จขกท อายุใกล้เลข 3 ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งใน กทม มาพักอาศัยอยู่กับญาติใน กทม คะ
สิ่งที่ จขกท จะพูดถึงนี้ จขกทไม่ได้ตั้งใจจะเอาเรื่องในครอบครัวมาประจานนะคะ เพี่ยงแต่ จขกท ไม่รู้จะหันไปปรึกษากับใครอีกแล้ว
รู้สึกเครียดและเบื่อหนายกับปัญหาที่มีมาตั้งแต่ก่อนที่เราจะเกิด จนกระทั่งเราซึ่งเป็นลูกคนโตแก่จะ 30 อยู่แล้ว
เรื่องของเรื่องคือ พ่อแม่ จขกท ทะเลาะกันคะ ทะเลาะกันบ่อยมาก ทะเลาะกันแรงมาก แรงถึงขนาดแม่เคยพยายามฆ่าตัวตายเลยคะ
ปัจจุบันพ่อแม่อยู่กัน 2 คน น้องชายเรียนมหาลัยคนละจังหวักกับ จขกท และพ่อแม่ พ่อแม่อยู่ด้วยกัน 2 คนผัวเมีย ทะเลาะบ่อยมาก ทะเลาะจนข้างบ้านได้ยิน บางทีดังไปทั้งซอย จนใครๆก็รำคาญ หรือกลัวจนไม่กล้ามาทักทายด้วยเพราะพ่อแม่ทะเลาะกันทีก็จะด่าด้วยคำหยามคาย มีสัตว์เลื้อยคลานโผลมาเต็มไปหมด ด่าถึงชาติตระกูลของแต่ละฝ่าย ขูดเรื่องตั้งแต่วันแต่งงาน ขุดเรื่องที่ว่าพ่อมีผู้หญิงอื่นทั้งที่ก็เลิกกันไปนานแล้ว แถมยังมาด่ากันนอกบ้านเพื่อจะประจานฝ่ายตรงข้ามให้ชาวบ้านรู้ให้หมด แต่ไปไปมามาต่างฝ่ายต่างก็ประจานเรื่องน่าอายของทั้ง 2 ฝ่าย ตอนที่เราอยู่ ม ปลาย เราอายเพื่อนบ้านมากคะ ยิ่งมีเพื่อนที่ไม่ถูกกันอยู่ใกล้บ้านด้วย ตอนไป รร เพื่อนก็เอาเรื่องที่พ่อแม่เราทะเลาะกัน ไปนินทากับเพื่อนๆในห้องอีก
แม้ตอนนี้เราทำงานและไม่ได้อยู่กับพ่อแม่แล้ว (มาพักกับน้าที่เป็นน้องสาวแม่) แต่พ่อกับแม่ก็ยังไม่เลิกทะเลาะกันอีก ก่อนหน้านั้น เคยพาแม่ไปเข้ารับการรักษาทางจิตเวชแล้ว เพราะตอนนั้นแม่พูดว่าอยากตายตลอด แล้วหมอก็บอกว่าแม่เป็นโรคซึมเศร้า (ภายหลังเราก็เป็นโรคซึมเศร้าตามอีกคน) ตอนรักษาก็ได้ทานยาตามที่หมอสั่ง แต่ก็ยังไม่เลิกทะเลาะกันอีก จนหมอบอกให้พ่อเข้ามาพบหมอด้วย เพราะหมอต้องการพูดกับพ่อเพื่อให้ทราบสถานะการว่าแม่เป็นโรคซึมเศร้า แต่พ่อก็ไม่ยอม สุดท้ายพ่อก็ไม่เข้ามารับรู้ด้วย
ตอนนี้ พ่อกับแม่ก็ยังทะเลาะกันอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดทะเลาะกันเรื่อง ปลา !!!
