Pangong Lake
ทะเลสาบน้ำเค็ม ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นน้ำตาแห่งหิมาลัย
มารู้จักทะเลสาบปางกองกันก่อนนะคะ
ทะเลสาบปางกอง หรือ Pangong Tso คนจีนเรียก ฝางกงโฉ ชื่อปางกองมาจากภาษาทิเบตค่ะ แปลว่า ทะเลสาบยาวๆแคบๆ ความยาวของมัน ยาวพาดสองประเทศ ระหว่างอินเดียและจีน อยู่ฝั่งอินเดีย 40%ค่ะ นอกนั้นอยู่ฝั่งธิเบต เป็นทะเลสาบน้ำเค็มค่ะ นางเค็มที่อยู่สูงที่สุดในโลกนะคะ ความเค็มของมันน่าจะมาจากแร่ธาตุจากเทือกเขาแถวนั้นค่ะ เนื่องจากความสูงของมันอยู่ที่ 4350 เมตร นี่ระดับยอดเขาที่มีหิมะปกคลุม แน่นอนว่าอากาศที่นั่นเบาบาง และหนาวจับขั้วลำไส้ใหญ่ จนขี้เต้นระบำ
ทะเลสาบนี้อยู่บนพื้นที่ความขัดแย้งทางดินแดนระหว่างจีนและอินเดียค่ะ เพราะแต่ละประเทศก็อ้างสิทธิของตัวเอง สมัยก่อนเคยขัดแย้งกันมาก แต่ตอนนี้ไปเที่ยวได้ ถือว่าทะเลสาบนี้เป็นพื้นที่อ่อนไหวอยู่ ในอินเดียพื้นที่นี้เลยอยู่ในการดูแลของกลาโหมอินเดีย จะเข้าไปต้องทำ Permit ในการเข้าไปค่ะ ด้วยเหตุผลสามอย่าง หนึ่ง คือเพื่อเชค คนเข้าออก ว่าเป็นใครมาจากไหน เข้าไปแล้วกลับออกมาไหม สอง เพื่อเชคความปลอดภัยค่ะ เพราะทางไปก็ใช่ว่าจะดี ต้องข้าวเขาสูงหลายลูก อันตรายอยู่ เกิดไม่กลับมา ทางการเค้าจะได้บอกญาติได้ว่า กลับออกมาแล้วแต่ไปแรดต่อ หรือ ตายแล้วจร้า สาม เก็บเงินค่ะ ไม่ได้น่าเกลียดนะคะ เงินนี้เค้าจะเอาไป บำรุงถนนค่ะ น่าจะใช้ปีละหลายอยู่ เพราะ ฝนตกที ถนนก็ถล่มทีนึงค่ะ
ทางไป ถ้าเป้นคนไทยจะไปง่ายๆสวยๆ ก็ต้องเข้าทางอินเดีย จากเมือง Leh ค่ะ เพราะเมืองนี้เจิดจรัสในฐานะแหล่งท่องเที่ยวระดับมงกุฎเพชร ของใครหลายคนอยู่แล้ว มาลห์ แวะเที่ยวปางกอง เวย์นี้เริ่ดสุด จะเห็นว่าทางไปนางกูเกิ้ลบอกสามชั่วโมงกว่าๆ ใช่ไหมคะ นาง

ค่ะ ถนนไปผ่านภูเขาสูงหลายลูก จะรีบแค่ไหนก็ต้องค่อยๆไปค่ะ อย่างน้อย ห้า ถ้าอากาศดี แปด ถ้าถนนแย่แต่คนขับรถเก่ง ถ้าให้อิชั้นไปก็คงน่าจะ 12 ทะเลสาบเที่ยวได้ทุกฤดูนะคะ (ถ้าถนนไม่พัง) หน้าร้อน ฟ้าใสๆ จะเห็นผืนน้ำสีฟ้า งดงาม เชียว หน้าหน้าจะหนาวเว่อร์จนทำเลสาปทั้งหมดกลายเป็นน้ำแข็ง มันต้องหนาวมากๆจนทำให้ทะเลสาบน้ำเค็มแข็งได้ ใครอยากท้าความหนาวมาที่นี่ได้ค่ะ ลมโกรกแรก หนาวมากแม้ในหน้าร้อน
วิธีไป
-ไปตั้งต้นที่ เมือง Leh ค่ะ ถ้าแบคแพคมา ให้ไปที่จตุรัสกลางใจเมือง จะมีร้าน ทัวร์เอเจนซี่มากมาย อย่าหยิ่งไปเองนะคะ เพราะเราต้องให้ทัวร์เอเจนซี่ทำ ใบ Permit ผ่านเข้าเขตค่ะ เราต้องพึ่งเค้า ทำที่โรงแรมไม่ได้ ต้องเป็นเอเจนซี่ที่ได้รับอนุญาติเท่านั้น ค่า Permission ประมาณ 400 รูปี ต่อคนค่ะ
