[CR FriendsTrip] เที่ยวกระบี่ ตอนมีฝน เพื่อนเก้าคน ผจญภัย ไปสามวัน หมดห้าพัน มันคุ้มนะ

สวัสดีครับนักเดินทางทุกท่าน บทความนี้เป็นการรีวิวการท่องเที่ยวครั้งแรกในนี้  อาจยาวหน่อย
ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ด้วยนะครับ  รูปทั้งหมดถ่ายจากมือถือของเพื่อนๆและผมรวมๆกันฮ่าๆ


ทิ้งท้ายก่อนจะเข้าหน้าหนาว ครั้งนี้เป็นการเดินทางไปเที่ยวจังหวัดกระบี่ หน้าฝนสะด้วย ลองของสะหน่อย แต่เพราะว่าคุยในกลุ่มเพื่อนที่วันว่างตรงกันก็เลยได้เป็นช่วงวันที่ 8-10 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา ด้วยงบประมาณที่จำกัด จึงต้องวางแผนการเดินทางกันหน่อย ทั้งค่าที่พัก ค่ากิน ค่าทัวร์ก็ต้องหาที่โอเคและ save cost อารมณ์ประมาณอยากจะ Life Hiso แต่บังเอิญ Low Income ๕๕๕
_____________________________________________________________

เสาร์ที่ 8 สิงหาคม 2558 (วันแรก)


พาหนะเดินทางไป : เครื่องบินสายการบิน Thai Lion Air
เวลาเดินทาง        : 6.45 น. ปลายทางสุราษฯ
เราได้เที่ยวบินเวลา 6.45  ต้องมาถึงสนามบินก่อน 6 โมงเช้า เรียกว่าแหกขี้ตาตื่นกันเลยทีเดียว TT เมื่อเพื่อนมาครบทุกคนก็เดินเข้า gate เลย เพราะเช็คอินล่วงหน้าไว้แล้ว แต่ขนาดไม่ต้องเช็คอิน  ยังไปตอน final call เพราะนั่งคุยกันชิวไปหน่อย ๕๕๕

บินมาประมาณไม่ถึงชั่วโมง ก็มาถึงยังสนามบินกระบี่เดินมาตรงอาคารผู้โดยสารขาออก  ก็มีพี่คนขับรถตู้ที่เราได้ติดต่อไว้ให้มารับไปส่งที่พัก  ยืนถือป้ายต้อนรับอยู่
พาหนะเดินทาง    : รถตู้  ทัวร์กระบี่.com
สถานที่              : รับจากสนามบินไปส่งยังที่พัก(แวะทานอาหารเช้าก่อน)

        รถตู้เป็นแบบ VIP 9 ที่นั่ง  สนนราคาที่ 600 บาท  ถูกกว่า shuttle bus เข้าเมืองสะอีก  สามารถเลือกรถได้ว่าจะเอาแบบ 9 ที่นั่ง หรือ 14 ที่นั่ง แต่เรามากัน 9 คนเลยจัดแบบ 9 ที่นั่ง เบาะนุ่มสบาย หลังไม่เมื่อย ตกแล้วค่ารถตู้คนละ 67 บาท ถ้ามา 12-13 คน ก็จะเหลือคนละสี่สิบกว่าบาทเอง

ร้านอาหารเช้า     : กระบี่ติ่มซำ
  ร้านนี้เป็นร้านดังร้านหนึ่ง(อันดับ2ร้านอาหารจีนในกระบี่ จากวงใน) ผู้คนเยอะแยะมากมาย แต่ยังพอมีโต๊ะว่างให้พวกเราไปนั่ง

ติ่มซำหลากหลายเมนูจะอยู่ในตู้แช่ครับ ให้เราเอาตระกร้ามาหยิบใส่แล้วส่งพนักงานนึ่ง


  ไม่นานเกินรอติ่มซำก็พร้อมเสริฟให้กินอย่างไม่ขาดสาย

  ร้านนี้ไม่ได้มีเฉพาะ ติ่มซำ มีทั้ง ก๋วยเตี๋ยว ข้าวหมูแดง หมูกรอบ บะกุ๊ดเต๋ ราคาถือว่าถูก แต่รสชาติอร่อยเลยทีเดียว

