คุกนอร์เวย์และออสเตรียที่ดีที่สะดวกสบายที่สุดในโลก และเห็นสภาพคุกไทย จึงอยากให้รัฐบาลไทยแก้ไขเรื่องเรือนจำของเราด้วย

กระทู้คำถาม

ใครจะคิดว่ารูปที่เราจะได้เห็นต่อไปนี้ จะเรียกว่าเรือนจำหรือเรียกง่ายๆ อีกอย่างว่า คุก! นั่นแหละ
คุกที่เอาไว้ขังอาชกรที่ทำผิดร้ายแรงมาต่างๆนาๆ ทั้งข่มขืน ปล้นฆ่า ชิงทรัพย์
วันนี้เราขอนำเสนอสามเรือนจำที่เรียกว่าหรูหราตระการตา นักโทษคนใดไปถูกคุมขังอยู่ที่นั้นแล้วสะดวกสบายที่สุดในโลก

1.)
เริ่มด้วยที่แรก…
เรือนจำ Justizzentrum Leoben Prison
ใครที่ไม่ได้รักชีวิตอิสระเท่าไรนัก อาจนึกคึกอยากติดคุกนี้ขึ้นมาทันที
มารู้จักเรือนจำนี้กันสักนิด…

เรือนจำ Justizzentrum Leoben ตั้งอยู่ในประเทศออสเตรีย แม้ว่ามันจะเป็นสถานกักขัง
แต่สภาพดีกว่าและดูหรูหราฟุ่มเฟือยมากกว่าบ้านของประชาชนหลายคน เป็นเรือนจำที่สะดวกสบาย
ในการอยู่ในห้องขังที่มีพื้นที่มากกว่าปกติ พร้อมกับห้องน้ำส่วนตัว ไม่จัดว่าเป็นเรือนจำที่มีมาตรฐานความปลอดภัยเท่าไรนัก
เพราะมีเพียงลวดใบมีดเป็นสัญลักษณ์เพียงอย่างเดียวที่สร้างความแตกต่างระหว่างเรือนจำกับสถานที่อยู่อาศัยของชาวบ้านตามปกติ

2.)
เรือนจำ Halden Prison
เรือนจำที่ทันสมัยที่สุดในโลก
มีผู้ต้องขังที่เป็นอาชญากรทุกประเภทอยู่ในเรือนจำแห่งนี้

มารู้จักเรือนจำนี้กันสักนิด…
เรือนจำ Halden Prison นอร์เวย์ เรือนจำแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 75 เอเคอร์ชานกรุงออสโล ภายในห้องขัง มีเตียงนอน
พร้อมเฟอร์นิเจอร์ทันสมัย ทีวีจอแบน และตู้เย็น ภายในบริเวณเรือนจำ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน เช่น ห้องสตูดิโอเสียง
ลู่วิ่งออกกำลังกาย สนามบาสเก็ตบอลในร่ม รวมทั้งมีบ้านหลังสองห้องนอน แยกออกไปจากส่วนหลัก
เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถอยู่กับครอบครัวข้ามคืนเมื่อครอบครัวมาเยี่ยมได้

ส่วนผู้คุมไม่มีอาวุธ และบ่อยครั้งจะเล่นกีฬาและรับประทานอาหารกับผู้ต้องขังที่ได้รับมอบหมายให้ คอยเฝ้าดูไว้
ผู้คุมจำนวนครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิง ซึ่งนโยบายนี้อยู่บนฐานของงานวิจัยที่สรุปว่า ผู้หญิงมีผลให้สภาพแวดล้อมก้าวร้าวน้อยลง
นอกจากนี้ ยังมีห้องครัวทดลองที่ให้ผู้ต้องขังสามารถเรียนคอร์สทำอาหารได้อีกด้วย