-รถที่จะไป สามารถเหมาได้ที่ ทัวร์เอเจนซี่เหล่านั้นได้ค่ะ ค่ารถสำหรับ ไปปางกอง 1วันคือ 9000-9500รูปี ต่อ คัน ถ้าค้างคือนแวะเที่ยวราว 10000-12000 รูปีต่อคันค่ะ คันนึงจะนั่งได้ 4-6 คนค่ะ ราคาจะถูกแพงแล้วแต่ชนิดของรถ Innova จะแพงหน่อย ค่ารถโดยละเอียดไปดูที่
http://travelhimalayas.in/transportation/taxi-rental/316-leh-local-taxi-rates-2015.html(ดูไปกะเฉยๆนะคะเพราะราคาจะสวิงแล้วแต่สภาพอากาศและถนน)
-ใครไปคนเดียวไม่ต้องกลัวต้องเหมารถทั้งคัน นะคะ ตามร้านเอเจนซี่ทัวร์นี้ จะมีเหล่าแบคแพคเกอร์นานาชาติ แปะประกาศหาเพื่อนร่วมหารรถอยู่เต็มค่ะ เหมือนประกาศรับสมัครงาน ถ้าคุณสมบัติครบตามที่เค้าต้องการก็ติดต่อคนประกาศโดยตรง หรือติดต่อร้านได้เลยค่ะ ได้เที่ยว ได้เพื่อนใหม่ อาจจะได้ความรักด้วยนะเอ้อ ทำเป็นเล่นไป
ที่พัก
รอบๆทะเลสาบจะมีลักษณะเป็นเตนท์ แบบกระโจมค่ะ ด้านในจะมีเตียง สองถึงสามเตียม ผ้าห่มพร้อม ไม่มี ฮีตเตอร์ มีห้องน้ำในตัว ห้องน้ำมีชักโครกแบบราด ถังน้ำตัก จะอาบไม่อาบ แล้วแต่ชอบ แต่ความจริงเค้าเอาไว้ ล้างก้นกับ ราดส้วม มีก๊อกน้ำ อุณหภูมิปกติ(คือเย็นเยียบ) อ่างล้างหน้า กระจกพาสติก ถ้าอยากได้น้ำร้อน ขอที่พัก เค้าจะตักมาให้เป็นถังๆ ใช้สอยอย่างประหยัด ตามโควตาจะได้ถังเดียวตอนเช้า แต่ถ้าอยากได้เพิ่ม ก็ต้องจ่ายค่ะ
-ไม่มีไฟฟ้าให้ชาร์ทแบทนะคะ เตรียมพาวเวอรร์แบงค์ไปด้วย โดยเฉพาะช่างภาพทั้งหลาย จะทามแลป จะล่าช้าง จะดาวหมุน สำรองไปค่ะ หมดแล้วจะหาว่าแม้นไม่เตือน
-ที่พัก อิชั้นพักที่ Nature Nest Camp ค่ะ อยู่แถวๆตอนกลางทะเลสาบเขตอินเดีย วิวดีนะคะ ด้านหน้าวิวทะเลสาปไม่มีอะไรบัง มีภูเขาด้านหลัง กระโจมละ 4000 รูปี ต่อคืนค่ะ นอนได้ 2-3คน เบียดกันหน่อยก็ 4 ได้ค่ะ ติดต่อได้ที่
http://naturenestcamps.com
ลักษณะที่พักค่ะ กระโจมผ้าเตนท์หนาๆ กันหนาวได้อยู่ แต่อย่าทำอะไรกันเสียงดังนะ มันไม่เก็บเสียง
ภายในที่พักค่ะ อ้อเอาน้ำพกไปเผื่อด้วยนะคะ ยังไงก็ไม่พอ ลมแรงทำให้ปากแห้งผิวแห้งมากจะหิวน้ำไม่รู้ตัว
ที่พักและรถเราให้
https://www.facebook.com/amperjaiindiatravel?fref=tsดูแลให้ค่ะดีมากเลย
การเตรียมตัว
อากาศหนาวมากค่ะ ไม่ว่าในฤดูไหนมันสูงมาก มันเลยหนาว อุณหภูมิน่ะไม่น่ากลัว น่ากลัวคือลมค่ะ แทรกเนื้อเข้าไปสั่นถึงกระดูก และพัดพาความชุ่มชื้นไปมากเลยค่ะ งานลิปมัน งานโลชั่นต้องมา
