Khardung La ถนนที่สูงที่สุดในโลก ปีนขึ้นเขาให้เท้าสัมผัสหิมะบนยอด อธิษฐานต่อธงมนต์ สูดไอหอมหิมาลัยระดับบน


Khardung La

ถนนที่เค้าว่าสูงที่สุดในโลก


รู้จักKhardung La
Khardung La หมายถึง Pass of lower castle แปลไทยแบบโป๊ะๆคือ ทางผ่านของปราสาทต่ำกว่า (ต่ำในที่นี้น่าจะตามแผนที่นะ) ลา นี่เห็นบ่อยๆ แปลว่า ทาง ในภาษาธิเบต การดุงเนี่ย นางครองแชมป์เป็นถนนที่รถผ่านได้ที่สูงที่สุดในโลกมาหลายสมัยนะจ๊ะ ด้วยความสูง 5602 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สูงเวอร์วังจนมีน้ำแข็งปกคลุมตลอดๆ
- มาเสียแชมป์ให้กับ Mana La แถวชายแดนทิเบต เมื่อเร็วๆ นี้นี่เองเพราะวัดใหม่การ์ดุงสูงแค่ 5359 เองที่ผ่านมานางใส่รองเท้าเสริมส้นตลอด แต่นัง Mana นางไม่ค่อยนิยมไง สูงกว่าจริงแต่ขายไม่ได้ไปยาก ทุกคนเลยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เสมือนมีคนมาบอกว่าแฟนหล่อนน่ะนอกใจนะยะ แต่ทำใจไม่ได้กรีดร้องแต่ว่า ไม่จริ๊งหล่อนโกหก แฟนฉันน่ะรักชั้นคนเดียว ทำเสมือนประหนึ่งว่า นางก็ยังสูงสุดอยู่นั่นแหละ เพื่อโปรโมตการท่องเที่ยว ป้ายเป้ยอะไรก็ยังติดว่า นางสูงสุดอยู่ การดุงนี้เป็นทางผ่านไปแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม Nubra Vally ที่ทุกคนมาเลห์แล้วชอบไปก้น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-ที่การ์ดุงนี้ มีร้านที่เคลมว่าเป็น  highest cafeteria in the world ร้านอาหารที่สูงที่สุดในโลก อันนี้สูงจริง โฟสได้ เชคแล้ว ร้านมาหารที่มีเมนูเดียวคือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอินเดีย ชื่อ Meggie ลองสั่ง Meggie with Egg ค่ะเริ่ด เหมาะกับการกินร้อนๆรวดเดียวในที่สูง

