ถ้าวันหนึ่งซงอิลกุ้กและแฝดสามขอถอนตัวออกจากรายการ อยากถามปฎิกิริยาจากแฟนๆค่ะ (กระทู้โพล)

ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ
แม่ๆ แฟนๆของน้อง แทฮัน มินกุ้ก มันเซ พวกเราจะรู้สึกอย่างไรคะ ถ้าวันนึง เด็กๆแฝดสามขอถอนตัวออกจากรายการ
และมีความรู้สึกไปในทิศทางไหน กันบ้าง เราจะยังติดตามเด็กๆกันมั้ย ลองแชร์ความรู้สึกกันดูนะคะ




  พอดีเห็นข่าว ครอบครัวน้องจีออนหนึ่งในครอบครัวของรายการ Return of Superman ขอถอนตัวออกจากรายการ
ด้วยเหตุผลตามที่พวกเราได้ทราบข่าวกันไปนะคะ สรุปใจความก็คือ การออกจากรายการจะเป็นผลดีต่อน้องจีออนที่สุด
สำหรับเรา เราเข้าใจมากๆนะ

บอกตรงๆว่าเราก็มองข้ามในจุดที่ จุดที่ว่า เมื่อน้องจีออนโตขึ้น แล้วมาอ่านเจอข้อความ ฟีดแบคต่างๆจากคนดู
เธอจะรู้สึกอย่างไร ?  

ส่วนตัวเราเราดูแค่พาร์ทของแฝดสามค่ะ และดูครอบครัวที่มาเป็นแขกรับเชิญของบ้านแฝดสามเท่านั้น ดังนั้นขอไม่ออกความเห็นในกรณีนี้
แต่ขอเป็นกำลังให้น้องและเด็กๆทุกคนเลย (ส่งใจไปจากทางนี้นะคะลูก)

ทีนี้เรามาคุยถึงประเด็นของแฝดสาม แทฮัน มินกุ้ก และมันเซ กันบ้างดีกว่า
ส่วนตัวเราคิดว่า มันต้องมีวันนึงล่ะค่ะ ที่เด็กๆก็ต้องออกจากรายการ และเติบโตต่อไปตามวิถีชีวิตเค้า







เคยมีอยู่ตอนนึง จขกท.เห็นภาพแฝดสามกำลังถ่ายรายการ(ขออภัยที่ไม่มีรูปนั้นประกอบนะคะ)
ในจอภาพรายการที่เราดูกันอยู่  เราจะเห็นแค่ แฝดสามกับ คุณพ่อทำกิจกรรมกันในบ้าน นอนหลับบ้าง  กินข้าวบ้าง หรือทำกิจกรรมต่างๆนอกบ้านร่วมกันบ้าง ใช่มั้ยคะ
แต่ในความเป็นจริง มีกล้อง อยู่หลายสิบตัวที่จับภาพเด็กๆอยู่ มีทีมงานอยู่หลายสิบคน มีสายตาปชช.(แฟนๆเกาหลีมุง)
อีกส่วนหนึ่ง หลายร้อยสายตา ที่จ้องมองไปยังเด็กๆ

เราพอนึกความรู้สึกเด็กๆกันออกไหมคะ? ^^
บางทีเราคนดู ก็สนุกตาม ไม่ได้คิดอะไรในจุดนั้น เพราะเด็กๆมีความน่ารักและมีความตลกไร้เดียงสาอยู่ในตัว
แต่ละคนมีเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป เวลาเราดูรายการเราก็สนุก ตลก หัวเราะ และหลงรัก ขึ้นมา เราคนดูมีความสุข
แต่ในใจเด็กๆลึกๆ เราไม่สามารถรู้ใจเค้าได้เลยค่ะ  เด็กๆจะรู้สึกอึดอัดไหม แล้วเค้าจะเข้าใจในเนื้องานตรงนี้ไหมนะ
อะไรคือชีวิตจริง อะไรคือการแสดง

