สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
พล.ต.สรรเสริญ พูดอีกว่า
"ส่วนที่มีความพยายามจะเบี่ยงเบนอีกว่าเรื่องนี้มี พ.ร.บ. วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 โดยมาตรา 4 เขียนว่ามิให้ใช้บังคับแก่รัฐสภาและ ครม. นั้น ขอชี้แจงว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นการดำเนินการกับ ครม. แต่เป็นการดำเนินการรายบุคคล"
ได้ยินแล้วงงครับ
งงว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ไปมีอำนาจอะไรกับนโยบายสาธารณะ ไปสั่งการอะไรได้ในเรื่องนโยบายแห่งรัฐ
ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีที่ชื่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่มีอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน ดำเนินนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาหรอกหรือ ?
และเรื่องจำนำข้าว นายกฯยิ่งลักษณ์ก็ไม่ได้ดำเนินการโดยลำพัง
แต่มีการหารือในที่ประชุม ไม่ว่าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ไม่ว่าในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ
และรัฐธรรมนูญก็บอกว่า คณะรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบต่อนโยบาย แถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อนปฏิบัติหน้าที่
แล้วทำไมจึงจะเล่นงานนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นรายบุคคล
ผมว่าควรตั้งหลักให้ดี ๆ ก่อนดีกว่าครับ ยิ่งเดินไปยิ่งยุ่ง ยิ่งนอกลู่ลึกเข้าไปทุกที
รองวิษณุน่ะ ช่วงหลังก็เป๋ ๆ ก็ขนาดแก้ไขรัฐธรรมนูญ 57 เรื่องประชามติ ก็ยังพลาดมาแล้ว ตายน้ำตื้น
ที่ไปใช้ถ้อยคำว่า ต้องใช้เสียงเกินครึ่งของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทำประชามติ แทนที่จะเป็นเกินครึ่งของผู้มาใช้สิทธิ์ลงประชามติ
และพอเป็นประเด็น รองวิษณุก็ตะแบงว่า ไม่ใช่ ๆ อย่าเข้าใจผิด ทั้งที่ตัวอักษรชัดเจน
อย่าไปเชื่อแกเกินไปนัก
ตั้งหลักใหม่ดีกว่าครับ เพราะยิ่งเดินหน้าแบบนี้ ยิ่งทำให้ประชาชนเห็นว่าไม่เป็นธรรม
"ส่วนที่มีความพยายามจะเบี่ยงเบนอีกว่าเรื่องนี้มี พ.ร.บ. วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 โดยมาตรา 4 เขียนว่ามิให้ใช้บังคับแก่รัฐสภาและ ครม. นั้น ขอชี้แจงว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นการดำเนินการกับ ครม. แต่เป็นการดำเนินการรายบุคคล"
ได้ยินแล้วงงครับ
งงว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ไปมีอำนาจอะไรกับนโยบายสาธารณะ ไปสั่งการอะไรได้ในเรื่องนโยบายแห่งรัฐ
ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีที่ชื่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่มีอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน ดำเนินนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาหรอกหรือ ?