ด่ากันลั่นบ้านมาก พ่อก็เลยไล่แม่บอกจะไปไหนก็ไป ไปให้พ้นสายตาเลย แม่ก็เลยขึ้นมาหาเราที่ กทม (บ้านน้า) เป็นแบบนี้บ่อยมาก ทะเลาะแล้วก็ทิ้งพ่อมาอยู่ กทม แล้วก็ยังไม่จบ ยังทะเลาะกันทางโทรศัพอีก แล้วก็เอามาพูดๆๆ ระบายๆๆๆ ให้คนอื่นฟัง จนเขาไม่อยากฟังแล้ว น้ากับเด็กที่บ้านรู้สึกรำคาญ จนไม่อยากให้อยู่ที่บ้านนี้อีก ก็มาพูดกับเราว่า เมื่อไหรแม่แกจะกลับไปสักที พอได้ยินแบบนี้ เราก็เครียด แม่ก็เครียดเศร้า แม่เอาแต่เพ้อว่าไม่มีใครต้องการแม่เลย แม่ไม่มีที่ไปแล้ว พ่อก็ไม่ต้องการแม่ น้อง(น้าที่เราพักอยู่ด้วย)ก็ไม่ต้องการแม่ แม่อยากตาย
คะ แม่กลับมาอาการเดิมอีก คือแม่หยุดทานยาคะ แต่เราบอกแม่ยังต้องกินอยู่นะ แม่อาการกลับไปเหมือนเดิมแล้วนะ แม่ก็ไม่ยอมทานยาคะ แม่เอาแต่บอกว่าตัวเองหายแล้ว เราพูดยังไงก็ไม่ยอมทานยา ไปไปมามาเราจะทะเลาะกันอีก เพราะแม่ไม่ทานยา แล้วตอนเข้านอนแม่ก็ร้องไห้ทุกคืน บอกอย่าทิ้งแม่ไปนะ แม่ไม่เหลือใครแล้ว แม่อยากตาย..... แล้วแม่ก็พูดตั้งแต่เรื่องตอนแต่งงานยันเรื่องปัจจุบัน
ทุกคืนๆๆๆๆๆๆๆ เราก็ปลอบแม่ทุกคืนๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนรู้สึกว่าสิ่งที่เราปลอบมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
เรารู้ข้อดีข้อเสียของทั้งพ่อและแม่ เราก็พูดกับพ่อแม่ เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายคิดถึงเรื่องดีดีที่มีกัน ช่วงเวลาที่ดีต่อกัน ทั้ง 2 ฝ่ายมีเรื่องดีดีมากมาย พ่อก็เป็นคหาเงินคนเดียวในบ้านมาตลอดตั้งแต่เราเกิด จนเราเรียนจบมีงานทำ อยากเที่ยวไหนก็พาไป อยากได้อะไรก็หาให้ อยากไปกินอะไรก็พาไป พ่อเป็นพ่อที่ดี ไม่เคยบกพร่องเลย แต่ข้อเสียของพ่อคืออยู่ดีดีก็ตะหวาด และตะหวาดแรงมาก (พ่อมักจะเปิดศึกก่อนเสมอ) ส่วนแม่ก็เช่นกัน แม่เป็นแม่บ้านที่ดี ดูแลความสะอาดบ้าน กับข้าว เสื้อผ้า ดูแลลูกตั้งแต่เล็กจนโต ดูแลพ่อ ใครเจ็บใครป่วยแม่ก็ดูแลเรื่องยาเรื่องหมอ เช็ดตัวให้ แต่ข้อเสียคือ ขี้บ่น คำพูดแรง (เจ้าตัวไม่รู้ตัว) ชอบขุดปัญหาเป็น 10 ปีมาพูด แล้วหลายๆเรื่องก็ตึงจนเกินไปเช่นไม่ให้เข้าวัดเพราะกลิ่นธุป จนพ่อเบื่อ เราก็พยายามบอกทั้ง 2 ฝ่ายว่าให้แก้ไขจุดนั้นจุดนี้นะ ก็แก้ไขได้แป๊บเดียวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม บอกให้พากันเข้าวัดบ่อยๆ ไปในจุดที่ไม่มีธูปก็ได้ ก็ทำได้แป๊บเดียวก็เลิก
จนเราเองก็เหนื่อย เหนื่อยแล้วเครียดด้วย น้าที่บ้านก็บนว่าเบื่อ เราก็สงสารแม่ เหมือนไม่มีที่ให้แม่อยู่ได้เลย แต่เราก็บอกแม่ก็เพลาๆอารมณ์หน่อย