ไปยังไง
-Khardung La นี่เป็นสถานที่ที่อยู่ในความดูแลของ กลาโหมอินเดีย จะผ่านต้องขออนุญาติ โดยทำ permit ในราคาคนละ 400 รูปี
-วิธีทำ Permit ต้องทำผ่านเอเจซี่ หรือบริษัท เช่ารถ ค่ะ ทำเองที่โรงแรมไม่ได้ งี้คือถ้าจะเช่ารถเค้าอยู่แล้ว ก็ให้เค้าทำให้เลยสะดวกสะบาย แต่ถ้าจะวิ่งขึ้นไปไม่ได้เช่า ก็สามารถไปทำแต่ Permit เฉยๆตาม เอเจนซี่ทัวร์ได้เหมือนกันค่ะ ร้านเอเจนซี่ มีอยู่เต็มเลห์ ยิ่งแถวๆ Main Barzar เลือกร้านเลยค่ะ ใช้เวลาทำประมาณวันนึงค่ะ กะเวลาดีๆนะคะ เสร็จแล้วเค้าจะให้ใบ ที่มีตราประทับ สวยๆมีสีทองๆ 1 คน ต่อ 1 ใบค่ะ เก็บไว้ให้ดีค่ะ แล้วถ่ายเก็บไว้ด้วยก็ดี สำรอง
-รถที่จะเหมาไป การ์ดุง ราคา 2900-3200  ต่อคัน ไปกลับค่ะ รวมค่าอาหารคนขับแล้ว รถคันนึงนั่งได้4-6 คนค่ะ INNOVa จะแพงสุดเลือกประเภทรถได้เลย   ใครแบคแพคไปคนเดียวว้าวุ่น ก็สามารถเดินไปตามร้ายเช่ารถได้ค่ะ จะมีนักท่องเที่ยว ติดป้ายประกาศ ขอรับสมัครคนอยู่ ถ้าคุณสมบัติครบ ไปติดต่อที่ร้านได้เลย ถ้าหาป้ายประกาศไม่ได้ ก็ติดต่อร้านติดประกาศเองเลยค่ะ ได้คนครบค่อยไป ประหยัดด้วย ได้เพื่อนใหม่ด้วย อาจจะได้แฟนด้วยก็ได้ มันดีนะคะเผื่อสนิทกัน เวลาไปเที่ยวประเทศเค้าจะได้ขอเนียนนอนบ้านได้ แลกเมล แลกเฟส เป็น Pen Friend กัน โรแมานติคจะตาย
-ทางนี้ อาจจะไปต่อ Nubra Vally ได้แบบวันเดียว แปดชั่วโมง หรือจไปต้างตืน หรือจะไปไหนต่อ ไปเชตราคาประเภทรถได้ที่ http://travelhimalayas.in/transportation/taxi-rental/316-leh-local-taxi-rates-2015.html เทียบราคาไว้ อาจจะไปเดินหาเจ้าอื่นที่ถูกกว่า แต่ราคานี้จะเพิ่มขึ้นถ้าสภาพอากาศเลว หรือ ความยากของทางนะคะ
-เจ๊ Google บอกชั่วโมงกว่าๆก็ถึง แต่สังเกตุความยึกยือของเส้นทาง ยึกที คือขึ้นเขาลูกนึงค่ะ นับเวลาจริงๆแล้ว ตอนเราไปฟาดไปสามค่ะ ถนนคงแย่ด้วย ไปกลับ ตี6 เป็นเวลานานสุดแล้วหันค่ะ อาจน้อยกว่านี้ก็ได้ สวยๆ
สำหรับดิฉันเรื่องรถเราให้เอเจนซี่ดูเลให้ค่ะ ติดต่อนางได้นะ นางใจดีบริการเยี่ยม https://www.facebook.com/amperjaiindiatravel?fref=ts

การเตรียมตัว
-อิชั้นค่อนข้างเป็นห่วงมากๆ คือ ภาวะขาดออกซิเจน บนที่สูงค่ะ มันจะมีอาการเวียนหัว หายใจลำบาก อยากจะอ้วก น้ามือ เบื่ออาหาร ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมร้านอาหารที่สูงที่สุดในโลกมีขายแต่มาม่า เพราะคนที่อยู่สูงระดับนั้นเห็นอาหารแล้วแขยงค่ะ ระดับอยากให้เพื่อนคนไหนลดความอ้วน ก็หลอกนางไปถ่ายรูปไกลๆแล้วปิดประตูรถตู้ขึ้นหนีเลยค่ะ
อาการนี้ค่อนข้างอันตรายนะคะ ก่อนไปที่ไหนก็ตามถ้าความสูง เกิน 3500 ให้ฟิตร่างกายมาอย่างน้อยสองสัปดาห์ค่ะ คาดิโอ มาถึงก็อย่าเคลื่อนไหวร่างกายมากนะคะ ค่อยๆเดิน ถ้าหน้ามืดก็สูดหายใจลึกๆ ดื่มน้ำเยอะๆ กิจกรรมหนไม่ไหวอย่าฝืนค่ะ มีคำแนะนำให้กิน ยา Diamox ก่อนวันนึงนะคะ  เม็ด 500 mg ดื่มน้ำตามเยอะ  คนที่ตั้งครรถ์หรือให้นมบุตร ตับ ไต ไม่ควรกิน (ให้ไปปรึกษาแพทย์ก่อน) ใครไม่ไหวเตรียม ออกซิเจนกระป๋อง หาซื้อได้ตามร้านที่ขายอุปกรณ์เดินป่า ที่ไทยหาซื้อง่ายกว่าที่เลห์
-คนเมารถ ถ้าอยากไปก็อดทนค่ะ ถุงอ้วกเตรียมให้พร้อม จะกินยาก็ได้แต่ขึ้นไปอาจมึนงง เอาจริงๆมันไม่เหมาะกับคนเมารถไปเลย แต่ถ้าใจสู้ก็ลุยค่ะ