Are Hoidal ผู้ว่าการของเมืองนี้กล่าวในวันเปิดเรือนจำแห่งนี้เมื่อปี 2010 ว่า “ในระบบเรือนจำของนอร์เวย์
เราเน้นที่สิทธิมนุษยชนและเคารพความเป็นมนุษย์” “เราต้องการสร้างพวกเขา ให้มีความมั่นใจด้วยการศึกษาและการทำงาน
ให้เขาออกไปจากที่นี่ด้วยการเป็นคนที่ดีขึ้น”

ทั้งนี้มีหลักฐานยืนยันว่า ระบบเรือนจำของนอร์เวย์มีประสิทธิภาพโดยดูจากตัวเลขของคนที่เคยติดคุกแล้ว
พ้นโทษออกไปประมาณ 20% กลับเข้ามาอีก เทียบกับอังกฤษซึ่งเรือนจำมีสภาพย่ำแย่กว่า
แต่มีคนที่เคยติดคุกแล้วกลับเข้ามาอีกมากกว่าคือราว 50%

3.)
ต่อกันด้วยเรือนจำที่สาม
เรือนจำ Bastoy Prison
สถานที่คุมขังนักโทษที่เรียกไม่ได้เต็มว่านี่คือ ‘คุก’
มารู้จักเรือนจำนี้กันสักนิด…

เรือนจำ Bastoy Prison แห่งนี้ตั้งอยู่บนประเทศที่ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่ให้เสรีภาพแก่นักโทษในเรือนจำมากที่สุด

ซึ่งก็คือประเทศ….นอร์เวย์ (อีกแล้ว)

ปรัชญาแหวกแนวของเรือนจำแห่งนี้สามารถสัมผัสได้ตั้งแต่คุณก้าวเท้าลงเรือที่ มีเหล่านักโทษเป็นผู้ดูแล
พวกเขาเอ่ยทักทายคนนอกอย่างเป็นกันเอง แถมยังช่วยผูกเรือให้เสร็จสรรพ จนคุณอาจนึกสงสัยว่าที่นี่เป็นคุกแน่หรือ?
แต่เมื่อคุณได้เห็นความเป็นอยู่อันแสนสบายในบ้านพักสไตล์รีสอร์ตของ เรือนจำบาสตอย
ก็จะเข้าใจได้ว่า เหตุใดนักโทษคดีอุกฉกรรจ์เหล่านี้จึงไม่คิดหลบหนีไปไหนให้ลำบาก

เกาะบาสตอยมีชายหาดกว้างขวางให้นักโทษได้นอนเอกเขนกอาบแสงแดดอุ่นๆ ในฤดูร้อน ทั้งยังมีแหล่งตกปลา, คอร์ตเทนนิส
หรือแม้กระทั่งห้องเซาน่า และแทนที่จะมีลูกกรงเหล็กไว้กักขังคนผิดเหมือนเช่นเรือนจำทั่วไป
นักโทษที่บาสตอยกลับมีบ้านไม้หลังเล็กทาสีหวานเป็นของตัวเอง แถมยังถือกุญแจบ้านไปไหนมาไหนได้ตามชอบใจอีกต่างหาก

ที่บาสตอยไม่มีทั้งเหล่าผู้คุมหน้าเหี้ยม หรือกำแพงสูงป้องกันนักโทษหลบหนี
ทั้งที่เกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยอาชญากรที่เคยก่อคดีร้ายแรงมากมาย ตั้งแต่ค้ายาเสพติดไปจนถึงฆ่าข่มขืน
แต่คนเหล่านี้กลับได้ใช้ชีวิตอย่างที่คนธรรมดาทั่วไปต้องยอม “เสียเงินซื้อ” ในช่วงวันหยุดพักผ่อน

แนวคิดของเรือนจำบาสตอยไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจสำหรับชาวนอร์เวย์ ด้วยวัตถุประสงค์ของเรือนจำมิใช่การลงโทษผู้กระทำผิด
แต่ต้องการ “เปลี่ยน” พฤติกรรมและมุมมองพวกเขาให้สามารถกลับไปเป็นพลเมืองดีของสังคมได้ต่างหาก