ทำไมจีนถึงสามารถใช้เวลาแค่ 37 ปี ขึ้นเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีในระดับโลกได้ครับ

ผมนับตั้งแต่ยุคเติ้งเสี่ยวผิงเริ่มเปิดประเทศตั้งแต่ปี 1978 จนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลาแค่ 37 ปี ในตอนนั้นเทคโนโลยีของจีนก็ยังไม่ได้โดดเด่น ผู้คนส่วนใหญ่ยังยากจนอยู่ ทำไมถึงใช้เวลาแค่ไม่กี่ปีพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองขึ้นมาได้ขนาดนี้ครับ

ในกรณีของจีนผมว่าน่าจะต่างกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ซึ่งอเมริกาได้ให้ความช่วยเหลือ ทั้งญี่ปุ่นที่เข้าไปพัฒนาประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และเกาหลีใต้ที่ช่วยเหลืออย่างเต็มที่หลังสงครามเกาหลี  แต่ในส่วนของจีนซึ่งปกครองโดยระบอบสังคมนิยมอเมริกาคงไม่เข้าไปช่วยเหลือเหมือน 2 ประเทศข้างต้นแน่ๆ

มีใครทราบไหมครับว่าเหตุใดจีนถึงพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด แล้วในกรณีของจีนนี่สามารถที่จะมาปรับใช้กับของประเทศไทยเราได้ไหม
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ส่วนใหญ่ จะตอบว่าก๊อป และพัฒนาต่อ !!!

คิดต่อ ทำไมไคนไทยตอบแบบนั้น??

เพราะมองแบบนั้นมันง่ายดี ไม่ต้องไปศึกษาเขา รวมถึงได้เหยียดเขาหน่อยๆ ทำแล้วสบายใจ!!


ถามต่อทำไม ไม่คิดศึกษาเขา ไทยน่าจะพัฒนาแบบอย่างจีนได้ไม่ใช่หรือ ???
เคยหาคำตอบ คำถามนี้ ก็ไม่ทราบว่าทำไม

บางบอกเลียนแบบการพัฒนาจีน มันคงไม่เท่ สู้เอาอย่างตะวันตกดีกว่า มันล้ำ...


ทำไป ทำมา พัฒนามานานโข ก็อยู่ที่เดิม...

**
จีนก็เริ่มจาก 0 ก่อน ww2 จีนไม่ได้เป็นประเทศอุตสาหกรรม และเทคโน

อุตสาหกรรมและ เทคโนทั้งหมดอยู่ในมือต่างชาติ

หลัง ww2 หลังสงครามกลางเมือง จีนย่อยยับ

จีนพยายามก้าวกระโดดตามอย่างโซเวียต สุดท้ายก็ล้ม..

จีนพยายามขอการสนับสนุน ด้านเทคโนจากโซเวียต
แต่ก็ไม่ได้อะไร ที่เป็นชิ้น เป็นอัน

จีนต้องพัฒนาคน ดึงคนเก่งจากต่างประเทศ มาทำเอง
จะทำอย่างไร ก็เป็นแค่กระบวนการ สำคัญคือ ได้เริ่ม อย่างถูกต้อง


ขอยกข้อมูลที่เคยตอบ


//ศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีอยู่ที่บุคคลากรเป็นสำคัญ ในปัจจุบัน จีนมีทรัพยากรบุคคลด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสูงถึง 40 ล้านคน ซึ่งนับว่ามากเป็นอันดับหนึ่งของโลก จีนได้กลายเป็นประเทศที่มีทรัพยากรบุคคลด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีจำนวนมากอย่างแท้จริง โดยนักวิจัยวัยหนุ่มและวัยกลางคนซึ่งมีอายุต่ำกว่า 45 ปีลงไปมีจำนวนถึงร่วมร้อยละ 80 ของจำนวนทีมนักวิจัยรวมทั้งหมด ทีมบุคคลากรด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีจำนวนมหาศาลเช่นนี้ได้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนอันทรงพลังในการผลักดันให้ประเทศจีนพัฒนาไปอย่างดีและรวดเร็ว//

อ้างมาจาก รายงานพิเศษ :

การพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของจีนประสบผลสำเร็จใหม่ๆ
----------------------------------------------------------------------------