พกน้ำพกขนม พกของกินไปด้วยก็ดีนะคะ อาหารโรงแรมที่มีให้ เป็น พื้นเมืองชาทิเบต นั่นคือ มันจืด และมันเป็นมังสะวิรัต ค่ะ อร่อยอยู่ แต่ชีสนมควาย ค่อนข้างหนักท้อง อิ่มท้องแต่มันไม่อิ่มจิต รู้สึกเหมือนกินไม่สุด น้ำพริกแม่ประนอม หรือ ตาโย่งซองละ 7 บาท พกไปค่ะได้ใช้
โรงแรมจะมีอาหารเช้าให้ค่ะ เป็นไข่ต้มกับขนมปังแข็งๆ อยากได้หรูต้องจ่ายเพิ่ม อาหารเย็นจ่ายเองค่ะ เป็นบุฟเฟห์ อาหารมัง หัวละ 300-400 แล้วแต่ แต่ต้องกินกับเค้า เดินฝ่าลมหนาวออกไป มีหวังแข็ง และไม่มีอะไรขายด้วย
เตรียมตัวพร้อมแล้วก็ไปเที่ยวกันค่ะ
อิชั้นกับผู้ชายทั้งสี่ ไปเที่ยวเลห์กัน โดยเดินทางจากเดลีทางรถ ผ่านเส้นทาง Leh Manali Highway ค่ะ อิชั้นเขียนกระทู้วันก่อนๆไว้ ไปอ่านที่
http://pantip.com/topic/34208002
ชอบไม่ชอบยังไงติชมได้นะคะ กระทู้แรก อาจจะเขียนไม่สนุก หรือ ข้อมูลไม่ละเอียด กราบขออภัย จะพัฒนาเรื่อยๆค่ะ
ป่ะไปเที่ยวกันค่ะ
หลังจากถูกขัง เนื่องจากพายุถล่ม ถนนที่ออกจากเลห์ถูกตัดขาด เที่ยวไหนไม่ได้มาสองวัน นอนในโรงแรมเฉย มองดูเมฆคลึ้มๆบนภูเขา วันนี้ตื่นมาเห็นยอดเขาครั้งแรก ดีใจค่ะ แผนไปปางกองวันนี้เราน่าจะมีหวัง
เราออกเดินทางแต่เช้าค่ะ ดูทีวีอินเดียเมื่อเช้า เค้าก็ยังบอกว่าเส้นทางไปปางกองของเรายังปิดอยู่ ยังไงก็ต้องไปดูค่ะ คนรถของเราจอดถามสภาพเส้นทางตลอด
เส้นทางไต่เขาขึ้นไปเรื่อยๆ สูงขึ้นไป
ถนนขรุขระ มีเศษหินตกลงมาเต็มเนื่องจากำายุถล่ม แต่ยังพอไปต่อได้ค่ะ
มีน้ำไหลผ่า ตัดทางตลอด ดูสีน้ำแล้วใจชื้นขึ้น ว่าคงไม่แรงมาก เพราะไม่งั้นสีคงเป็นไมโล
สภาพถนนตอนเราไป ทุลักทุเลมากค่ะ ต้องจอดรอเนิ่นนานให้รถทหารเข้าไปซ่อมตรงที่ถนนขาด
ค่อยๆไปค่ะ รูปที่ถ่ายนี่รถจอดนานมาก เราไปเดินเล่นอยู่นานเลย
เส้นเล็กๆนั่นคือถนนที่เราพึ่งผ่านมาค่ะ
ขึ้นมาถึงยอดก็จะเริ่มเห็น หิมะแล้ว เราใกล้ยอดมากค่ะ
วิวแถวยอดค่ะ
ทางไปจะผ่านถนนเส้นที่สูงเป็นอันดับสองของโลก ใช่ค่ะ ถนนที่สูงที่สุดเป็นอันดับสองของโลก Chang La Pass ว้าว มันสูงถึง 5360 เมตรจากระดับน้ำทะเลเลยนะคะ นี่เรามาอยู่จุดนี้เราก็อยู่สูงกว่าประชากร 99.9999%ของทั้งโลกในเวลาเดียวกันแล้วล่ะค่ะ ที่นี่จะมีธงมนต์ตามสไตล์ที่เค้าชอบไปผูกบนยอกเขาสูงๆ มีร้านอาหาร และห้องน้ำค่ะ แถมมีอู่ซ่อมรถของพี่ทหารด้วย เอาจริงๆ ที่นี่ไม่ค่อยพิศมัยเท่าไหร่ เพราะกลิ่นน้ำมันเครื่องและควันรถ แรงมาก แถมห้องส้วมยังโอเพ่นแอร์มากค่ะ กลิ่นเกลิ่น มาพลังเต็ม ไม่สบายจมูกเลย แต่วิว ก็พอไปวัดไปวาได้อยู่ ควรแวะค่ะ ไปกินบะหมี่ต้มที่ระดับความสูงระดับนี้ เพื่อเจิมสักหน่อย เอาไว้เป็นประสบการณ์ที่ดี
