สืบเนื่องจากยายแก่ มีโปรแกรมล่องเรือสำราญเที่ยวยุโรปที่ต้องขึ้นเรือที่อิสตันบูล  ทำให้ยายแก่ได้มีช่วงเวลาดีดีที่อิสตันบูลในครั้งนี้ การเดินทางของยายแก่ไปยังอิสตันบูลนั้นไม่ได้มีสราะสำคัญอะไร สายการบินการ์ตาแอร์ไลน์เที่ยวบินเวลา 02:40 จากกรุงเทพ แวะพักเครื่องที่โดฮาประมาณ 2ชั่วโมง นั้นผ่านไปได้อย่างง่ายดายด้วยการวินโดว์ช้อปปิ้งที่ดิวตี้ฟรีซึ่งมีของให้เลือกดูมากมาย  อีกทั้งการนั่งเครื่องต่อจากโดฮามาอิสตันบูลก็ใช้เวลาเพียงแค่ 4 ชั่วโมง การเพลิดเพลินกับอาหารบนเครื่อง เล่นเกมส์ หรือนอนหลับพักสายตาก็ไม่ได้แย่นัก ดังนั้นไฟล์ของยายแก่ที่ถึงอิสตันบูลประมาณเที่ยงจึงไม่ได้อ่อนเพลียนัก หลังจากเช็คอินที่โรงแรม Antea hotel เรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาที่จะสำรวจรอบเมืองเก่ากัน


โชคดีที่โรงแรมที่ยายแก่เลือกไว้ง่ายต่อการเดินไปไหนต่อไหน ออกมาจากโรงแรมได้ไปกี่ย่างก้าวก็เห็นร้านอาหารรายรอบ  นอกจากนี้ก็ยังมีน้านขายของฝากของที่ระลึกเต็มไปหมด


เขตเมืองเก่าเป็นเขตที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย  ดังนั้นเพื่อให้ง่ายต่อการชมสถานที่ต่างๆ ยายแก่แนะนำคนที่กำลังจะไปอิสตันบูลพักในย่านเมืองเก่าจะสะดวกสบายกว่ามากถึงแม้จะมีรถรางคอยให้บริการไปยังย่านเมืองใหม่


สำหรับคนที่ไม่อยากใช้บริการรถราง หรือออกกำลังกายขา ก็มีรถบิ๊กบัสไว้บริการนักท่องเที่ยวเช่นกัน แต่ยายแก่ไม่ได้สอบถามข้อมูล ขออภัยด้วยจ้า
บบรยากาศรอบโรงแรมยายแก่ นอกจากจะมีร้านรวงมากมายแล้ว ยังมีที่ท่องเที่ยวสำคัญคือฮิปโปโดม บลูมอส อุโมงค์เก็บน้ำใต้ดินและฮาเจียโซเฟีย


ยายแก่ชอบอุโมงค์เก็บน้ำใต้ดินมาก เพราะเคยอ่านนิยายสมัยยังสาวเรื่องขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศ ของประภัสสร เสวิกุล ที่บรรยายไว้ช่างเหมือนที่เห็นตรงหน้ายายแก่ ณ ขณะนั้นเหลือเกิน ต่างกันตรงที่ปัจจุบันนี้อุโมงค์นี้ไม่มีการพายเรือพานักท่องเที่ยวชมเสาหินแต่ละต้นแล้ว เสาเมดูซาเป็นเสาที่ทุกคนอยากเข้ามาดูมากที่สุด มีด้วยกัน 2 ต้น ถูกจัดวางให้ให้กลับหัว ตามเรื่องเล่าเพราะไม่ต้องการให้อยู่ในระดับสายตาที่จะจ้องตาจนกลายเป็นหินได้



บรรยากาศภายนอกเป็นลานกว้างให้คนมานั่งเล่นท่ามกลางสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม มีน้ำผลไม้สดขายเยอะมาก  ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำทับทิม  น้ำส้ม ผลไม้ที่นิยมหั่นขายสดๆก็เป็นแตงโมที่ลูกใหญ่มาก ใหญ่กว่าบ้านเราสองเท่านะ