**
และ จีนเป็น ประเทศที่ 2 ในโลก ที่พัฒนา VLO 2 รุ่นพร้อมกัน...

การพัฒนาของจีนเริ่มจากคน ทำคนให้พร้อม ทุกอย่างก็ไปได้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
เวลาเราผลิตอะไรต้องมีคนซื้อใช่ไหมครับ ถึงจะพัฒนาได้ โรงงานอยู่ต่อไปได้ รัฐบาลได้ภาษี

ตอนผมไปอยู่ที่จีนใหม่ ๆ เดือคร้อนมาก
เพราะเมืองที่ไปอยู่เป็นเมืองยากจน

สินค้าของเขาเป็นของไม่ดีทั้งนั้น กรรไกรตัดเล็บก็ไม่คม เสื้อหนาวก็บางมาก รองเท้าซื้อมาวันเดียวก้ต้องไปทำพื้น
รถยนต์ รถแท็กซี่ ก็ไม่รู้ยี่ห้ออะไร เชยที่สุด ยาสระผม ผงซักฟอกก็มีแต่ของท้องถิ่น

แม้แต่สินค้าแบรนด์ระดับประเทศจีน ยังมีน้อย ที่ต่างจังหวัดไม่มีคนซื้อ อย่าว่าแต่ของนอกเลย
โทรทัศน์ Sony มีไว้โชว์ คนซื้อไม่ไหว ภาษีนำเข้า 40% ภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 17%

แต่ที่นั่น มีผมคนเดียวที่เดือดร้อน
คนจีนเขารับได้ กับสินค้าคุณภาพลำดับรอง เพราะเขาไม่เคยใช้ของนอก หรือของดีมาก ๆ

ทีวีเขาก็ดูได้ ไม่ต้องมี ไฮเดฟ หรือ 100 Hz เราดูไม่ได้ เพราะภาพไม่คมชัด
โรงงานของเขาแต่ละปีมียอดผลิตยอดขายมหาศาล เพราะคนเขาไม่ค่อยเก็บเงิน ใช้เงินเก่ง และคนมาก demand มาก

รัฐบาลเด็ดขาด สั่งทำอะไรทำเลย ไม่ต้องสำรวจความเห็น
รถไฟใต้ดิน 3 ปีได้นั่ง เขื่อนยักษ์ 10 ปีเสร็จ ของเราแค่ศึกษาก็ 10 ปีแล้ว

แค่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์อย่างเดียว เราศึกษามาจะ 40 ปีแล้ว ยังไม่กล้าทำอะไร เพราะคนค้านไปค้านมา
เราจะกล้าสร้างเขื่อนยักษ์ ที่ต้องจมทั้งเมืองลงใต้น้ำ อพยพคนออกจากเมืองให้หมดใน 1 ปีไหม ?

ต่อให้เรามีเงินทุน มีเทคโนโลยี เราก็ทำไม่ได้
เพราะรัฐบาลกับฝ่ายค้าน ทะเลาะกันไม่จบ

ถามว่า เขามีไหมคอรัปชั่น มีครับ แต่เขามีหน่วยงานจัดการ
พวกโกงก็ไป พวกจับก็จับไป ไม่ใช่กลัวจนไม่กล้าทำอะไร

ประเทศเราเล็กมากเมื่อเทียบกับเขา
แต่คนเก่งของเรามีมาก คนเรียนเก่งของเรามีมาก เมื่อเทียบกับเขา แม้จะเทียบเฉพาะเมืองที่เจริญก็ตาม

แต่เราหาความก้าวหน้าให้คนเก่งไม่ได้ สมัยก่อนคนเก่งที่สุดจะเรียน วิศวะคอมพิวเตอร์
เดี๋ยวนี้ ไม่มีคนอยากเรียน เรียนแล้วก็ไม่มีงานดี ๆ รองรับ จบแล้ว ไปดูแลระบบ ไปขาย Software มีไหมที่ไปพัฒนา Chip ?