แม่ก็เอาแต่บอกว่า แม่ไม่ได้โวยวายเลยนะ แม่ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย แล้วแม่ก็ไม่กินยาด้วย แม่ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย
เครียดคะ เครียดกับงานมากพอแล้ว เราไม่อยากเครียดเรื่องครอบครัวอีก เราไม่รู้จะทำไงแล้ว ปัญหามันเรื่องรังมาก จน จขกท เอกก็อยากบ่นว่าอยากตายเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องรับรู้อะไรทั้งนั้น
[เครียด] พ่อกับแม่ทะเลาะกัน จนลูกจะ 30 แล้วยังไม่เลิกทะเลาะกันเลย
สิ่งที่ จขกท จะพูดถึงนี้ จขกทไม่ได้ตั้งใจจะเอาเรื่องในครอบครัวมาประจานนะคะ เพี่ยงแต่ จขกท ไม่รู้จะหันไปปรึกษากับใครอีกแล้ว
รู้สึกเครียดและเบื่อหนายกับปัญหาที่มีมาตั้งแต่ก่อนที่เราจะเกิด จนกระทั่งเราซึ่งเป็นลูกคนโตแก่จะ 30 อยู่แล้ว
เรื่องของเรื่องคือ พ่อแม่ จขกท ทะเลาะกันคะ ทะเลาะกันบ่อยมาก ทะเลาะกันแรงมาก แรงถึงขนาดแม่เคยพยายามฆ่าตัวตายเลยคะ
ปัจจุบันพ่อแม่อยู่กัน 2 คน น้องชายเรียนมหาลัยคนละจังหวักกับ จขกท และพ่อแม่ พ่อแม่อยู่ด้วยกัน 2 คนผัวเมีย ทะเลาะบ่อยมาก ทะเลาะจนข้างบ้านได้ยิน บางทีดังไปทั้งซอย จนใครๆก็รำคาญ หรือกลัวจนไม่กล้ามาทักทายด้วยเพราะพ่อแม่ทะเลาะกันทีก็จะด่าด้วยคำหยามคาย มีสัตว์เลื้อยคลานโผลมาเต็มไปหมด ด่าถึงชาติตระกูลของแต่ละฝ่าย ขูดเรื่องตั้งแต่วันแต่งงาน ขุดเรื่องที่ว่าพ่อมีผู้หญิงอื่นทั้งที่ก็เลิกกันไปนานแล้ว แถมยังมาด่ากันนอกบ้านเพื่อจะประจานฝ่ายตรงข้ามให้ชาวบ้านรู้ให้หมด แต่ไปไปมามาต่างฝ่ายต่างก็ประจานเรื่องน่าอายของทั้ง 2 ฝ่าย ตอนที่เราอยู่ ม ปลาย เราอายเพื่อนบ้านมากคะ ยิ่งมีเพื่อนที่ไม่ถูกกันอยู่ใกล้บ้านด้วย ตอนไป รร เพื่อนก็เอาเรื่องที่พ่อแม่เราทะเลาะกัน ไปนินทากับเพื่อนๆในห้องอีก
แม้ตอนนี้เราทำงานและไม่ได้อยู่กับพ่อแม่แล้ว (มาพักกับน้าที่เป็นน้องสาวแม่) แต่พ่อกับแม่ก็ยังไม่เลิกทะเลาะกันอีก ก่อนหน้านั้น เคยพาแม่ไปเข้ารับการรักษาทางจิตเวชแล้ว เพราะตอนนั้นแม่พูดว่าอยากตายตลอด แล้วหมอก็บอกว่าแม่เป็นโรคซึมเศร้า (ภายหลังเราก็เป็นโรคซึมเศร้าตามอีกคน) ตอนรักษาก็ได้ทานยาตามที่หมอสั่ง แต่ก็ยังไม่เลิกทะเลาะกันอีก จนหมอบอกให้พ่อเข้ามาพบหมอด้วย เพราะหมอต้องการพูดกับพ่อเพื่อให้ทราบสถานะการว่าแม่เป็นโรคซึมเศร้า แต่พ่อก็ไม่ยอม สุดท้ายพ่อก็ไม่เข้ามารับรู้ด้วย
ตอนนี้ พ่อกับแม่ก็ยังทะเลาะกันอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดทะเลาะกันเรื่อง ปลา !!!
