้างก็จะพยายามเข้าใจคุณเอง

ผลงาน = ความน่าเชื่อถือ

มหัศจรรย์มั้ยหละ...!!!

ดังนั้นถ้าคุณต้องการเป็นที่ยอมรับจากคนรอบข้าง การพยายามพัฒนาตัวเองอย่างสุดความสามารถ เรียนเยอะ ศึกษาเยอะ เขียนความรู้ผ่าน Facebook เยอะแต่ไม่มีผลงานมาพิสูจน์ว่าคุณได้สร้างสรรค์อะไรขึ้นมาบนโลกใบนี้ ความน่าเชื่อถือก็จะยังไม่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าวันนี้มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน  มีหลักฐานว่าผ่านการประสบความสำเร็จในเรื่องที่พูด คิด ทำ แสดงออก ต่อให้คุณเเต่งตัวดูไม่ดี พูดจาไม่เป็นมืออาชีพ สายตาหลุกหลิก บุคลิกไม่สง่างาม แต่ขอบอกความน่าเชื่อถือนั้นจะทะลุเลยชั้นบรรยากาศเลย

การสร้างผลงานให้พูดแทนตัวเองและปิดปากให้เงียบไปเลยเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้คนรอบข้างยกย่องคุณจากหัวใจ และนั่นเป็นสิ่งเดียวที่จะเพิ่มความน่าเชื่อถือของคุณโดยที่ไม่ต้องพยายามสื่อสารผ่านช่องทางใดๆเลย มันเป็นจิตวิทยาพื้นฐานของมนุษย์ เมื่อคุณมีผลงาน ต่อไปคุณพูดอะไรบ้าๆโง่ๆ แม้มันจะดูไร้สาระแค่ไหนก็น่าเชื่อถือ

อย่าเสียเวลาสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการสร้างภาพให้รู้สึกอย่างนั้น เพราะนั่นเป็นทางอ้อมสุดๆ หากต้องการไปทางตรงๆ คุณต้องทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดสร้างผลงานที่เป็นของคุณเอง

พี่ผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวธรรมดามาก หน้าตาบ้านๆ พูดจาติดเหน่อสุดๆ แถมไม่ค่อยจะดูแลตัวเองเท่าที่ควร ถ้าเจอกันตามท้องถนนก็จะมีแต่คนมองผ่าน แต่ในวงการคนใกล้ตัว พี่ผู้หญิงคนนี้มีความน่าเชื่อถือมากๆ เพราะเขาสร้างธุรกิจที่ทำเงินเดือนละ 6-7 หลักด้วยสองมือสองเท้าของตัวเอง มีลูกน้องหลายชีวิต  มีแต่คนอยากเข้าหาเพื่อขอความรู้ เวลาเขาอยากจะขยายธุรกิจก็มีคนมากมายวิ่งเข้ามาขอเป็นหุ้นส่วนด้วย เธอแทบไม่ต้องแสดงออกอะไรเลย ผลงานที่ทำเป็นอุปกรณ์สร้างความน่าเชื่อถือให้เรียบร้อย

การได้รู้จักคนมากมายทำให้ผมรู้ว่า

เวลาคนไม่มีผลงานพูดถึงความสำเร็จของตัวเองในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง คนรอบข้างจะเรียกว่าไอ้ขี้โม้
เวลาคนมีผลงานพูดถึงความสำเร็จของตัวเองในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง คนรอบข้างจะเรียกว่าวิสัยทัศน์

คนสองคนพูดเรื่องเดียวกัน แต่คนฟังตีความคนละอย่างกัน

สิ่งที่ตัดสินใจความน่าเชื่อถือจริงๆในชีวิตคือผลงานไม่ใช่การพยายามทำให้คนรอบข้างสิ่งที่เราอยากจะให้เขาเป็น

มีผลงานเมื่อไหร่ ต่อให้คุณไม่อยากจะพูดอะไร คนรอบข้างก็จะวิ่งเข้าหาความความรู้ คำแนะนำ ประสบการณ์จากคุณอยู่ดี

ถ้าเริ่มออกเดินทาง เดี๋ยวผู้ติดตามก็มาเอง

งานเขียนในวันนี้ไม่คม แต่ก็ทิ่มคนตายได้เหมือนกัน

วิชญ์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่