รู้คร่าวๆแล้วก็ไปเที่ยวกันกับอิชั้นค่ะ
เริ่ดเว่อร์ เท้าความนิดนึง อิชั้นกับผู้ชายทั้งสี่ มาเที่ยวเลห์กัน 12วันค่ะ โดยนั่งรถมาจากเดลี ผ่านเส้นทาง Leh-Manali Highway
ติดตามอ่านเรื่องราวเก่าๆของอิชั้น ได้ที่กระทู้ http://pantip.com/topic/34208002
ป่ะไปเที่ยวถนนที่สูงที่สุดในโลกกัน
--------------------------------------------
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราอยู่ที่เลห์ค่ะ หลังจากที่เราผิดหวังที่จะไป Nubra Vally เพื่อถ่ายรูปกับอูฐทะเลทราย สวยๆ แต่พายุถล่มเลวร้ายที่สุดในรอบสิบปี ทำให้ทุกเส้นทางที่ออกจากเลห์ ถูกตัด พวกเราถูกขังไว้ในเมือง เปล่าดาย ตายซาก สองวัน เต็มๆ ทำให้เราเหลือเวลาว่างแค่วันเดียว เลยจะไปล่าฝัน สัมผัสถนนที่สูงที่สุดในโลกสักครั้ง แม้ตอนแรกจะพยายามบีบขอร้องคนขับให้ไปถึงนูบร้า เข้าเย็นกลับ แต่เขาปฏิเสธ เพราะถนนพึ่งพัง มันโหดมากที่จะไป เราเลย เอาวะ แค่ กราดุง ก็คงฟินละ

ถนนพาเราไต่ขึ้นเขา ถึงจุดชมวิว เราจอดพักดูเนิ่นนาน เห็นยอดเขาสีขาวโพลนจากหิมะ ปกติมันจะไม่เยอะขนาดนี้ แต่พายุคงทำให้มันเพิ่มขึ้น


นี่พี่คนขับของเราค่ะ แอกท่ากับวิว คนขับเราเลือกไม่ได้ แล้วแต่โชคชะตา ค่ะได้คนแบบไหนก็ลุ้นเอา หน้าที่เราคือต้องปรับตัวเข้าหาเค้าค่ะ เอาที่เค้าสบายใจ คุยกรอบหน้าที่ให้ชัดเจนก่อนขึ้นรถ เพราะถ้าขับรถแล้ว เค้าดูแลชีวิตเราค่ะ ถนนที่นี่โหดมาก การไว้ใจเชื่อใจกันสำคัญนะคะ


เราค่อยๆไต่ถนนขึ้นมา ราว 3 ชัวโมงค่ะ เห็นธงมนต์มหาศาลแสดงว่ามาถึงแล้ว คนที่นี่เค้าผูกธงที่สูงที่สุดเพื่อให้ธงสวดมนต์แทนเวลา ลมพัดค่ะ ยิ่งสูง ลมศักดิ์สิทธฺิ์ิ่งไปได้ไกล มีป้ายบอกความสูงด้วยนะเออ แถมยังบอกว่าเป็นถนนที่สูงสุดในโลก ที่รถวิ่งได้อยู่


รอบๆจะมีอู่ซ่อมรถของทหาร ร้านอาหารที่สูงที่สุดในโลก แล้วก็ร้านขายของที่ระลึกค่ะ


ในร้านอาหารที่สูงที่สุดในโลกจะมีขายเมนูเดียว แถวใช้ชามโฟมซะด้วย Meggi หรือ บะหมี่กึ่งนั่นแหละ สนนราคา ชามละ 40 รูปี สวยๆ ไปซดซะ มีไม่กี่คนนะยะที่ได้มากินมาม่าบนร้านอาหารที่สูงที่สุดในโลก ภาพโดยพี่ต.หลังเท่ห์