ด่ากันลั่นบ้านมาก พ่อก็เลยไล่แม่บอกจะไปไหนก็ไป ไปให้พ้นสายตาเลย แม่ก็เลยขึ้นมาหาเราที่ กทม (บ้านน้า) เป็นแบบนี้บ่อยมาก ทะเลาะแล้วก็ทิ้งพ่อมาอยู่ กทม แล้วก็ยังไม่จบ ยังทะเลาะกันทางโทรศัพอีก แล้วก็เอามาพูดๆๆ ระบายๆๆๆ ให้คนอื่นฟัง จนเขาไม่อยากฟังแล้ว น้ากับเด็กที่บ้านรู้สึกรำคาญ จนไม่อยากให้อยู่ที่บ้านนี้อีก ก็มาพูดกับเราว่า เมื่อไหรแม่แกจะกลับไปสักที พอได้ยินแบบนี้ เราก็เครียด แม่ก็เครียดเศร้า แม่เอาแต่เพ้อว่าไม่มีใครต้องการแม่เลย แม่ไม่มีที่ไปแล้ว พ่อก็ไม่ต้องการแม่ น้อง(น้าที่เราพักอยู่ด้วย)ก็ไม่ต้องการแม่ แม่อยากตาย
คะ แม่กลับมาอาการเดิมอีก คือแม่หยุดทานยาคะ แต่เราบอกแม่ยังต้องกินอยู่นะ แม่อาการกลับไปเหมือนเดิมแล้วนะ แม่ก็ไม่ยอมทานยาคะ แม่เอาแต่บอกว่าตัวเองหายแล้ว เราพูดยังไงก็ไม่ยอมทานยา ไปไปมามาเราจะทะเลาะกันอีก เพราะแม่ไม่ทานยา แล้วตอนเข้านอนแม่ก็ร้องไห้ทุกคืน บอกอย่าทิ้งแม่ไปนะ แม่ไม่เหลือใครแล้ว แม่อยากตาย..... แล้วแม่ก็พูดตั้งแต่เรื่องตอนแต่งงานยันเรื่องปัจจุบัน
ทุกคืนๆๆๆๆๆๆๆ เราก็ปลอบแม่ทุกคืนๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนรู้สึกว่าสิ่งที่เราปลอบมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
เรารู้ข้อดีข้อเสียของทั้งพ่อและแม่ เราก็พูดกับพ่อแม่ เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายคิดถึงเรื่องดีดีที่มีกัน ช่วงเวลาที่ดีต่อกัน ทั้ง 2 ฝ่ายมีเรื่องดีดีมากมาย พ่อก็เป็นคหาเงินคนเดียวในบ้านมาตลอดตั้งแต่เราเกิด จนเราเรียนจบมีงานทำ อยากเที่ยวไหนก็พาไป อยากได้อะไรก็หาให้ อยากไปกินอะไรก็พาไป พ่อเป็นพ่อที่ดี ไม่เคยบกพร่องเลย แต่ข้อเสียของพ่อคืออยู่ดีดีก็ตะหวาด และตะหวาดแรงมาก (พ่อมักจะเปิดศึกก่อนเสมอ) ส่วนแม่ก็เช่นกัน แม่เป็นแม่บ้านที่ดี ดูแลความสะอาดบ้าน กับข้าว เสื้อผ้า ดูแลลูกตั้งแต่เล็กจนโต ดูแลพ่อ ใครเจ็บใครป่วยแม่ก็ดูแลเรื่องยาเรื่องหมอ เช็ดตัวให้ แต่ข้อเสียคือ ขี้บ่น คำพูดแรง (เจ้าตัวไม่รู้ตัว) ชอบขุดปัญหาเป็น 10 ปีมาพูด แล้วหลายๆเรื่องก็ตึงจนเกินไปเช่นไม่ให้เข้าวัดเพราะกลิ่นธุป จนพ่อเบื่อ เราก็พยายามบอกทั้ง 2 ฝ่ายว่าให้แก้ไขจุดนั้นจุดนี้นะ ก็แก้ไขได้แป๊บเดียวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม บอกให้พากันเข้าวัดบ่อยๆ ไปในจุดที่ไม่มีธูปก็ได้ ก็ทำได้แป๊บเดียวก็เลิก
จนเราเองก็เหนื่อย เหนื่อยแล้วเครียดด้วย น้าที่บ้านก็บนว่าเบื่อ เราก็สงสารแม่ เหมือนไม่มีที่ให้แม่อยู่ได้เลย แต่เราก็บอกแม่ก็เพลาๆอารมณ์หน่อย
แม่ก็เอาแต่บอกว่า แม่ไม่ได้โวยวายเลยนะ แม่ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย แล้วแม่ก็ไม่กินยาด้วย แม่ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย
เครียดคะ เครียดกับงานมากพอแล้ว เราไม่อยากเครียดเรื่องครอบครัวอีก เราไม่รู้จะทำไงแล้ว ปัญหามันเรื่องรังมาก จน จขกท เอกก็อยากบ่นว่าอยากตายเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องรับรู้อะไรทั้งนั้น