ร้านอาหารร้านเดียวของที่นี่ มีน้ำ มีบะหมีขาย แต่ราคาก็ต้องแพงกว่า แน่นอน จะเข้าห้องน้ำร้านอาหารทำใจหน่อยนะคะ หายใจลึกๆแล้วกลั้นเลยค่ะ เป็นแบบส้วมหลุม ตกลงไปข้างล่างเลย เศษขนมหมาติดขอบเต็มค่ะ อันนี้ไม่รู้นะคะว่าห้องผู้หญิงเป็นไง แต่ห้องผู้ชายนี่ ขอบชีสเลยค่ะ
ถ้าใครไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยง มีแค่ธุระเบา ก็ข้างนอกได้ค่ะ กล้าๆหน่อยนะคะ เพราะมุมสูงก็เห็นค่ะถ้าตั้งใจดู 5555
วุ่นวายทีเดียว กลิ่นน้ำมันเครื่องหึ่ง
วิวที่ยอด Chang La ค่ะ เห็นยอดหิมะใกล้ขึ้น
สูงระดับเราสามารถเขียนหิมะบนยอดได้ นั่นนักท่องเที่ยวที่อื่นนะคะอิชั้นไม่มือบอน แต่เอาจริงๆเดี๋ยวมันก็ละลายค่ะ
พอลงจาก ยอด Chang La ภูวิประเทศก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว น้ำตาลค่ะ
มีลำธารเล็กๆไหลรินดูอุดมสมบูรณ์
ฝูงจามรีภูเขา เริงร่า กลางทุ่งหญ้าสีเขียว อยากจะเอาประโปรงบานๆ ไปวิ่งเริงร่า หมุนๆ ให้จามรีขวิดเล่น
วิวค่ะ
ผ่านหมู่บ้านการเกษตรๆเล็กๆค่ะ น่าจะเป็นเจ้าของฝูงจามรีเมื่อกี้
กร๊ดดดดดดดดด ฝูงแกะใกล้มากค่ะ
ต่อในเม้น
Pangong Lake ทะเลสาปน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลก งดงามในวันฟ้าใส น้ำตาแห่งหิมาลัย อันเย็นยะเยือก
มารู้จักทะเลสาบปางกองกันก่อนนะคะ
วิธีไป
-ไปตั้งต้นที่ เมือง Leh ค่ะ ถ้าแบคแพคมา ให้ไปที่จตุรัสกลางใจเมือง จะมีร้าน ทัวร์เอเจนซี่มากมาย อย่าหยิ่งไปเองนะคะ เพราะเราต้องให้ทัวร์เอเจนซี่ทำ ใบ Permit ผ่านเข้าเขตค่ะ เราต้องพึ่งเค้า ทำที่โรงแรมไม่ได้ ต้องเป็นเอเจนซี่ที่ได้รับอนุญาติเท่านั้น ค่า Permission ประมาณ 400 รูปี ต่อคนค่ะ
-รถที่จะไป สามารถเหมาได้ที่ ทัวร์เอเจนซี่เหล่านั้นได้ค่ะ ค่ารถสำหรับ ไปปางกอง 1วันคือ 9000-9500รูปี ต่อ คัน ถ้าค้างคือนแวะเที่ยวราว 10000-12000 รูปีต่อคันค่ะ คันนึงจะนั่งได้ 4-6 คนค่ะ ราคาจะถูกแพงแล้วแต่ชนิดของรถ Innova จะแพงหน่อย ค่ารถโดยละเอียดไปดูที่http://travelhimalayas.in/transportation/taxi-rental/316-leh-local-taxi-rates-2015.html(ดูไปกะเฉยๆนะคะเพราะราคาจะสวิงแล้วแต่สภาพอากาศและถนน)