ตรงนี้เป้นประเด็นที่น่าคิดนะคะ เพราะนั่นหมายถึงความทรงจำในวัยเด็กของน้องๆเลย

แต่ในความเห็นของเรา การที่เด็กๆแฝดสามได้เข้ามาร่วมรายการ สำหรับเราคิดว่ามีข้อดีอยู่นะคะ
ส่วนข้อเสียนั้น เรามองไปในเรื่องของสิทธิความเป็นส่วนตัวของเด็กๆทั้งสามคนค่ะ หรือพูดง่ายๆคือ  เราคิดว่า
เด็กๆอาจจะรู้สึกว่า เขาขาดพื้นที่ส่วนตัวไป  
(ด้วยเพราะเด็กๆไม่ได้มีสิทธิในการตัดสินใจในการเข้าร่วมรายการแต่อยู่ในการตัดสินใจของผู้ปกครอง)
แต่ความรู้สึกนั้นจะยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้นะคะ  แต่เมื่อน้องๆโตขึ้น เด็กๆจะเกิดความรู้สึกนี้แน่นอนค่ะ ไม่มากก็น้อยล่ะ

สิ่งที่คิดว่า เป็นข้อดี ที่แฝดสามเข้าร่วมรายการ

1. รายการนี้ไม่ได้ถ่ายทำทุกวัน ถ่าย 2-3 วัน ต่อ หนึ่งเดือน (ถ้าข้อมูลไม่ผิดนะคะ) ดังนั้นในช่วงเวลาที่เหลือ เด็กๆก็สามารถใช้ชีวิตโดยไร้กล้องติดตามกับครอบครัวได้ปกติ (แต่ตอนนี้แฝดสามนั้นดังติดลมบนไปแล้ว ก็คงยากนะคะ)

2. คุณพ่อเด็กๆค่ะ คุณซง อิล กุ้ก มีความเป็นนักแสดง และนักเอนเตอร์เทนในตัวที่สูงมาก
รวมทั้งมีระเบียบวินัยในงาน ดังนั้นในเนื้องานที่คุณพ่อแฝดสาม รับผิดชอบต่อรายการในพาร์ทของแฝดสาม จึงดูเป็นอะไร ที่เป็นธรรมชาติ
มากถึงมากที่สุด
สังเกตุ ง่ายๆเลยนะคะ ยกตัวอย่างเช่น มินกุ้กกี้ ที่น้องจะสนิทสนมกับคุณลุงทีมงาน ไดโนเสาร์(ช่างกล้อง) รวมทั้งแทฮันนี่ และมันเซด้วย
เวลากินขนม เล่นเกมส์ อัปปาซงจะสอนให้เด็กๆ แบ่งปัน คุณลุงคุณน้า ทีมงาน จนหลังๆเป็นเด็กๆเองที่ร้องขออยากให้ขนมกับทีมงานเอง

3.ด้วยความที่แฝดสาม แทฮัน มินกุ้ก และมันเซ เป็นเด็กผู้ชาย
ดังนั้นในกิจกรรมต่างๆ ที่แอดเวนเจอร์ เด็กๆสามารถลุยได้เต็มที่ สนุกได้เต็มที่ ดังนั้นกิจกรรมต่างๆในรายการเหล่านี้ เราเลยมองว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อเด็กๆมากกว่าที่จะสร้างความลำบากใจให้เด็กๆ

4. เด็กๆแฝดสามชอบและรักที่จะมีกิจกรรมร่วมกันกับคุณพ่อ
การที่อัปปาซง สามารถร่วมลุยกิจกรรมกับเด็กๆได้เสมอในทุกกิจกรรม และทำให้เด็กๆเกิดการเรียนรู้ในทุกๆกิจกรรม ตรงนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีที่เด็กๆเข้ามาร่วมในรายการโดยเด็กๆไม่คิดว่าเป็นเรื่องที่ชวนอึดอัด ด้วยเพราะในทุกกิจกรรมมีคุณพ่ออยู่ร่วมด้วย








ปล. กระทู้นี้ ส่วนตัวตั้งใจให้เป็น กระทู้ที่แม่ๆแฟนๆน้องแฝดสาม ได้เข้ามาร่วมล้อมวงแชร์ ความคิดเห็นในเชิงบวกต่อกัน ต่อเหตุการณ์สมมุติตามหัวข้อกระทู้
ขอเป็นกระทู้ในเชิงรับฟัง บอกเล่าเก้าสิบ และแสดงความคิดเห็นต่อกันนะจ้ะ  ไม่มีการดราม่าหรือ เปรียบเที่ยบ กันเนาะ