  ทั้งยังมีเครื่องดื่มมากมาย น้ำเปล่า ชาเย็น ชำดำ โกโก้ กาแฟ ในราคา 20 บาท

พออิ่มกันแน่นเต็มที่ก็เรียกพี่แม่ค้ามาเช็คบิล  แกใช้การนับเข่งเอา   เมื่อพี่นับเข่งและจานชามครบอย่างรวดเร็วก็แจ้งราคามา ประมาณ 1400 บาท   แม่เจ้า!!ถูกเหลือเชื่อ

หลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จ พึ่งจะสิบโมงเอง  ก็เลยไลน์ไปถามพี่ที่ดูแลห้องพัก  ว่าสามารถเข้าเช็คอินก่อนได้มั้ย เพราะไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน อยากนอนมากกว่า ตื่นเช้ากันจัด  พี่ก็โคตรใจดี บอกว่าเข้ามาได้เลย แล้วรถตู้ก็ไปส่งยัง The Dream Garden อ่าวนาง

ที่พักคืนแรก        : The Dream Garden
  ที่เลือกที่พักแห่งนี้เพราะ เคยอ่านในรีวิวว่า สามารถซื้อทัวร์ได้ถูก ไม่ต้องไปหาในเว็บเลย
แล้วพี่คนที่ดูแลที่พัก บริการดีมาก คอยให้คำปรึกษา และแนะนำตลอด เป็นกันเองมากครับ
         ที่พักที่นี่ เราได้จองในราคา 600 บาท ซึ่งถือว่าถูก เมื่อเทียบกับห้อง ที่ดูสะอาดและกว้างขวาง และมีเซเว่น สตาบัค อยู่ใกล้ๆ
               ห้องแบบเตียงเดี่ยว

               ห้องแบบเตียงคู่

          ห้องน้ำกว้างขวาง สะอาด และยังมีฝักบัวอาบน้ำแบบสายฝนด้วย

           สิ่งอำนวยความสะดวก มีตู้เย็น อุปกรณ์ต้มน้ำและ กาแฟ ชา น้ำเปล่า  ทีวีก็มีให้ดู ไวไฟก็มีให้ใช้ แถมมีเซฟเล็กๆ ไว้เก็บของมีค่าอีกด้วย


ทัวร์ 7เกาะ         : มาเรียมทัวร์
รายละเอียด        :เกาะตังหมิง, เกาะสี,เกาะปอดะ ,หาดไร่เลย์ ถ้ำพระนาง,เกาะไก่ เกาะทับ ทะเลแหวก
                        ,มื้อเย็นมินิบาร์บิคิว,ดูแพลงต้อนเรืองแสง ,ดูโชว์ควงไฟ
           มาเที่ยวทะเลหน้าฝนนี่ก็ทำใจไว้ก่อนแล้วว่า อาจจะเจอฝนตก  โปรแกรมคงไม่ได้ตามแพลนเท่าไหร่
เมื่อมาถึงยังท่าเรืออ่าวน้ำเมาก็เข้าไปยังออฟฟิตของทัวร์ เพื่อลงทะเบียน และรับหน้ากากดำน้ำพร้อมท่อหายใจคนละอัน

วันนี้ทัวร์แจ้งว่าเราได้ขึ้นเรือใหญ่เลย แต่ต้องลงเรือเล็กไปขึ้น(ฝนเริ่มครึ้ม)

โชคดีมากที่เราได้เรือลำใหญ่ ราคาเท่าเดิมและคนก็ไม่เยอะจนเบียดแน่น มีหลากหลายเชื่อชาติ ทั้งไทย ฝรั่ง มาเลฯ