-ใครไปคนเดียวไม่ต้องกลัวต้องเหมารถทั้งคัน นะคะ ตามร้านเอเจนซี่ทัวร์นี้ จะมีเหล่าแบคแพคเกอร์นานาชาติ แปะประกาศหาเพื่อนร่วมหารรถอยู่เต็มค่ะ เหมือนประกาศรับสมัครงาน ถ้าคุณสมบัติครบตามที่เค้าต้องการก็ติดต่อคนประกาศโดยตรง หรือติดต่อร้านได้เลยค่ะ ได้เที่ยว ได้เพื่อนใหม่ อาจจะได้ความรักด้วยนะเอ้อ ทำเป็นเล่นไป
ที่พัก
รอบๆทะเลสาบจะมีลักษณะเป็นเตนท์ แบบกระโจมค่ะ ด้านในจะมีเตียง สองถึงสามเตียม ผ้าห่มพร้อม ไม่มี ฮีตเตอร์ มีห้องน้ำในตัว ห้องน้ำมีชักโครกแบบราด ถังน้ำตัก จะอาบไม่อาบ แล้วแต่ชอบ แต่ความจริงเค้าเอาไว้ ล้างก้นกับ ราดส้วม มีก๊อกน้ำ อุณหภูมิปกติ(คือเย็นเยียบ) อ่างล้างหน้า กระจกพาสติก ถ้าอยากได้น้ำร้อน ขอที่พัก เค้าจะตักมาให้เป็นถังๆ ใช้สอยอย่างประหยัด ตามโควตาจะได้ถังเดียวตอนเช้า แต่ถ้าอยากได้เพิ่ม ก็ต้องจ่ายค่ะ
-ไม่มีไฟฟ้าให้ชาร์ทแบทนะคะ เตรียมพาวเวอรร์แบงค์ไปด้วย โดยเฉพาะช่างภาพทั้งหลาย จะทามแลป จะล่าช้าง จะดาวหมุน สำรองไปค่ะ หมดแล้วจะหาว่าแม้นไม่เตือน
-ที่พัก อิชั้นพักที่ Nature Nest Camp ค่ะ อยู่แถวๆตอนกลางทะเลสาบเขตอินเดีย วิวดีนะคะ ด้านหน้าวิวทะเลสาปไม่มีอะไรบัง มีภูเขาด้านหลัง กระโจมละ 4000 รูปี ต่อคืนค่ะ นอนได้ 2-3คน เบียดกันหน่อยก็ 4 ได้ค่ะ ติดต่อได้ที่ http://naturenestcamps.com
ที่พักและรถเราให้https://www.facebook.com/amperjaiindiatravel?fref=tsดูแลให้ค่ะดีมากเลย
การเตรียมตัว
อากาศหนาวมากค่ะ ไม่ว่าในฤดูไหนมันสูงมาก มันเลยหนาว อุณหภูมิน่ะไม่น่ากลัว น่ากลัวคือลมค่ะ แทรกเนื้อเข้าไปสั่นถึงกระดูก และพัดพาความชุ่มชื้นไปมากเลยค่ะ งานลิปมัน งานโลชั่นต้องมา
พกน้ำพกขนม พกของกินไปด้วยก็ดีนะคะ อาหารโรงแรมที่มีให้ เป็น พื้นเมืองชาทิเบต นั่นคือ มันจืด และมันเป็นมังสะวิรัต ค่ะ อร่อยอยู่ แต่ชีสนมควาย ค่อนข้างหนักท้อง อิ่มท้องแต่มันไม่อิ่มจิต รู้สึกเหมือนกินไม่สุด น้ำพริกแม่ประนอม หรือ ตาโย่งซองละ 7 บาท พกไปค่ะได้ใช้
โรงแรมจะมีอาหารเช้าให้ค่ะ เป็นไข่ต้มกับขนมปังแข็งๆ อยากได้หรูต้องจ่ายเพิ่ม อาหารเย็นจ่ายเองค่ะ เป็นบุฟเฟห์ อาหารมัง หัวละ 300-400 แล้วแต่ แต่ต้องกินกับเค้า เดินฝ่าลมหนาวออกไป มีหวังแข็ง และไม่มีอะไรขายด้วย
เตรียมตัวพร้อมแล้วก็ไปเที่ยวกันค่ะ
อิชั้นกับผู้ชายทั้งสี่ ไปเที่ยวเลห์กัน โดยเดินทางจากเดลีทางรถ ผ่านเส้นทาง Leh Manali Highway ค่ะ อิชั้นเขียนกระทู้วันก่อนๆไว้ ไปอ่านที่ http://pantip.com/topic/34208002
ชอบไม่ชอบยังไงติชมได้นะคะ กระทู้แรก อาจจะเขียนไม่สนุก หรือ ข้อมูลไม่ละเอียด กราบขออภัย จะพัฒนาเรื่อยๆค่ะ
ป่ะไปเที่ยวกันค่ะ
ต่อในเม้น