นอกจากนี้ก็ยังเห็นรถเข็นน่ารักๆ ขายพวกขนมปัง  ข้าวโพด  เกาลัด  อีกด้วย คนท้องถิ่นที่นี่รับทั้งเงินยูโรและเงินลีร่าจ้า แต่ยายแก่คิดว่าจ่ายเป็นเงินลีร่าจะได้ราคาที่ดีกว่า สมเหตุสมผลกว่า  การแลกเงินก็แลกที่สนามบิน แต่ถ้าใครไม่อยากยุ่งยาก กดเอทีเอ็มที่นี่ก็ง่ายมากสะดวกดีด้วย เอาเฉพาะพอใช้เพราะถ้าเหลือเยอะคืนกลับจะไม่คุ้ม








คืนนั้นตาพายายแก่เดินลัดเลาะทะเลไปกินร้านอาหารซีฟู้ดกันใกล้สะพานกะละตา เดินใกล้มากจนยายอ่อนแรง สั่งอาหารมากมายอย่างที่เห็นในรูป ตากินล็อบเตอร์ซุป ส่วนยายสั่งหอยแมลงภู่ยัดไส้ข้าวที่เห็นบ่อยในรีวิวอื่นๆ อยากลองดูว่ามันเป็นอย่างไร รสชาติดีที่เดียว  ไม่ต้องปรุงเพิ่มเลย อาหารหลักก็เป็นเมนูปลาทั้งสองคน ตากินปลาทอด ส่วนยายแก่ก็ต้องเผ็ดหน่อยตามสไตล์สาวใต้ ชื่อเมนูเป็นภาษาเตอร์กี้ แต่เค้าจะบรรยายวัตถุดิบไว้  ดังนั้นง่ายมากในการสั่ง คนตุรกีชอบกินปลา มีเมนูปลาให้เลือกเยอะมาก กลางวันก็จะมีเรือขายแซนด์วิชปลาด้วย คนขายจะอยู่บนเรือ ลูกค้าซื้อก็เอามานั่งกินที่ข้างหน้าจะมีที่นั่งให้




กินเสร็จแล้ว วันรุ่งขึ้นยายแก่จะพาไปเที่ยวตลาดละนะ ขอบอกว่ามันเป็นซุปเปอร์ตลาด มันใหญ่มากและคนเยอะมาก มีสินค้าตั้งแต่ยาสีฟันยันเรือรบ






ตลาดแกรนด์บาร์ซาเป็นตลาดใหญ่อันดับต้นๆของอิสตันบูลและคิดว่าน่าจะใหญ่สุดในตุรกีด้วย
สินค้าที่วางขายส่วนใหญ่ขายแก่นักท่องเที่ยว  มีทั้งพรม กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ปลอกหมอนอิง หรือแม้กระทั่งของใช้จานชามเซรามิค ของแต่งบ้านน่ารักๆ งานแฮนด์เมด ชา กาแฟตุรกี ขนมหวานต่างๆ โดยเฉพาะเตอร์กิชดีไลน์มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ ยายแก่แนะนำควรชิมก่อนซื้อท็อปแต่ละร้านเต็มใจให้ชิมและคนขายเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมาก ถ้าใครชื่นชอบขนมชนิดนี้จริงๆ ยายแก่แนะนำร้านย่านตบาดสไปซ์มาร์เก็ต ที่นั่นมีขนมให้เลือกเยอะมากกว่า และรสชาติดีมาก มีร้านที่เป็นต้นตำรับอยู่ใกล้ๆตลาดด้วย ชื่อร้าน Haci Bekir สามารถดูแผนที่ในกูเกิ้ลไปก่อนหรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บล็อกคุณมีนาในOK NATION  



สไปซ์มาร์เก็ต มีด้วยกันหลายประตู แต่ประตูที่ยายแก่เดินจะเป็นอาหาร ขนมผลไม้แห้ง อุปกรณ์เบเกอรี่ ชาและกาแฟ
สำหรับคนที่ไม่ต้องการเบียดเสียดกับผู้คนก็สามารถไปเดินเข้าประตูด้านอื่นได้ เช่นประตูขายต้นไม้ ดอกไม้ คนจะน้อยกว่า