และเรื่องจำนำข้าว นายกฯยิ่งลักษณ์ก็ไม่ได้ดำเนินการโดยลำพัง
แต่มีการหารือในที่ประชุม ไม่ว่าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ไม่ว่าในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ
และรัฐธรรมนูญก็บอกว่า คณะรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบต่อนโยบาย แถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อนปฏิบัติหน้าที่
แล้วทำไมจึงจะเล่นงานนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นรายบุคคล
ผมว่าควรตั้งหลักให้ดี ๆ ก่อนดีกว่าครับ ยิ่งเดินไปยิ่งยุ่ง ยิ่งนอกลู่ลึกเข้าไปทุกที
รองวิษณุน่ะ ช่วงหลังก็เป๋ ๆ ก็ขนาดแก้ไขรัฐธรรมนูญ 57 เรื่องประชามติ ก็ยังพลาดมาแล้ว ตายน้ำตื้น
ที่ไปใช้ถ้อยคำว่า ต้องใช้เสียงเกินครึ่งของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทำประชามติ แทนที่จะเป็นเกินครึ่งของผู้มาใช้สิทธิ์ลงประชามติ
และพอเป็นประเด็น รองวิษณุก็ตะแบงว่า ไม่ใช่ ๆ อย่าเข้าใจผิด ทั้งที่ตัวอักษรชัดเจน
อย่าไปเชื่อแกเกินไปนัก
ตั้งหลักใหม่ดีกว่าครับ เพราะยิ่งเดินหน้าแบบนี้ ยิ่งทำให้ประชาชนเห็นว่าไม่เป็นธรรม
คิดว่าตน ดี คือเริ่ม เลว ถูกใจ, pentacles ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1152073 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1145334 ถูกใจ, ทางแคบแต่จะไปให้ถึงทางนั้น ถูกใจ, My Roses forever ถูกใจ, ลุงโก๊ะ ถูกใจ, v-thai ถูกใจ, Drama-Thriller ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1171324 ถูกใจรวมถึงอีก 18 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
โดยบรรทัดฐานทางการเมืองและทางจริยธรรม ผมเห็นว่า พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ควรต้องแสดงความรับผิดชอบต่อคำพูดนี้ครับ
แต่คือโฆษกรัฐบาล ที่มีหน้าที่สื่อสารกับประชาชนและฝ่ายต่าง ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจ
เย็นวานนี้ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
แถลงข่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คัดค้านการดำเนินการเรียกเก็บค่าเสียหายในโครงการจำนำข้าว ด้วยการออกคำสั่งทางการปกครอง
ในการแถลงข่าว มีตอนหนึ่ง พล.ต.สรรเสริญพูดว่า
"คุณยิ่งลักษณ์ กับทนาย จะบ่นทำไม หากเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลกระทำอยู่ขณะนี้เป็นกระบวนการที่ผิด ไม่ถูกกฎหมาย จะมาสอนโจทก์ทำไม ปล่อยให้รัฐบาลทำแบบผิด ๆ แบบนี้ไปสิ พอถึงขั้นศาลปกครอง ถ้าศาลปกครองเห็นด้วยกับคุณ คุณก็เป็นฝ่ายได้เปรียบ จะมาร้องแรกแหกกระเชอทำไม"
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000115377
คำว่า "จะมาร้องแรกแหกกระเชอทำไม" เป็นคำที่โฆษกรัฐบาลไม่ควรใช้ ไม่ว่ากับใคร เรื่องอะไร
เป็นคำพูดที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ไม่ว่าในทางใด
โฆษกรัฐบาลครับ ไม่ใช่นายสรรเสริญ แก้วกำเนิด ที่จะพูดอะไรก็ได้
ฝ่ายนายกฯยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ทำอะไรเกินเลย เดินตามช่องทางทุกอย่างในการปกป้องตนเอง ในการต่อสู้ทางคดี
ไม่มีอะไรนอกลู่นอกทาง และไม่ใช่การร้องแรกแหกกระเชอแน่ ๆ
การที่โฆษกรัฐบาลมานั่งแถลงข่าวด้วยถ้อยคำและทีท่าแบบนี้ ยิ่งเสียหายต่อรัฐบาลครับ
ว่าอาจเกิดความไม่เป็นธรรมในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องราวและขั้นตอนทางคดี
หากเป็นรัฐบาลปกติ โฆษกรัฐบาลพูดแบบนี้ ไม่มีทางหรอกครับที่จะได้อยู่ต่อ
ผมจึงเห็นว่า พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ควรแสดงความรับผิดชอบต่อคำพูดอันไม่เหมาะสมของตัวเอง
อย่าให้รัฐบาลพลอยต้องเสื่อมเสียไปด้วย อย่าให้ท่านนายกฯลุงตู่ต้องลำบากใจไปด้วย
ชายชาติทหารครับ