มองขึ้นไป เห็นหิมะหน้าก้อนใหญ่ นักท่องเที่ยวชอบไปถ่ายรูปกัน กับหิมะตรงนี้ (ภาพโดย MaiWa)


Like This..........!!!!!! (ภาพโดย MaiWA)


เอ ตรงยอดนั้นมันพอจะปีนขึ้นได้นี่นา แต่เอ๊ะ ทำไมไม่มีใครเค้าไปปีนกัน ปีนไหม แต่ออกแรงแล้วจะหน้าจะมืดนะ แต่ไหนๆก็จะกลับพรุ่งนี้แล้ว แต่เค้าให้ปีนได้ป่าวว้า พี่ทหารจะจับไหม จับก็ค่อยแกล้งทำเป็นมึนๆสติไม่สมประดีละกัน สรุปปีนโลด


สรุปอิชั้นปีนค่ะ ค่อยขึ้นมาเหนือนิดนึง ลมข้างบนแรง และหนาวมาก


ทางขรุขระมาก นี่อิชั้นได้ฝึกทักษะการปีนป่ายแบบธิดาวานรด้วย เวลาปีนเขาอะไรยากๆนี่ มันจะมีความรู้สึกตลอดนะคะว่า อย่าไปลงกลับเถอะมันสูง อย่าเลย แต่เราต้องสู้ค่ะ มันจะมาถามเราตลอด เวลาทางปีนมันยากขึ้น


ขึ้นมาก็ขอถ่ายรูปกับยอดสักกะหน่อยล่ะกัน นี่พยายามแอคท่า ให้ลมพัดผ้าปลิวสวยๆ แต่พอกดถ่าย ลมไม่มาซะงั้น ถามว่าหนาวไหม ก็ยอดเขาหิมะน่ะค่ะ เด็กๆอย่าเรียนแบบนะคะ จะนุ่งน้อยล่อตะเข้ แบบอิชั้นได้ ต้องเป็นสาวฮอตร้อนฉ่าให้เท่าอิชั้นซะก่อน


ขอวัลลาบี อีกซักรูปค่ะ ฮอตร้อนฉ่าจนหิมะหนาวๆยังแพ้


มองลงมาเห็น กาดุง กอมปา หรือวัด กาดุง ลิบๆ วิวธงมนต์และยอดเขา เหมือนได้ยินเสียงลมสวดมนต์อวยพรเราทุกครั้งที่ธงพัดกระพือ


มองลงไปเริ่มมีคนตามอิชั้นขึ้นมาแล้วค่ะ ด้านซ้ายสุดคือร้านอาหารที่สูงที่สุด เห็นคนเป็นมดตัวเล็กๆเลยค่ะ


ปิดท้ายด้วยวิว ที่เห็นจากยอดรัวๆค่ะ โอ้ขึ้นมาบนนี้แล้วรู้สึกอยู่เหนือกว่า สรรพสัตว์ทั้งหลาย 99.999999% แม้จะอาบยูวีอันแรงกล้า แต่ลมหนาวบนยอด ธงมนต์ปลิวๆ แล้วรู้สึกยิ่งใหญ่เป็นส่วนนึงกับธรรมชาติ กับมาเธ่อเนเช่อ ว้าวและฟินมากค่ะ





แล้วเราก็กลับลงมาจากถนนที่สูงที่สุดในโลกค่ะ ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง

หลังจากกลับลงมา เรามาแก้อาการแฮงค์ด้วย ดื่มน้ำ Seabuckthorn ค่ะ ผลไม้มหัศจรรย์ที่มีแถวนี้ สมัยก่อนคนแถวนี้เค้าเอาให้ม้าหิมาลัยผอมๆ เพื่อให้มันแข็งแรงขึ้น มันช่วยต้านอาการขาดออกซิเจนบนที่สูง ต้านทานความหนาว แถมยังเป็นผลไม้ที่พี่ริต้าดื่มสารสกัดจากซีบัคธอน เพื่อบำรุงผิว


และกิจกรรมวันสุดท้าย ที่เราต้องทำคือ การดูพระอาทิตย์ต่อที่ Sunti Stupa ค่ะ เดี๋ยวมาต่อในคอมเม้นนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่