   พอล่องเรือไปได้สักพัก กลุ่มเมฆฝนก้อนใหญ่อยู่ให้เห็นไกลๆ แถวเกาะที่เราจะไป พี่เค้าบอกว่าถ้าเราเข้าไป เราจะมองเห็นในระยะแค่ห้าเมตร พี่เค้าเลยรอเวลาสักพัก เมื่อเห็นว่าฝนซา กัปตันจึงเดินเรือต่อไป

จุดแรกที่ให้เราแวะคือ เกาะปอดะ เสียค่าธรรมเยียมให้อุทยาน 40 บาท แต่ต่างชาติเสีย 400 ราคาถือว่าโหดมาก - -' น้ำไม่ใส ไม่เห็นปลาเลยได้แต่ถ่ายรูป


  พอเล่นสักพักก็ขึ้นเรือหางยาวไปยัง เกาะทับ ทะเลแหวก พอไปถึงทะเลแหวกแค่ฝั่งเดว อีกฝั่งไม่แหวกเลย๕๕๕  ก็เดินแหวกกันเอง ไปถ่ายรูป    บนเรือมีน้ำเปล่าให้ทานตลอด ทั้งยังมีผลไม้เป็นแตงโม กับสับปะรด กินให้ชื่นใจอีกด้วย

เมื่อมาถึงไร่เลย์ตะวันออก ไกด์พาเดินไปยังทางเชื่อมหาดไร่เลย์ตะวันตก

เดินลัดเลาะไปตามขอบเขา  มีลิงเยอะมาก  ธรรมชาติสุดๆ

เมื่อเดินมาถึงโผล่มาอีกด้านเป็นไร่เลย์ตะวันออก และถ้ำพระนาง

คลื่นแรง น้ำขุ่นจนเล่นไม่ได้ ก็เลยได้แต่ถ่ายรูปแถวหาด

แล้วกลับไปยังไร่เลตะวันออก เพื่อทานอาหารเย็น มาถึงก็มาต่อแถวเพื่อตักอาหารแบบบุฟเฟ่ต์

            เมื่ออิ่มแล้วก็เดินทางไปขึ้นเรือใหญ่ต่อ เพื่อไปดำน้ำดูแพลงต้อนเรืองแสง จังหวะนี้เริ่มมืด ได์ก็พาคนที่อยากลงไปดู  ค่อยๆลงตรงท้ายเรือ  เกาะเชือกกันไป โดยเมื่อใช้มือแหวกๆน้ำ เหล่าแพลงต้อนก็จะเรืองแสงเหมือนหิ่งห้อย ใต้น้ำ  ดูแปลกตาไปอีกแบบ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้
  เมื่อขึ้นไปยังฝั่งก็ทำการคืนหน้ากาก และมีชาร้อน กาแฟร้อนคอยบริการ ระหว่างนั้นก็มีโชว์ควงไฟของเด็กเรือ  ที่ถูกฝึกมาอย่างดี

             เมื่อเสร็จโชว์รถไม้ของทัวร์ก็มาส่งเรายังที่พัก ก็สามทุ่มพอดี พวกเราตกลงกันว่าจะอาบน้ำแร้วออกไปเดินเล่นอ่าวนางกัน ก็เดินไปเรื่อยๆ ก็มีของขายปกติ แต่ส่วนใหญ่จะขายฝรั่งมากกว่า  เราก็เดินจนสุดโค้ง ก็หิวกันหน่อยๆ ถึงแม้กินมื้อเย็นมาแล้วแต่ก็ยังเริ่มหิว เลยไปแวะ food cort

ร้านอาหารค่ำ      : Food Cort อ่าวนาง *ไม่แนะนำ
ในความคิดคือฟู้ดคอร์ทต้องราคาไม่แพง แต่พอเปิดดูราคาปุ๊บก็ร้อง เข้ แพงจัง๕๕ ข้าวจารเดียว ราคา 70-80แล้วทำมาแบบชืดๆ  ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่
กุ้ง(แห้ง)เผา

กินข้าวเสร็จเช็คบิล ถึงกับอึ้งกินแค่ตามสั่ง แต่ราคาเท่าติ่มซำลิบลับ  แต่ความอิ่ม ความอร่อย คนละเรื่อง

จบวันแรก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่