บ้านเราเป็นสุสานคนเก่ง อาชีพเดียวกัน จบมาเงินเดือนเท่ากัน เก่งไม่เก่ง ไม่ต่างกัน ไม่เกิน 5 ปี เขาก็หมดไฟ
เมื่อไม่พัฒนาคน เราจะพัฒนาชาติจากไหน จากนักการเมืองหรือ ?
ความคิดเห็นที่ 8
เค้าพัฒนาคนครับ  จะมาบอกว่าชอบก็อป หรือ Reverse Engineering อย่างเดียวมันไม่ใช่ ถ้าคนไม่เก่งจริงมันทำยากมากครับ การจะก็อปปี้อะไรสักอย่างหนึ่ง ต้องเรียนรู้จากองค์ความรู้ ของของที่จะก็อป ทำงานยังไง

บ้านเขาแข่งขันทางด้านการศึกษาสูงมากสอบแข่งขันทีเป็นหมื่นคน  แต่ไทยแข่งขันเรื่องการรับน้องกับ SOTUS สูงมาก สอบเข้าสถาบันทีมีคนรอบสอง รอบสาม รอบวีไอพี ไม่พอเปิดห้องใหม่เพิ่ม เพื่อเพิ่มที่เรียน ไม่สนใจศักยภาพและทรัพยากร เน้นปริมาณผู้เรียน

เห็นได้ว่าคนจีนให้ความสำคัญเรื่องการศึกษาเป็นเรื่องต้นๆ  แต่คนไทยให้ความสำคัญเรื่องเกรดมากกว่าเรื่องความรู้ (คะแนนสูงไม่ได้แปลว่าความรู้มีมาก)  เห็นรูปเด็กจีนอ่านตำราเป็นเล่มๆ เป็นปึกๆ เด็กไทยอ่านชีสกระดาษไม่กี่แผ่น หายบ้าง ขาดบ้าง กลัวการอ่านหนังสือ อ้างสารพัด
ความคิดเห็นที่ 17
- ก็อปปี้ที่คนในนี้เอ่ยถึงมันคือการทำซ้ำงานที่มีมาก่อนซึ่งอาจเรียกว่าส่วนหนึ่งของการ literature review ก็ได้ ถ้าคุณว่ายุ่นก็อป จีนก็อป อเมริกา ยุโรปก็มีการก็อปปี้เหมือนกัน เพราะมันคือขั้นตอนเริ่มต้นของกระบวนการวิจัยและพัฒนา

- เรื่องแร่ก็ไม่ใช่ประเด็นอีก เกาหลีไม่มีแร่เหล็กทำไม่มีอุตสาหกรรมเหล็กกล้าระดับโลกอย่าง POSCO ได้

จริงๆแล้วเป็นเรื่อง R&D ทางวิศวะต่างหากที่ทำให้จีนพุ่งมาถึงจุดนี้ ตอนนี้งานวิจัยทางวิศวะของจีนแซงทุกประเทศไปแบบไม่เห็นฝุ่น แม้แต่อเมริกาเองยังต้องกังวลเรื่องนี้
http://www.scimagojr.com/countryrank.php?area=2200&category=0&region=all&year=2014&order=it&min=0&min_type=it
ความคิดเห็นที่ 29
ผมขอเริ่มพูดถึงการพัฒนาบุคลากรของจีนที่ก้าวหน้ากว่าไทยไปหลายขุม
คนจีนก่อนเอนทรานซ์เตรียมสอบกันเป็นปีๆ จำนวนคนเยอะ มหาลัยที่มีชื่อเสียงก็มีแต่คนเก่งๆ ขยัน
ห้องสมุดมหาลัยแทบทุกที่จะเต็มทุกวันและตลอดเวลาที่เปิด เต็มไปด้วยนศ.มาอ่านหนังสือ
ผมไปเรียนจีนอาจารย์ย้ำว่า ถ้าอยากจะตามคนอื่นให้ทันให้ นศ.ทุกคน พยายามยืมหนังสือจากห้องสมุดมาอ่านให้ได้สัปดาห์ละอย่างน้อย 3 เล่ม
คนจีนทุกคนอ่านหนังสือแบบนั้นจริงๆ ไม่มีใครชอบไปเที่ยวกลางคืน
เงินเดือน นศ. จบใหม่ตามเมืองที่มีความเจริญก็เยอะกว่าไทยไปหลายโข
บ้านเราในระยะยาวถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ก็ไม่มีทางตามคนจีนได้ทันหรอกครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่